ตอนที่ 2255 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (19)
โอวหยางเยว่มองหนังสืออย่างประหลาดใจแล้วขมวดคิ้ว “ข้าจำได้ว่าเป็นสมุนไพรสองสามนี้อย่างแน่นอน”
อวิ๋นชูเทียนยิ้มแล้วเอาหนังสือกลับมาก่อนจะพูดว่า “ข้อแรก ท่านบอกว่านี่ไม่ใช่ลายมือของโอวหยางเยว่และข้อสอง ท่านก็ยืนยันแล้วว่าส่วนผสมเหล่านี้ใช้รักษาโรคระบาด ถ้าอย่างนั้นข้ารบกวนให้โอวหยางเยว่อธิบายปัญหาของหนังสือเล่มนี้ได้หรือไม่”
“ข้า…” ร่องรอยตื่นตระหนกพาดผ่านดวงตาของโอวหยางเยว่ “เสด็จพ่อ หนังสือเล่มนี้ถูกมอบให้ลูกโดยอาจารย์ของลูกเพคะ แต่ว่าอาจารย์ของลูกไม่ชอบให้คนอื่นรู้จักดังนั้น…ดังนั้นเขาจึงไม่อนุญาตให้ลูกเปิดเผยตัวตนของเขาเพคะ”
คำแก้ตัวของนางค่อนข้างสมเหตุสมผล ถึงอย่างไรในตอนนั้นโอวหยางเยว่ก็ยังค่อนข้างเด็ก และน่าเชื่อถือทีเดียวหากพูดว่านางมีอาจารย์อยู่เบื้องหลัง
“อาจารย์ของเจ้างั้นหรือ” ดวงตาของอวิ๋นชูเทียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “แล้วอาจารย์ของเจ้าอยูที่ไหนล่ะ ข้าจะได้ไปเชิญเขามาเพราะข้ามีคำถามเกี่ยวกับวิชาแพทย์สองสามคำถามที่ข้าอยากจะถาม”
โอวหยางเยว่กดความรู้สึกกังวลมากมายภายในของนางเอาไว้แล้วจ้องอวิ๋นชูเทียนอย่างดุร้าย
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่านางว่าอวิ๋นชูเทียนประสบความสำเร็จในแวดวงการแพทย์ เมื่อปีนั้นตอนที่นางยังอายุน้อย นางก็มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว และหลังจากที่ผ่านไปหลายปี ทักษะนั่นก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ถ้านางสุ่มเลือกคนแปลกหน้าขึ้นมา นางก็จะถูกเปิดโปงโดยง่าย เมื่อคิดถึงเรื่องนี้โอวหยางเยว่จึงทำให้สติมั่นคง “อาจารย์ของข้าคือคนที่เจ้าไม่สามารถเจอได้ต่อให้เจ้าอยากเจอ ดังนั้นเจ้าควรหยุดร้องขออะไรที่ไร้ประโยชน์ได้แล้ว”
“ไม่เป็นไร ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงรู้ถึงความแข็งแกร่งของข้าและบุคคลที่อยู่ข้างกายข้าคนนี้คือพี่ชายของข้า เมื่อเทียบกับข้าแล้วเขาแข็งแกร่งกว่าข้ามาก ตราบใดที่เจ้าเปิดเผยที่อยู่ของอาจารย์เจ้า ข้าจะรีบไปเชิญเขามาทันที” ถึงอย่างไรนางก็วางแผนเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของโอวหยางเยว่ไว้หมดแล้ว
โอวหยางเยว่กัดริมฝีปาก “ไม่ ถ้าเจ้าทำแบบนี้เจ้าจะนำพาหายนะมาให้ราชวงศ์ของพวกเรา อาจารย์ของข้าทรงพลังมากและเจ้าก็ไม่มีความสามารถพอจะทนรับความโกรธของเขา!”
