ตอนที่ 2257 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (21)
ตูม!
ภายใต้ท้องฟ้าสีดำสนิทยามค่ำคืนก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น แล้วทันใดนั้นเสียงบางอย่างที่ดังยิ่งกว่าฟ้าผ่าก็ดังสนั่น
“ใครกล้ามาสร้างปัญหาให้นครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ของข้า!”
อวิ๋นเนี่ยนเฟิงขยี้ศีรษะของอวิ๋นชูเทียนเบาๆ แล้วริมฝีปากของเขาก็โค้งขึ้น “ข้าจะไปจัดการกับปัญหาข้างนอกก่อน เจ้าก็อยู่ที่นี่เถอะ”
“ท่านพี่เนี่ยนเฟิง” อวิ๋นชูเทียนทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ “ไม่ใช่ว่าพวกเราตกลงกันแล้วว่าจะให้ข้าแก้แค้นด้วยตัวเองหรือเจ้าคะ”
“ข้ากลัวว่าพวกเขาจะทำให้มือของเจ้าสกปรก” น้ำเสียงของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงเต็มไปด้วยความเอาอกเอาใจ และสีหน้าของเขาก็ราวกับคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงรัก
อวิ๋นชูเทียนมองใบหน้าหล่อเหลาของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงแล้วพูดว่า “ท่านพี่เนี่ยนเฟิง เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่ายิ่งข้ามองท่านเท่าไหร่ท่านยิ่งหล่อเหลามากขึ้นล่ะเจ้าคะ ท่านดูดีเหมือนท่านพ่อและท่านแม่เลยเจ้าค่ะ ข้ารักท่านพี่เนี่ยนเฟิงที่สุดเลย”
อวิ๋นชูเทียนได้รับอิทธิพลจากคนรอบตัว ทั้งอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวดูงดงามมาก และในเมื่อนางโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ นางจึงค่อนข้างเลือกมากเรื่องหน้าตา
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมนางถึงชอบท่านพี่เนี่ยนเฟิง...
ก็เพราะว่าเขาหล่อเหลามาก และนอกจากท่านพ่อท่านแม่ของนางแล้วก็ไม่มีใครเทียบได้
ใบหน้าหล่อเหลาของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงแดงก่ำ “เจ้ารอที่นี่อีกชั่วพริบตา อีกไม่นานข้าจะกลับมา” หลังจากที่เขาพูดจบ อวิ๋นเนี่ยนเฟิงก็จากไปทันที
…
“หน้าไม่อาย!”
สีหน้าของหวังเสวี่ยเหลียนเปลี่ยนไป นางไม่เคยคิดเลยว่าสตรีผู้นี้จะพูดอะไรเลวทรามแบบนี้และที่สำคัญที่สุดยังพูดต่อหน้าผู้ชายของนาง!
อวิ๋นเนี่ยนเฟิงออกไปไม่นานและก็เป็นจริงอย่างที่เขาพูด พริบตาเดียวเขากลับมาอยู่ข้างนาง สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยน และหลังจากที่เขากวาดสายตาเย็นชามองทุกคนตรงหน้าเขาแล้ว เขาก็เลื่อนสายตาไปมองอวิ๋นชูเทียน “พวกเขาก็แค่มดฝูงหนึ่ง ข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว”
สีหน้าของโอวหยางสวินเปลี่ยนไปทันทีขณะที่เขาตะโกนอย่างเคร่งเครียดว่า “เหตุใดผู้อาวุโสยังไม่มาที่นี่อีก” เขาไม่เชื่อแน่ว่าเด็กหนุ่มที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้จะสามารถเอาชนะผู้อาวุโสทั้งหลายได้
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”
องครักษ์ที่ก่อนหน้านี้เข้ามารายงานก็รีบเดินเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาตัวสั่นและสีหน้าก็แสดงออกถึงความกลัว “ฝ่าบาท ผู้อาาวุโสเหล่านี้…ตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ตูม!
โอวหยางสวินตะลึงงันราวกับมีฟ้าผ่าลงมา ทุคนภายในตำหนักก็หน้าซีดขณะที่มองอวิ๋นเนี่ยนเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัว
เป็นไปไม่ได้! เบื้องหลังของเด็กหนุ่มคนนี้คือใครกันแน่ เขา…มีพลังขนาดนี้ได้อย่างไร
อวิ๋นเนี่ยนเฟิง อวิ๋นลั่วเฟิง อวิ๋นเซียว!
