บทที่ 1602 - ดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋อันทรงพลังของชายชราแห่งตระกุลนั่ว การต่อสู้ที่ดุเดือด

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1602 – ดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋อันทรงพลังของชายชราแห่งตระกุลนั่ว การต่อสู้ที่ดุเดือด

 

เมื่อชิงสุ่ยได้ยินเสียงนี้ความยินดีที่จะได้รับชัยชนะก็หายไปจากใจของเขาทันที เสียงนี้ช่างกดดันจนเกินกว่าเขาจะรับไหม ชิงสุ่ยไม่อาจรับรู้ได้ถึงพลังที่แท้จริงของเจ้าของเสียงนี้ได้เลย

 

จิตวิญาณของเลิงหมิงดูเหมือนจะล่องลอยไปทันที ในตอนนี้ชิงสุ่ยคิดว่านี่อาจจะเป็นจุดจบสําหรับเลิงหมิง หากเป็นในยามปกติเขาย่อมสามารถรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้แต่ในตอนนี้วิหคอัสนีได้สูญสลายไปแล้วผู้สืบทอดทรดกแห่งเทพอสูรอินทรีย์อัสนีนั้นลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน

 

ชิงสุ่ยกําลังตใจในตอนนี้ เขากลัวว่าพลังของศัตรูในตอนนี้จะอยู่ในระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เขาหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น มิฉะนั้นมันจะต้องเป็นปัญหาสําหรับเขาอย่างแน่นอน

 

ทันใดนั้นบริเวณโดยรอบของพวกเขาก็เข้าสู่ความเงียบจนรู้สึกกดดัน ชิงสุ่ยยืนอยู่กลางอากาศและสงบจิตใจ เขากําลังรอคอยสําหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป นี่น่าจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เขาต้องเจอในตอนนี้

 

ในพริบตานั้นก็มีคนๆหนึ่งปรากฏตัวอยู่ไม่ไกลจากชิงสุ่ย เขาดูสูงและทรงพลัง เป็นผู้ฝึกยุทธที่ดูมีอายุแต่ก็ไม่ถึงกับแก่ชรา

 

เพียงมองแค่ครั้งเดียวชิงสุ่ยก็แน่ใจได้ว่าเขาต้องมาจากตระกุลนั่ว ชิงสุ่ยไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจอกับคนของตระกุลนั่วอีก ก่อนหน้านี้เด็กปีศาจตระกุลนั่วก็ได้เป็นผู้สืบทอดแห่งจอมอสูร ใครจะคิดกันว่าตระกุลนั่วจะมีผู้ที่ทรงพลังอีก ดูเหมือนว่าตระกุลนั่วจะเป็นตระกูลที่เป็นผู้สืบทอดของจอมอสูร

 

แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะมีผู้สืบทอดถึง 2 คนแต่ก็ยากยิ่งนักที่จะเป็นเช่นนั้นได้ แต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าตระกุลนั่วนั้นมีผู้สืบทอดแห่งจอมอสูรถึง 2 คน ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะเมตตาต่อตระกุลนั่วอย่างมาก

 

ชิงสุ่ยนึกถึงความเย่อหยิ่งของตระกุลนั่วนั่นก็เพราะพวกเขาสามารถทําเช่นนั้นได้ พวกเขานั้นน่ารังเกียจแม้ว่าจะแข็งแกร่งก็ตาม ชิงสุ่ยนึกถึงคําพูดที่คอยย้ําเตือนเขาอีกครั้งในตอนนี้ ผู้ปกครองของตระกุลนั่วได้ช่วยเหลือหอคอยจักรพรรดิเพื่อเหล่าทายาทของพวกเขาเอง

 

เขารู้สึกว่ามันคงสําเร็จไม่ง่ายในตอนนี้ บางทีมันอาจไม่มีทางสําเร็จแต่ชิงสุ่ยก็ยังไม่ยอมแพ้ ความจริงที่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าเขาไม่ใช่สิ่งที่เกินความคาดหมาย นอกจากนี้เขาเองก็คงไม่แพ้ง่ายๆ

