ตอนที่ 319 ข่มอีกฝ่าย / ตอนที่ 320 ภาพลักษณ์ป่นปี้

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 319 ข่มอีกฝ่าย 

 

 

หวังอี้เหว่ยเคยจินตนาการว่าฝ่ายหญิงจะใช้วิธีแปลกประหลาดหรือไม่ก็ทำตัวโอเวอร์มาทำลายการเดตในครั้งนี้ เขาเองก็คิดวิธีที่รับมือไว้บ้างแล้ว ฉากที่คนอื่นใช้กันแล้วดูจอมปลอม แต่เมื่อสองคนนี้มาแสดงแล้วมันก็ทำให้เขาอดที่จะเชื่อไม่ได้ 

 

 

“คุณซย่า ผมไม่รู้นะครับว่าพวกคุณสองคนเกี่ยวข้องอะไรกัน แต่ถ้าคุณอยากปฏิเสธผมคุณก็บอกมาตามตรงเลย ไม่ต้องให้คนอื่นมาทำมันพังหรอกครับ” หวังอี้เหว่ยพูดตามตรง 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วฟังเขาพูดแล้วก็รู้สึกกระอักกระอ่วน จึงหันไปขอโทษ “ขอโทษจริงๆ นะคะ ฉันไม่…” 

 

 

“เมื่อกี้เขาก็ปฏิเสธคุณไปแล้วนี่นา ทำไมยังนั่งอยู่ตรงนี้อีกล่ะครับ” ในที่สุดเหยียนเค่อก็เบนสายตาออกจากร่างของซย่าเสี่ยวมั่ว สายตาเยียบเย็นจ้องมองไปที่เขาพลางเอ่ยอย่างจริงจัง 

 

 

ออร่าบัณฑิตของหวังอี้เหว่ยถูกทำลายไปด้วยคำพูดนั้น สายตาเบี่ยงหลบ พึมพำกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง จึงจะสังเกตได้ว่าในคำพูดของเหยียนเค่อมีช่องโหว่อยู่ 

 

 

“คุณ…คุณรู้ได้ยังไงว่าพวกเราคุยอะไรกันบ้าง!” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเองก็เพิ่งพบว่าคำพูดของเหยียนเค่อดูแปลกๆ เธอมองไปที่เหยียนเค่ออย่างไม่ข้องใจ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอพูดอะไรไปบ้าง 

 

 

สวีอันหรานกับสวีรั่วชีนั่งหมอบฟุบตัวลงกับโต๊ะ แอบมองสถานการณ์ทางด้านนั้น 

 

 

“พี่ว่าเหยียนเค่อจะอธิบายว่ายังไง” สวีรั่วชีกระตุกแขนเสื้อสวีอันหราน แล้วเอ่ยถามเสียงเบา 

 

 

สวีอันหรานป้องปากแล้วกระซิบที่ข้างหู “ฉันว่ามันต้องด่านายคนนั้น แล้วอธิบายแบบสบายๆ” 

 

 

“แต่ฉันว่าเขาไม่อธิบาย แล้วพาเปลี่ยนเรื่อง” 

 

 

ทั้งคู่สบตากัน “มาพนันกันไหมล่ะ” 

 

 

“เอาสิ” สวีอันหรานยิ้มบาง ขยับกำปั้นไปชนกับกำปั้นของเธอ ก่อนจะนั่งดูเรื่องสนุกต่อไป 

 

 

เหยียนเค่อมองซย่าเสี่ยวมั่วที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ยายเด็กโง่ ถ้าเขาบอกว่าไม่รู้ งั้นก็แสดงว่าการที่เธอปฏิเสธหวังอี้เหว่ยก็ไม่มีหลักฐานงั้นเหรอ การที่เสียเปรียบอยู่แต่กลับยังรอดูเรื่องสนุกอย่างตื่นเต้นได้นี่ต้องเป็นคนประเภทไหนกันนะ 

 

 

เขาขมวดคิ้ว ดันศีรษะของซย่าเสี่ยวมั่วกลับไป ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ขนาดผมเขายังปฏิเสธเลยครับ การที่เขาปฏิเสธคุณก็ต้องเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง หรือคุณคิดว่าคุณดีกว่าผม” 

 

 

นายคิดว่านายดีกว่าฉันตรงไหน ถึงทำให้เขาไม่ปฏิเสธนายน่ะ 

 

 

คำพูดนี้ออกจะแรงไปหน่อย…แต่ว่า เธอชอบ! ซย่าเสี่ยวมั่วกระแอมหนึ่งที บังคับมุมปากของตัวเองไม่ให้ยิ้มออกมา และไม่ได้พูดอะไรต่อ 

 

 

