ภาค 4 กวาดล้างหมื่นลี้ บทที่ 372 วิธีการของเยี่ยนจ้าวเกอ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ยืนบนหลังพ่านพ่าน ทั่วทั้งตัวของมันมีกระแสน้ำสีดำหมุนวนเพื่อแยกน้ำทะเลออก พลางพุ่งตัวไปด้านหน้าเหมือนสายฟ้าแลบ

ด้านหลังของพวกเขา เกาะมังกรบูรพาที่จมลงในทะเลลึกค่อยๆ ห่างออกไป จนมองไม่เห็นอีก

เหนือผิวทะเล ทะเลเพลิงที่ครอบคลุมท้องฟ้าย้อมเส้นขอบฟ้า ให้กลายเป็นสีแดงคล้ายยามอัสดง

เยี่ยนจ้าวเกอฝ่าวงล้อมอย่างไม่หยุดยั้ง ค่อยๆ ออกห่างจากการต่อสู้ในเกาะมังกรบูรพา

ทว่าด้านหลังยังมีปีศาจอัคคีที่แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งไล่ตามอย่างไม่ลดละ พวกมันจะหยุดเมื่อหาที่ตายให้เยี่ยนจ้าวเกอได้เท่านั้น

เป็นไปตามที่ทุกคนในเมืองทะเลมรกตคาดไว้ ถึงแม้การฝ่าวงล้อมของเยี่ยนจ้าวเกอจะดึงดูดความสนใจส่วนหนึ่งของปีศาจอัคคีไว้แล้ว

แต่มีแค่การโจมตีจากปีศาจอัคคีระดับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณส่วนหนึ่งเท่านั้น ความสนใจของจ้าวปีศาจอัคคีอยู่ที่ผู้อาวุโสวังที่ส่งพวกเยี่ยนจ้าวเกออกมามากกว่า

ราชันปีศาจอัคคีสองตัวให้ความสนใจกับเมืองทะเลตะวันออกมากกว่าเดิม ไม่ได้สนใจเยี่ยนจ้าวเกอแม้แต่น้อย

เยี่ยนจ้าวเกอสายตาเคร่งขรึมมาตั้งแต่ต้น มองดูศัตรูที่ตามล่ามาจากด้านหลังเงียบๆ ขณะเดียวกันก็กำลังคำนวณระยะห่างอยู่

“พ่านพ่าน ค่อยๆ ลดความเร็วลงได้แล้ว”

ผ่านไปอีกพักหนึ่ง ท้องฟ้าอัสดงที่ขอบฟ้าก็หายไป ไม่เห็นอันใดอีก เยี่ยนจ้าวเกอครั้งนี้ออกคำสั่งกับพ่านพ่าน

พ่านพ่านกะพริบตาปริบๆ ความเร็วในการกระโจนไปด้านหน้าเริ่มลดลง

หลังจากความเร็วลดลงได้ระดับหนึ่ง พ่านพ่านก็ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง ความเร็วเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เนื่องจากความเร็วลงและฮึดออกแรงในทันที ความเร็วจึงเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ก่อนที่จะลดลงอีก

มันท่าทางเหมือนแรงหมด แต่ฝืนประคองตัวไว้อย่างไรอย่างนั้น

เมื่อรู้สึกว่าความเร็วของพ่านพ่านลดลง พวกปีศาจอัคคีที่ไล่ตามมาด้านหลังก็คำรามขึ้น พุ่งเข้าหาพวกเยี่ยนจ้าวเกออย่างดุดัน

เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ต่อยสองหมัดออกพร้อมกัน ป้องกันการโจมตีอันรุนแรงจากอีกฝ่าย

ปีศาจอัคคีใจร้อน แต่เมื่อครู่อาคมน้ำแข็งปราบมารของเยี่ยนจ้าวเกอรุนแรงเกินไป พวกมันยังจำได้ดี

ปีศาจอัคคีที่ไล่ทันเป็นตัวแรกครั้งนี้มิได้โจมตีอีก เพียงแต่คิดขวางการหนีของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ เพื่อให้ความเร็วลดลง จะได้ให้ปีศาจอัคคีตัวอื่นๆ ไล่ทัน และรวมเป็นวงล้อมกักขังพวกเยี่ยนจ้าวเกอไว้ที่นี่อีกครั้ง

ปีศาจอัคคีตัวใหญ่ที่มีรูปร่างเป็นหกเหลี่ยม แขนหกข้างขนาดใหญ่ที่อยู่รอบๆ ลำตัวม้วนพัดเอาไฟขึ้นมา ทำให้น้ำทะเลส่องสว่าง

ไกลออกไป ปีศาจอัคคีตัวอื่นส่งเสียงคำรามต่ำ ตวาดด้วยภาษาของเผ่าปีศาจอัคคี “จุ้ยฉือ ขวงคนผู้นั้นไว้!”

