ตอนที่ 224 ความกลัวของคุณพ่อลั่ว / ตอนที่ 225 สมองเสื่อม

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 224 ความกลัวของคุณพ่อลั่ว

 

 

“ชิงซี คุณพูดตลอดว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ หมายความว่ายังไง” แววตาลั่วเซ่าเชินปรากฏความสงสัย เมิ่งชิงซีดูจากอะไรถึงเอาแต่บอกว่าถังโจวโจวไม่ตั้งใจ เมิ่งชิงซีดูออกได้อย่างไร

 

 

“เซ่าเชิน ตอนแรกฉันยืนคุยอยู่กับถังโจวโจว แล้วฉันก็บอกเธอว่าฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณ โจวโจวได้ยินอย่างนั้นก็ค่อนข้างโมโห ฉันจับมือของเธอไว้ เธอคงรู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมาก็เลยสะบัดมือจากฉัน แต่ไม่คิดว่าตอนนั้นคุณป้าที่ยืนอยู่ข้างหลังกลับโดนแรงเหวี่ยงของมือเธอผลักให้ตกลงมา… เซ่าเชิน โจวโจวไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณให้อภัยเธอเถอะนะคะ”

 

 

“ถึงจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ตอนนี้เรื่องก็เกิดกับแม่แกแล้ว ไม่ว่าแกจะหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนั้นแค่ไหน ลั่วเซ่าเชิน แกต้องจัดการเรื่องนี้ให้ฉัน!” เสียงของคุณพ่อลั่วดังขึ้นจากด้านหลัง

 

 

ลั่วเซ่าเชินได้ยินน้ำเสียงเกี้ยวกราดของคุณพ่อลั่ว ก็ต้องลำบากใจขึ้นอีก “พ่อครับ ตอนนี้เรื่องยังไม่ชัดเจน จะตัดสินอะไรก็ยังเร็วเกินไป…”

 

 

“ฉันไม่สนหรอกว่ามันจะเร็วไปไหม ฉันแค่รู้ว่าตอนนี้แม่ของแกถูกถังโจวโจวทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ถ้าแม่ของแกเป็นอะไรไป อาเชิน แกจะทำยังไง” คุณพ่อลั่วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่อารมณ์ที่อดกลั้นเช่นนี้ของเขากลับเป็นเหมือนลมแผ่วเบาก่อนจะมีพายุฝน

 

 

เมิ่งชิงซีร้องไห้ขึ้นมา “คุณลุงคะ เป็นเพราะหนูดูแลคุณป้าไม่ดี ทุกอย่างเกิดจากหนูเองที่แนะนำคุณป้า อยากให้คุณป้าไปขอโทษถังโจวโจว เพื่อให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้น ซึ่งคุณป้าก็ยินยอมแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่ามันกลับทำให้เกิดเรื่องแบบนี้…”

 

 

คำพูดของเมิ่งชิงซียิ่งเหมือนเติมเชื้อไฟ “เซ่าเชิน ได้ยินที่ชิงซีพูดแล้วหรือยัง แม่ของแกพร้อมที่จะดีกับเธอแล้ว แต่เธอกลับยังใจร้ายผลักแม่ของแกตกบันไดได้ลงคอ แบบนี้จะยังวางใจได้ยังไง!”

 

 

“พ่อครับ จะตัดสินตอนนี้มันยังเร็วเกินไป เดี๋ยวรอฟังข่าวว่าคุณแม่ไม่เป็นอะไรก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องนี้ต่อเถอะครับ” ลั่วเซ่าเชินอยากจะยื้อเวลาเพื่อถังโจวโจว เขารู้ว่าตอนนี้คุณพ่อลั่วโกรธมาก แต่สำหรับถังโจวโจว ลั่วเซ่าเชินยังทำใจไม่ได้ที่จะคิดว่าเธอเป็นคนร้าย

 

 

“นี่แกกำลังปกป้องเธออยู่ใช่ไหม ถ้ามีสักวันตระกูลลั่วถูกคนทำลายแกก็ยอมหรือ?”

