ตอนที่ 668

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย

มันเป็นกลิ่นอายของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะเขาถูกนางกลั่นแกล้งบ่อยครั้งหรือเปล่าเลยทำให้เขามีความรู้สึกไวต่อกลิ่นอายดังกล่าว

ตอนนี้หลิงฮันมีความคิดมากมายไม่รู้จบหลั่งไหลเข้ามา

ตอนนี้วิหคเพลิงสวรรค์กำลังกรีดร้องและจู่โจมศัตรูของมัน

วิหคเพลิงสวรรค์มีความยาวหนึ่งร้อยฟุตและปีกที่กางออกมากว้างถึงสองร้อยฟุต เมื่ออยู่ต่อหน้าวิหคเพลิงสวรรค์ ราชันซากศพดูกลายเป็นเด็กไปเลย ความเร็วของมันรวดเร็วมาก และเมื่อมันสยายปีก ทำให้มันปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าราชันซากศพได้อย่างรวดเร็ว แล้วใช้กรงเล็บตะปบพร้อมกับปากที่แหลมคมโจมตีใส่ราชันซากศพ

ราชันซากศพส่งเสียงคำรามออกมา แต่ไม่อาจทำอะไรได้ ร่างของมันล้มลงกับพื้นและยื่นมือออกไปเพื่อผลักวิหคเพลิงสวรรค์ แต่ทว่ามือของมันกลับถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำ

ช่างเป็นอาวุธวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!

เมื่อเทียบกับดาบกำเนิดมารของหลิงฮันแล้ว ดาบกำเนิดของเขาดูกระจอกไปเลย อย่างไรก็ตาม เขายังไม่เคยใช้พลังที่แท้จริงของดาบกำเนิดมาร ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังของอาวุธวิญญาณระดับสิบได้เต็มที่แล้วหรือยัง?

ระดับพลังของเขายังต่ำเกินไป

ระวัง!

ในขณะนั้นมีเพียงแค่เสียงสว่างของกระบี่เท่านั้นที่เขามองเห็น ทว่ามันเป็นแสงสีดำที่มืดมิดเหมือนกับความมืดในยามราตรี และปล่อยกลิ่นหายแห่งความตายออกมา

กระบี่เล่มนั้นกำลังจะโจมตีใส่สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์!

“เจ้ากล้า!” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ยกดาบขึ้นมาป้องกันแสงกระบี่เล่มนั้น ก่อนที่จะตัดผ่านและกลายเป็นรัศมีดาบ

ตู้ม!

เสียงอึกทึกดังก้อง ทำให้หูของทุกคนดับไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเงียบสงบลงและมีเพียงแค่เสียงลมหายใจของราชันซากศพและสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เท่านั้นที่ได้ยิน

“สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ ข้าไม่ได้เห็นมาเนิ่นนาน” เสียงอันแผ่วเบาดังมาจากระยะไกลฟังดูอ่อนโยน แต่กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่หนาวเย็น

“จิ่ว! โหยว! หวัง!”  หลังจากที่สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์พูดออกมาทีละคำ แววตาของนางกลายเป็นเยือกเย็นและพลังเพิ่มขึ้นหลายเท่า

หลิงฮันรู้สึกตกตะลึง นี่น่ะหรือคือพลังที่แท้จริงของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์? ก่อนหน้านี้นางแค่เล่นกับราชาซากศพงั้นรึ?

แล้วใครคือจิ่วโหยวหวัง?

เสียงของคนที่อยู่ในระยะไกลยังคงพูดต่อว่า “ข้าเพียงแค่มาเอาของที่นิกายทิ้งไว้เมื่อหลายพันปีก่อน ทำไมสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ถึงต้องทำตัวเหมือนข้าเป็นศัตรูตัวฉกาจด้วย?”

