ตอนที่ 234 ส่งถังโจวโจวกลับบ้าน / ตอนที่ 235 ความห่วงใยของคุณแม่ถัง

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 234 ส่งถังโจวโจวกลับบ้าน 

 

 

ถังโจวโจวเรียกสติกลับมา ปลอบตัวเอง ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคสำหรับเรา จากนั้นเธอก็หันไปสนใจกระเป๋าสัมภาระ 

 

 

ถังโจวโจวเอากระเป๋าตัวเองออกมากาง เก็บเสื้อผ้าทีละตัวๆ เธอคิดว่าเธอคงไม่ได้กลับมาที่บ้านนี้อีกแล้ว ถังโจวโจวเก็บเสื้อผ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยกพื้นที่คืนให้กับลั่วเซ่าเซินไปเต็มๆ 

 

 

ท้ายที่สุด เธอหันไปมองห้องที่คุ้นเคยที่เธออาศัยอยู่มานานโดยรอบอีกครั้ง ถังโจวโจวไม่ได้ปิดประตูห้อง ป้าหลิวเห็นถังโจวโจวถือกระเป๋าออกมาก็ร้อนใจ “คุณผู้หญิง คุณจะทำอะไรคะ มีเรื่องอะไรรอคุณผู้ชายกลับมาก่อนแล้วค่อยคุยกันได้ไหมคะ” 

 

 

ป้าหลิวขวางถังโจวโจวไว้ไม่ให้เธอไป ถังโจวโจวมองป้าหลิวที่มีท่าทางร้อนรน พลันรู้สึกอบอุ่นในใจ เธอวางกระเป๋าในมือลงแล้วตรงเข้าไปกอดป้าหลิวไว้แน่น 

 

 

“ป้าหลิวคะ ฉันต้องไปจากที่นี่สักพัก ป้าไม่ต้องห่วงนะ เซ่าเซินรู้เรื่องนี้แล้ว ช่วงนี้ฉันรบกวนป้าช่วยดูแลพวกเขาด้วย ส่วนสัญญาในวันหยุดของป้าคงจะถูกเลื่อนออกไปก่อนนะคะ” 

 

 

ถังโจวโจวคิดถึงแผนการที่เธอกับลั่วเซ่าเชินตั้งใจจะไปเที่ยวก่อนหน้านี้ ตอนนี้คงต้องหยุดไปก่อน ช่วงเวลาของป้าหลิวกับคนในครอบครัว ตอนนี้ถังโจวโจวได้แต่ขอโทษอยู่ในใจ 

 

 

ป้าหลิวได้ยินคำพูดของถังโจวโจวแล้วก็เสียน้ำตา “โธ่ คุณผู้หญิง พูดอะไรอย่างนั้นคะ เรื่องวันหยุดของฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงเวลาพวกเขาก็จะมาเยี่ยมฉันเอง …คุณผู้หญิงคะ บอกฉันได้ไหม ครั้งนี้คุณผู้หญิงทะเลาะกับคุณชายหนักเลยหรือคะ” 

 

 

ถังโจวโจวก้มหน้า อยากจะร้องไห้ “ป้าหลิว อย่าถามอีกเลยค่ะ ฉันต้องไปแล้ว ป้าอย่าลืมช่วยฉันดูแลพวกเขาด้วยนะคะ เซ่าเซินคงไม่ทำให้ป้าลำบากใจ” 

 

 

“ค่ะ ป้ารับปาก” แค่เห็นว่าสีหน้าของถังโจวโจวไม่ดีขึ้นเลย ป้าหลิวก็รู้แล้ว เรื่องนี้พวกเขาน่าจะตกลงกันแล้ว จึงรู้ว่าไม่ควรพูดอะไรอีก 

 

 

“คุณผู้หญิง ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ” ป้าหลิวมองถังโจวโจวลากกระเป๋าออกจากบ้านไป ยืนน้ำตาไหลอยู่ในห้องนั่งเล่นคนเดียว เมื่อครู่คุณผู้หญิงบอกว่าไม่ต้องออกไปส่งเธอแล้ว เธอกลัวว่าเธอจะร้องไห้อีก 

 

 

ถังโจวโจวลากกระเป๋าเดินทางออกมานอกประตูรั้ว หวังหวาก็รีบเข้าไปช่วยรับกระเป๋ามา “คุณผู้หญิง เรียบร้อยไหมครับ” 

 

 

“ค่ะ” ถังโจวโจวนั่งอยู่บนรถ เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง นี่คือบ้านหลังเล็กของเธอกับลั่วเซ่าเซิน 

