ตอนที่ 29

Ranker’s Return

“ดูหน่อยดีกว่าว่ามีการเข้าดูไปกี่ครั้งแล้ว?”

 

ฮยอนนูล็อคอินเข้าเว็ป ‘เอ-เวิร์ล’ เพื่อตรวจสอบจำนวนครั้งการรับชมวิดีโอท้าเดิมพันลบตัวละครที่เขาโพสไปเมื่อวาน

 

‘นี่มัน?’

 

อย่างไรก็ตามหน้าหลักของ ‘เอ-เวิร์ล’ นั้นมีวิดีโอที่ดูคุ้น ๆ อยู่ แบนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุด…

 

วิดีโอยอดนิยม 10 อันดับของวันนี้แสดงเรียงลงมาตามลำดับ

 

“วิดีโอฉันงั้นเหรอ?”

 

ฮยอนนูถึงกับอึ้ง แม้เขาจะคาดหวังให้มีคนดูเยอะ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะเยอะถึงขั้นติด 10 อันดับแรก

 

“1.8 ล้านครั้งเลยงั้นเหรอ?” จำนวนการเข้าชมวิดีโอของเขามากจนเกือบจะถึงสองล้านครั้ง

 

“แถมจาก ‘คิวบ์’ ก็มีการเปิดดูถึงหนึ่งหมื่นครั้งด้วย?”

 

ผู้คนสามารถดูวิดีโอใน ‘คิวบ์’ ได้โดยการจ่ายเงินตามที่ผู้อัพโหลดตั้งเอาไว้ มันได้รับความนิยมเนื่องจากผู้ชมสามารถดูวิดีโอผ่านมุมมองตัวละครของผู้อัพโหลดหรืออีกฝ่ายได้โดยตรง

 

“ยอดวิวนึงเท่ากับ 500 วอน…5 ล้านวอนเลยงั้นเหรอ?”

 

ผลตอบรับนี้ทำให้ฮยอนนูพอใจอย่างมาก

 

-ราชันย์อมตะ: ฉันจ่าย 500 วอนเพื่อเข้าไปดูในคิวบ์ เล่นเอาฉันตื่นเต้นจนเกือบฉี่ราดเลยจริง ๆ นะ ระดับมันต่างจากการดูแบบสองมิติมากเลย

 

-แอนตี้มิลค์: ฉันเองก็จ่ายเงินไปเหมือนกัน รับรองเลยว่ามาตรฐานของมันเกินราคามาก คุ้มค่ากับ 500 วอนจริง ๆ

 

-สล็อต: ดูเหมือนเขาจะพัฒนาไปมากกว่าแต่ก่อนอีกนะ รูปแบบการต่อสู้ในวิดีโอต่างจากทุกคลิปที่ผ่านมา

 

ความคิดเห็นมากมายชื่นชมฮยอนนู อย่างไรก็ตามมีความเห็นของพวกเกรียนบางส่วนเข้ามาขัดอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้นฮยอนนูก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาคิดไว้แล้วว่าจะต้องมีความคิดเห็นทำนองนี้ปนอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ฮยอนนูต้องแบกรับไว้หากเขาเลือกที่จะเป็นสตรีมเมอร์

 

ฮยอนนูตัดสินใจออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนที่จะกลับเข้าเกมอารีน่าอีกครั้ง

 

“ฉันควรจะรีบพายเรือตอนที่น้ำยังสงบ ถ้าเจอน้ำเชี่ยวเมื่อไหร่ฉันค่อยหนีก็แล้วกัน”

 

***

 

“จะว่าไปแล้ว ฉันล่าจอมเวทมนตร์ดำไปกี่ตัวแล้วนะ?”

 

ในระหว่างที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งความมืด ความคิดนี้ก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา ข้อมูลในหน้าต่างภารกิจยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ มันยังไม่ได้รับการแก้ไข หนึ่ง สอง…หรือบางทีอาจจะต้องมากกว่านั้น

 

“ที่นี่มีพื้นที่ล่าซอมบี้อยู่สองจุดเท่านั้นเองเหรอ?”

