Sign in Buddha’s palm 258 (II) รีบไป

 

ดาบไม้ด้ามน้อยลอยคว้างอยู่กลางอากาศ หลุดออกจากการครอบครองของเฉียนขู่ไป เจตจํา นงแห่งดาบสั่นสะเทือนออกมาเบาๆ

 

“นี่?”

 

เฉียนขู่กะพริบตา ไม่สามารถตอบสนองไปได้ระยะหนึ่ง

 

ในสายตาของเขา ดาบไม้ด้ามนี้จะถูกกระตุ้นก็ต่อเมื่อเขาตกอยู่ในอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตเท่าน นมิใช่หรือ? ทําไมจู่ๆ มันถึงมีปฏิกิริยาในตอนนี้ได้?

 

“เป็นผู้ทรงสมณศักดิ์!”

 

เฉียนขู่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

 

ในตอนที่แยกทางจากซูฉินหลังจากออกจากเขาคุนหลุน ซูฉินเคยขอดาบไม้กลับไป แต่จากนั้น ไม่นานก็ส่งมันกลับคืนมา

 

ในเวลานี้ เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวกับดาบไม้ อาจจะเป็นฝีมือของซูฉิน

 

นอกเหนือจากเฉียนขู่ เจ้าอาวาสชุ่ยเหวินและหัวหน้าตําหนักคนอื่นๆ ต่างก็ตื่นเต้นและเต็มไป ด้วยความคาดหวัง

 

หวิ่ง!

 

ดาบไม้ลอยอยู่บนอากาศ เจตจํานงดาบอันน่าสะพรึงกลัวพลันก่อตัวขึ้น

 

บรรพชนเก้าที่กําลังจะทะลวงผ่านค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ก็หยุดลงกะทันหัน

 

บรรพชนเก้าค่อยๆ หันหน้าของเขากลับมามองดาบไม้ที่ลอยอยู่บนอากาศ ร่องรอยความประ หลาดใจปรากฏบนใบหน้าของเขา

 

“เจตจํานงดาบเล่มนี้?”

 

“เป็นวิถีแห่งพรรคหมื่นดาบสั้นหรือ?”

 

บรรพชนเก้าขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

บรรดานิกายใหญ่มากมายในต่างแดน มีเพียงพรรคหมื่นดาบเท่านั้นที่เชี่ยวชาญในวิถีแห่งดาบ ในขณะที่บรรพชนเก้าเห็นเจตจํานงแห่งดาบที่แหลมคมนี้ ความคิดแรกจึงคิดว่าผู้คนจากพรรค หมื่นดาบเข้ามาแทรกแซง

 

“ไม่ถูกต้อง”

 

“ไม่ใช่พรรคหมื่นดาบ”

 

“วิถีดาบของพรรคหมื่นดาบ ยังห่างไกลจากความแหลมคมของดาบเล่มนี้!”

 

สีหน้าของบรรพชนเก้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปหลัง จากเข้ามาที่วัดเส้าหลิน

 

“น่าจะเป็นอรหันต์จากวัดเส้าหลิน เป็นอรหันต์ขั้นสูงสุดจริงๆ งั้นหรือนี่?”

 

บรรพชนเก้าไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

 

ด้วยสายตาของบรรพชนเก้า ย่อมเห็นได้เป็นธรรมดาว่าตัวตนของดาบไม้นี้ควรจะเป็นของคน ที่อยู่ในระดับเดียวกับตัวเขาเอง

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความแข็งแกร่งของผู้ทรงสมณศักดิ์จากวัดเส้าหลินได้บรรลุถึงขอบเขตอ รหันต์ขั้นสูงสุดแล้ว

 

แต่สิ่งนี้มันเป็นไปได้อย่างไร?

 

แม้ว่าแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่จะฟื้นคืนกระแสปราณฉีกลับมา แต่หลังจากที่กระแสป ราณฉีฟื้นคืนอย่างแท้จริงในระดับหนึ่งแล้วเท่านั้นถึงจะเปิดเผยสิ่งพิเศษทั้งหมดขึ้นมาได้

 

แต่ตอนนี้?

