บทที่ 401 แสนรัก เพราะคุณเป็นห่วงฉันใช่ไหม

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 401 แสนรัก เพราะคุณเป็นห่วงฉันใช่ไหม
“แสนรัก…”

สีหน้าของเขาแย่มาก

ทุกมิติของใบหน้าแสดงความเย็นชาออกมาทุกอนู ทำให้คนมองรู้สึกหวาดกลัว แต่แล้วเขาก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง ดังนั้นนอกจากท่าทางแบบนี้แล้ว เขายังแผ่รังสีอำมหิตแทบจะฉีกหนังของเส้นหมี่ออกมาเป็นชิ้นๆ ทุกสายตาที่มองมาเหมือนจะบดเธอเผ็นผุยผง

“คุณนี่มันเก่งจริงๆ!”

เขาจ้องเธอเขม็งอยู่หลายวินาที ก่อนจะได้ยินเขาเค้นคำพูดลอดไรฟันออกมา

เส้นหมี่รีบยอมรับผิดอย่างเชื่อฟัง “ใช่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรมาคุยธุรกิจกับคนแบบนั้นที่นี่คนเดียว คุณก็รู้ฉันไม่เคยทำธุรกิจนี้ และก็ไม่มีคนสอนฉัน เพราะเขานัดฉันมาที่นี่ ฉันก็เลยมา”

“…”

อะไรนะ!

เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม ไม่มีคนสอนเธอ แล้วที่เขาตื่นเธอตั้งแต่เช้านั่นล่ะ!

มาร์ตินที่ยืนอยู่ข้างๆอยากจะตบเธอจริงๆ

ยังดีที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่เหมือนคนโง่

“ไม่รู้เรื่องหรอ เมื่อกี้ฉันก็เห็นว่าเธอดื่มกับพวกเขาอย่างมีความสุข แทบจะนั่งตักเขาอยู่แล้ว!”

“หืม” เส้นหมี่ที่ขนตายังคงเปียกน้ำตาตกใจทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้

เมื่อกี้

เมื่อกี้ฉันดื่มหนัก จะจำเรื่องนี้ได้ยังไง แต่เขากลับโกรธเรื่องนี้มาก แสดงว่าเขากำลังหึงใช่ไหม หึงใช่หรือเปล่า

หัวใจของเส้นหมี่ระเบิดความปิติยินดีอีกครั้ง

“ฉัน…เมื่อกี้ฉันโดนเขามอม เขาให้ฉันดื่มห้าแก้ว ถึงจะยอมเซ็นสัญญากับฉัน เขาเป็นลูกค้าเก่าของตระกูลวชิรนันท์ ฉันจำเป็นต้องได้รับออเดอร์จากเขา”

“…”

“และฉันขอสาบานว่า ฉันไม่เคยนั่งตักเขา ฉันจะบอกให้ ฉันแอบเตรียมเข็มไว้แล้วด้วย ถ้าเขาเล่นตุกติกกับฉัน ฉันจะฆ่าเขา!”

พูดจบเส้นหมี่ก็ตั้งใจหยิบเข็มเล่มยาวออกมาจากกระโปรงให้ดู

มาร์ติน “…”

นานกว่าสิบวินาทีที่เขาตกใจกับความหน้าด้านของผู้หญิงคนนี้จนพูดไม่ออก

เธอไม่ไปแสดงละคร น่าเสียดายจริงๆ

สุดท้ายแสนรักก็ไม่ทะเลาะกับเธอต่อ เขาเป็นคนมีหน้ามีตา และที่นี่ก็เป็นที่อโคจร ถ้าอยู่นานก็ไม่เป็นประโยชน์กับเขา

สุดท้ายเขาก็พาผู้หญิงสมควรตายคนนี้ออกไป

ตอนนั้นเส้นหมี่ถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

สุดท้ายเธอก็จับเขาได้อีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมปล่อยมือ

แต่เมื่อทั้งคู่ถูกพามาจนถึงประตูโรงแรมห้าดาว เขาก็จอดรถ และให้คนมาพาเส้นหมี่ลงจากรถ

“ใครก็ได้พาเธอกลับเมืองAที”

“ครับท่านประธาน”

“แล้วก็เอาเขาไปทิ้งไว้ที่ประเทศไทยด้วย อย่าให้ฉันเห็นเขาช่วงนี้!”

