บทที่ 1599 – ต่อสู้

 

“ข้าไม่ได้พูดออกมาแล้วรึ ว่าข้าเป็นคนของหอคอยจักรพรรดิ ทําไมหรือข้าอ่อนแอจนเจ้าไม่มองข้าอยู่ในสายตา? “ฉินชิงกล่าวออกมาขณะดึงกระบี่ออกมา

 

ตั้งแต่ฉินหยิงตายลงไป มุมมองที่เธอมีต่อผู้ชายก็เปลี่ยนไปอย่างมาก แม้ว่าเธอจะหายดีแล้ว แต่เธอก็ไม่ใช่คนเก่าอีกต่อไป เธอกลายเป็นคนที่เย็นชาขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า

 

เมื่อเห็นท่าทางของฉินชิงเขาอสูรแห่งตระกูลนั่วปวดใจอย่างมาก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขาที่จะรู้ว่าฉินชิงเป็นใคร ชื่อของเทพธิดาชิงนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วแดนทะเลน้ําแข็งแห่งนี้

 

นอกจากนี้เธอยังเป็นนางในฝันของเขา หลังจากที่เขาได้รับมรดกแห่งเทพอสูรมามันทําให้เขามีความกล้ามากขึ้นที่จะพยายามครอบครองเธอ แต่เขาไม่คาดหวังว่าจะได้พบเธอในสถานการณ์เช่นนี้ ในตอนนี้เขามองไปที่เธอและกล่าวว่า เนื่องจากเป็นสิ่งนี้เรามาเริ่มกันเถอะ อย่างไรก็ตามข้าจะไม่ทําอันตรายเจ้า และแน่นอนข้าจะทําให้เจ้าเป็นของข้าเพรามีข้าเท่านั้นที่คู่ควรกับเจ้า”

 

ฉินชิงถอนหายใจออกมา ลองพูดอีกครั้งแล้วสิ ดูว่าข้าจะฆ่าเจ้ายังไง”

 

เขาอ้าปากค้างก่อนที่จะกล่าวว่า“ เจ้าต้องฝ่ายแพ้อย่างแน่นอน และต้องตกเป็นภรรยาของข้า”

 

ฉินชิงยังคงนิ่งเงียบ ก่อนที่เธอเหาะขึ้นไปและควงกระบี่ของเธอ ปรากฏฟินิกซ์สีเขียวมรกตเล็กๆ ปรากฏที่ปลายกระบี่ของเธอ ก่อนที่มันจะเปล่งประกายแสงสีเขียวมรกตกออกมา

 

สีหน้าของอสูรตระกูลนั่วเป็นเป็นระมัดระวังอย่างมาก ในขณะที่เขาได้เรียกชพลังทั้งหมดออกมาก่อนที่จะสร้างเกราะสีแดงเข้มออกมา

 

มรดกเทพอสูรพฤษภโลก!

 

ในที่สุดเขาก็ได้ใช้พลังจะหมดออกมา นี่คือความสามารถที่แท้จริงของเขา เมื่อใช้พลังนี้ออกมาความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือพลังป้องกันที่มากมายมหาศาลของเขา

 

ไป!

 

นกฟินิกซ์สีมรกตที่มีขนาดเท่ากําปั้นของคนเรา ได้สยายปีกของมันและตรงเข้าใส่ร่างของเขา ในขณะที่ภาพเงาของฉินชิงสั่นไหวและปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา ก่อนกระบี่ยาวในมือของเธอจะโปร่งแสงและเปล่งประกายเผยให้เห็นความแวววาวที่คล้ายคลึงกับหยดน้ําใส

 

ตูม!