สีหน้าของหวังอี้เหว่ยแย่ลงในทันที ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เจือความขุ่นเคือง “ผมเป็นข้าราชการ อย่างคุณแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นพวกเกาะผู้หญิงกิน” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองเขาที่หลุดพูดออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย ตัดสินอาชีพคนอื่นจากภาพจำครั้งแรก คิดว่าเป็นข้าราชการแล้วเจ๋งมากหรือไง 

 

 

เธอกำลังจะโต้กลับ ก็ได้ยินเสียงเหยียนเค่อปริปากพูดอย่างเนิบนาบเสียก่อน “ข้าราชการก็แค่เพิ่มเกียรติยศให้กับอาชีพ แต่ไม่ได้ทำให้คุณสูงส่งเหนือคนอื่น สิ่งที่คุณควรจะภาคภูมิใจ ควรจะเป็นความรับผิดชอบ ไม่ใช่ความดีเด่นคนอื่น” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกัดผ้าเช็ดหน้า ท่าทางจริงจังแบบนี้หล่อชะมัดเลยอะ! 

 

 

ที่เหยียนเค่อพูดก็มีเหตุผล มีออร่าและสไตล์ของคนใหญ่คนโต ทำให้คนมองรู้สึกละอายใจที่เทียบกับเขาไม่ได้ 

 

 

ฝีปากของหวังอี้เหว่ยไม่แพ้ใคร เมื่อถูกเหยียนเค่อพูดตอกกลับใส่ จึงพูดเสียดสีขึ้นบ้าง “แล้วคุณเป็นเกาะผู้หญิงกิน คุณภูมิใจเหรอครับ คุณมีความรับผิดชอบแล้วเหรอครับ หน้าไม่อาย” 

 

 

“ก่อนอื่น คุณยังไม่รู้อาชีพของผม คุณไม่มีสิทธิ์พูด ต่อมา ในเมื่อผมเป็นเกาะผู้หญิงกินก็ต้องมีหน้าที่คอยปกป้องดูแลนายจ้าง ถึงผมจะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับข้าราชการ แต่ผมมีปัญหากับคุณ” เหยียนเค่อหรี่ตา สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง 

 

 

ส่วนซย่าเสี่ยวมั่วก็โมโหแทนจนหน้าเขียวเพราะเขาถูกด่าว่าหน้าไม่อาย 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 320 ภาพลักษณ์ป่นปี้ 

 

 

หวังอี้เหว่ยต่อล้อต่อเถียงกับเหยียนเค่ออยู่พักใหญ่ เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วต่างหากที่เป็นเป้าหมายสุดท้ายในการนัดบอดครั้งนี้ ถ้าซย่าเสี่ยวมั่วตกลงให้ทั้งสองคนคบกัน งั้นไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะพูดอะไรก็ไร้ประโยชน์ “คุณซย่า ผมว่าเพื่อนคุณไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเดทของเราเลยนะครับ เรามาคุยกันดีๆ ได้ไหม” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วส่ายหน้า “ไม่ค่ะ ในเมื่อคุณรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องพูดค่อนแคะเขาด้วยคะ ฉันคิดว่าที่เพื่อนฉันพูดก็ไม่ได้ผิดตรงไหน และก็แค่เตือนคุณเท่านั้น เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วล่ะค่ะ” 

 

 

แสงแดดนอกหน้าต่างเจิดจ้าได้ที่ หน้าต่างมู่ลี่ไม่ได้ถูกดึงลงมา ทำให้แสงสีขาวที่แสบตาทะลุผ่านหน้าต่างบานใหญ่ สาดส่องให้เกิดเงาเลือนรางของทั้งสามคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก และยิ่งทำให้เหยียนเค่อดูเหมือนกับเทพเจ้าลงมาจุติ 

 

 

“ทำไมเหยียนเค่อต้องบิดเบือนภาพลักษณ์ของซย่าเสี่ยวมั่วด้วยเนี่ย เกินไปแล้วนะ” สวีรั่วชีกำหมัดแน่นแล้วทุบลงไปที่ฝ่ามือของสวีอันหราน 

 

 

“เมื่อกี้เธอแพ้นะ” สวีอันหรานยังจำพนันข้อนั้นได้ดี 

 

 

สวีรั่วชีพยักหน้าอย่างขอไปที “รู้แล้วๆ พี่ลองวิเคราะห์ซิว่าเหยียนเค่อคิดอะไรอยู่” 

 

 

“ทำไมเธอต้องสนใจเขาขนาดนั้นด้วย” สวีอันหรานยกมือขึ้นบังสายตาของเธอ “ฉันว่าช่วงนี้เธอดูสนใจเหยียนเค่อมากเลยนะ” 

 

 

