ตอนที่ 526 เจ้าเป็นสุนัข

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“อย่าาาา!”

ฝันร้ายในอดีตทําให้มู่เฉียนซีตะโกนออกมา  เสียงของนางตกไปในหูของจิ่วเยี่ย ทําให้จิ่วเยี่ยที่เสียสติไปแล้วสงบสติอารมณ์ลง

ความปรารถนาและเหตุผลเริ่มต่อสู้กันในใจของเขา ยาที่ออกฤทธิ์ช้า ในที่สุดก็ได้ผลแล้ว

จิ่วเยี่ยโอบมู่เฉียนซีเข้าไปในอ้อมแขนนั้น เช็ดเหงื่อบนหน้าผากนางและมองแววตาของนางที่ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นมา

“จิ่วเยี่ย…”

น้ำเสียงของมู่เฉียนซีแหบแห้ง นั่นเป็นฝันร้ายที่นางไม่เคยคิดจะนึกถึงมาโดยตลอด บนหอฉงโหลวบนเมฆา ภาพมายานี้ก็เคยถูกกระตุ้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับถูกขุดขึ้นมาทั้งหมด

ทั้งหมดเป็นเพราะเวลานี้หัวใจนางไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นนั้นหรือ ?

“มู่เฉียนซีที่รัก พลังของเจ้าแข็งแกร่งเกินไป ความงามในตอนนี้เจ้ายังสามารถต้านทานไว้ได้ โชคดีที่เจ้าหยุดเขาได้ ไม่อย่างนั้น…” เสียงนิรันดร์ดังลอยมา

“ไม่อย่างนั้นจะทำไมรึ ?” มู่เฉียนซีเอ่ยถามเสียงแข็ง “ไม่อย่างนั้นลมปราณ พลังวิญญาณ และวิญญาณของเจ้าจะกลายเป็นเครื่องสังเวยที่เสริมสร้างคําสาปของเจ้าบ้าข้างกายเจ้าให้แข็งแกร่งขึ้น และเจ้าจะยิ่งออกห่างจากหวงจิ่วเยี่ยไม่ได้ จนกระทั่งพลังวิญญาณของเจ้าหมดลง วิญญาณของเจ้าก็จะถูกกลืนกินไปจนหมดจึงเป็นอันจบสิ้น”

มู่เฉียนซีสูดลมหายใจพลางกล่าว “อืม คําสาปนี้ร้ายกาจยิ่งนัก”

“ในใต้หล้านี้ไม่สามารถหาคําสาปที่ชั่วร้ายกว่านี้ได้อีกแล้ว เขาสามารถอยู่มาได้ถึงตอนนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจมากแล้ว”

ถึงแม้จะมีคําสาปเช่นนี้บนร่างของจิ่วเยี่ย เขาก็ยังคงภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งที่มี

ทว่าเบื้องหลังของความแข็งแกร่งกลับน่ากลัวอย่างถึงที่สุด “มู่เฉียนซีที่รักของข้า เรื่องนี้สตรีงามอย่างเจ้าจัดการได้ไม่ง่ายเลย เจ้าต้องเอาให้อยู่ หากเจ้าต้องการละก็ เจ้าสามารถรอให้ข้ากลายร่างเป็นมนุษย์เพื่อเจ้าได้  ข้าบอกตามตรงว่าเจ้าหวงจิ่วเยี่ยนั่น นอกจากมีพลังความสามารถที่วิปริตไปสักหน่อย ส่วนที่เหลือนั้นเทียบกับข้าไม่ได้แม้แต่น้อย” นิรันดร์กล่าว “อีกนิดเดียวก็เกือบจะทำร้ายเจ้าเสียแล้ว”  เสียงแหบแห้งดังเข้ามาในหูของมู่เฉียนซี

เขานั้นรู้ดี แต่เมื่อนึกถึงนางขึ้นมา ถึงต่อให้เขาจะบ้าคลั่งไปมากกว่านี้ก็คงไม่อาจที่จะทำไปถึงขั้นนั้นได้อย่างแน่นอน

ความเดือดดาลของตนจะทำลายชีวิตนางไปทั้งชีวิตอย่างไม่มีทางหวนกลับได้

“โชคดีที่ซีปฏิเสธข้า…”

หากท่านจิ่วเยี่ยต้องการสตรีงดงามสักคน ก็ไม่มีใครที่จะสามารถปฏิเสธเขาได้  แต่ทว่าเมื่อเขาถูกสตรีนางหนึ่งปฏิเสธเข้าในช่วงเวลาสำคัญนี้ เขาไม่ได้โกรธนางแม้สักนิด กลับดีใจเสียด้วยซ้ำ มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะจิ่วเยี่ยทําให้จุดอ่อนในหัวใจของนางนั้นแข็งแกร่งเหมือนกำแพงเหล็ก… หากว่าฝันร้ายเหมือนในอดีตปรากฏขึ้นอีกครั้ง… นางก็คงไม่อาจที่จะปฏิเสธความรู้สึกของเขาได้

