ตอนที่ 761 ข้าทำเองตัวคนเดียวย่อมรับผิดชอบเอง / ตอนที่ 762 คุณงามความดีที่เคยทำก็หายไปด้วยหรือ

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

ตอนที่ 761 ข้าทำเองตัวคนเดียวย่อมรับผิดชอบเอง

 

 

“ฝ่าบาท!” คนที่ตกตะลึงในรูปโฉมซูหลียังมีองค์ไทเฮาด้วย พอทรงได้สติกลับมาพระพักตร์ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

 

 

พระองค์ไม่ทรงชอบซูหลีคนนี้ตั้งแต่ตอนเป็นชายแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดเมื่อตอนนี้นางกลายเป็นอิสตรี

 

 

ผู้หญิงคนหนึ่งกลับกล้าทำเรื่องโอหังเช่นนี้ ถึงขนาดเข้าร่วมสอบเคอจวี่ ในสายพระเนตรองค์ไทเฮาแล้ว ประเภทนี้เป็นประหนึ่งนางมารทีเดียว!

 

 

ในความรู้สึกของพระองค์แล้ว สตรีประเภทนี้จะต้องลากไปประหารให้เร็วที่สุด!

 

 

“ซูหลีผู้นี้ใจกล้าโอหัง แถมยังปกปิดเราและฝ่าบาท ช่างเป็นการหวั่นเกรงในพระบรมราชานุภาพ ฝ่าบาทคนเช่นนี้จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ แม่ว่าควรจะลากนางออกไปประหารเสียตอนนี้เลย!”

 

 

พระพักตร์ไทเฮาโหดเ**้ยม แล้วจึงทรงตรัสเช่นนี้ออกมา

 

 

กระแสรับสั่งของไทเฮาทำให้เสียงจอแจในท้องพระโรงเงียบลงทันที

 

 

นางเป็นถึงไทเฮา กระแสรับสั่งของไทเฮาย่อมน่ากลัวอยู่แล้ว

 

 

“ไทเฮาทรงพระปรีชา คนที่ก่อความวุ่นวายเช่นนี้ ควรจะโดนทรมานก่อนจะประหารพ่ะย่ะค่ะ!” หลิวเหอที่อยู่ข้างๆ ก็ผสมโรง

 

 

“จริงด้วย หลอกลวงเบื้องสูง ช่างใจกล้าจริงๆ!”

 

 

“เอาองค์ฮ่องเต้กับไทเฮาไว้ที่ไหน?” เหล่าขุนนางที่กล่าวหาซูหลีไปกับหลิวเหอ ต่างลุกยืนขึ้นและผสมโรงไปกับหลิวเหอ

 

 

“ฝ่าบาททรงลงโทษด้วย!” เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้ เป็นสิ่งที่ซูไท่คาดคิดไม่ถึงมาก่อน เขาเป็นคนปล่อยให้หลี่ซื่อก่อเรื่องนี้ แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือว่าจะพาชีวิตของคนทั้งตระกูลมาสังเวยด้วย

 

 

ตอนนี้ถึงฝ่าบาทจะทรงจัดการซูหลี แต่สกุลซูก็จะต้องเดือดร้อนไปด้วย

 

 

ซึ่่งถือเป็นสิ่งที่ซูไท่เองก็คาดคิดไม่ถึงเช่นกันอีกทั้ง…

 

 

ในใจเขาเกลียดชังซูหลี และเกลียดชังมารดานาง ที่ปกปิดเรื่องเหล่านี้กับเขา ถึงขนาดปกปิดเขาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ไม่ว่าอย่างไรซูหลีก็เป็นสายเลือดเขา จะให้เขาปล่อยนางตายต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร

 

 

“เด็กนี่บังอาจทำเรื่องโอหังทรงลงโทษนางก็ถือเป็นเรื่องสมควร แต่กระหม่อมอยากจะทูลขอฝ่าบาทเห็นแก่ที่นางก็เคยทำเพื่อแคว้น จะทรงลงโทษนางสถานเบา!”