การรวมกันของสามชื่อนี้ทำให้โอวหยางนึกถึงสิ่งที่นางพูดก่อนหน้านี้ และสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
อย่าบอกข้านะว่า…อวิ๋นชูเทียนไม่ได้โกหกตอนที่นางบอกว่าอวิ๋นเซียวเป็นบิดาของนาง
โอวหยางสวินยืนอย่างโง่งม และใบหน้าหล่อเหลาแต่ซีดเผือดของเขาก็มองอวิ๋นชูเทียนและอวิ๋นเนี่ยนเฟิง ริมฝีปากของเขาสั่นและเขาก็ทำเหมือนต้องการจะพูดบางอย่างแต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร
“นายน้อยเนี่ยนเฟิง”
นิ้วของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงลูบเส้นผมของอวิ๋นชูเทียนเบาๆ ตอนที่เสียงอ่อนโยนและน่าเอ็นดูดังขึ้นจากด้านข้าง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันขณะที่เหลือบมองหวังเสวี่ยเหลียนด้วยสายตาเย็นชา
“เจ้าอ้วน เป็นเจ้าอีกแล้วหรือ”
นิ้วของหวังเสวี่ยเหลียนกำแน่น นางหนักแค่ห้าสิบกิโลเท่านั้นเอง และมันเรียกว่าแค่อวบไม่ใช่อ้วน! แต่อวิ๋นเนี่ยนเฟิงกลับเรียกนางว่าเจ้าอ้วน!
นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “นายน้อยเนี่ยนเฟิง ข้าชื่อหวังเสวี่ยเหลียนเจ้าคะ”
“ท่านพี่เนี่ยนเฟิงเจ้าคะ” แขนผอมบางของอวิ๋นชูเทียนโอบรอบคอของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงขณะที่นางพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ “พูดตามตรง ข้าไม่เคยเห็นคนหน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อนเลย ท่านทำให้นางอับอายแบบนี้แต่นางก็ยังแกล้งทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ถึงแม้ว่าหวังเสวี่ยเหลียนจะหน้าหนา แต่ใบหน้าของก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อนางได้ยินอวิ๋นชูเทียนพูด ร่องรอยความเดือดดาลพาดผ่านดวงตาของนางขณะที่นางมองอวิ๋นชูเทียน…
ตอนที่ 2258 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (22)
“ท่านพี่เนี่ยนเฟิงเจ้าคะ สตรีผู้นั้นจ้องข้าเจ้าค่ะ” อวิ๋นชูเทียนฟ้องอย่างน่าสงสารขณะที่นางทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ
อย่าคิดว่านางไม่รู้ว่าสตรีผู้นั้นชื่นชอบท่านพี่เนี่ยนเฟิง และนางก็ไม่มีทางให้ใครก็ตามมีโอกาสได้มายืนระหว่างพวกเขา! ที่สำคัญกว่านั้นหวังเสวี่ยเหลียนยังเป็นน้องสาวของหวังเฮ่าเทียน ทั้งคู่เป็นคนไม่ซื่อแบบเดียวกัน!
“ข้าเปล่า!” หวังเสวี่ยเหลียนรีบถอนสายตาขณะที่นางแสดงสีหน้าโศกเศร้า “นายน้อยเนี่ยนเฟิง ความสัมพันธ์ของนางกับพี่ชายของข้ายังไม่ชัดเจน ท่านไม่คิดว่านางแปดเปื้อนหรือเจ้าคะ”
สายตาของอวิ๋นชูเทียนเป็นประกายเย็นชา นางก็เดินไปหาหวังเสวี่ยเหลียนด้วยรอยยิ้มน่ารัก หลังจากนั้นก็ตบหน้าหวังเสวี่ยเหลียน
หวังเสวี่ยเหลียนเบิกตากว้างด้วยความตะลึงแล้วพูดว่า “เจ้า…”
สิ่งที่นางพูดเป็นความจริง แต่สตรีผู้นี้กล้าตีนาง!
“ข้าไม่แค่จะตบเจ้า ข้าจะเตะเจ้าด้วย!” อวิ๋นชูเทียนเตะเข้าที่หน้าอกของหวังเสวี่ยเหลียนแล้วกระทืบนางลงกับพื้น จากนั้นนางก็เชิดหน้าขึ้นและพูดว่า “ในที่สุดข้าก็รู้ว่าเหตุใดท่านแม่ถึงชอบเตะคนมากนัก…”
“แค่กๆ!”