และหากเดินหมากก้าวนั้นผิดไป เช่นนั้นทุกสิ่งอย่างก็คงจะพังทลายอย่างมิอาจหวนคืนกลับได้ มันมิเพียงแต่จะเกิดกับร่างกายของจิ่วเยี่ยเท่านั้น แม้แต่คนของเขาก็ล้วนแต่เป็นอันตรายอย่างที่สุดด้วย

มู่เฉียนซีเงยหน้ามองบุรุษตรงหน้าก่อนจะกล่าวว่า “ข้ามั่นใจในการควบคุมตนเองของเจ้า”

“ฮืม… ข้านั้นนับวันยิ่งควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว” นี่เป็นความจริงอย่างยิ่ง!

“แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครทำร้ายเจ้า หรือแม้แต่ข้าเอง”

“อื้อ!”

จุมพิตที่คุ้นเคยนั้นประทับลงมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจิ่วเยี่ยจะไม่มีท่าทีที่จะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ

เมื่อจุมพิตนั้นค่อย ๆ ลื่นไหลลงมา ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างมากตรงมาจากหัวใจ ผิวหนังของนางฉีกออก การกัดในครั้งนี้มันช่างหนักหน่วงนัก

กลิ่นคาวเลือดลอยมา มู่เฉียนซีขมวดคิ้วทันที “หวงจิ่วเยี่ย เจ้าเป็นสุนัขรึ ?”

ก่อนนี้ไม่ว่าเขาจะใช้แรงกัดมากขึ้นเท่าไร ก็ไม่ได้กัดอย่างดุดันอย่างวันนี้

ริมฝีปากเปื้อนเลือดนั่นปิดปากของมู่เฉียนซีไว้

ทันใดนั้นเอง ทั้งร่างของมู่เฉียนซีก็ได้ถูกปิดทับ ทำให้นางมองไม่เห็นบาดแผลของตนเองเลย แต่มือของจิ่วเยี่ยกลับไม่ได้หยุดนิ่งจนนางสั่นสะท้านไปทั้งร่าง นางทั้งเจ็บปวดทั้งคัน!

— ฟึ่บ! —

มู่เฉียนซีรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงหัวใจ  ราวกับว่ามีบางอย่างมาแนบอยู่กับผิวหนังของนาง “อื้ออออ!”

มู่เฉียนซีอยากจะเปิดปากถามว่ามันคืออะไร ? แต่ริมฝีปากของนางถูกปิดกั้นอย่างรุนแรง จิ่วเยี่ยกําลังรุกไล่นางอยู่ นางไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คําเดียว …สีหน้าของมู่เฉียนซีร้อนผ่าวอย่างหนัก

ในที่สุดจิ่วเยี่ยก็ปล่อยตัวนาง มู่เฉียนซีรีบผลักจิ่วเยี่ยออกไปและรีบตรวจสอบบาดแผลของตนเองทันที แต่ทว่า บาดแผลอยู่ที่ไหนเล่า ?

บริเวณที่เขากัดเมื่อครู่ ตอนนี้กลับมีรอยประทับสีฟ้าอ่อนเพียงจุดเดียว มันดูเหมือนกลีบดอกบัวที่เป็นผลึกก็มิปาน

กลีบดอกนี้เหมือนจริงมาก  ทั้งมันยังมีกลิ่นอายวิญญาณที่ดึงดูด

ปลายนิ้วของมู่เฉียนซีลูบไล้ลงไปบนกลีบดอกไม้นี้ ไม่มีความรู้สึกหยาบกร้านแต่อย่างใด ราวกับว่ามันเติบโตตามธรรมชาติเหนือผิวของนาง

“นี่มันอะไรกัน ?” มู่เฉียนซีถามขึ้นอย่างฉงนสงสัย ร่างกายของนาง เดิมทีไม่มีสิ่งนี้อย่างแน่นอน

จิ่วเยี่ยหยิบอาภรณ์ชุดหนึ่งออกมาจากมิติและค่อย ๆ สวมใส่มันให้กับมู่เฉียนซี จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “เดี๋ยวซีจะรู้เอง”

ทันใดนั้น แสงสีฟ้าก็พุ่งออกมาจากร่างของมู่เฉียนซี พลันมีเงาร่างสีฟ้าปรากฏขึ้นในอากาศ