“ต่อให้พวกเราต้องเจอกับความโกรธจัดของเขาก็เป็นเรื่องของพวกเรา และโดยปกติแล้วถ้าเขาจะทำแบบนั้นเขาก็ต้องระบายความโกรธใส่พวกเรา ข้าจะไม่เปิดโปงว่าเจ้าเปิดเผยที่อยู่ของเขา ตอนนี้เจ้าบอกตัวตนของเขาได้หรือยัง”
“เจ้า…” ใบหน้าของโอวหยางเยว่แดงก่ำด้วยความโกรธ “อวิ๋นชูเทียน เจ้ามั่นใจว่าเจ้าอยากหาเรื่องข้างั้นหรือ”
อวิ๋นชูเทียนกะพริบตาขณะที่แสดงสีหน้าใสซื่อ “ข้าแค่อยากพบอาจารย์ของเจ้าแล้วเรื่องนี้จะเป็นการหาเรื่องเจ้าได้อย่างไร ถ้าอาจารย์ของเจ้ามีตัวตนอยู่จริงๆ เหตุใดเจ้าถึงไม่ยินดีจะเปิดเผยตัวตนของเขา หรือว่าฐานะของอาจารย์เจ้าต่ำเกินไป”
“ไร้สาระ!” เพราะความโกรธนางจึงพูดโพล่งออกไปว่า “อาจารย์ของข้าเป็นหนึ่งในเซียนที่แท้จริงของแคว้นนี้ อวิ๋นลั่วเฟิง! คนแบบนางไม่ใช่คนที่ตลอดชีวิตของเจ้าจะสามารถพบได้ แต่เจ้ายังคิดที่จะตามหานางงั้นหรือ”
ตั้งแต่ที่นางยังเด็ก อวิ๋นชูเทียนก็รู้ว่าโอวหยางเยว่ไม่ใช่คนที่ทนต่อการยั่วโมโหได้ เมื่อนางถูกยั่วโมโห นางก็กล้าพูดทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ว่าสิ่งที่อวิ๋นชูเทียนไม่คาดคิดก็คือโอวหยางเยว่จะบอกว่าอาจารย์ของนางคืออวิ๋นลั่วเฟิงจริงๆ!
“อวิ๋นลั่วเฟิง?” โอวหยางสวินขมวดคิ้ว “อวิ๋นเซียว”
พรึบ!
ทันใดนั้นเขาก็ตอบสนอง ไม่แปลกใจเลยที่เขารู้สึกคุ้นหูเมื่อได้ยินชื่ออวิ๋นเซียว เขาไม่ใช่หนึ่งในเซียนที่แท้จริงของแคว้นนี้หรอกหรือ
บิดาของอวิ๋นชูเทียนเป็นเซียนที่แท้จริงงั้นหรือ
เป็นไปไม่ได้! ต้องเป็นแค่เรื่องบังเอิญแน่! ถ้าบิดาของอวิ๋นชูเทียนเป็นเซียนที่แท้จริงจริงๆ นางก็คงกลับมาแก้แค้นตั้งนานแล้ว ต่อให้นางพึ่งมาตอนนี้ นางก็ต้องพากลุ่มยอดฝีมือมาด้วยและไม่มีทางมาคนเดียว ดังนั้นบิดาของนางต้องแค่มีชื่อเหมือนกันเฉยๆ!
หวังเสวี่ยเหลียนเองก็ตะลึงไปเหมือนกัน อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นหนึ่งในเซียนที่แท้จริงงั้นหรือ เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร อาจารย์ของนางจะเป็นเซียนที่แท้จริงได้อย่างไร
ตอนที่ 2256 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (20)
นางถูกอีกฝ่ายรังแกที่หวาเซี่ยและแม้ว่าจะมาที่แคว้นนี้ นางก็ยังอยู่ต่ำกว่าอีกฝ่ายอีกงั้นหรือ นางลดเสียงอย่างระมัดระวังแล้วถามบ่าวข้างหลังนางว่า “อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นใคร”
บ่าวคนนั้นตอบทันทีว่า “อวิ๋นลั่วเฟิงคือหนึ่งในเซียนที่แท้จริงของแคว้นนี้และเป็นจอมเผด็จการของโลกใบนี้เจ้าค่ะ เมื่อสิบกว่าปีก่อนหน้านี้ ชื่อเสียงของนางแพร่ไปทั่วโลกและไม่มีใครไม่รู้ว่านางผ่านด่านเป็นเซียนที่แท้จริงเมื่อสิบห้าปีก่อนเจ้าค่ะ”
มีชื่อเสียงเมื่อสิบกว่าปีก่อนงั้นหรือ
และผ่านด่านเป็นเซียนที่แท้จริงเมื่อสิบห้าปีก่อนใช่หรือไม่
แต่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงพึ่งหายตัวไปจากหวาเซี่ยเมื่อสิบปีก่อน ดังนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่สตรีผู้นั้นที่พวกเขาเทิดทูนจะเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงคนนั้นที่นางรู้จัก!
ตอนนี้หวังเสวี่ยเหลียนไม่รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงมาถึงที่แคว้นนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนจริงๆ แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือนางไม่รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเดินทางกลับไปที่หวาเซี่ยเมื่อสิบปีที่แล้ว เพราะความไม่รู้ของนางนี่เองที่ทำให้นางได้ทำเรื่องเลวร้ายชั้นต่ำลงไป
“พระเจ้า เรื่องตลกอะไรกันเนี่ย” อวิ๋นชูเทียนกุมท้องแล้วหัวเราะออกมาจนตัวงอ “ท่านพี่เนี่ยนเฟิง สตรีผู้นั้นกล้าพูดโกหกแบบนี้ด้วยจริงๆ ฮะ ฮะๆ!”