“สบายใจเถอะน่า ฉันไม่ชอบคนขาวขนาดนั้นหรอก สีผิวแบบพี่กำลังดีแล้ว” สวีรั่วชีดึงมือของสวีอันหรานลง ลอบมองสีหน้าของหวังอี้เหว่ย 

 

 

“คุณคบกับผู้ชายที่ชอบแข็งข้อแบบนี้ แต่ไม่ยอมคบกับผมงั้นเหรอครับ!” หวังอี้เหว่ยรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ ในสายตาของเขา เหยียนเค่อหน้าตาดีกว่าผู้ชายในที่นี้ทุกคน แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน 

 

 

ชอบแข็งข้อคืออะไร? ซย่าเสี่ยวมั่วกุมหน้าผาก เธอไม่ยอมคบกับผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ไม่ได้คบกับเหยียนเค่อเสียหน่อยนี่ ทำไมต้องมาใส่ร้ายกันด้วย แถมยังเอาแต่ด่าว่าเหยียนเค่อเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินอีกต่างหาก 

 

 

เหยียนเค่อลูบหลังคอของซย่าเสี่ยวมั่ว แล้วเลิกคิ้วอย่างร้ายกาจ “ผมไม่รู้หรอกว่าคุณแข็งหรือเปล่า แต่ผมแข็ง ซย่าเสี่ยวมั่วรู้ดี” 

 

 

นายแข็งหรือไม่แข็งแล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง…ซย่าเสี่ยวมั่วแกล้งตาย มาคุยเรื่องนี้กันในที่สาธารณะนี่มันดีแล้วเหรอ 

 

 

แต่เหยียนเค่อก็ไม่ยอมปล่อยเธอไป โน้มตัวลงมาถามเธอเสียงเบา “บอกเขาไปสิ ว่าเธอรู้หรือเปล่า” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเบี่ยงศีรษะออกแล้วแอบด่าในใจ ‘หน้าไม่อาย โคตรหน้าด้านเลย’ ใบหูเริ่มขึ้นสีแดง เธอหลับตาลง หมดปัญญาที่จะกู้ภาพลักษณ์ที่ป่นปี้ยับเยินนี้เสียแล้ว 

 

 

หวังอี้เหว่ยโกรธจนหน้าแดง เห็นว่าซย่าเสี่ยวมั่วไม่โต้ตอบ และหลังจากเห็นท่าทางของเหยียนเค่อแล้ว ก็โพล่งด่าออกมาอย่างขุ่นเคือง “หน้าไม่อาย!” ดื่มกาแฟที่วางอยู่ด้านข้างจนหมดแล้วเดินกระแทกจากไป 

 

 

จนแผ่นหลังของหวังอี้เหว่ยเดินลับจากหน้าประตูไป ซย่าเสี่ยวมั่วจึงหันหน้ากลับมา ก่อนจะพูดความในใจออกมาด้วยความโมโห “หน้าไม่อาย!” 

 

 

“ด่าฉันงั้นเหรอ” เหยียนเค่อดึงหลังคอของเธอเบาๆ “มีจิตสำนึกหน่อยได้ไหม” 

 

 

“จิตสำนึกฉันโดนนายกินไปหมดแล้ว” ซย่าเสี่ยวมั่วดันแก้วกาแฟข้างๆ ออก แล้วจะไปคิดเงิน 

 

 

คราวนี้คุณนายเสิ่นอุตส่าห์แนะนำผู้ชายปกติให้เธอ สุดท้ายก็โดนเธอทำให้กลายเป็นคนผิดปกติเสียได้ 

 

 

“ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลยล่ะ” เหยียนเค่อหยิบกระเป๋าเงินออกมาจ่ายเงินแทน 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองนิ้วมือเรียวยาวของเขาที่รับเงินทอนมาแล้วยัดเข้าไปในกระเป๋าที่เธอเพิ่งจะเปิดเมื่อครู่จึงเหลือบตามองเขา แล้วปิดกระเป๋าหนังของตนอย่างไม่พอใจนัก อย่างไรซะการที่เหยียนเค่อช่วยจ่ายเงินให้เธอก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว เธอเองก็ชินแล้ว แถมยังปล่อยเลยตามเลยไปแล้วด้วย แต่ตอนนี้แม้แต่เงินทอนที่เกินออกมาก็เอามายัดให้เธอเสียอย่างนั้น 

 

 

“ตอนนี้นายเหมือนจะให้เงินไล่พวกขอทานเลย” 

 

 

“ถ้าเธอเป็นขอทาน ฉันจะอยู่ให้ห่างแน่นอน” 

 

 

และทั้งสองก็เริ่มพูดจาค่อนแคะทำร้ายกันอีกครั้ง