บทที่ 434 แผนการครบวงจรของลูเซียน

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

บทที่ 434 แผนการครบวงจรของลูเซียน
ดักลาสมองไปรอบๆ ทุกคนในที่นี้เป็นสมาชิกของสภาสูงสุด หรือเป็นลูกศิษย์ของเขาเอง และทุกคนสามารถไว้วางใจได้

ดักลาสจึงยิ้ม และถามว่า “แผนการครบวงจร? เจ้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้วหรือ”

ดักลาสทำงานหนักมาตลอดจนกระทั้งก่อตั้งสภาเวทมนตร์ขึ้นในที่สุด ระบบทฤษฎีของเขาไม่เพียงแต่มีอิทธิพลสำหรับนักเวทรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ยังรวมถึงด้วย ศาสนจักร และแวมไพร์ ซึ่งศัตรูของเขาด้วย ไม่ว่าจะเรื่องความฉลาดหรือสติปัญญาของเขาก็ติดระดับหนึ่งในสามของโลกนี้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักลูเซียนเหมือนกับเฟอร์นันโด แต่เขาก็ยังพอจะมองเห็นเป้าหมายบางอย่างของลูเซียนจากคำพูดเมื่อสักครู่

ลูเซียนยังหน้าด้านต่อไป เขาไม่สนใจว่าความตั้งใจที่แท้จริงของเขาถูกจับได้โดยมหาจอมเวททั้งคู่ เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ประการแรกสำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม… ข้าได้อ่านบทความของท่านแล้ว หากเราต้องการสร้างขอบเขตการสื่อสารที่ครอบคลุมทั้งทวีป และมหาสมุทรเรามีสองทางเลือก ตัวเลือกที่หนึ่ง ระนาบของวงโคจรดาวเทียมต้องอยู่เหนือ ดินแดนตอนเหนือ และมหาสมุทรน้ำแข็งทางตอนใต้ วิธีนี้เราจึงต้องการดาวเคราะห์เทียมอย่างน้อยสองดวง ตัวเลือกที่สอง เราวางวงโคจรดาวเทียมพร้อมๆ กัน ไว้ตรงพิกัดที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งบนท้องฟ้า…”

จอมเวทในปัจจุบันล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ทั้งสิ้น ดังนั้นลูเซียนจึงไม่ได้อธิบายรายละเอียด แต่เพียงนำเสนอโครงร่างของแผนเท่านั้น

“…แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการรวมสองทางเลือกเข้าด้วยกัน และเพื่อรับประกันคุณภาพของการสื่อสาร ยิ่งเรามีดาวเทียมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น แน่นอนว่าจากการสร้างดาวเคราะห์เทียม และการกระโดดอวกาศมีต้นทุนสูง เราจึงต้องทำทีละขั้นตอน และเปลี่ยนเป็นแผนระยะยาว ข้าเสนอให้เราตั้งชื่อว่า ‘แผนดาวฤกษ์’ ซึ่งเป็นแผนการสร้างกลุ่มดาวทั่วโลกโดยใช้ดาวเคราะห์เทียม

“…นอกจากนี้เราควรจัดตั้งบริษัทสำหรับเรื่องนี้ และเรียกเก็บเงินจากนักเวททุกคนที่ต้องการใช้ดาวเทียมเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เสียไป ทางบริษัทจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์พิเศษสำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม แต่ถ้าใครอยากทำเองก็ยังต้องซื้อใบอนุญาตด้วย”

ในฐานะผู้มีอิทธิพลด้านแม่เหล็กไฟฟ้า เฟอร์นันโดขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของลูเซียน “ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข เพื่อให้แน่ใจในความชัดเจนของสัญญาณจะต้องใช้มาตรฐานการส่งข้อความแม่เหล็กไฟฟ้าที่สูงขึ้นเมื่อดาวเทียมครอบคลุมทั้งทวีป มีเพียงนักเวทที่เหนือกว่าวงแหวนที่ห้าเท่านั้นที่จะสามารถใช้งานได้ ซึ่งมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของประชากรนักเวททั้งหมดเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีนักเวทระดับกลางหรือระดับต่ำเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถจ่ายได้”

