ตอนที่ 2253 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (17)
อารมณ์ของอวิ๋นชูเทียนค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา
“ท่านพี่เนี่ยนเฟิง อย่าบอกท่านแม่นะว่าก่อนหน้านี้ท่านจูบข้า ถ้าท่านแม่รู้ล่ะก็ ท่านแม่ต้องจัดงานแต่งให้พวกเราแน่เลย”
ทันใดนั้นสีหน้าของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงก็มืดครึ้ม “เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าอยากแต่งงานกับข้าหรอกหรือ เจ้ารู้สึกเสียใจเร็วขนาดนี้เชียวรึ” เขากัดริมฝีปากของอวิ๋นชูเทียนอีกครั้งแล้วพูดอย่างร้ายกาจว่า “ข้าไม่ยอมให้เจ้ามีโอกาสได้เสียใจแน่”
“ข้าอยากแต่งงานกับท่านพี่เนี่ยนเฟิง แต่เมื่อพวกเราแต่งงานกันแล้ว พวกเราก็ต้องร่วมหอกัน...” ใบหน้าเล็กและบอบบางของอวิ๋นชูเทียนดูซีดเล็กน้อย “พวกเขาบอกว่าการร่วมหอเจ็บมากและข้า…กลัวเจ้าค่ะ…”
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะอ่อนโยน” ทันทีเขาพูดจบ เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง เหตุใดพวกเขาถึงเริ่มพูดถึงเรื่องการเข้าหอในตอนที่พวกเขาเพิ่งเริ่มความสัมพันธ์กัน
“ชู่ว...” เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ เขาก็พูดเบาๆ ว่า “พวกเขากำลังมา”
คนที่นำกลุ่มคนมาคือโอวหยางสวิน สีหน้าของเขาดูไม่ได้ และดวงตของเขาก็เย็นชา ก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อตอนที่ได้ยินข่าวว่าหวังเฮ่าเทียนแอบเข้ามาในพระราชวัง ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงจากภายในห้องก็ทำให้สีหน้าของเขามืดมัว
“หวังเสวี่ยเหลียน เจ้ามั่นใจนะว่าหวังเฮ่าเทียนอยู่ในห้องของอวิ๋นชูเทียน” โอวหยางเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ถ้าเป็นคนอื่นอยู่ในห้องก็ไม่เป็นอะไรมาก เหตุใดต้องเป็นหวังเฮ่าเทียน
ตอนแรกเขากำลังจะแต่งงานกับโอวหยางเยว่ แต่งานสมรสของพวกเขาก็ถูกสตรีอย่างอวิ๋นชูเทียนทำลาย ตอนนี้พวกเขายังมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันอย่างผิดธรรมเนียมอีก! ราชวงศ์จะยังเหลือหน้าอยู่ได้อย่างไร
“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันได้ยินจากท่านพี่ของหม่อมฉันว่าอวิ๋นชูเทียนส่งจดหมายให้เขากลางดึกเพื่อขอพบ หม่อมฉันเชื่อว่าท่านพี่ของหม่อมฉันเป็นได้แค่ขององค์หญิงรองเท่านั้น จึงมาหาฝ่าบาทเพื่อแจ้งเรื่องนี้เพคะ แต่ว่าท่านพี่ของหม่อมฉันบริสุทธิ์ และหม่อมฉันก็ขอร้องให้ฝ่าบาทปล่อยเขาไปด้วยเพคะ” ใบหน้าของหวังเสวี่ยเหลียนเผยความกังวลที่ปิดไม่มิด แต่ขณะที่ไม่มีใครสังเกต รอยยิ้มพึงพอใจก็ปรากฏบนริมฝีปากของนาง
อวิ๋นชูเทียนไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้วและข้าอยากเห็นนักว่าตอนนี้เจ้าจะยังยั่วยวนบุรุษของข้าได้อย่างไรอีก!
สีหน้าของโอวหยางสวินเย็นชาชณะที่ตะโกนอย่างเคร่งเครียดว่า “ทหาร เปิดประตู!”