 

 

ซูไท่เอ่ยเช่นนี้ด้วยเสียงสั่นเทา

 

 

ซูหลีได้ยินแล้ว แต่ใบหน้ากลับไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

 

 

คำพูดนี้ฟังไปแล้วเหมือนกำลังจะขอร้องแทนซูหลี แต่ที่จริงแล้วทำไปเพื่อให้ซูหลีตัดขาดกับซูไท่และสกุลซู

 

 

พูดว่าทั้งหมดนี้ซูหลีทำเองคนเดียว บอกว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย!

 

 

ซูหลีหัวเราะเสียงเย็น แต่ก็เอ่ยต่อหลังจากที่ซูไท่เอ่ยจบ

 

 

“ฝ่าบาท”

 

 

เสียงใสอ่อนหวานของนางดังขึ้น แล้วรอบบริเวณก็ตกอยู่ในความเงียบทันที

 

 

ถึงแม้ว่าซูหลีจะใจกล้าเทียมฟ้า แต่ก็เป็นคนเก่งในราชสำนัก และหากนับในบรรดาสตรีน่าจะเป็นกุลสตรีที่เก่งกาจอย่างที่สุดเลยทีเดียว

 

 

กระทั่งป๋ายถานที่เป็นยอดหญิงลำดับหนึ่งแห่งเมืองหลวงยังไม่อาจเทียบเทียมนางได้

 

 

ป๋ายถานที่อยู่ด้านหลังไทเฮานั้น มือข้างหนึ่งของนางประคององค์ไทเฮา แต่แววตาที่มองซูหลีซับซ้อนอย่างยิ่ง

 

 

นางคิดไม่ถึงเลยว่าความคิดประหลาดของนาง จะกลายเป็นจริง วันนั้นหลังจากที่ป๋ายไต้ซือคุยกับนางแล้ว นางก็สั่งไปคนไปสืบเรื่องซูหลีอย่างจริงจัง

 

 

และแล้วก็เจอพิรุธจริงๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นคนของป๋ายไต้ซือเป็นคนสืบเจอ

 

 

เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า อิสตรีอย่างซูหลีจะกล้าทำเช่นนี้!

 

 

ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆ

 

 

“ข้าเป็นคนทำย่อมต้องกล้ารับอยู่แล้ว ท่านพ่อและคนในตระกูลข้าไม่รู้เรื่องที่ข้าปลอมตัวเป็นชาย ขอฝ่าบาททรงพระวินิจฉัย อย่าลากพวกเขาเข้ามาเกี่ยวเลย!”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 762 คุณงามความดีที่เคยทำก็หายไปด้วยหรือ

 

 

ซูหลีพูดถึงตรงนี้แล้วก็คุกเข่าลงโขกศีรษะ

 

 

จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน

 

 

ซูไท่เห็นแผ่นหลังที่ชันตัวขึ้นอย่างผ่าเผยแล้ว ความรู้สึกก็ประเดประดังเข้ามาในใจ

 

 

พูดตรงๆ แล้ว ถึงแม้ซูหลีจะหลอกลวงเขามาหลายปี แต่ที่จริงนอกจากที่เมื่อก่อนอีกฝ่ายดื้อรั้นชอบก่อเรื่องแล้ว

 

 

บุตรสาวคนนี้ก็ไม่เคยทำเรื่องอะไร

 

 

กระทั่งตอนนี้ที่เขาได้เป็นราชเลขากรมขุนนางก็เพราะบุตรสาวผู้นี้

 

 

และในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ซูหลียังไม่อ้อนวอนขอให้ช่วย แต่กลับเลือกที่จะก้าวออกไปแบกรับเรื่องทั้งหมดไว้ด้วยตนเอง

 

 

ก่อนนี้ตอนเขารู้เรื่อง เขาหัวเสียอย่างยิ่งจริงๆ แต่พอเห็นท่าทางเช่นนี้ของซูหลี เขาก็รู้สึกขมขื่นใจอย่างยิ่ง

 

 

“ดี กล้าทำกล้ารับ คิดไม่ถึงว่าใต้เท้าซูจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนที่มีความรับผิดชอบเช่นนี้ทำไมถึงกล้าทำเรื่องโอหังเช่นนี้ได้!” หลิวเหอเยาะเย้ย

 

 

ในสายตาเขาคราวนี้ซูหลีตายแน่

 

 

“ฝ่าบาท!” มีคนผู้หนึ่งลุกยืนขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย

 

 

ในตอนที่ซูหลีผู้ซึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ได้ยินเสียงนี้แล้ว ก็หมุนตัวไปมองอย่างอดไม่ได้