หวังเสวี่ยเหลียนกระอักเลือดออกมาขณะที่นางหันไปหาอวิ๋นเนี่ยนเฟิงด้วยสีหน้าดูไม่ได้ “นายน้อยเนี่ยนเฟิง ท่านจะไม่ตรวจสอบนางหน่อยหรือเจ้าคะ”
ยิ่งไปกว่านั้นนางก็พูดเพื่อตัวเขาทั้งนั้นไม่ใช่หรือ
“ต่อให้เจ้ามองท่านพี่เนี่ยนเฟิงไปก็เปล่าประโยชน์ เขายินดีเอาใจและรักข้า ดังนั้นข้าจะทำอะไรก็ได้ที่ข้าอยากทำ! ในเมื่อเจ้าพูดไม่ดีถึงข้า ข้าก็จะตีเจ้าคืน!”
นางถูกตามใจมาตลอด ดังนั้นนางก็มีสิทธิ์ที่จะทำตัวไร้เหตุผล
“พอได้แล้ว!” สีหน้าของโอวหยางสวินกลับมาเป็นปกติและเขาก็ตะโกนอย่างเย็นชาว่า “อวิ๋นชูเทียนอย่าลืมว่าอาจารย์ของเยว่เอ๋อร์คืออวิ๋นลั่วเฟิงหนึ่งในเซียนที่แท้จริงของแคว้นนี้ เจ้าคิดว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไม่อะไรหลังจากที่เด็กผู้ชายคนนั้นเอาชนะผู้อาวุโสของนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์งั้นหรือ เมื่อเยว่เอ๋อร์พาอาจารย์ของนางมา ข้าก็อยากเห็นนักว่าเจ้าจะทำตัวโอหังอย่างไร!”
สีหน้าของโอวหยางเยว่ซีดเผือด แม้แต่หัวใจของนางสั่นสะท้าน แต่ตอนนี้นางไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกภายในได้
“เจ้ามั่นใจว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นคนให้หนังสือเล่มนี้กับเจ้าใช่หรือไม่” อวิ๋นชูเทียนหันไปมองโอวหยางเยว่พร้อมรอยยิ้มเย็น “ข้าจะให้โอกาสเจ้าพูดความจริงอีกครั้ง”
โอวยางเยว่กัดริมฝีปาก “ใช่แล้ว”
นางไม่มีทางยอมรับว่าในอดีตอวิ๋นชูเทียนเป็นคนมอบหนังสือเล่มนี้ให้นาง ปัญหาก็คือยังมีคำถามอีกสองสามข้อในหนังสือเล่มนี้ที่นางไม่เข้าใจ นางจึงทิ้งหนังสือเอาไว้ ตามจริงแล้วนางควรซ่อนมันไว้อย่างดีแล้วคนเลวผู้นี้หาเจอได้อย่างไร
อวิ๋นชูเทียนหัวเราะ รอยยิ้มของนางน่ารักและสดใสมาก ดวงตาคู่นั้นของนางโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวดูมีชีวิตชีวายิ่ง
“ถ้าอาจารย์ของเจ้าเป็นคนอื่น ข้าก็คงมีปัญหาในการหาที่อยู่เขา แต่คนที่เจ้ากำลังพูดถึงตอนนี้…อีกไม่นานเจ้าก็จะได้พบนาง”
ดวงตาของโอวหยางเยว่เบิกกว้าง
นางหมายความว่าอย่างไร
เหตุใดอีกไม่นานนางถึงจะได้เจออีกฝ่าย
ตอนที่ทุกคนกำลังตะลึง เสียงคำรามของมังกรก็ดังขึ้นจากท้องฟ้า เสียงคำรามจนสวรรค์สั่นสะเทือนทำเอาประชาชนทุกคนออกมาจากบ้าน
สีหน้าของโอวหยางสวินซีดเผือด ดวงตาของเขาฉายแววหวาดกลัวขณะที่เขาวิ่งออกจากตำหนักอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าโอวหยางสวินออกไปแล้ว ทุกคนก็วิ่งตามกันออกไป เมื่อพวกเขามังกรสีขาวขนาดมหึมาบนท้องฟ้าดวงตาของพวกเขาก็ฉายความกลัว
“เป็นมังกรตัวนั้น!” โอวหยางสวินจำได้ทันทีที่เห็นเพียงครั้งเดียวว่าเป็นมังกรตัวเดียวกับที่พาอวิ๋นชูเทียนไปเมื่อตอนนั้น เขาจำได้ว่าเมื่อตอนนั้นมีสตรีในชุดสีขาวคนหนึ่งบนหลังมังกรส่วนใบหน้าของนางดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยหมอก และเขาก็ยุ่งอยู่กับการวิ่งหนี เขาจึงไม่เห็นใบหน้าของนาง
มังกรสีขาวบินรอบๆ ท้องฟ้าขณะที่แสงสีขาวบนตัวเขาสว่างเจิดจ้าบนท้องฟ้ายามค่ำคืน