“ดังนั้นเราจึงเรียกเก็บเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย และเปิดดาวเทียมบางดวงที่ไม่สำคัญให้กับขุนนางที่ร่ำรวย สันนิษฐานได้เลยว่าพวกเขาจะยินดีกับความสะดวกสบายนี้ และพวกเขาก็สามารถจ่ายได้อย่างแน่นอน” ลูเซียนกล่าว

ตอนนี้เขายังไม่ได้พูดถึงขั้นตอนต่อไปเกี่ยวกับ การสร้างสถานีเวทมนตร์หลัก เขาจะรอจนกว่าจะมีดาวเทียมเพียงพอ

ดาวเคราะห์ที่อยู่บนท้องฟ้ายากที่จะโจมตี แต่สถานีบนพื้นดินเป็นเป้าหมายในการถูกโจมตีได้ง่าย เฉพาะเมื่อขุนนางเริ่มพึ่งพาวิธีการสื่อสารที่สะดวก พวกเขาก็จะปกป้องสถานีหลักด้วยความเต็มใจ

ลูเซียนพูดต่อไป “ส่วนความต้องการของนักเวทระดับต่ำและระดับกลางนั้น ข้าได้คิดเวทมนตร์ระดับสองบทใหม่ที่เรียกว่า ‘ถ่ายโอนขอมูลแม่เหล็กไฟฟ้า’ โดยการทำให้ข้อความแม่เหล็กไฟฟ้าของท่านเฟอร์นันโดง่ายขึ้น แม้ว่าจะสามารถทำงานได้ในช่วงระยะเวลาที่จำกัด และไม่สามารถรองรับการติดต่อตามเวลาจริงได้ แต่ก็ยังสามารถทำหน้าที่ในการถ่ายโอนข้อมูลที่คล้ายกับวงแหวนเวทมนตร์ภายในหอคอยได้ ข้าคิดว่านี้น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาในตอนนี้”

‘การถ่ายโอนข้อมูลแม่เหล็กไฟฟ้า’ ที่ว่านี้ในความเป็นจริงแล้วก็คือวิทยุโทรเลขนั้นเอง สำหรับการสร้างการเชื่อมต่อภายในระหว่างระบบนั้นมีมูลค่าน้อยมาก เนื่องจากมี ‘กระแสจิตทุติยภูมิ’ อยู่ ดังนั้นลูเซียนจึงไม่ยอมเสียเวลาไปกับการสร้างเวทมนตร์

“เวทมนตร์ระดับสอง… ก็คือขุนนางส่วนใหญ่ที่มีตำแหน่ง และคฤหาสน์ก็น่าจะใช้ได้” นอร์แมนพยักหน้าเล็กน้อย

“ใช่ นั้นจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมของเรา” ลูเซียนกล่าวด้วยน้ำเสียงแบบนักธุรกิจเช่นเดียวกับอาเธอร์ “นอกจากนี้ เนื่องจากได้รับแรงบันดาลใจจากสายไฟที่เพิ่งติดตั้งเมื่อไม่นานมานี้ ข้าจึงมีแนวความคิดใหม่ ข้อกำหนดระดับสูงของการส่งข้อความแม่เหล็กไฟฟ้ามาจากข้อเท็จจริงที่ว่าเวทมนตร์นี้อาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งผ่านไปในอากาศ ในระหว่างกระบวนการนี้ คลื่นสามารถไปกระทบกับสภาพแวดล้อม และลักษณะภูมิประเทศได้ทุกประเภท ดังนั้นคลื่นจึงอ่อนลง เพื่อชดเชยการสูญเสียนี้ เราจึงต้องปรับปรุงสัญญาณโดยใช้วงเวทที่ซับซ้อนมากขึ้น