 

 

หวังหวาออกรถ รถค่อยๆ ห่างออกไปจากตัวบ้าน เดิมทีถังโจวโจวคิดว่าเธอจะเดินออกจากบ้านด้วยรอยยิ้ม แต่สุดท้ายเธอก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ หวังหวานั่งมองจากกระจกมองหลัง ไม่ได้พูดอะไร ทำได้แค่ขับรถไปเงียบๆ 

 

 

รถเคลื่อนมาจอดอยู่บริเวณบ้านตระกูลถัง “คุณผู้หญิงครับ ถึงแล้วครับ” ถังโจวโจวที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นมอง เพียงไม่นานก็ถึงแล้วหรือนี่ เธอเคยคิดว่าระยะทางจะไกลกว่านี้มาก แต่วันนี้ไม่นานก็ถึงแล้ว ทำให้เธอยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ 

 

 

“ขอบคุณผู้ช่วยหวังนะคะ” 

 

 

“มิได้ครับคุณผู้หญิง เป็นหน้าที่อยู่แล้วครับ ให้ผมช่วยยกกระเป๋าเข้าข้างในไหมครับ” หวังหวาช่วยยกกระเป๋าลงมาจากรถ ถังโจวโจวมองไปที่หน้าต่างบ้านของเธอ ด้านบนยังมีดอกไม้เล็กๆ ของคุณแม่ถังอยู่ 

 

 

อารมณ์เธอค่อยๆ ดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มให้หวังหวา “ไม่ต้องแล้วล่ะค่ะ ผู้ช่วยหวัง แค่นี้ฉันก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ คุณไม่ต้องส่งแล้วล่ะ” 

 

 

หวังหวามองถังโจวโจวลากกระเป๋าขึ้นไปคนเดียว ไม่ต้องการให้เขาช่วย บางทีเธออาจจะรู้สึกว่ามันน่าอายที่เขาต้องมาเห็นเธอเศร้าอย่างนี้ หวังหวายืนอยู่ที่เดิมเงียบๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับรถออกไป 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 235 ความห่วงใยของคุณแม่ถัง 

 

 

           คุณแม่ถังได้ยินเสียงเปิดประตูจึงเดินไปดู เมื่อประตูเปิดออกแล้วก็พบว่าเป็นถังโจวโจวที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้น คุณแม่ถังถามอย่างประหลาดใจ “โจวโจว ทำไมจู่ๆ ก็กลับมาล่ะ แล้วกระเป๋านี่หมายความว่าอะไร” 

 

 

แม้ปากคุณแม่ถังจะถามอยู่ แต่มือก็ช่วยถังโจวโจวลากกระเป๋าเข้ามา “โจวโจว ลูกกลับมาคนเดียวเหรอ เซ่าเชินไม่ได้มาด้วยเหรอ รีบเข้ามาๆ บอกแม่เร็วว่ามันเกิดอะไรขึ้น 

 

 

โจวโจว มานั่งนี่ก่อน” คุณแม่ถังให้ถังโจวโจวนั่งลงบนโซฟา แล้วรีบไปยกน้ำมาให้เธอ เห็นสีหน้าถังโจวโจวไม่สู้ดีแบบนี้ ก็ได้แต่รอให้เธอพูดเอง 

 

 

“แม่คะ แม่อย่าตีโพยตีพายสิคะ หนูแค่กลับมาอยู่บ้านสักพักเอง หรือแม่ไม่อยากให้หนูกลับมาแล้ว?” ถังโจวโจวคิดข้ออ้างมาอย่างดีแล้ว เพื่อไม่ให้คุณแม่ถังเป็นห่วง ดังนั้น เธอจะไม่บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลลั่วให้คุณแม่ถังฟังเด็ดขาด 

 

 

คุณแม่ถังไม่ตกหลุมพรางของถังโจวโจว “โจวโจว แม่เลี้ยงลูกมาจนโตขนาดนี้ แม่จะไม่รู้เลยหรือว่าลูกกำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าลูกทะเลาะกับเซ่าเชินมาอีกแล้ว ถึงได้ขนข้าวของออกมาจากที่นั่นอย่างนี้” 

 

 

คุณแม่ถังแสดงสีหน้าว่า ‘อย่าโกหกแม่’ แต่เธอก็คงต้องรอให้ถังโจวโจวสบายใจกว่านี้ก่อน 

 

 

“แม่คะ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดนะ หนูรู้เหมือนกันนะคะว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ หรือจะให้หนูโทรหาเซ่าเชินไหม แล้วให้แม่พูดกับเขา” 