 

เสียงที่ดังก้องกังวานขึ้น เกิดมาจากอสูรแห่งตระกูลนั่ว กําลังประทะกับวิหคเพลิงมรกตของฉินชิง ในตอนนี้ปรากฏของเขากระทิงสีแดงที่มหึมาข้างหลังของเขา กําลังประทะกับวิหคเพลิงมรกตอยู่ แม้ว่าภาพเงานี้ไม่สามารถเปรียบเทียบกับสัตว์อสูรขนาดใหญ่ แต่มันก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ร้ายกาจและเต็มไปด้วยความกระหายเลือดอย่างบ้าคลั่ง

 

วายุสลาตัน!

 

ในตอนนี้วิหคเพลิงขนาดเล็กได้ฉีกกระชากไปที่เงาของกระทิงจนย่อยยับ ถึงอย่างไรฉินชิงก็ยังไม่ได้หยุดมือของเธอฟันลงไปที่หัวของฝ่ายตรงข้าม การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเบาบางดังขนนก และสง่างามอย่างมาก แม้แต่อสูรแห่งตระกูลนั่วก็ต้องยอมแพ้ในตอนนี้

 

แต่ถึงอย่างไรเขาคงไม่ยอมให้เธอสังหารเขาในขณะที่เขาใช้หอกในมือยกขึ้นเพื่อป้องกันกระบี่ของเธอ

 

ตูม!

 

กระบี่ของเธอได้ฟาดลงไปอย่างต่อเนื่องรางกับเธอกับราวอยู่ในตอนนี้ แม้การเคลื่อนไหวของเธอจะดูอ่อนช้อยแต่มันก็แฝงไปด้วยพลังอย่างมาก เพียงแค่ครั้งเดียวมันก็มากพอที่จะสังหารอีกฝ่าย

 

มอออ!

 

เสียงร้องของกระทิงได้ดังออกมาจากร่างกายของเขา ในตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าเสียงดังกล่าวนั้นดูตลกเลยแม้แต่น้อย เพราะเสียงร้องดังกล่าวนั้นไม่ได้ด้อยค่าไปกว่าเสียมังกรคํารามเลย

 

ในตอนนี้ฉินชิงรู้สึกว่าเขาได้เอาจริงกับการต่อสู้แล้ว เช่นเดียวกับเธอที่ได้เริ่มเอาจริงเช่นเดียวกัน ในตอนนี้ปีกวิหกสีแดงเพลิงได้ปรากฏข้างหลังของเธอ ในขณะที่เธอสยายปีกขึ้นและเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง

 

ชิงสุ่ยได้แต่มองไปที่เธอด้วยความเป็นห่วง ในตอนนี้เธอได้ใช้มรกดแห่งเทพวิหคเพลิงออกมาแล้ว ในความเป็นจริงชิงสุ่ยรู้สึกว่าในตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นยังไม่พร้อมที่จะใช้มัน แต่ถึงอย่างไรเมื่อเขามองดูไปสักครู่ใหญ่ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถควบคุมมันได้มีกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ ชิงสุ่ยคงได้แต่บอกว่านอกจากเธอแล้วคงไม่มีใครเหมาะที่จะได้สืบทอดมันไปมากกว่านี้

 

ในตอนนี้เสียงระเบิดได้ดังขึ้นไปทั่วท้องฟ้า เสียงคํารามของกระทิงแลวิหคเพลิงได้กู้ก้องไปที่ทั่วบริเวณดังกล่าว เสียงระเบิดได้ดังขึ้นเป็นระลอกๆ ก่อให้เกิดหลุมดํานับร้อยในบริเวณแห่งนี้ คลื่นระเบิดได้กระจายออกไปทั่วบริเวณ ก่อให้เกินพระอาทิตย์ทรงกลดบนฝากฟ้า

 