“…การใช้ดาวเทียมเป็นสถานีถ่ายทอดอาจเป็นทางออกหนึ่ง แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่ง เพื่อตั้งค่าเส้นทางพิเศษสำหรับการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นเดียวกับสายไฟฟ้า ดังนั้นการส่งผ่านจะถูกจำกัดอยู่ภายในสายไฟ และเราสามารถหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนเมื่อติดตั้งสายไฟได้ เมื่อสายไฟต่อร่วมเข้าด้วยกัน เราก็จะตั้งค่าวงเวทสำหรับคัดเลือก และส่งสัญญาณออกไป

“…ถ้าสายไฟสามารถขยายไปทุกเมือง ทุกคฤหาสน์ และทุกบ้าน นี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนทั่วไป ปัญหาเดียวคือการทำให้เป็นที่นิยมต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการเริ่มต้น และศาสนจักรสามารถทำลายสายไฟได้อย่างง่ายดายเช่นกัน”

นิ้วของเขาแสดงให้เห็นตัวเลข ดักลาสกล่าวว่า “เพื่อให้สิ่งนี้เกินขึ้นจริงในโฮล์ม ขั้นตอนแรกของการสร้างสายไฟนั้นจะเป็นแผนระยะยาว… ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ต้องคิดมาตั้งแต่ทศวรรษก่อนแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอาณาจักรอื่นๆ เช่น อาณาจักรบริแอนน์ และอาณาจักรฝั่งตรงข้ามช่องแคบ

“…แต่ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า จากความเร็วที่เรากำลังพัฒนาในปัจจุบัน เราน่าจะสามารถปราบปรามอำนาจของศาสนจักรในอาณาจักรโฮล์มได้แล้ว ในกรณีนี้แผนของเจ้าอาจดำเนินการได้ไปบางส่วนในสถานที่ที่เจริญรุ่งเรือง เช่น นครเรนทาโต และปาร์ฟ เพื่อให้คนธรรมดาสามารถพูดคุยกับเพื่อนของเขาผ่านอุปกรณ์การเล่นแร่แปรธาตุ”

จากนั้นดักลาสก็ยิ้มอย่างอบอุ่น “แผนของเจ้านี่มีหลายชั้นนะ ลูเซียน ดาวเคราะห์เทียมสำหรับการสื่อสารจะครอบคลุมถึงนักเวทระดับห้า ขุนนางใหญ่ นักธุรกิจชั้นนำ ส่วน ‘การถ่ายโอนข้อมูลแม่เหล็กไฟฟ้า’ มุ่งเป้าหมายไปที่นักเวทระดับต่ำ และระดับกลาง ขุนนางเล็กๆ นักธุรกิจที่ร่ำรวย และยังมีการสร้างสถานีโทรเลขที่มุ่งให้บริการนักเวทฝึกหัด ขุนนางที่ตกอับ และประชาชนทั่วไป เจ้าได้พิจารณาสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแล้วหรือยัง”

“ในความเป็นจริง แผนการติดตั้งสายโทรเลขยังสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนได้อีก ส่วนหนึ่งคือการให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยผ่านสายโทรเลขได้โดยตรง และอีกส่วนก็เหมือนกับการใช้ ‘การถ่ายโอนข้อมูลแม่เหล็กไฟฟ้า’ อย่างหลังนี้มีข้อกำหนดที่น้อยกว่าสถานีปลายทางเวทมนตร์ นอกจากนี้ ตอนนี้เราสามารถเปิดสาขาบริการในเมืองเล็กๆ บางแห่งได้แล้ว เมื่อมีคนต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ก็ให้มาหาเรา ด้วยวิธีนี้ เพื่อริเริ่มแผนของเรา เราไม่จำเป็นต้องรอจนกว่าสายโทรเลขจะได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่” ลูเซียนนึกภาพตามในความคิดของเขา

ความรู้สึกที่ว่า เขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น

“ดี เมื่อคนทั่วไปส่วนใหญ่เริ่มได้รับประโยชน์จากเวทมนตร์ ความเชื่อของศาสนจักรจะสั่นคลอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตอบโต้จากศาสนจักร” ดักลาสพยักหน้าด้วยความพอใจ