องครักษ์สองคนเดินไปข้างหน้าจากนั้นก็เตะประตูให้เปิดออกทันที ภายในห้องมืดสนิทและพวกเขาก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของร่างเลือนรางสองร่างตรงหน้าพวกเขาเบาๆ
“จุดไฟ!” ขันทีทำตามคำสั่งของโอวหยางสวินแล้วหยิบโคมไฟจากข้างหลังออกมาวางบนโต๊ะ
แต่หลังจากที่พวกเขาเห็นฉากภายในห้อง ทุกคนก็มองด้วยสายตาว่างเปล่า…
หวังเฮ่าเทียนดูหวาดกลัวอาจจะเป็นเพราะไม่คิดว่าโอวหยางสวินจะมาปรากฏตัวตอนนี้ ทันทีเขาตั้งใจจะพูดกับสตรีที่อยู่ใต้ร่างเขา เขาก็สังเกตเห็นใบหน้ายั่วยวน เขาตกใจอยู่ครู่หนึ่งและรีบแยกร่างของพวกเขาออกจากกัน ขณะที่เขารีบถอยไปอย่างรวดเร็ว
“เหตุใด…เหตุใดถึงเป็นเจ้า”
โอวหยางเยว่ส่งสายตายั่วยวนแล้วยืนขึ้นขณะที่ส่ายสะโพก เสื้อผ้าที่ฉีกขาดของนางเปิดเผยให้เห็นรอยจูบทั่วทั้งร่าง
“อืม ข้ายังต้องการอยู่เลย” นางกระโจนเข้าไปหาหวังเฮ่าเทียน ดูเหมือนว่านางจะไม่สังเกตเห็นฝูงชนที่พุ่งเข้ามาเข้าในห้อง
หวังเสวี่ยเหลียนตะลึงงัน เหตุใดสตรีที่อยู่ที่นี่ถึงไม่ใช่อวิ๋นชูเทียนแต่เป็นองค์หญิงรอง
“ข้าต้องการอีก ให้ข้าอีก!” โอวหยางเยว่กอดแขนเสื้อของหวังเฮ่าเทียนขณะที่นางเอนตัวเข้ามา
หวังเฮ่าเทียนสะบัดนางออกไปด้วยความตะลึง ขณะที่สีหน้าของเขาซีดเผือด “เหตุใดเจ้าถึงเป็นคนที่อยู่ที่ห้อง แม่นางชูเทียนอยู่ที่ไหน”
หลังจากที่เขาพูดจบ ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เจ้าตามหาข้างั้นหรือ” หวังเฮ่าเทียนรีบหันไปก็เห็นเด็กหนุ่มและเด็กสาวเดินผ่านฝูงชนเข้ามา
ตอนที่ 2254 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (18)
อวิ๋นชูเทียนกอดอกขณะยิ้มร่าราวกับกำลังดูการแสดงดีๆ
“แม่นางชูเทียน ได้โปรดฟังข้าอธิบาย!” หวังเฮ่าเทียนกังวลและต้องการจะดึงมือของอวิ๋นชูเทียนเพื่อเข้าไปหานาง
แต่ว่าก่อนที่เขาจะเดินไปถึงนาง เขาก็ถูกฝ่ามือของเด็กหนุ่มคนหนึ่งผลักออก “ไสหัวไป อย่าได้ใช้มือสกปรกของเจ้ามาแตะต้องเทียนเอ๋อร์!”
หวังเฮ่าเทียนถอยไปสองสามก้าวและเกือบจะล้มลงไปกับพื้น เขามองอวิ๋นชูเทียนด้วยความสิ้นหวังและเห็นสายตารังเกียจในดวงตาของนาง ต่อให้เป็นก่อนหน้านี้นางก็ไม่เคยรังเกียจเขาขนาดนี้…
โอวหยางสวินเดินไปตบหน้าของโอวยางเยว่ ภายใต้สายตาแปลกใจของทุกคน โอวหยางเยว่ก็ค่อยๆ ได้สติ
ทันใดนั้นฉากก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นในความคิดของนาง แล้วทำให้ใบหน้าถอดสีและนางก็ตะโกนออกมาทันที “กรี๊ด!”