ในตอนแรก ชิงสุ่ยค่อนข้างกังวล แต่หลังจากสังเกตการต่อสู้มาระยะหนึ่งเห็นได้ชัดว่า ชายคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินชิงอย่างแน่นอน ไม่ว่าในกรณีใดชิงสุ่ยก็ยังคงมั่นใจในความสามารถของฉินชิง ในตอนนี้อยู่เหนือกว่าชายผู้นี้อย่างแน่นอน หากให้เทียบกับภรรยาคนอื่นๆของเขา ความแข็งแกร่งของฉินชิงนั้นดูเหมือนจะเป็นที่สุด รองลงมาเป็นเจี้ยนเก้อ และก็ถานท่าน หลิงเยียน แม้ว่าทั้งคู่อ่อนแอกว่าฉินชิง แต่พวกเธอก็มีผลสวรรค์อย่างมากในการบ่มเพาะ อีกไม่นานพวกเธอคงจะไล่ตามกันจนทัน

 

การต่อสู้ในตอนนี้เป็นไปอย่างดุเดือดอย่างมาก ในขณะที่ชิงสุ่ยมองดูอยู่นั้นเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความประหม่าของตระกูลนั่ว นั้นเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่า อสูรของพวกเขาจะชนะได้ในการต่อสู้ในครั้งนี้

 

ถึงอย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็รู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากที่ฉินชิงจะสังหารเขาลงไปในพริบตา นอกจากนี้ ชิงสุ่ยยังสัมผัสได้ว่ายังมีผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งแอบซ่อนตัวอยู่เขาคงไม่ปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับชายผู้นั้น

 

มอออ!

 

เสียงคํารามได้ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับการปรากฏตัวของกระทิงยักษ์ที่คล้ายกับภูเขาหินขนาดใหญ่กลางอากาศ นี่คือศิลาพฤษภที่เขาได้รับสืบทอดมาจากเทพอสูรพฤษภโลกา ซึ่งมันเป็นดังแก่นแท้ของพลังปราณและจิตวิญญาณ ที่เก็บรวมรวมเอาพลังของเทพอสูรพฤษภโลกาเอาไว้

 

ชิงสุ่ยไม่ประหลาดใจนักเมื่อเห็นสิ่งๆนี้ เพราะเขาได้รับความทรงจํามากจากมรกดแห่งพระเจ้า ไม่ว่าในกรณีใด ศิลาพฤษภนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในนามของเทพอสูรพฤษภโลกา ซึ่งสิ่งของชิ้นนี้จะยิ่งทรงอํานาจ เมื่อผู้รับมรดกมีพลังอํานาจที่แข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็เป็นแค่แห่งสะสมพลังปราณและวิญญาณเท่านั้น

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยมองไปที่กระทิงหินที่มีขนาดประมาณ 30 เมตร ชิงสุ่ยสามารถรู้สึกได้ว่าพลังของเทพอสูรพฤษภโลกาที่ไหลออกมาจากตัวของมัน เมื่อมองกลับชิงสุ่ยนักเพาะรูปแบบพยัคฆ์ขาว ซึ่งความสามารถของเธอนั้นก็ใกล้เคียงทักษะนี้ของชายผู้นี้ เมื่อเธอสามารถความคุมพลังของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบเธอก็จะสามารถใช้พลังของพยัคฆ์ขาวได้อย่างไม่มีข้อจํากัด เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่กําลังควบคุมพลังของเทพอสูรพฤษภโลกาอยู่

 

ในตอนนี้อสูรแห่งตระกูลนั่ว เริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของฉินชิงอีกต่อไป นอกจากนี้ยังไม่มีแรงพอที่จะใช้ใรดกของเทพอสูรอีกครั้ง เขารู้สึกท้อใจอย่างมากที่เขานั้นอ่อนแอเกินไป หากเขาสามารถควบคุมไม่ได้สมบูรณ์กว่านี้ เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถชนะเธอได้อย่างแน่นอน นั่นเพราะพลังของเทพอสูรพฤษภโลกานั้นเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก ในตอนนี้เขาได้แค่มองดูไปที่ศิลาพฤษภอย่างท้อใจ

 

เมื่อเห็นหน้าของเขาเธอไม่ได้ทําอะไรอีกต่อไป แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้ประมาท ก่อนที่เธอจะเรียกมังกรฟ้าออกมาเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิด

 

คําราม!