เห็นได้ชัดว่าประธาน และอาจารย์ของลูเซียนตระหนักดีถึงความเป็นที่นิยมของอุปกรณ์เวทมนตร์ที่จะท้าทายรากฐานของศาสนจักรอย่างมาก ลูเซียนตระหนักอีกครั้งว่าเขาไม่ใช่คนฉลาดเพียงคนเดียวในโลกนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบวางแผนอีกครั้ง

“ข้าพยายามสร้างอุปกรณ์การเล่นแร่แปรธาตุชิ้นใหม่ที่ราคาไม่แพง และสามารถรับสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าภายในระยะที่กำหนด และเปลี่ยนเป็นเสียงได้ แม้ว่าจะไม่สามารถรองรับการสื่อสารแบบจุดต่อจุดได้ แต่ก็ยังสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนธรรมดาได้!”

สิ่งที่ลูเซียนพูดคือ ‘วิทยุแร่’ รุ่นเวทมนตร์ที่เป็นของอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุระดับหนึ่ง ด้วยการผลิตจำนวนมาก ความต้องการด้านเทคนิคอาจลดลงเป็นระดับเด็กฝึกหัดได้ ประชาชนทั่วไปสามารถจ่ายได้หากประหยัดเป็นเวลาหลายปี

“พลิกชีวิต?” เฟอร์นันโดเข้าถึงประเด็นได้โดยตรง แม้ว่าลูเซียนจะไม่ได้เจาะจงมากนัก

ลูเซียนยิ้มอย่างซุกซน “เราสามารถจัดทำรายการวิทยุ และส่งข้อความไปยังอาณาจักรต่างๆ ทั่วช่องแคบสตอร์มในความถี่เฉพาะ เราสามารถเล่นซิมโฟนีเปียโนโอเปร่าเรื่องเล่า และตำนาน เราสามารถแนะนำความรู้พื้นฐานของอาร์คานา และเวทมนตร์ให้กับผู้คนได้เช่นเดียวกันกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อันมืดมนของศาสนจักร…”

เมื่อได้ยินคำพูดของลูเซียน ลูเซียนาก็อ้าปากค้างเล็กน้อย และอุทานด้วยความตกใจอย่างมาก “มันทำให้รากฐานของศาสนจักรพังทลาย พวกเขาจะเป็นบ้า!”

“เพราะอย่างนั้น เราจึงต้องระมัดระวังเรื่องเวลา และความถี่ รายการควรมีความน่าสนใจเพื่อที่เมื่อผู้คนเริ่มชื่นชอบรายการแล้ว พวกเขาจะเก็บไว้เป็นความลับ และจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง แน่นอนในตอนแรกเราต้องปกป้องผู้ฟังโดยเลือกพื้นที่ที่เราสามารถใช้พลังของเราได้ เราต้องแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ถูกโยนใส่ตะแลงแกง แม้ว่าใครจะแจ้งความก็ตาม” ลูเซียนตอบอย่างจริงจัง

ดักลาสถอนหายใจ “ดีมาก เจ้าตั้งชื่อรายการมา”

ตอนนี้ทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของแผน

“อืม… มาตั้งชื่อว่า ‘เสียงแห่งอาร์คานา’” ลูเซียนจะไม่บอกใครว่าเขาตัดสินใจชื่อมานานแล้ว

“มาตั้งบริษัท เพื่อทำให้อุปกรณ์การเล่นแร่แปรธาตุ และแผนการสื่อสารทั้งหมดที่เจ้าเพิ่งพูดให้เป็นความจริง ผลประโยชน์จะแบ่งตามผลงาน และเงินลงทุน ในฐานะผู้ริเริ่ม และคิดค้นอุปกรณ์การเล่นแร่แปรธาตุ ลูเซียน เจ้าจะได้รับ ยี่สิห้าเปอร์เซ็นต์” เฟอร์นันโดตัดสินใจขั้นสุดท้าย ดูเหมือนเป็นการตัดสินที่ยุติธรรม แต่ในความเป็นจริงแล้วลูเซียนชอบมาก