ผู้ชายที่เต็มไปด้วยความเย็นชาชี้ไปที่พวกเขาทั้งสองคน คนหนึ่งถูกส่งกลับเมืองA ส่วนอีกคนให้เอาไปทิ้งไว้ที่ประเทศไทย และต้องทำโดยเร็วที่สุดด้วย

นี่มันอะไรกัน

มาร์ตินท้วงทันที “ฉันไม่ไปเมืองไทย ฉันกำลังถ่ายหนังอยู่ ทำไมต้องให้ฉันไปเมืองไทยด้วย”

แสนรักยิ้มอย่างเย็นชา “นายจะไม่ไปก็ได้ แต่ฉันรับประกันว่าภายในสามวัน นายจะหายไปจากวงการบันเทิงอย่างสมบูรณ์ และได้ไปตกปลากับปอร์เช่ของนาย เป็นไง เลือกไหมล่ะ”

“นาย…”

มาร์ตินโกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยว

แต่ต่อหน้าลูกพี่ลูกน้องผู้ทรงพลัง เขาก็ไม่สามารถต่อต้านได้

เส้นหมี่ก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เธออยากเดินขึ้นไปปลอบเขา แต่เมื่อเห็นสายตาดั่งคมมีดมา เธอก็หดคอ และไม่กล้าพูดอะไรอีก

พอแล้ว เขาจะฆ่าเธออีกแล้ว

มาร์ตินโดนพาตัวไป จึงเหลือเพียงแค่เส้นหมี่คนเดียว

“คุณเส้นหมี่ ขึ้นรถเถอะครับ”

“ไม่ ฉันไม่ขึ้นรถ ฉันจะไปกับเขา” เส้นหมี่เรียกความกล้าหาญเหมือนมาร์ตินเมื่อกี้ออกมา เธอจะไม่ยอมขึ้นรถ

แสนรักเข้าไปในโรงแรมแล้ว ดลธีที่ได้ยินเธอพูดอย่างนั้นก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “คุณเส้นหมี่ น้ำขึ้นให้รีบตักเถอะครับ ท่านประธานสุภาพกับคนมากแล้ว”

สุภาพหรอ

ในสถานการณ์อย่างนี้ สามารถใช้คำว่าสุภาพมาอธิบายได้หรอ

เส้นหมี่ส่ายหัว “ไม่ใช่ คุณดลธี ครั้งนี้ท่านประธานของพวกคุณมาก็เพราะฉัน ฉันไม่มีทางทิ้งไปแบบนี้ได้ ฉันจะกลับไปกับเขา”

“คุณพูดอะไร หลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า ท่านประธานของเรามาที่นี่เพราะนัดกับลูกค้าไว้ เขาอยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว”

“อะไรนะ สองวันแล้วหรอ”

“ใช่ครับ แต่เรื่องที่โกลเด้นเกทเพราะเขาได้ข่าวของคุณถึงได้ไป เจ้าของโกลเด้นเกทเป็นเพื่อนของเขา เขารู้จักคุณ เมื่อเห็นว่าคุณไป เขาถึงบอกท่านประธานของเรา”

“แต่อย่างนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าตั้งใจมาหาคุณหรือเปล่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ เขาจะบอกนายน้อยทั้งสองยังไง คุณว่าไหม”

ประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของหัวหน้าบอดี้การ์ดมีความเย้ยหยันแฝงอยู่อย่างชัดเจน

เส้นหมี่หน้าซีด

อย่างนี้นี่เอง

เธอคิดว่า…คิดว่า…