ทำไม ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่
อีกอย่างเหตุใดนางถึงทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้
โอวหยางเยว่ตัวสั่น และทันใดนั้นนางก็สังเกตเห็นเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างอวิ๋นเนี่ยนเฟิงผู้กำลังมีความสุขบนความโชคร้ายของนาง ทันใดนั้นนางกระโจนเข้าไป “เป็นเจ้า ต้องเป็นเจ้าที่ทำแบบนี้แน่! เจ้าเป็นคนพาข้ามาที่นี่แล้วให้หวังเฮ่าเทียนทำเรื่อง…ทำเรื่องผิดศีลธรรมใช่หรือไม่”
อวิ๋นชูเทียนดูสับสน “เจ้าพูดอะไร ไม่ใช่ว่าเจ้ากับหวังเฮ่าเทียนเป็นสามีภรรยากับหรอกหรือ ก่อนหน้านี้ข้ากำลังเดินผ่านประตูและเห็นเจ้ากับหวังเฮ่าเทียนเดินเข้าไป ดังนั้นข้าก็เลยคิดว่าพวกเจ้าอยากจะกลับตำหนักชิงเหลียนเพื่อเข้าหอ ด้วยความที่ข้ามีเจตนาดีจึงตัดสินใจให้คืนนี้พวกเจ้าอยู่ที่นี่ แต่เจ้ากลับตอบแทนความใจดีด้วยความอกตัญญู”
“เจ้า…” โอวหยางเยว่หน้าแดงด้วยความโกรธและจ้องอวิ๋นชูเทียนอย่างเดือดดาล นางรู้ว่าหลังจากคืนนี้ชื่อเสียงของนางจะถูกทำลายและทุกอย่างก็เป็นเพราะอวิ๋นชูเทียน!
“อวิ๋นชูเทียน ข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!” โอวหยางเยว่หันไปหาโอวหยางสวิน “เสด็จพ่อเพคะ ก่อนหน้านี้ลูกหมดสติไปเพราะใครบางคนไปที่ตำหนักของลูก และอีกฝ่ายก็ให้ยาบางอย่างแก่ลูก ลูกจึงขาดสติเกิดการกระทำเช่นนี้เข้า! ลูกมั่นใจว่าต้องมีคนใส่ร้ายลูกเพคะ”
นางมองอวิ๋นชูเทียนอยู่ตลอดเวลา และความหมายก็ชัดเจนมาก จะมีใครนอกจากอวิ๋นชูเทียนที่จะใส่ร้ายนาง
โอวหยางเยว่ก็คิดถึงจุดนี้เหมือนกันแล้วมองอวิ๋นชูเทียนอย่างเย็นชา แต่อาจจะเป็นเพราะวิชาที่นางใช้ทำให้เขาหวาดกลัว เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“ท่านพี่เนี่ยนเฟิง เอาของที่ข้าให้ท่านหาออกมาให้หน่อยเจ้าคะ” อวิ๋นชูเทียนยิ้มแล้วยื่นมืออกมาขณะที่เลิกคิ้วมองใบหน้าซีดของโอวหยางเยว่
“ได้” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงตอบแล้วหยิบหนังสือที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองและมอบให้อวิ๋นชูเทียน
ทันทีที่นางเห็นหนังสือ ร่องรอยตื่นตระหนกก็พาดผ่านดวงตาของโอวหยางเยว่ เขาตามหาหนังสือที่นางซ่อนไว้ลึกขนาดนั้นได้อย่างไร
อวิ๋นชูเทียนไม่สนใจสีหน้าตื่นตระหนกของโอวหยางเยว่ขณะที่นางเลิกคิ้วมองโอวหยาวสวิน
“ตอนนี้ ข้าอยากให้ทุกคนได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของโอวหยางเยว่!”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” โอวหยางสวินขมวดคิ้วขณะที่ถามอย่างเย็นชา
อวิ๋นชูเทียนกะพริบตาแล้วยื่นหนังสือให้โอวหยางสวินขณะถามว่า “ในฐานะบิดาของโอวหยางเยว่ ท่านก็น่าจะรู้จักลายมือของนาง ถ้าอย่างนั้นได้โปรดดูหนังสือเล่มนี้ว่านางเป็นคนเขียนหรือไม่”
โอวหยางสวินเหม่อไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ใช่” เขายังสามารถจำลายมือของบุตรสาวของเขาได้ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ถูกเขียนโดยบุตรสาวของเขา…
“ถ้าอย่างนั้นท่านจำส่วนผสมของยาที่ใช้รักษาโรคระบาดได้หรือไม่” อวิ๋นชูเทียนพลิกหน้ากระดาษไปสองสามหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ นางพลิกไปหน้าที่สำคัญโดยไม่แม้แต่จะมอง “ใช่ส่วนผสมสองสามอย่างนี้หรือไม่”