บทที่ 1778+1779

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1778 ข้ากำลังรอเจ้ากลับมา

“ซีจิ่ว…” เมื่อเห็นนางที่เป็นเช่นนี้ ตี้ฝูอีเหมือนมีสิ่งของบางอย่างอุดลำคอไว้ เจ็บปวดจนเกินทานทน เขาก้มลงประทับริมฝีปากนางเบาๆ คราหนึ่ง

ริมฝีปากนางหอมหวานเหมือนเคย เป็นรสชาติที่เขาคะนึงหายิ่งนัก เพียงแค่สัมผัสเบาๆ ก็ทำให้จิตใจของเขาสั่นระรัว

ซีจิ่ว ข้าควรทำอย่างไรดีเพื่อให้เจ้าเจ็บปวดน้อยที่สุด?

นิ้วมือของเขาร่อนลงบนข้อมือนางเพื่อจับชีพจร

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ชีพจรของนาง…

กู้ซีจิ่วนอนหลับใหล อีกทั้งยังฝันถึงความวุ่นวาย ในห้วงความฝันยุ่งเหยิง ประเดี๋ยวท้องนภา ประเดี๋ยวใต้พิภพ ท่ามกลางเมฆหมอก แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าร่างกายอยู่แห่งหนใด

ภายในห้วงความฝัน เธอฝันถึงคนที่ล่วงลับไปแล้วเหล่านั้น หลงฟั่น โม่เจ้า หรงเจียหลัว หรงเช่อ หรงอี้…แม้กระทั่งกู้เทียนฉิง กู้เทียนเฉาก็มาร่วมด้วย

คนเหล่านี้บ้างก็จ้องมองเธอ บ้างก็กระเหี้ยนกระหือรือต้องการชีวิตเธอ หรือพวกเขาบ้างก็ระเบิดดังตูมตรงหน้าเธอ ระเบิดจนเลือดสาดปกคลุมทุกพื้นที่ จากนั้นกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง ร้องตะโกนว่า ‘เอาชีวิตข้าคืนมา’ ด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ ทำให้กู้ซีจิ่วตกตะลึงดุจท้องฟ้าสั่นสะเทือน!

ท่ามกลางคนเหล่านั้น โม่เจ้าเป็นคนที่ปลุกเร้าอารมณ์มากที่สุด เดี๋ยวเขาเป็นรูปลักษณ์ของโม่เจ้า อีกประเดี๋ยวก็เป็นลักษณะของหรงเช่ออีก

ถึงขนาดที่กู้ซีจิ่วยังเดินเล่นเป็นเพื่อนกับหรงเช่อในห้วงความฝัน หรงเช่อพรูลมหายใจอย่างสบายใจ “ซีจิ่ว ข้าไม่เคยคิดทำร้ายเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ยอมปล่อยข้าไป…”

หรงเช่อในความฝันมีลักษณะดังเช่นยามพบกันครั้งแรก ในมือโบกพัดจีบคล้ายคุณชายที่หล่อเหลาสง่างาม

กู้ซีจิ่วในห้วงฝันเหมือนเพิ่งคิดได้ว่าเขาก็คือโม่เจ้า ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ดังนั้นหรงเช่อจึงลอยล่องหมุนวน หมุนตัวกลายเป็นโม่เจ้า และยังเป็นโม่เจ้าตอนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายโชกโลหิตทว่ากลับส่งยิ้มให้เธอ “ซีจิ่ว เจ้าจะต้องเสียใจภายหลัง…ไม่มีผู้ใดฝืนลิขิตสวรรค์ได้ เจ้าก็ทำไม่ได้เช่นกัน…”

สายตาที่เขามองเธอไม่ใช่ความเกลียดชัง ทว่าแฝงความเวทนา “เจ้าจะเสียใจภายหลัง…”

หลังจากนั้นเธอมองเห็นหลงฟั่นอีก เขาแต่งตัวเป็นคนยุคปัจจุบัน สวมเสื้อกาวน์ตัวหนึ่ง ด้านหลังเขาเป็นห้องทดลองขนาดมหึมา ภายในห้องทดลองมีโลงแก้วผลึกที่เต็มไปด้วยของเหลวมากมาย ซึ่งมีคนนอนอยู่ทุกโลง…

เมื่อกู้ซีจิ่วเห็นคนด้านในอย่างชัดเจน ก็ตกใจจนเหงื่อเย็นผุดพราย!

ภายในโลงแก้วผลึกเหล่านั้นล้วนเป็นเธอ! หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นร่างโคลนนิ่งของเธอ!