 

เสียงคํารามของมังกร ได้ก่อนให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วบริเวณ แม้ว่าก่อนหน้านี้เสียงคํารามของกระทิง นั้นค่อนข้างน่าประทับใจ แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปว่าเสียงคํารามของมังกรเลย ยิ่งไปกว่านั้นมังกรฟ้าของฉินชิงก็ยังเป็นมังกรบรรพกาลที่มีสายเลือดบริสุทธิ์อีกด้วย มันจึงยากที่จะเทียบกับมังกรทั่วๆไป

 

ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้ความช่วยเหลือจากยาของชิงสุ่ย มันทําให้มังกรฟ้าเติบโตขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเก่า ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของมันมากกว่าฉินชิงเสียด้วยซ้ํา

 

ในตอนนี้ มังกรฟ้าได้คํารามออกมาอีกครั้ง ก่อนที่คลื่นเสียงอันทรงพลังจะพุ่งลงไปและกดทันกระทิงหินเอาไว้

 

ชายผู้นั้นรู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริงในครั้งนี้ เขาไม่คิดว่ามังกรฟ้าของฉินชิงจะทรงพลังเช่นนี้ มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะจิตนาการถึง

 

ตูม!

 

มังกรฟ้าได้พุ่งลงไปและขย้ําลงไปที่กระทิงหินอย่างรุนแรง ก่อนที่จะกระชากและซัดมันลอยกระเด็นไปบนอากาศ

 

แม้แต่ชิงสุ่ยเองก็ไม่ได้คาดหวังว่างมังกรของฉินชิงจะแข็งแกร่งขึ้นได้ขนาดนี้ในเร็ววัน แม้แต่เขาเองก็อาจจะรับมือกับมันได้ยาก

 

ตูมตูม…

 

มังกรฟ้าของฉินชิงยังคงจู่โจมลงไปที่กระทิงหินอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าก็เกิดรอยล้าขึ้นรอบกระทิงหิน ก่อนที่มังกรฟ้าจะขย้ําลงไปอีกครั้ง ทําให้กระทิงหินดังกล่าวระเบิดออก

 

โชคดีที่เขาสามารถหลับมันมาได้ อสูรแห่งตระกุลทั่วรู้สึกหดหู่และหงุดหงิดที่จะแพ้ให้กับฉินชิง เพราะเขาต้องการให้เธอเป็นผู้หญิงของเขาจริงๆ นั้นเพราะเขาคิดว่าหากเขาแข็งแกร่งกว่าเธอเขาจะสามารถพิชิตใจของเธอได้

 

ในตอนนี้มังกรฟ้าของฉินชิงค่อยๆลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างสง่างามขณะที่เธอยืนอยู่บนหัวของมันและมองลงมาที่ข้างล่างราวกับไม่แยแสในสิ่งใดๆ ภาพที่ออกมาทันทําให้เธอนั้นดูสูงส่งเกินกว่าที่ใครจะกล้าสบตากับเธอ

 

ในตอนนี้กลุ่มคนของตระกูลนั่วได้รับผลกระทบอย่างมากจาการพ่ายแพ้ของชายผู้นี้ เขาเป็นความหวังของทุกๆคน ในอนาคตเขาจะกลายเป็นเสาหลักต้นต่อไป อย่างไรก็ตามในวันนี้เขาได้พ่ายแพ้ลง และแพ้ให้กับผู้หญิงที่เด็กกว่าเขา มันทําให้เขาได้รับผลกระทบอย่างมากต่อจิตวิญญาณของเขา

 

ในตอนนี้ฉินชิงยังคงมองอยู่บนท้องฟ้า เพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดยังไม่จบลงในตอนนี้ หลังจากผ่านไปเพียงครึ่งก้านธูปชายวันกลางคนที่ดูชั่วร้ายก็ได้ปรากฏตัวออกมา กลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายได้ปกคลุมไปทั้งบริเวณนั้น