“เจ้าไม่ต้องสอน” ปีศาจอัคคีที่ชื่อจุ้ยฉือแค่นเสียง “พวกเจ้าเร็วหน่อยเถอะ!”

แขนทั้งหกข้างของมันมิได้โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอ เพียงแต่เหวี่ยงออกตามลำดับอย่างต่อเนื่อง

ขณะขวางเยี่ยนจ้าวเกอให้มิอาจสลัดหลุดได้ไป มันก็ป้องกันอาคมน้ำแข็งปราบมารของเยี่ยนจ้าวเกอไปด้วย

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เขาดีดนิ้วครั้งหนึ่ง ผลึกน้ำแข็งสีทองเม็ดหนึ่งพลันกระเด็นออกไป กลายเป็นแสงสีทองพุ่งใส่ปีศาจอัคคีนามจุ้ยฉือ

ปีศาจอัคคีจุ้ยฉือเตรียมป้องกันไว้อยู่แล้ว มันชักแขนข้างที่เอื้อมเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกอทันที

เยี่ยนจ้าวเกอแค่นหัวเราะ การตอบสองของมันเป็นดังที่เขาคาดการณ์ไว้

ตอนที่ดีดนิ้วออก เขาได้ใส่พลังแฝงไปด้วย

ครั้งนี้อาคมน้ำแข็งปราบมารแสดงประสิทธิภาพออกมา ไม่ทันกระทบถูกร่างของปีศาจอัคคี ก็ระเบิดขึ้นกลางทางเสียก่อน

แสงสีทองสว่างขึ้น ละอองน้ำแข็งแวววาวม้วนตัว แช่งแข็งน้ำทะเลรอบๆ ให้กลายเป็นธารน้ำแข็งในพริบตา

ถึงแม้อาคมน้ำแข็งปราบมารจะโจมตีไม่ถึงตัวมัน แต่ว่าไอความเย็นยะเยือแช่แข็งแขนข้างหนึ่งของปีศาจอัคคีจุ้ยฉือไปแล้ว

จุ้ยฉือพลันตกตะลึง ก่อนจะขยับแขนให้เปลวไฟพวยพุ่งไปละลายธารน้ำแข็งนั้น

ไม่รอให้มันถอย แขนเสื้อข้างขวาของเยี่ยนจ้าวเกอเปล่งประกายสีเขียว กระบวนท่ามังกรเขียวในแขนเสื้อ ประกายกระบี่สว่างวาบ ถึงแม้ปีศาจอัคคีจุ้ยฉือจะหลบทัน แต่แขนข้างหนึ่งถูกกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอฟันขาดไปแล้ว!

ไม่รอให้เยี่ยนจ้าวเกอโจมตีต่อ ปีศาจอัคคีตัวอื่นก็ตามมาถึง จากนั้นก็โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน

พ่านพ่านหยุดฝีเท้าลงเล็กน้อย เพราะถูกปีศาจอัคคีกลุ่มหนึ่งล้อมไว้รอบด้าน คิดจะพุ่งตัวไปนับว่ายากเย็น

ปีศาจอัคคีห้าหกตัวรวมตัวกัน ร่างกายขนาดใหญ่คล้ายกับกำแพงสูงขวางอยู่ด้านหน้าพ่านพ่าน

พ่านพ่านแม้มีพลังแข็งแกร่ง แต่ก็ถูกปีศาจอัคคีพวกนี้ขวางไว้

เหมือนกับภูเขาสองลูกชนใส่กัน ภูเขาเปลวไฟสั่นไหวเกือบถล่ม ไฟนับไม่ถ้วนกระจายลงมา

ส่วนภูเขาสีดำขาวอีกลูกหนึ่งกลับถูกกระแทกจนต้องถอยหลัง

เยี่ยนจ้าวเกอง้างธนูนภาอลหม่าน ยิงแสงสีทองที่มีสายฟ้าสีม่วงหมุนวนอยู่ด้วยอาคมน้ำแข็งปราบมารอีกครั้ง ทำลายภูเขาไฟลูกนั้นจนถล่ม

แต่ว่าตอนนี้มีปีศาจอัคคีตัวอื่นล้อมเข้ามาใกล้อีก ขณะที่พัวพันอาหู่ไว้ ก็โจมตีเยี่ยนจ้าวเกอไปด้วย

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอใช้ธนูนภาอลหม่านเสร็จ กระบวนท่าดัชนีฟ้าคำรนสำแดงเดช ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