 

 

“คุณพ่อครับ นี่พ่อพูดอะไรออกมา คุณแม่ยังอยู่ในห้องผ่าตัด พ่ออย่าเพิ่งพูดอะไรไปกันใหญ่สิครับ ทำลายครอบครัวอะไร โจวโจวไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วผมก็ไม่ได้แก้ตัวแทนเธอด้วย”

 

 

“คุณลุงคะ อย่าเพิ่งโมโหค่ะ ตอนนี้คุณป้าเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ รอให้คุณป้าปลอดภัยก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะค่ะ”

 

 

คำพูดของเมิ่งชิงซีได้ผล ลั่วเซ่าเชินเห็นคุณพ่อลั่วฟังคำของเมิ่งชิงซี เขาได้แต่ขอบคุณเมิ่งชิงซีผ่านสายตาไปครั้งหนึ่ง

 

 

เมิ่งชิงซีรับรู้ถึงคำขอบคุณที่ลั่วเซ่าเชินส่งมาให้ ในใจเธอค่อนข้างภูมิใจ ในที่สุดเซ่าเชินก็เห็นความดีของเธอบ้างแล้ว ครั้งนี้เธออาจจะกำจัดถังโจวโจวได้สำเร็จจริงๆ

 

 

หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก คุณหมอออกมาจากข้างใน คุณพ่อลั่วรีบเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าคุณหมอ “คุณหมอ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”

 

 

“คนไข้บาดเจ็บที่ศีรษะอย่างหนัก อาจส่งผลให้เกิดอาการสมองเสื่อมได้ แล้วยังมีรอยช้ำบนร่างกาย ส่วนที่เหลือก็ปกติดีทุกอย่าง แต่ตอนนี้ต้องรอจนกว่าคนไข้จะฟื้นขึ้นมาก่อนนะครับ”

 

 

“อ้อ… ถ้าอย่างนั้นคุณหมอครับ ตอนนี้ภรรยาผมอยู่ที่ไหนครับ” คุณพ่อลั่วจับมือหมอไว้ข้างหนึ่ง ถามอย่างร้อนใจ ตอนนี้ในใจของเขาค่อนข้างกระวนกระวายมาก สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ลั่วนับเป็นข่าวร้ายสำหรับเขา

 

 

คุณพ่อกับคุณแม่ลั่วผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันหลายสิบปี หลายปีมานี้ร่างกายคุณแม่ลั่วนับวันมีแต่แย่ลง คุณพ่อลั่วจึงกลัวมากว่าเรื่องในครั้งนี้อาจทำให้คุณแม่ลั่วต้องจากเขาไป คุณพ่อลั่วจึงรู้สึกตื่นตระหนกอยู่ลึกๆ สำหรับเหตุการณ์นี้

 

 

 

 

ตอนที่ 225 สมองเสื่อม

 

 

“ตอนนี้เธออยู่ในไอซียูครับ พวกคุณส่งตัวแทนเข้าไปเยี่ยมเธอได้หนึ่งคนนะครับ แต่ต้องระวังอย่าเสียงดัง เพราะคนไข้กำลังพักผ่อนครับ” คุณหมอเอ่ยเตือน

 

 

“ขอบคุณครับคุณหมอ” คุณพ่อลั่วไม่สนใจว่าคุณหมอจะพูดอะไรอีกไหม หลังจากรีบขอบคุณแล้ว เขาก็ถามให้แน่ใจว่าคุณแม่ลั่วอยู่ตรงไหน และรีบไปทันที

 

 

คุณพ่อลั่วมองคุณแม่ลั่วที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ผ่านกระจก สีหน้าของคุณแม่ลั่วขาวซีด ดูอ่อนแรงมากเหลือเกิน ปกติร่างกายของคุณแม่ลั่วก็ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว หากต้องมาเจ็บป่วยก็จะยิ่งเป็นผลเสียต่อร่างกายที่บอบช้ำของเธอ

 

 

คุณพ่อลั่วเดินไปที่ประตู เปิดประตูเข้าไป ตอนนี้คุณแม่ลั่วยังไม่ฟื้น ในห้องผู้ป่วยมีเพียงเสียงของเครื่องมือแพทย์ดังอยู่เป็นระยะ คุณพ่อลั่วนั่งอยู่ข้างเตียงคุณแม่ลั่ว จับมือของคุณแม่ลั่วไว้ เรียกด้วยเสียงแผ่วเบา “อวี้ฮุ่ย เมื่อไรคุณจะฟื้น คุณอย่าจากผมไปนะ”

 

 

เรื่องที่คุณพ่อลั่วกังวลที่สุดก็คือเรื่องคุณแม่ลั่ว เมื่อคิดว่าเธอจะไม่ฟื้น ชีวิตที่เหลือของเขาก็เหมือนตายไปครึ่งหนึ่งแล้ว

 

 

ถึงแม้บางครั้งคุณแม่ลั่วจะไร้เหตุผล แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอกับเขาก็เป็นคู่รักคู่ชีวิตกัน ทั้งสองคนใช้ชีวิตร่วมกันมานานแล้ว แม้ว่าไม่ได้โรแมนติกเหมือนสมัยวัยหนุ่มสาว แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากยิ่งกว่าแต่ก่อน