สีหน้าของโอวหยางเยว่เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้ง ความจริงแล้วนางก็เสียใจทันทีที่นางพูดแบบนั้นออกไป โชคร้ายที่ลูกศรที่ยิงออกไปไม่สามารถหยุดได้ และนางก็ทำได้แค่กัดฟันแล้วโกหกต่อไป “สิ่งที่เจ้าทำไม่ได้ไม่เกี่ยวกับข้า อาจารย์ของข้าบอกว่าข้าเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่สุดที่นางเคยเห็นและคนแบบเจ้าก็ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติให้ได้เคารพนาง!”
ดวงตาของอวิ๋นชูเทียนโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว “ถ้าอย่างนั้นเจ้าเคยเห็นนางหรือไม่”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ภาพวาดก็ตาม
ภาพเหมือนนั่นเป็นสิ่งที่บิดาของนางได้มาด้วยความยากลำบาก และความตั้งใจของเขาก็คือเขาจะไม่บังเอิญไปยั่วโมโหสตรีที่น่าหวาดกลัวแบบนาง ดังนั้นเขาจึงต้องการจดจำใบหน้าของนางให้ขึ้นใจ แน่นอนว่าด้วยฐานะของโอวหยางเยว่นางก็เคยเห็นภาพวาดนั่น แต่นางไม่รู้ฐานะของอวิ๋นลั่วเฟิงในแคว้นนี้
สีหน้าของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงกลายเป็นดูไม่ได้ โอวหยางเยว่เป็นเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์มากมายที่เขาเคยเจอ ในสถานที่อื่นๆ ที่เขาไม่รู้ มีคนมากแค่ไหนที่ใช้ชื่อเสียงของท่านแม่ของเขามาหาผลประโยชน์ ไม่แน่พฤติกรรมบางอย่างของพวกเขาอาจจะทำให้ชื่อเสียงของท่านแม่แปดเปื้อน!
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
ตอนนั้นเองก็มีองครักษ์คนหนึ่งเดินเข้ามากระซิบสองสามอย่างที่หูของโอวหยางสวิน
โอวหยางสวินดูมีความสุข และทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา “เจ้าไม่ควรรีบสร้างปัญหาให้บุตรสาวของข้าแต่ควรจะห่วงตัวเองแทนมากกว่า ผู้อาวุโสชั้นยอดของข้าปิดด่านฝึกพลังฌานอยู่ แต่เมื่อพวกเขาออกมาในคืนนี้ก็ถึงจุดจบของพวกเจ้าแล้ว!”
“อย่างนั้นหรือ” ริมฝีปากของอวิ๋นชูเทียนยกขึ้น จากนั้นนางก็กอดแขนของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงแล้วพูดว่า “ท่านพี่เนี่ยนเฟิง คนชั่วพวกนี้รังแกข้า ท่านบอกข้าหน่อยว่าข้าควรจะจัดการกับพวกเขาอย่างไรดีเจ้าคะ”
อวิ๋นเนี่ยนเฟิงลูบศีรษะของอวิ๋นชูเทียนด้วยท่าทางเอาอกเอาใจ “แล้วแต่ที่เจ้าชอบเลย ทั้งข้า ท่านพ่อและท่านแม่ พวกเราจะสนับสนุนเจ้าเอง”
รอยยิ้มของเขาเจิดจ้ามากและสีหน้าตามใจของเขาก็ทำให้หวังเสวี่ยเหลียนเต็มไปด้วยความริษยาขณะที่นางหวังว่านางจะสามารถตัดอวิ๋นชูเทียนออกเป็นชิ้นๆ
นางคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้มาขโมยบุรุษของนาง
“ฮึ่ม!” โอวหยางสวินส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชาเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของอวิ๋นชูเทียนและพูดอย่างเคร่งเครียดว่า “ไปเชิญผู้อาวุโสเหล่านั้นมาที่นี่ และบอกว่ามีใครบางคนต้องการจะโจมตีนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ของพวกเรา!”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
หนึ่งในองครักษ์ประสานหมัดคารวะก่อนจะถอยออกไป อวิ๋นชูเทียนไม่ได้หยุดเขา ตอนแรกนางตั้งใจจะจัดการปัญหาทุกอย่างทีเดียว และในเมื่อผู้อาวุโสพวกนั้นออกมาจากการปิดด่านฝึกพลังฌานแล้ว ก็ถึงเวลาที่นางจะได้แก้แค้นและขจัดความโกรธแค้นออกไป