หญิงสาวที่อ่อนโยนดูเป็นธรรมชาติ ราวกับสายน้ำที่ไหลผ่านปรากฏกายขึ้น

ดวงตาที่อ่อนโยนคู่นั้นของนางจับจ้องมองมู่เฉียนซีพลางยิ้ม  กล่าวว่า “ข้ายังไม่ได้แนะนําตัวเองเลย …ข้าเป็นหนึ่งในมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ผู้พิทักษ์นิรันดร์ ดอกบัวหงเก้ากลีบ  ต่อไปโปรดชี้แนะข้าด้วย นายท่าน” “ผู้พิทักษ์นิรันดร์!” มู่เฉียนซีมองสตรีตรงหน้าผู้นี้ นี่คือนางผู้นั้นที่จิ่วเยี่ยตามหา หญิงสาวที่ช่วยชีวิตนางไว้ท่ามกลางความว่างเปล่าที่แตกสลาย ที่แท้นางก็เป็นหนึ่งในมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์

“นายท่าน!”

มู่เฉียนซีเบิกตากว้างและพบว่าตนเองมีพันธสัญญาเพิ่มมาอีกหนึ่งพันธสัญญา นี่ไม่ใช่พันธสัญญาที่เท่าเทียม ไม่ใช่พันธสัญญาวิญญาณ แต่เป็นพันธสัญญาชีวิต

แต่เมื่อถูกลงนามพันธสัญญาชีวิต นางกลับไม่ตรวจสอบเลยสักนิด มู่เฉียนซีคิดถึงแต่จูบนั้นของจิ่วเยี่ย

เขาหันเหความสนใจของตนเองอย่างเงียบ ๆ และทำให้นางลงนามในพันธสัญญาที่เท่าเทียมกันกับผู้พิทักษ์นิรันดร์โดยไม่รู้ตัว

จิ่วเยี่ยนั้นช่างใจดำเกินไปแล้ว ท่าทางที่ดูสงบนิ่งเช่นนี้ กลับบังคับให้นางทําพันธสัญญาได้อย่างโหดเหี้ยมกว่าเมื่อก่อนเสียอีก

แล้วอาถิงล่ะ ? นางจําได้ว่าเคล็ดเทพต้านสวรรค์มีบันทึกไว้ว่าพันธสัญญาชีวิต ชีวิตนิรันดร์ สามารถลงนามได้เพียงพันธสัญญาเดียวเท่านั้น

ยังไม่ทันไร แสงสีเขียวอ่อนพลันพุ่งเข้ามา อาถิงจ้องมองมู่เฉียนซี เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าทำไมหรือ ? เมื่อมีพี่สาวแล้วเจ้าคงจะไม่ทิ้งข้าหรอกกระมัง! ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้นะว่าอย่าได้คิดทิ้งกันเชียว”

“พี่สาวรึ ?” มู่เฉียนซีมองใบหน้าที่บริสุทธิ์ของอาถิงและมองใบหน้าที่อ่อนโยนเหมือนดั่งน้ำใบนั้น  มันไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย

ดอกบัวหงเก้ากลีบกล่าวว่า “ข้าและอาถิงเป็นฝาแฝดกัน  ดังนั้นซีเอ๋อร์จึงสามารถลงนามในพันธสัญญาชีวิตกับพวกเราทั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน”

“ฝาแฝด!”

อาถิงได้ทีกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “หญิงโง่! เจ้าได้กำไรแล้ว พี่สาวของข้าเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่แข็งแกร่งที่สุด ผู้พิทักษ์นิรันดร์”

“แต่ว่า…”

อาถิงจับดอกบัวหงเก้ากลีบอย่างจริงจังแล้วกล่าวว่า “พี่สาว เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ? ผู้ทําพันธสัญญาของเจ้าไม่ใช่ชายชุดดำสารเลวผู้นั้นหรือ ? เหตุใดเวลานี้ถึงเปลี่ยนเจ้าของ ?”

มู่เฉียนซีมองจิ่วเยี่ยด้วยแววตาฉงน จิ่วเยี่ยมอบแหวนนิรันดร์ให้กับนาง แล้วเหตุใดตอนนี้เขาถึงมอบมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ทําพันธสัญญากับเขาให้กับนาง

หากว่านางรู้ตัวเร็วกว่านี้ นางจะไม่ตอบตกลงอย่างแน่นอน คําสาปบนร่างของเขาอันตรายเกินไป มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอยู่ในมือ ก็ถือเป็นการป้องกันอย่างหนึ่ง

ทว่า… ตอนนี้นางลงนามพันธสัญญาชีวิตไปแล้ว การจะยกเลิกพันธสัญญาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

.