 

มีเพียงแค่สองจุดนี้จริง ๆ  ฮยอนนูสรุปข้อมูลได้ดังนี้ จากนั้นเขาก็หวังว่าหากล่าได้อีกสักตัวแล้วภารกิจจะสำเร็จและได้รับรางวัล เขามาถึงด้านหน้าของถ้ำแห่งความมืดซึ่งมีผู้คนจำนวนมากรวมตัวอยู่ ไม่มีผู้เล่นอยู่ในเขตสุสานเลยเนื่องจากพวกเขาต่างก็อยากจะมาล่าที่ถ้ำแห่งความมืดมากกว่า ถ้ำแห่งความมืดเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังมองหาปาร์ตี้ เช่นเดียวกับพื้นที่ล่าแห่งอื่น โดยปกติแล้วพวกเขาจะหาสมาชิกปาร์ตี้ใหม่เพื่อทดแทนคนเดิมที่ตายไประหว่างการล่า หรือเพราะว่ามีใครคนใดคนหนึ่งต้องการจะออกจากปาร์ตี้

 

ฮยอนนูเข้าไปยังถ้ำแห่งความมืดคนเดียวโดยไม่มีปาร์ตี้เลย ในขณะที่ฮยอนนูกำลังเดินอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองจากที่ไหนสักที่

 

“พี่ฮยอนนูคะ!” เจ้าของเสียงนั้นก็คือยูริ

 

ฮยอนนูแข็งใจไม่ทำหน้าบึ้ง เขารู้ว่าหากสีหน้าของเขาถูกมองออกแล้วจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากแน่ “เอ๋? ยูริไม่ใช่เหรอ? เธอมาทำอะไรที่นี่กัน?”

 

“หนูกำลังจะไปล่าค่ะ พี่ล่ะคะ?”

 

“พี่เองก็กำลังจะไปล่าเหมือนกัน”

 

ยูริดีใจที่ได้พบกับฮยอนนูอีกครั้ง สำหรับยูริแล้วฮยอนนูเป็นเหมือนพี่ชายมากกว่าที่จะเป็นเพื่อนของเธอ เขาเป็นเหมือนพี่ชายที่เธออยากจะคอยดูแล?…ประมาณนั้น

 

‘พี่ชายเพิ่งจะพูดว่าเขาเลเวลแค่ 30 อยู่เลยไม่ใช่เหรอ?’ ถึงอย่างนั้นความคิดของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ไม่ได้คงอยู่นานนัก เหตุผลว่าทำไมฮยอนนูถึงมาที่นี่นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย

 

“พี่สนใจจะร่วมปาร์ตี้กับพวกหนูมั้ย? พวกเราเพิ่งจะตั้งปาร์ตี้เมื่อกี้เอง”

 

“ปาร์ตี้งั้นเหรอ?”

 

ฮยอนนูขบคิดถึงเรื่องนี้ เขาจะร่วมปาร์ตี้หรือจะล่าคนเดียวกับทังอีดี? ‘มีนักบวชมาช่วยน่าจะดีกว่า’

 

“ได้เลย!”

 

“พี่จะได้เจอกับคนเจ๋ง ๆ ด้วยแหละ ถ้าพี่มากับหนู”

 

‘คนเจ๋ง ๆ งั้นเหรอ?’

 

เมื่อฮยอนนูตอบตกลงใบหน้าของยูริก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที จากนั้นเธอก็ลากเขาไปยังที่ไหนสักที่

 

“เอ๋? นั่นพี่ฮยอนนูใช่ไหมครับ?”

 

“นายคือยองจุนไม่ใช่เหรอ? ดีจริง ๆ ที่ได้เจอนาย เก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”

 

มีคนที่ฮยอนนูคุ้นเคยอยู่ตรงหน้าเขา ชื่อของเขาคือยองจุน ผู้เป็นน้องชายของยองซานและยูริ

 

“ทำไมฮยองหายไปนานเลย? ไปเกณฑ์ทหารมาเหรอครับ? ใบหน้าของพี่ดูโทรมลงไปเยอะเลยนะครับ” ยองจุนกล่าวคำพูดทิ่มแทงใจของฮยอนนูพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มสดใสให้เขา

 

“ใช่แล้ว ฉันไปเกณฑ์ทหารมา” ฮยอนนูขยี้ศีรษะของยองจุนด้วยความเดือดดาล ‘เจ้าเด็กนี่ยังกวนบาทาไม่เคยเปลี่ยน’

 

“จะว่าไปแล้วพวกเราจะล่ากันแค่สามคนเองเหรอ?” ฮยอนนูพูดจาเล่นลิ้นกับยองจุนอยู่พักใหญ่ก่อนจะเริ่มเข้าประเด็นหลัก

 

เท่าที่ดูตอนนี้สมาชิกในปาร์ตี้มีเพียงสามคนเท่านั้น ประกอบด้วยฮยอนนูที่เป็นนักรบ ยูริที่เป็นนักบวชซึ่งเป็นคลาสที่โจมตีแรงแต่ค่อนข้างบอบบาง

 

“ยองจุนนายเล่นอาชีพอะไร?”