“ฮึ่ม การที่เจ้ากล้ามาที่นี่ด้วยตัวเอง สงสัยวันนี้คงจะเป็นวันพินาศของนิกายพันศพ” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กล่าวอย่างเย็นชา

หลิงฮันรู้ทันทีว่าจิ่วโหยวหวังเป็นผู้นำของนิกายพันศพ มิฉะนั้นเขาคงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะพูดคุยกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ และทำให้นางต้องเอาแสดงพลังที่แท้จริงออกมา

“โอ้ว นี่เจ้าจะต่อสู้กับข้างั้นรึ?” จิ่วโหยวหวังพูดเสียงแผ่วเบา แต่เสียงนั้นแทรกซึมไปด้วยความหนาวเย็น ราวกับจะทำให้วิญญาณถูกแช่แข็ง

“มันเป็นความรับผิดชอบของผู้คนรุ่นของข้าที่จะกำจัดสิ่งชั่วร้ายมาตั้งแต่สมัยโบราณ” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กล่าวด้วยความหนักแน่น

“ยอดเยี่ยม!” อัจฉริยะที่อยู่รอบข้างส่งเสียงตะโกนออกมาด้วยความเคารพนับถือและเชิดชู

หลิงฮันส่ายหัวอยู่ในใจ นิกายโบราณทั้งห้าและนิกายพันศพนั้นไม่มีใครดีไปกว่าใคร เพียงแค่ว่านิกายโบราณทั้งห้าดูมือเท้าสะอาดทั้งที่ล้างสมองผู้คนมานับหมื่นปี ตอนนี้คนพวกนี้กำลังถูกหลอก มันเป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อพิจารณาถึงจำนวน

เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดคือถ้าเขาพยายามเตือนพวกเขาว่าตกอยู่ในอันตราย พวกเขาคงจะคิดว่าเขาจงใจที่จะทำลายชื่อเสียงของนิกายโบราณทั้งห้า

คงจะมีน้อยคนมากที่จะสงบสติอารมณ์ลงและใช้สมองคิด

จิ่วโหยวหวังพูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า “บนโลกเต็มไปด้วยผู้คนที่โง่เขลา แต่ถ้าข้านั่งเขียนนิยายเกี่ยวกับแผนการของพวกเขาและวางขายไปทั่วโลก เจ้าคิดว่าจะมีคนเชื่อหรือไม่? ตราบใดที่มีใครบางคนเชื่อ เมล็ดจะถูกฝังและเมล็ดเหล่านั้นจะเติบโตเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ไม่ช้าก็เร็ว”

“คำพูดของเจ้าได้สร้างความสับสนให้กับผู้คน และวันนี้ข้าจะสังหารเจ้า!” จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์กล่าวอย่างเย็นชา และกวัดแกว่งดาบไปที่ที่จิ่วโหยวหวังอยู่

ปัง!

แสงกระบี่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มีเพียงแค่ชายร่างสูงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับกระบี่สีดำที่ห้อมล้อมไปด้วยแสงสีดำอยู่ในมือข้างขวาของเขา

เขาคือผู้นำนิกายพันศพจิ่วโหยวหวัง?

ในทางตรงกันข้าม หลงไหเชวียนเป็นเพียงแค่หมากตัวเล็กๆที่ทำได้แค่พึ่งพาโลงศพสามชีวิต ซึ่งเขาไม่อาจเทียบกับจิ่วโหยวหวังได้เลยแม้แต่น้อย

“ข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้กับจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์อย่างเจ้าเอง!” จิ่วโหยวหวังกวัดแกว่งกระบี่ออกไปเพื่อทักทาย แน่นอนว่ากระบี่ของเขาต้องไม่ธรรมดา มันต้องเป็นอาวุธวิญญาณระดับสิบ และยังเป็นหนึ่งในสามสมบัติของนิกายพันศพ กระบี่เสียงปีศาจนั่นเอง