 

 

“ได้ งั้นลูกโทรเลย แม่จะรอฟัง” คุณแม่ถังเห็นถังโจวโจวเปิดทางมา เธอจึงเริ่มจับพิรุธลูกสาวตามข้อสงสัยของตัวเอง จากนั้นเธอก็เห็นถังโจวโจวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เตรียมกดเบอร์ของลั่วเซ่าเชิน คุณแม่ถังจึงห้ามไว้ “เอาละ พอแล้ว แม่เชื่อแล้ว ไม่ต้องโทรหรอก” 

 

 

ถังโจวโจวทำตามคำพูดของคุณแม่ถังแต่โดยดี เก็บโทรศัพท์กลับลงกระเป๋า คุณแม่ถังเข้าใจแล้ว แค่เห็นถังโจวโจวเอาโทรศัพท์ออกมา คุณแม่ถังก็ไม่สงสัยในประเด็นนั้นอีก เธอเป็นแม่ของถังโจวโจว มีหรือจะไม่รู้ว่าลูกสาวตนเป็นอย่างไร 

 

 

“แล้วลูกเอากระเป๋าเดินทางมาทำไม” เมื่อครู่ที่คุณแม่ถังเห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบนั้น คำถามก็ผุดขึ้นมากมาย 

 

 

“เอ่อ… ก็หนูกะว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านสักพักหนึ่ง หนูก็เลยขนเสื้อผ้ามาน่ะสิคะ” 

 

 

คุณแม่ถังตีแขนเธอเบาๆ “แล้วที่บ้านนี้ไม่มีเสื้อผ้าของลูกหรือยังไง นี่ลูกไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม ถ้าเซ่าเชินคิดว่าลูกหนีออกจากบ้านแล้วจะทำยังไง” 

 

 

“ไม่หรอกค่ะ เขารู้ว่าหนูมาที่นี่ แม่คะ แม่อย่าเพิ่งคิดมากได้ไหม หนูยังไม่ได้กินข้าวเลย แม่รีบไปทำอะไรให้หนูกินก่อนเถอะค่ะ” ถังโจวโจวดึงคุณแม่ถังขึ้น ดันเธอเข้าไปในห้องครัว 

 

 

คุณแม่ถังได้ยินว่าถังโจวโจวยังไม่กินข้าวก็ร้อนรนขึ้นมาทันที รีบหันไปมองดูเวลา “จนป่านนี้แล้ว ทำไมลูกยังไม่กินข้าวอีก หรือลูกไปทำอะไรไม่ดีมา” ถึงแม้ว่าคำพูดของคุณแม่ถังจะไม่ค่อยน่าฟัง แต่ก็เต็มไปด้วยความปรารถนาดี 

 

 

ถังโจวโจวเข้าใจว่าคุณแม่ถังเป็นห่วงสุขภาพของเธอ เธอเข้าไปกอดคุณแม่ถังและออดอ้อนเป็นเด็กๆ “แม่คะ แม่รีบเข้าครัวเถอะ ท้องหนูหิวจะแย่แล้ว” 

 

 

รอจนกระทั่งคุณแม่ถังเข้าไปในห้องครัวแล้ว รอยยิ้มของถังโจวโจวก็จางหายไป เธอทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ถังโจวโจวมองโทรศัพท์มือถือ ไม่มีเสียงโทร ไม่มีข้อความ นั่นสินะ ตอนนี้เซ่าเชินคงดูแลคุณแม่อยู่ แล้วเขาจะมีเวลามาสนใจเธอได้ยังไง 

 

 

“โจวโจว บะหมี่มาแล้ว” คุณแม่ถังยกชามบะหมี่มาวางไว้ตรงหน้าถังโจวโจว ในชามมีเครื่องมากมาย “แม่ใช้ซุปทั้งหมดที่เหลือจากมื้อกลางวัน ลูกรีบกินสิ พอจะถูกปากไหม” 

 

 

เธอเห็นถังโจวโจวตักเข้าปากคำใหญ่ คุณแม่ถังจึงเอ่ยเตือนอย่างร้อนรน “ระวังร้อน! ลูกก็ไม่บอกแม่ให้เร็วกว่านี้ ถ้าแม่รู้เร็วกว่านี้ว่าลูกจะกลับมาก็คงดี เพราะว่าพ่อของลูกไม่อยู่บ้าน แม่เพิ่งนั่งกินข้าวเที่ยงคนเดียวไปเมื่อกี้นี้เอง”