 

“ผมเป็นนักธนูครับพี่”

 

ในขณะที่อาชีพของยองจุนคือนักธนู อันที่จริงนักธนูกับนักบวชนั้นถือว่าไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่นัก

 

“นักธนูงั้นเหรอ?”

 

“จนถึงตอนนี้พวกเราล่ากันอยู่แค่สามคนครับ เพื่อนผมอีกคนเขาเล่นอาชีพนักรบ”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮยอนนูก็รู้สึกโล่งใจ เดิมทีพวกเขาล่ากันโดยมีสมาชิกสามคนในปาร์ตี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่สามารถทำได้แต่พวกเขาก็จะต้องมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมากด้วยเช่นกัน

 

“งั้นก็รีบไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย”

 

ฮยอนนูเดินนำยูริและยองจุนเข้าไปในถ้ำแห่งความมืด

 

***

 

การล่าพวกนักรบโครงกระดูกเป็นไปอย่างง่ายดาย พลังของนักบวชจัดได้ว่ามีประสิทธิภาพกับมอนสเตอร์จำพวกซอมบี้อย่างมาก ทุกครั้งที่ธนูของยองจุนพุ่งออกไป พวกนักรบโครงกระดูกก็จะแตกกระจายไปทีละตัวทีละตัว

 

‘นี่สินะคือเหตุผลว่าทำไมปาร์ตี้แค่สามคนถึงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้’

 

ในที่สุดฮยอนนูก็ยอมรับความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ พวกเขาเก่งกาจพอที่จะล่าเพียงแค่สามคนได้

 

ลูกธนูของยองจุนนอกจากมีความแม่นยำสูงแล้วยังยิงได้อย่างรวดเร็วด้วย ในขณะเดียวกันยูริเองก็สามารถกะจังหวะเวลาร่ายบัฟได้อย่างยอดเยี่ยมจนถึงขั้นที่ว่าคอมโบบัฟที่ร่ายให้แก่เขาไม่เคยถูกทำลายลงเลย  นอกจากนี้จังหวะการสร้างโล่ป้องกันให้แก่เขาก็ยังยอดเยี่ยมมากอีกด้วย

 

คำอุทานมากมายต่างก็หลุดออกมาจากปากของฮยอนนู

 

‘อย่างไรก็ตามเลเวล 90 ก็น่าจะเป็นขีดจำกัดแล้ว ถึงยังไงมันก็เป็นแค่ดันเจี้ยนซอมบี้ละนะ’

 

แน่นอนว่าตอนนี้มันยังไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่ เนื่องจากถ้ำแห่งความมืดจัดเป็นพื้นที่ล่าสำหรับผู้เล่นที่มีเลเวลประมาณ 70

 

“ยูริ!”

 

จังหวะที่ชื่อของเธอถูกเรียกนั้นเอง ยูริก็บัฟให้แก่ฮยอนนูด้วยความใจเย็น

 

[คุณได้รับบัฟ ‘พลังงานศักดิ์สิทธิ์’ ]

 

[อาวุธของคุณได้รับพลังจากพระเจ้าผู้สูงส่ง]

 

[พลังโจมตีเพิ่มขึ้น]

 

ดาบยาวปลายมนของฮยอนนูปกคลุมไปด้วยไอสีขาว ภายในพื้นที่เล็ก ๆ นั้น ฮยอนนูแสดงการเคลื่อนไหวตามปกติให้ได้เห็น ทุก ๆ ครั้งที่ฮยอนนูเคลื่อนไหว แสงสีขาวก็จะปรากฏลอยอยู่ในอากาศเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะหายไป แสงเหล่านั้นบดขยี้พวกนักรบโครงกระดูกจนสิ้น มันสามารถทำลายและขัดขวางไม่ให้ร่างกายของพวกมันกลับมาประกอบกันเหมือนเดิมได้อีก

 

ในระหว่างนั้นเองนักรบโครงกระดูกอีกตัวก็อาศัยช่องว่างเล็งเป้าไปที่ศีรษะของฮยอนนู มันคิดว่าจะสามารถฆ่าฮยอนนูได้ในทันที ทว่าการโจมตีของนักรบโครงกระดูกนั้นกลับถูกปัดป้องออกไปและทำให้ไร้ผล

 

“โล่แห่งการปกป้อง!” ยูริร่ายโล่ป้องกันให้แก่ฮยอนนู

 

การโจมตีของนักรบโครงกระดูกตัวนั้นถูกป้องกันด้วยโล่ที่ยูริสร้างขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นฮยอนนูก็เหวี่ยงดาบยาวปลายมนของเขาไปยังโครงกระดูที่กำลังไขว้เขวอยู่ทำให้ศีรษะของมันถูกทำลายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