 

เป็นเวลาเพียงยี่สิบปีที่กระแสปราณฉีฟื้นคืน กลับมีตํานานยุทธขั้นสูงสุดถึงสองคน ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง

 

เมื่อบรรพชนเก้ากําลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่

 

ดาบไม้ด้ามน้อยนั้น เมื่อก่อร่างเจตจํานงดาบขึ้นมามากพอแล้ว ปลายดาบก็ยกขึ้น แล้วค่อยๆ ฟันลงมาในเวลาเดียวกัน

 

ที่ตําแหน่งดาบจับ ก็มีมือขวาที่เป็นเงาลวงตาปรากฏขึ้นเงียบๆ

 

มือขวาที่เป็นเงาลวงตายังคงแผ่ขยายต่อไป ก่อตัวเป็นร่างเพรียวบางมีลักษณะพร่ามัว

 

เห็นร่างผอมเพรียวถือดาบไม้อยู่ในมือ ราวกับถือดาบศักดิ์สิทธิ์อันไร้เปรียบ ฟาดฟันไปทางบร รพชนเก้า

 

“ฮ่ม!”

 

เมื่อเห็นฉากนี้ บรรพชนเก้าก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา อาณาเขตค่อยๆ แผ่ขยายออก มาในรัศมีร้อยจ้าง

 

แกรัก!

 

และในขณะนั้น

 

ดาบไม้ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ดูเหมือนจะสูญเสียพลังงานไปทั้งหมด แตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ กระ จายหายไปในอากาศ

 

เหล่าผู้ชมต่างนิ่งงัน

 

ศิษย์สาวกของวัดเส้าหลินต่างหน้าซีด

 

ทุกคนรวมถึงเจ้าอาวาสฮ่ยเหวินดูสิ้นหวัง

 

แม้แต่ดาบไม้ที่ท่านผู้ทรงสมณศักดิ์ทิ้งไว้ยังแตกเป็นเสี่ยงๆ จะมีใครหยุดบรรพชนเก้าได้อีก เล่า?

 

“ถ้าเจ้าของของมันมาที่นี่ด้วยตัวเอง ก็คงจะทําให้ข้าหวาดกลัวได้นิดหน่อย แต่กับอีแค่ดาบไม้ ด้ามหนึ่ง…”

 

บรรพชนเก้าส่ายหัวเล็กน้อย มองไปยังร่างพร่ามัวที่ก่อตัวขึ้นมาจากดาบไม้

 

ดาบไม้นั่นเป็นสิ่งที่ใช้พิฆาตตัวตนระดับตํานานยุทธคนอื่นๆ ได้ แม้แต่ตํานานยุทธระดับนภาชั้ นที่หกยังอาจจะถูกเฉือนตัดออกด้วยดาบไม้ด้ามนั้น

 

แต่ถ้าหากต้องการจะใช้ดาบไม้ด้ามนั้นกับบรรพชนเก้ามันเป็นไปไม่ได้

 

“ใช่หรือ?”

 

ร่างที่พร่ามัวนี้สร้างเสียงที่อยู่ในระดับจิตวิญญาณส่งตรงออกไป มันดังก้องอยู่ภายในหูของบร รพชนเก้า ก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

“หม?”

 

บรรพชนเก้าขมวดคิ้วมุ่น

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่บรรพชนเก้าจะทําความเข้าใจได้ สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

บรรพชนเก้าเงยหน้าขึ้นในทันทีและมองไปยังทิศทางหนึ่ง ประสาทสัมผัสของเขารับรู้ได้ถึงก ลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวได้ มันกําลังตัดผ่านความว่างเปล่าเข้ามาจากระยะทางหลายร้อยลี้ และ พุ่งเข้ามาทางวัดเส้าหลินด้วยความเร็วที่น่าหวาดกลัว