 

 

เป็นเซี่ยอวี่เสียน

 

 

ช่วงนี้เซี่ยอวี่เสียนได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนางแล้ว ที่จริงไม่นับว่าเขาเป็นขุนนางพระราชทาน แต่เขาอาศัยความสามารถของตนเองสอบเข้าสภาฮั่นหลินเป็นซู่จี๋ซื่อ จากนั้นได้รับแต่งตั้งจากฝ่าบาท ให้ทำงานจดบันทึกในสภาฮั่นหลิน

 

 

เขาเองก็เป็นคนที่เพิ่งเข้ารับราชการเป็นขุนนาง เป็นคนที่ถูกจับจ้องจากบรรดาขุนนางเจ้าเล่ห์และขุนนางเฒ่าอย่างยิ่ง

 

 

“กระหม่อมคิดว่า ถึงแม้ใต้เท้าซูจะทำความผิดใหญ่หลวง กระทั่งหลอกลวงเบื้องสูง ปกปิดเรื่องราวจากพระเนตรพระกรรณ แต่ตั้งแต่ใต้เท้าซูรับราชการมาก็สร้างคุณงานความดีให้กับแคว้นปละประชาชนมากมายเพียงแค่เรื่องเหล่านี้ก็สามารถบอกได้ว่าใต้เท้าซูเป็นคนที่มีคุณงามความดีอย่างนับไม่ถ้วน แล้วจะไม่รับรู้ความดีความชอบที่ใต้เท้าซูเคยทำมาก่อนหน้านี้เพียงเพราะใต้เท้าเป็นผู้หญิงหรือ?”

 

 

“นี่ไม่ยุติธรรมกับใต้เท้าซู ยิ่งไม่ยุติธรรมกับไพร่ฟ้าประชาชน!”

 

 

คำพูดของเซี่ยอวี่เสียนเตือนสติคนเหล่านั้น

 

 

ถึงแม้พวกของป๋ายไต้ซือจะมากมาย แต่คนในราชสำนัก ส่วนมากแล้วต่างเอาตัวรอดกันทั้งสิ้น จึงไม่เคยเข้าพรรคเข้าพวกอะไรเทือกนี้

 

 

หลังจากที่พวกเขาฟังคำพูดของเซี่ยอวี่เสียนแล้วก็จมดิ่งลงในห้วงความคิดโดยไม่รู้ตัว

 

 

จริงด้วย ถึงซูหลีจะเป็นผู้หญิงแต่เรื่องที่นางเคยทำมาก่อนนี้ก็เป็นเรื่องดีๆ ทั้งสิ้น

 

 

และจะสังหารนาง หลงลืมคุณงามความดีที่เคยทำเพียงเพราะนางเป็นสตรีเท่านั้นหรือ?

 

 

นี่…

 

 

พูดไปแล้วก็ยากจะยอมรับ !

 

 

“จริงด้วย!” ตอนนี้ฉินม่อโจวเองก็สลัดความคิดวุ่นวายในหัวทิ้งไปแล้ว เขาลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย

 

 

“เสด็จพี่ น้องคิดว่าไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ใต้เท้าซูก็เป็นคนที่น่านับถือนัก ทั้งวิธีรักษาโรคระบาดในตอนนั้น หรือการกำจัดไร่ฝิ่นนางก็ช่วยเหลือคนไปไม่น้อย ”

 

 

“แล้วยังเรื่องคราวนี้ที่ใต้เท้าซูไปเจียงซีด้วยตนเอง เพื่อไปแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถึงขนาดป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหน้าเอาไว้เรียบร้อย”

 

 

“น้องคิดว่าความดีเช่นนี้จะหลงลืมไม่ได้!”

 

 

คำพูดของฉินม่อโจวและเซี่ยอวี่เสียนทำให้ขุนนางเหล่านั้นตกอยู่ในความเงียบทันที

 

 

หากใช้สติพูดดีๆ แล้ว เรื่องที่ซูหลีทำ คุณประโยชน์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าใครก็อาจจะทำไม่ได้

 

 

แต่…

 

 

เรื่องตรงหน้านี้เป็นเรื่องที่เหลวไหลมากจริงๆ !

 

 

ทำให้คนยากจะยอมรับ!