‘การล่าด้วยกันกับนักบวชช่างสะดวกสบายดีจริง ๆ แต่ว่าง่ายแบบนี้ก็ไม่สนุกนะสิ’

 

การร่วมปาร์ตี้กับนักบวชฝีมือดีนั้นทำให้อะไร ๆ ก็ดูง่ายไปหมด เขามีหน้าที่แค่โจมตีไปเรื่อย ๆ เท่านั้นโดยที่แทบจะไม่ต้องออกแรงหลบหลีกการโจมตีของมอนสเตอร์เลยด้วยซ้ำ เพราะมีนักบวชคอยฮีลและสร้างโล่ป้องกันให้อยู่ ในขณะที่ฮยอนนูกำลังชื่นชมพลังของนักบวชอย่างยูริอยู่นั้น ลูกธนูของยองจุนก็พุ่งทะลุโครงกระดูกตัวสุดท้าย

 

[คุณได้ฆ่านักรบโครงกระดูกระดับต่ำ]

 

[ได้รับค่าประสบการณ์]

 

[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]

 

“ว้าว! ฮยองนี่เยี่ยมจริง ๆ” ยองจุนไม่รู้ถึงอดีตที่ผ่านมาของฮยอนนูจึงรู้สึกตกตะลึงกับทักษะต่าง ๆ ของเขา เพื่อนของยองจุนแม้จะเป็นนักรบเหมือนกันแต่เขาก็ไม่ได้เก่งกาจขนาดนี้ เขามีหน้าที่แค่ถือโล่และคอยขวางพวกมอนสเตอร์เท่านั้น การโจมตีต่าง ๆ ที่ใช้ก็มีแค่ทักษะธรรมดา ๆ

 

ทว่าในกรณีของฮยอนนูนั้นต่างออกไป เขาดึงความสนใจของพวกนักรบโครงกระดูกได้อย่างช่ำชอง ในขณะเดียวกันก็ฉวยโอกาสจากช่องว่างจังหวะต่าง ๆ ของพวกมันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้เขาจะหลบการโจมตีของพวกมันได้ไม่ทั้งหมด แต่เขาก็รู้ว่าควรใช้การเคลื่อนที่แบบไหนและอะไรเป็นสิ่งที่เขาต้องหลบหลีก ในเวลาเดียวกับที่ป้องกันนั้นเอง เขาก็จะเป็นฝ่ายที่บุกเข้าโจมตีด้วยเช่นกัน ในมุมมองของยองจุนแล้ว รูปแบบการต่อสู้ของฮยอนนูนั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมาก

 

“ก็แค่ระดับพอใช้ละนะ ในเมื่อมีนักบวชอยู่ด้วย แถมยังมีตัวทำดาเมจที่โจมตีได้รุนแรงช่วยอีก ฉันก็แค่เบี่ยงเบนความสนใจของพวกมันเท่านั้น”

 

คำตอบของฮยอนนูนั้นช่างเรียบง่าย สำหรับฮยอนนูแล้วการต่อสู้รูปแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับรูปแบบที่เขาใช้สู้อยู่ทุกวัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกชื่นชอบมันขนาดนั้น ในตอนนั้นเองเขาก็มีความคิดดี ๆ ความคิดหนึ่งผ่านเข้ามาในหัว

 

‘โอเค ฉันจะพาเจ้าพวกนี้ไปกับฉันด้วย’

 

เขาเอ่ยปากถาม “จะว่าไปแล้ววันนี้พวกนายกะว่าจะเล่นอารีน่านานเท่าไหร่?”

 

“น่าจะซักแปดชั่วโมงมั้งคะ? ทำไมเหรอ?” ยูริตอบคำถามของฮยอนนู

 

“พวกนายอยากจะลองเคลียร์ดันเจี้ยนส่วนตัวดูซักครั้งไหม?” คำชี้ชวนของฮยอนนูกระทบผ่านหูของยูริและยองจุนเข้าอย่างจัง

 

“ดันเจี้ยนส่วนตัวงั้นเหรอ?” ยองจุนถามอีกครั้ง

 

“ตกลงค่ะ” ในขณะที่ยูริกลับตอบรับทันที

 

“จริงเหรอ? ถ้างั้นเรามาลุยกันให้เต็มที่ในอีกเจ็ดชั่วโมงนับจากนี้กันเถอะนะเด็ก ๆ” ที่มุมปากของฮยอนนูมีรอยยิ้มเล็ก ๆ โผล่ออกมา

 

ช่วงเวลาที่สุดแสนจะโหดร้ายรอคอยเด็กหนุ่มสาวสองคนนี้อยู่

 

“นรกแห่งการล่าเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”