เขายกขาข้างหนึ่งขึ้น ถีบใส่ปีสาจอัคคีจุ้ยฉือที่เหลือแขนเพียงห้าข้าง พร้อมกันนั้นก็เติมเต็มปราณจิตราในร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น รับการโจมตีของปีศาจอัคคีตัวหนึ่ง

นี่เป็นปีศาจอัคคีที่เทียบเท่ากับมหาปรมจารย์ขั้นรูปญาณของเผ่ามนุษย์ มันใช้ไฟฟันใส่กลางหลังของเยี่ยนจ้าวเกอต่างดาบ

เสื้อเกราะภูผาวิญญาณบนร่างเยี่ยนจ้าวเกอพลันปรากฎรูปร่าง พลังวิญญาณสำแดงฤทธิ์ ร่วมกับวรยุทธ์อย่างหมัดนอแรดวิชากายเพชร ก่อให้เก็นการป้องกันอันแข็งแกร่ง ปกป้องเยี่ยนจ้าวเกอไว้

หลังป้องกันการโจมตีของศัตรู เยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บธนูนภาอลหม่าน ฝ่ามือสองข้างฟาดใส่ปีศาจอัคคีสองตัวด้วยสภาวะรุนแรงเหมือนดินถล่ม

แต่ยังมีศัตรูตัวอื่นพุ่งเข้ามาอีก

ความเย็นชาพลันฉายชัดอยู่ในดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอ เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ก่อนจะชูมือซ้ายของตนขึ้น

บนนิ้วก้อยข้างซ้ายพลันปราณแหวนสีแดงก่ำวงหนึ่ง!

เยี่ยนจ้าวเกอคำรามลั่น เปลวไฟมากมายกระจายออกมาจากบนนิ้วก้อยข้างซ้ายของเขา โดยมีแหวนสีแดงก่ำวงนั้นเป็นศูนย์กลาง

เปลวไฟรวมตัวกันกลายเป็นโลกมายา ในนั้นปรากฏร่างของเทพอัคคีองค์หนึ่ง ทั้งเก่าแก่และแข็งแกร่ง

กลิ่นอายของหายนะ การทำลายล้าง และความทุกข์ยากปรากฏขึ้นมา สั่นสะเทือนฟ้าดิน!

ปีศาจอัคคีที่อยู่รอบๆ ต่างหยุดเคลื่อนไหว มองเยี่ยนจ้าวเกอย่างอ้าปากตาค้าง

พวกมันทั้งหมดรู้สึกตื่นตระหนก ร่างกายชาด้าน

ถึงแม้จะเป็นเพียงกลิ่นอายจางๆ แต่พวกมันกลับคล้ายเผชิญหน้ากับผู้ปกครอง ราชา และบรรพบุรุษแรกเริ่ม

แรงกดดันอันมหาศาลก่อให้เกิดการยอมศิโรราบและความเกรงกลัว คล้ายกับแรงกดดันของจอมจักรพรรดิที่ต้องการให้พวกมันตาย

ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงกลิ่นอายเพียงส่วนเดียว ยิ่งเป็นปีศาจอัคคีที่มีพลังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รับผลกระทบน้อยลงเท่านั้น

ทว่าในเวลานี้ ปีศาจอัคคีที่บ้าคลั่งไม่กลัวตาย กลับหยุดไล่ฆ่าเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอใช้มือซ้ายเรียกเปลวไฟขึ้นมา จากนั้นก็ฟาดมือข้างนั้นออกไปด้วยความรุนแรงยิ่งกว่าปีศาจอัคคี ฆ่าพวกปีศาจอัคคีที่กลังงุนงงจนกลายเป็นผุยผง

พ่านพ่านพาเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ฝ่าวงล้อมอีกครั้ง

ปีศาจอัคคีคำรามพร้อมพุ่งเข้ามา แต่สุดท้ายกลับถูกพวกเยี่ยนจ้าวเกอฝ่าไปอีกหนหนึ่ง

จุ้ยฉือที่เหลือแขนเพียงสามข้าง จับจ้องเงาหลังที่กำลังจากไปของเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง “กลิ่นอายเมื่อครู่นี่ หรือว่าจะเป็น…”

มันกระวนกระวายใจ หมุนตัวถอยกลับ

ไม่รอให้จุ้ยฉือกลับน่านน้ำของเมืองทะเลมรกตที่อยู่บนเกาะมังกระตะวันออก ที่ข้างหูก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “จุ้ยฉือ เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายขององค์จักรพรรดิ!”

ผู้พูดก็คือราชันปีศาจตนหนึ่งที่กำลังโจมตีเมืองทะเลมรกต!