เฟอร์นันโดเป็นคนหนึ่งที่สร้าง ‘ข้อความแม่เหล็กไฟฟ้า’ ดักลาส เฟอร์นันโด และศาสดาจะเป็นผู้รับผิดชอบในการปล่อยดาวเทียม ลูเซียนา และนอร์แมนจะเป็นคนดำเนินแผนการเฉพาะและทำการลงทุน พวกเขาทั้งหมดรวมถึงนักเวทที่กำลังจะเข้าร่วมกับพวกเขาในอนาคตจะมีเพียงเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของบริษัทเท่านั้น

ดักลาสเห็นด้วยในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกขอบคุณ ลูเซียน ที่แนะนำโครงการดาวเคราะห์เทียมให้ เขายิ้ม และถามว่า “ชื่อบริษัทล่ะ?”

“‘บริษัทโทรศัพท์และโทรเลขอัลลิน’…” ลูเซียนตอบโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็รีบอธิบาย “…หมายถึงการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการสื่อสาร และส่งข้อความ”

หลังจากวางแผนพื้นฐาน ดักลาสมองไปที่ลูเซียน “สำหรับการใช้งานดาวเคราะห์เทียม เจ้ามีข้อเสนออื่นๆ อีกหรือไม่”

เขาแน่ใจว่าความทะเยอทะยานของชายหนุ่มคนนี้มีมากกว่านี้

“ก่อนอื่นเราจะทำการศึกษาเชิงลึกเพิ่มเติมในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์เพื่อค้นหาแผนการที่ดีกว่านี้สำหรับการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประการที่สองเราต้องวางวงเวทป้องกันมากขึ้นเพื่อปกป้องดาวเคราะห์รวมถึง การล่องหน และการเคลื่อนย้ายวงโคจร” ลูเซียนตอบโดยไม่ลังเล “ประการที่สามเนื่องจากดาวเคราะห์อยู่สูงเกินกว่าที่จะโจมตีได้เต็มที่ ดังนั้นการโจมตีส่วนใหญ่จากพวกเขาจะอ่อนกำลังลงอย่างมากก่อนที่จะตกลงสู่พื้น ดังนั้นเราจึงต้องสร้างเวทมนตร์โจมตีระยะไกลที่มีพลังงานกว่ามาก… หวังว่าเวทมนตร์จะต่ำกว่าระดับตำนานนะ”

หรือต้นทุนในการผลิตดาวเคราะห์เทียมระดับตำนานจะสูงเกินไป

“ประการที่สี่เราสามารถใช้ดาวเคราะห์เทียมเพื่อตรวจสอบเป้าหมายของเราบนพื้นดินได้…”

ลูเซียนมีแผนแผนการครบวงจรที่สมบูรณ์ คำแนะนำมากมายของเขาทำให้มหาจอมเวทรู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างสุดซึ้ง

“เจ้ามีคำแนะนำมากเกินไป เราต้องกลับไปทำความเข้าใจก่อน เราจะก่อตั้ง ‘บริษัทโทรศัพท์และโทรเลขอัลลิน’ ก่อน การสร้าง ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ จะเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันของเรา” ดักลาสได้รับผลกระทบจาก ‘พลังพระเจ้าเสด็จ’ เสียงเขาฟังดูเหนื่อยเล็กน้อยหลังจากการเพิ่มพลังการยกระดับจิตวิญญาณในครั้งแรกหมดลง

อาร์ทิลยืนอยู่ข้างๆ ดักลาสค่อนข้างตื่นเต้น “ข้าจะเขียนบทความ และคำท้าทายจอมเวททุกคนที่เคยสงสัยทฤษฎี และการทดลองเกี่ยวกับความเร็วแสงของท่าน!”