ตอนที่ 667

Alchemy Emperor of the Divine Dao

สายเลือดนกอมตะที่แท้จริง!

ตามตำนานเล่าว่านกอมตะเป็นรองแค่มังกร และมังกรเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด เช่นเดียวกับทักษะกายาเก้ามังกรทรราชของหลิงฮัน ทำไมเขาถึงใช้ทักษะทักษะกายาเก้ามังกรทรราชเป็นมาตรฐานความแข็งแกร่ง นั่นเป็นเพราะมังกรแข็งแกร่งที่สุด

สัตว์เทพที่เป็นที่รักของสรวงสวรรค์ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนก็มีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวแล้ว พลังของมังกรที่แท้จริงสามารถบดขยี้ท้องฟ้าและทำลายล้างจักรวาลได้ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

แน่นอนว่าจอมยุทธที่ฝึกฝนบ่มเพาะพลังยังคงสามารถเอาชนะพลังของมังกรที่แท้จริงได้ มิฉะนั้นคงไม่มีทักษะกายาเก้ามังกรทรราช

แต่ที่นี่ความแข็งแกร่งของมังกรที่แท้จริงและนกอมตะนั้นมีขีดจำกัด ถ้าจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์มีพลังของนกอมตะที่แท้จริง เพียงแค่นางโจมตีออกไปอย่างสบายๆ ราชันซากศพก็คงจะถูกจัดการไปแล้ว

ห้านิกายใหญ่ได้รับการสืบทอดมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับจื่อเสวี่ยนเซียนที่เป็นลูกหลานของนิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นถ้าจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์เป็นลูกหลานจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันคงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้านางมีสายเลือดนกอมตะสวรรค์

ราชันซากศพแสดงความเกลียดชังออกมาซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะมันเป็นอสูรที่ไม่รู้จักความตาย

นั่นเป็นเพราะราชันซากศพแข็งแกร่งเกินไป ทำให้มันมีสติปัญญาเป็นของตัวเองและรู้สถานการณ์ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม มันยับยั้งความเกลียดชังไว้ในใจได้อย่างรวดเร็วและส่งเสียงคำรามออกมา ทันใดนั้นกระดูกของทหารซากศพลุกขึ้นยืน แต่ละตัวมีความสูงสิบฟุต และทำให้มันดูเหมือนเม่น

ราชันซากศพปล่อยการโจมตีใส่จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์อีกครั้ง พร้อมกับกลิ่นอายที่สิ้นหวัง

สีหน้าของหลิงฮันกลายเป็นซีดขาวและพูดว่า “ไม่ดีแล้ว!”

ในขณะนั้นจูเสวี่ยนเอ๋อและคนอื่นรู้สึกหวาดกลัวมากที่สุดเมื่อได้ยินหลิงฮันพูดว่าไม่ดีแล้ว ทุกครั้งที่เขาพูดว่าไม่ดีจะต้องมีเรื่องเลวร้ายบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“น้องเขย เจ้าหยุดเรื่องนี้ไม่ได้หรือ?” หลี่เฟิงหยู่ถามด้วยเสียงสั่นคลอน

หลิงฮันส่ายหัวและพูดว่า “ราชันซากศพเพิ่งตื่นขึ้นมา ข้าคิดว่าตอนนี้มันน่าจะยังคงอยู่ในกระบวนการรวมร่าง”

ฉินหยีเย่วรู้สึกตกใจและพูดว่า “ที่เจ้าจะพูดคือหลังจากที่มันตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ มันจะ….แข็งแกร่งขึ้น!”

“ถูกต้อง” หลิงฮันถอนหายใจ

อึก!

ตอนนี้จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ทำได้แค่ต่อสู้กับมันอย่างสูสีเท่านั้น ถ้าราชันซากศพแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่ว่ามันจะจัดการจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ได้หรอกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อดูจากรูปลักษณ์ของราชันซากศพแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะสามารถหลอมรวมกับซากศพได้ ถ้าจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ถูกฆ่าและศพถูกกลืนกิน แล้วมันจะแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหนกัน?

มือและเท้าของทุกคนเริ่มหนาวเย็น ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะไม่มีดินแดนให้อยู่อีกต่อไป พวกเขาจะถูกราชาซากศพกลืนกินเลือดและเนื้อและพัฒนาเป็นทหารซากศพที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์

หลิงฮันคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เกี่ยวข้องกับนิกายพันศพหรือไม่?

ที่นี่น่าจะเป็นสนามรบสมัยโบราณ ห้าตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์น่าจะลงมายังโลกเบื้องล่างเพื่อต่อสู้กับพวกกบฎที่นี่ ผลสุดท้ายจอมยุทธเหล่านั้นถูกฝังอยู่ที่นี่เป็นเวลาหมื่นปีที่แล้ว

นิกายพันศพยังเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มันจะต้องมีวิธีการหลบหนีจากการถูกหลอมรวมเป็นเม็ดยาเป็นแน่ จากนั้นพวกมันสามารถดำเนินแผนการอยู่ที่นี่อย่างลับๆและทำให้ศพที่ควรสลายตัวกลายเป็นทหารซากศพ

แต่มีห้านิกายใหญ่คอยดูอยู่ พวกมันจึงไม่กล้าทำโจ่งแจ้งและดำเนินแผนการไปอย่างเชื่องช้า แล้วผลลัพธ์ที่ได้คือสัตว์ประหลาดแบบนั้น?