เธอในความฝันถอยหลังไปสองก้าว หลงฟั่นกระโจนมาหาเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสง่างาม “ซีจิ่ว ข้ากำลังรอเจ้ากลับมา เจ้าเป็นของข้า…”

กู้ซีจิ่วเจ็บแค้นโกรธเคือง ซัดฝ่ามือออกไป “ผีสางสิถึงจะเป็นของเจ้า! หลงฟั่นเจ้าคนบ้า!”

หลังจากฝ่ามือนี้ของเธอซัดออกไป โลงแก้วผลึกเหล่านั้นถูกเธอทำลายจนแตกหัก ร่างโคลนนิ่งภายในทยอยกันลืมตาขึ้น ลุกขึ้นนั่งในทันที…

แทบจะในชั่วพริบตาเดียว พวกนางยืนขึ้นมาข้างกายเธอ สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกันกับเธอทุกประการ และมองเธอด้วยรอยยิ้ม “พวกเราต่างหากถึงจะเป็นกู้ซีจิ่ว พวกเราจะแทนที่เจ้า…”

กู้ซีจิ่วอลหม่านวุ่นวาย เธอในความฝันหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก แปลงกายเป็นกระบี่ล้ำค่าโดยไม่รู้ตัว ฟาดฟันร่างโคลนนิ่งเหล่านั้นประหนึ่งตัดแตงหั่นผัก…

โลหิตหลั่งไหลกลายเป็นสายธาร

สตรีเหล่านั้นเหมือนกับคนตายตาไม่หลับ ทอดถอนใจอย่างแผ่วเบาข้างหูเธอ “กู้ซีจิ่ว เจ้าสังหารพวกเราก็เท่ากับสังหารตัวเจ้าเอง เจ้าจะต้องเสียใจภายหลัง…”

ลมกระโชกพัดผ่าน หลงฟั่นกับห้องทดลองของเขาพลันจางหายไป กู้ซีจิ่วงุนงง รู้สึกว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางทะเลทรายเวิ้งว้าง ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าส่องแสงร้อนแรงราวกับจะนึ่งคนให้สุก เธอทั้งร้อนและกระหายน้ำนัก ระหว่างการเดินทางอันยากลำบากเห็นแหล่งน้ำเขียวขจีแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าไกลๆ เธอดีใจเป็นอย่างยิ่ง รีบกระโจนเข้าไป

———————————————————————

บทที่ 1779 ล้อเล่นเช่นนี้ไม่ขำเลยนะ!

ท่ามกลางขุนเขาเขียวสายธารมรกตแห่งหนึ่ง เธอมองเห็นตี้ฝูอีแล้ว

เขากำลังนั่งอยู่ริมทะเลสาบแห่งหนึ่งที่ดูคล้ายจันทร์เสี้ยว เมื่อเห็นเธอมาก็กวักมือเรียก

เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกคราหนึ่งแล้วเดินเข้าไป เขายื่นน้ำให้เธอหนึ่งถ้วย “มาเถอะ ดื่มน้ำสิ”

เขามองเธอดื่มน้ำจนเสร็จ ถอนหายใจเบาๆ “ซีจิ่ว เส้นตายของข้ามาถึงแล้ว จะต้องจากไปแล้ว วันหน้าเจ้าลืมข้าไปได้ไหม? เช่นนี้ถึงจะเป็นการดีต่อเจ้า”

ในสมองเธอเกิดเสียงดังตูม ดั่งโดนกระบองฟาด ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของเขา “ไม่ใช่…ไม่ใช่ว่ายังมีเวลาอีกสามเดือนหรอกหรือ?” ทำไมถึงเร็วขนาดนี้?!

เขามองเธออย่างลึกซึ้ง แววตาอ่อนโยนทว่าไม่เอ่ยวาจา

เธอกุมแขนเสื้อเขาไว้แน่น “ตี้ฝูอี ล้อเล่นเช่นนี้ไม่ขำเลยนะ!”

เขายืนมือมาลูบศีรษะเธอเบาๆ ถอนหายใจต่ำๆ “ซีจิ่ว พวกเราขัดขืนสวรรค์ จึงต้องรับผลกรรมเช่นนี้ ดังนั้นเวลาสามเดือนจึงไม่เหลือแล้ว…”

“เป็นไปไม่ได้!” เสียงของกู้ซีจิ่วแหบพร่าทันที “ไม่ใช่…ไม่ใช่ว่ายังต้องถ่ายทอดเคล็ดวิชาของเทพศักดิ์สิทธิ์อีกหรอกหรือ? ท่านยังไม่ได้ถ่ายทอดให้ข้าเลย จะตายได้ยังไง…”