เมื่อกระบี่เสียงปีศาจถูกกวัดแกว่ง ทำให้เกิดเสียงแปลกประหลาดขึ้นกลายเป็นคลื่นเสียงและมีภูติผีนับไม่ถ้วนปรากฏตัวออกมา พวกมันแต่ละตัวถือดาบกระบี่และอาวุธที่แตกต่างกันและกระโจนเข้าหาจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์

“ตามข้ามา!” จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า

“ตามที่เจ้าต้องการ!” จิ่วโหยวหวังทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน

การต่อสู้ของจอมยุทธระดับทลายมิตินั้นรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง แต่จิ่วโหยวหวังมีความได้เปรียบในเรื่องของอาวุธ เพราะจิตวิญญาณของอาวุธของจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์กำลังต่อสู้กับราชันซากศพ ตอนนี้จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ทำได้แค่พึ่งอาวุธวิญญาณระดับสิบที่ไม่มีจิตวิญญาณคอยช่วยเหลือ

สำหรับจอมยุทธที่แข็งแกร่ง ช่องว่างเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการต่อสู้ แล้วจะนับประสาอะไรกับอาวุธวิญญาณที่ไร้จิตวิญญาณ

ในการเผชิญหน้าของทั้งสองคน จิ่วโหยวหวังเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด แต่การเอาชนะจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์เองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเมื่อจิตวิญญาณของดาบนกอมตะสวรรค์จัดการราชันซากศพได้แล้ว ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ฮึ่ม!” จิ่วโหยวหวังสงบและไม่เร่งรีบ “จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์เจ้าคิดว่านิกายของข้ารอคอยเวลามานานหลายปีเพียงแค่ราชันซากศพธรรมดาอย่างนั้นรึ?”

เมื่อเสียงของเขาจางหายไป ร่างของราชันซากศพเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งและมีขนาดเล็กลง ร่างของมันสูงเพียงแค่ยี่สิบฟุตเท่านั้น แต่ทว่าบนหน้าผากของมัน…

ดวงตาดวงที่สิบเอ็ด!

ทันใดนั้นเอง พลังของราชันซากศพก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพียงแค่เหวี่ยงหมัดครั้งเดียวก็ทำให้วิหคเพลิงสวรรค์กระเด็น และมีแสงแห่งความมืดคล้ายกับโซ่พุ่งเข้าหาวิหคเพลิงสวรรค์ มันรวดเร็วมากจนล้อมรอบวิหคเพลิงสวรรค์ไว้รอบด้านและเจาะเข้าไปในร่างของวิหคเพลิงสวรรค์

วิหคเพลิงสวรรค์ส่งเสียงกรีดร้องออกมา และพยายามดิ้นรน

จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ตกใจและพูดออกมาว่า “เจ้าค้นพบบาดาลใต้พิภพแล้วงั้นรึ!”

ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของน้ำบาดาลใต้พิภพ ราชันซากศพไม่มีทางทำลายขีดจำกัดดวงตาดวงที่สิบได้ นางควรจะรู้เรื่องนั้นให้เร็วกว่านี้!

“ไม่เลว!” จิ่วโหยวหวังพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ

จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ขบคิดเล็กน้อยและพูดว่า “บาดาลใต้พิภพอยู่ในเมืองหมื่นสมบัติ ดังนั้นเจ้าจึงพยายามสุดความสามารถเพื่อยึดครองเมืองหมื่นสมบัติ!”

“สมแล้วที่เป็นจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ ช่างฉลาดยิ่งนัก!” จิ่วโหยวหวังปรบมือ “ในการฝึกฝนราชันซากศพ ข้าได้ใช้น้ำในบาดาลใต้พิภพไปจนหมด ข้าเชื่อว่า…ราชันซากศพสามารถเบิกเนตรได้มากถึงสิบห้าดวง!”

สีหน้าของจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์เปลี่ยนไปมากและครั้งนี้นางรู้สึกได้ถึงความยากลำบาก