หลิงฮันไม่แน่ใจ แต่เขาสามารถสรุปได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะต้องเกี่ยวข้องกับนิกายพันศพอย่างแน่นอน

หลังจากที่ราชันซากศพรวมร่างกับซากศพจำนวนมาก พลังต่อสู้ของมันจะเพิ่มขึ้นมหาศาล และเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อจอมยุทธระดับทลายมิติ

จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ไม่กล้าปะทะกับมันซึ่งซึ่งหน้า นางหลบหลีกการโจมตีของมันไปมาไม่หยุด นั่นเป็นเพราะกายหยาบของนางไม่สามารถเทียบกับราชาซากศพได้เลย อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้หลบหลีกเพียงอย่างเดียว แต่ใช้ดาบโจมตีตอบโต้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีของนางยังแฝงด้วยเปลวเพลิง และทุกครั้งที่นางโจมตีออกไปจะก่อความทุกข์ทรมานให้กับราชันซากศพอย่างมาก เปลวเพลิงนี่ไม่ใช่เปลวเพลิงธรรมดา พลังทำลายล้างของมันน่าทึ่งมากและทิ้งรอยไหม้ให้กับราชันซากศพได้มากมาย

ภายในเวลาอันสั้น ทั้งสองฝ่ายกลับมาต่อสู้กันอย่างสูสีอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปตามที่หลิงฮันพูดว่าราชันซากศพเพิ่งจะตื่นขึ้นมาเหมือนทารกแรกเกิด สัญชาตญาณแรกของมันคือการฆ่าฟัน และมันเพียงแค่เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณเท่านั้น

แต่ทว่ายิ่งต่อสู้นานเท่าไหร่ มันยิ่งรู้วิธีใช้พลังมากขึ้นเท่านั้น และดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดเจนมาก

ในกระบวนการรวมร่างของราชันซากศพ ร่างกายของมันจะค่อยๆหดเล็กลง แต่ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น

หลิงฮันรู้สึกหวั่นไหวและพูดว่า “ก่อนหน้านี้มีทหารซากศพมากกว่าหมื่นตนหลอมรวมเข้ากับมัน แต่ตอนนี้เหลือแค่หนึ่งพัน อีกไม่นานคงจะเหลือแค่หนึ่งร้อยและเหลือเพียงหนึ่ง”

จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์รู้เรื่องนั้นเหมือนกัน ดาบของนางเริ่มรวดเร็วขึ้น ปัง รัศมีดาบกระแทกใส่ร่างราชาซากศพ กระดูกจำนวนมากแตกหักหลุดออกมาจากร่างกายที่ใหญ่โตของมัน แต่นี่เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับมัน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อร่างกายมีขนาดเล็กลง พลังของราชาซากศพจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน และพื้นที่ป้องกันยังแคบลง

นี่ไม่ใช่ข่าวที่น่ายินดีเลยแม้แต่น้อย

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ร่างของราชันซากศพหดไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้มันสูงเพียงแค่ห้าสิบฟุตเท่านั้น แต่พลังของมันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

พรึบ!

ดวงตาบนหน้าผากของราชาซากศพลืมขึ้นมา

สิบตา!

ในตอนที่ดวงตาของมันเบิกออกเก้าดวงเทียบได้กับจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้า แล้วถ้ามันลืมตาดวงที่สิบจะเกิดอะไรขึ้น?

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ในระดับพระเจ้า แต่อย่างน้อยพลังต่อสู้ของมันจะต้องเพิ่มขึ้นหนึ่งดาว ซึ่งพลังต่อสู้ของระดับทลายมิตินั้นน่าสะพรึงกลัวมากอยู่แล้ว และเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มพลังต่อสู้ได้หนึ่งดาว

ราชันซากศพเริ่มโจมตีอีกครั้งใส่จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์อีกครั้ง

ในที่สุดจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ก็เผยสีหน้าจริงจัง และกวัดแกว่งดาบนกอมตะสวรรค์แล้วพูดว่า “เปิด!”

ชิง อักขระบนดาบนกอมตะสวรรค์เปล่งประกายอีกครั้ง และมันแข็งแกร่งขึ้นหลายร้อยเท่า วิหคเพลิงขนาดใหญ่บินออกมาจากดาบราวกับว่าเหล่าทวยเทพลงมาจุติบนโลก และปลดปล่อยพลังอันศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขีดจำกัดออกมา

อาวุธวิญญาณ! อาวุธวิญญาณระดับสิบ!