“ซีจิ่ว ภายหน้าดินแดนเบื้องบนย่อมส่งคนลงมาถ่ายทอดเรื่องนี้แก่เจ้า เจ้าดูแลตัวเองให้มากหน่อย ข้าเพียงแค้นใจที่ไม่อาจปกป้องเจ้าไปได้ชั่วชีวิต…” เสียงพูดของเขาแผ่วลงเรื่อยๆ รอบกายเริ่มมีแสงเจ็ดสีผุดออกมา แสงเจ็ดสีพรั่งพรูออกมาจากร่างเขา เธอเบิกตามองเขาเลือนหายไปต่อหน้าตนทีละชุ่นๆ

“ไม่!” เธอร้องตะโกน โผใส่ร่างเขา กางแขนจะกอดเขา…

แต่เขากลับสลายหายไปในอ้อมแขนเธอดั่งอากาศ เธอพยายามทุ่มเทกำลังทั้งหมด ก็รั้งเขาไว้ไม่ได้

“ตี้ฝูอี!” เธอตะโกนเสียงดัง สะดุ้งตื่นเหงื่อเปียกโชกศีรษะ

….

กู้ซีจิ่วนั่งอยู่บนเตียง เนิ่นนานนักกว่าสติจะกลับมา

เตียงที่เธอนั่งอยู่ในตอนนี้คือเตียงในห้องนอนของเธอที่จวนทูตสวรรค์พิทักษ์แผ่นดิน เครื่องเรือนภายในห้องยังเป็นเช่นเดิม แม้กระทั่งดอกอวี้หลานในแจกันบนโต๊ะก็ยังผลิบานอย่างงดงามเช่นเดิม เสมือนว่าเธอไม่เคยจากไปเลย แสงแดดด้านนอกกำลังดี ลำแสงส่องลอดเข้ามา ส่องกระทบนาฬิกาภายในห้องจนเกิดแสงพราวระยับ

ด้านหน้าของเธอ หลัวจั่นอวี่กำลังมองเธอด้วยสีหน้ากังวล “ซีจิ่ว เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ลมหายใจของกู้ซีจิ่วยังคงถี่กระชั้นอยู่บ้าง หัวใจเต้นรัว เธอมองหลัวจั่นอวี่อย่างทึ่มทื่อ งงงันอยู่บ้าง

“เสียวจิ่ว? เสียวจิ่ว?” หลังจั่นอวี่โบกมืออยู่ตรงหน้าเธอ

ในที่สุดสายตาของกู้ซีจิ่วก็หันเหมาที่ร่างเขาแล้ว “พี่…พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

หลัวจั่นอวี่ถอนหายใจ “เสียวจิ่ว เจ้าหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เลย! ข้ากังวลแทบตาย!”

หลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืน?

กู้ซีจิ่วทึ่มทื่อไปอีกครู่หนึ่ง เช่นนั้นก่อนหน้านี้คือเธอฝันไปหรอกหรือ?

เป็นฝันร้ายสินะ?!

อัตราการเต้นของหัวใจเธอกลับสู่ความสงบ มองไปรอบๆ จำได้ว่านี่คือห้องนอนของตน…

ทำไมจู่ๆ เธอถึงกลับมาที่นี่ได้ล่ะ?

เรื่องราวก่อนหน้านี้วาบผ่านเข้ามาในสมองเธออย่างรวดเร็วดั่งโคมม้าวิ่ง คงมิใช่ว่าทุกอย่างนั้นเป็นความฝันด้วยกระมัง?!

สมองเธอสับสนวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่ง งงงันไปอีกพักหนึ่ง คล้ายว่าจะนึกอะไรขึ้น ฉวยมือของหลัวจั่นอวี่ไว้ “ตี้ฝูอีล่ะ?!”

หลัวจั่นอวี่นวดหว่างคิ้ว “เสียวจิ่ว ช่วงที่ผ่านมาเจ้าไปไหนมากันแน่? หายไปอย่างไร้ร่องรอยกว่าหนึ่งเดือน ในหมู่ชาวบ้านร่ำลือกันว่าเจ้ากับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วยกัน…แต่ข้าก็ไม่เคยพบเลย เดิมทีคิดจะไปหาเจ้า แต่ระยะเวลาที่ราชรถของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นในแต่ละครั้งล้วนสั้นยิ่งนัก ข้ายังไล่ตามไปไม่ถึงพวกเจ้าก็จากไปแล้ว เขายังสร้างศาลคนเป็นให้เจ้าด้วย เหล่าชาวบ้านถึงขั้นที่ลือกันว่าเขาคิดจะส่งมอบตำแหน่งเทพศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าสืบทอด…เสียวจิ่ว ข้าสับสนไปหมดแล้ว เมื่อวานจู่ๆ ตี้ฝูอีก็มาเยือน พาเจ้ากลับมาส่งที่นี่ บอกว่าเจ้าเหนื่อยเกินไป จะหลับไปสองวันสองคืน จากนั้นเขาก็จากไปเลย…

———————————————————-