 

 

คุณพ่อลั่วพูดกับคุณแม่ลั่วเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เขาหวังว่าคุณแม่ลั่วจะได้ยินเสียงของเขาแล้วตื่นขึ้นมา คุณหมอเพิ่งจะบอกว่าคุณแม่ลั่วอาจจะสมองเสื่อมได้ ถ้าหลังจากคุณแม่ลั่วฟื้นขึ้นมาแล้วเป็นอะไรไปจริงๆ คุณพ่อลั่วก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

 

 

ลั่วเซ่าเชินมองเข้าไปในห้องผู้ป่วยที่มีคุณพ่อลั่วเฝ้าคุณแม่ลั่วอยู่ไม่ห่าง จากนั้นก็ค่อยๆ แยกตัวออกไป เมิ่งชิงซีรีบเดินตามลั่วเซ่าเชิน “เซ่าเชินคะ คุณจะกลับแล้วเหรอ”

 

 

“ชิงซี ตอนนี้คุณแม่ผมไม่เป็นอะไรแล้ว คุณเองก็กลับเถอะ” ลั่วเซ่าเชินไม่มีอารมณ์จะสนใจเมิ่งชิงซี ตอนนี้เขาอยากแก้ไขปัญหาของถังโจวโจวให้เร็วที่สุด

 

 

“เซ่าเชิน ฉันอยากไปกับคุณด้วย แต่ยังไงเรื่องนี้คุณต้องเชื่อโจวโจวนะคะ” เมิ่งชิงซีดึงแขนเสื้อของลั่วเซ่าเชินไว้ เดิมทีลั่วเซ่าเชินอยากจะปัดมือเธอออก แต่สายตาที่จริงใจของเมิ่งชิงซี ทำให้ลั่วเซ่าเชินชะงักมือไว้

 

 

“ชิงซี คุณไม่ต้องพูดแทนเธอแล้ว ในใจผมรู้ดี” ลั่วเซ่าเชินไม่ได้บอกให้เมิ่งชิงซีไปกับเขา เขาได้แต่เดินตรงไปเงียบๆ เมิ่งชิงซียังคงเดินตามหลังเขาไป ทั้งสองคนมีช่องว่างระหว่างกันแค่หนึ่งก้าว แต่ยิ่งใกล้กลับดูเหมือนยิ่งไกล

 

 

ลั่วเซ่าเชินขับรถพาเมิ่งชิงซีกลับมาที่บ้านด้วย ถังโจวโจวยังไม่ขยับไปไหนเหมือนก่อนหน้านี้

 

 

แม่นมจ้าวให้ลั่วอิงกินข้าวไปได้บ้างแล้ว เมื่อเห็นว่าถังโจวโจวเป็นแบบนี้ จึงแนะนำอยู่ข้างๆ ว่า “คุณผู้หญิงคะ ฉันรู้ว่าในใจคุณกำลังตำหนิติเตียนตัวเอง แต่ยังไงคุณก็ควรทานอะไรสักหน่อยนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียสุขภาพเอาได้”

 

 

“แม่นมจ้าว ฉันไม่อยากกิน” ถังโจวโจวตกอยู่ในห้วงความรู้สึกผิดไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเธอไม่ผลักคุณแม่ลั่ว คุณแม่ลั่วก็คงไม่ต้องไปโรงพยาบาล ตอนนี้ในบ้านเงียบเหงาว่างเปล่า บรรยากาศที่จะได้รับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาไม่มีแล้ว

 

 

ลั่วเซ่าเชินเดินเข้ามาในขณะที่แม่นมจ้าวยังโน้มน้าวถังโจวโจวอยู่ “แม่นมจ้าว เตรียมอาหารให้คุณเมิ่งหน่อย ชิงซี คุณไปกินข้าวก่อนเถอะ” ลั่วเซ่าเชินพูดกับเมิ่งชิงซีด้วยน้ำเสียงปกติ

 

 

“ถ้าอย่างนั้น…เซ่าเชิน คุณก็ไปคุยกับโจวโจวก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยมากินข้าว”เมิ่งชิงซีมองไปที่ถังโจวโจว แล้วก็มองกลับมาที่ลั่วเซ่าเชินอีกครั้ง ก่อนจะตามแม่นมจ้าวไปที่โต๊ะอาหาร

 

 

เมื่อถังโจวโจวได้ยินเสียงของลั่วเซ่าเชิน ก็ตกใจรีบลุกขึ้นมา ไม่รู้ว่ามือเท้าเป็นอะไร มันอ่อนแรงไปหมด “เซ่า…เซ่าเชิน กลับมาแล้วหรือคะ”