 

ชายที่สูงตระหง่านตรงหน้านั้นยิ่งใหญ่ราวกับขุนเขา กลับกันกลิ่นอายของเขานั้นดูธรรมดาราวกับคนธรรมดา นี่เป็นสาเหตุที่ไม่รู้ว่าพลังของเขานั้นลึกสุดหยั่งเพียงใด

 

“เจ้าหนุ่ม เจ้าทําให้ข้าประหลาดใจยิ่งนัก ข้าเองก็เข้าใจในความเป็นอัจฉริยะของเจ้าเพราะหลายๆคนในตระกูลของข้าก็เป็นแบบเดียวกับเจ้า แต่เมื่อเทียบกันแล้วเจ้าเป็นเหมือนนิ่งห้อยที่อยู่ต่อหน้าดวงตะวันในตอนนี้” คําพูดของเขาดูจริงใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน

 

“พลังของท่านอาจจะมากกว่าข้าง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะไปถึงระดับเดียวกับท่านได้หรือไม่” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม

 

“ก็อาจจะเป็นไปได้ น่าเสียดายที่เจ้าปฏิเสธโอกาสของตนเองไปแล้ว พวกเราอาจจะไม่ใช่ศัตรูกันก็ได้แต่ในตอนนี้เราหลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้ไม่ได้แล้ว” ชายคนนั้นถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวออกมา

 

“นั่นก็ใช่ ท่านเสียใจกับชะตากรรมเช่นนี้หรือไม่?” ชิงสุ่ยยังคงยิ้มขณะที่เขาถามขึ้น

 

“บางทีก็อาจขึ้นอยู่กับผลที่เกิดขึ้น ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วเจ้าเสียใจหรือไม่?” ชายชรายิ้มแล้วมองมายังชิงสุ่ย

 

” ช่างน่าประหลาดใจจริงๆกับพลังของท่าน ข้าสงสัยว่าท่านอยู่มานานมากเพียงใดกัน” ชิงสุ่ยถามขึ้นแต่เขารู้ว่าคงไม่ได้คําตอบง่ายๆ

 

แต่สําหรับความสงสัยของชิงสุ่ย ชายคนนั้นยิ้มและส่ายศีรษะ “เจ้าสามารถอาละวาดได้อย่างเต็มที่หากเจ้าเอาชนะข้าได้ มีผู้สืบทอดที่แข็งแกร่งหลายคนที่นี่ แต่ข้าคิดว่ามันยากที่จะหาพวกเขาในมหาทวีปอุดรเทวา นอกจากนี้พวกเขายังกลัวที่จะโดนกําจัดถ้าหากเรื่องของตนเองนั้นเล็ดลอดออกไป”

 

ชิงสุ่ยยอมรับในมุมมองของชายผู้นี้ บางทีอาจจะเหมือนกับที่เขาพูดความจริงแล้วชิงสุ่ยรู้สึกว่าโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้นก็สูง เพราะยากยิ่งนักที่เสือ 2 ตัวจะยอมอยู่ในถ้ําเดียวกันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องซ่อนตัวในส่วนลึกของมหาทวีปอุดรเทวา

 

“ข้าจะทําให้ดีที่สุด เชิญท่านลงมือก่อนเลย ท่านผู้อาวุโส!” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“เจ้าเริ่มเลย แสดงสิ่งที่เจ้ามั่นใจที่สุดออกมา จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง” ชายชราตอบกลับมาเบาๆ

 

“ได้เลย!”

 

ด้วยเหตุนี้ชิงสุ่ยจึงโคจรพลังของเขาไปยังจุดสูงสุด เพราะเขาไม่อาจทราบได้ถึงพลังของชายผู้นี้จึงต้องทุ่มสุดตัว มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทําให้เขาปลอดภัย

 

แค่นั้นยังไม่พอ เคล็ดวิชาล่าสังหารและปราณจักรพรรดิของชิงสุ่ยนั้นสามารถลดความเร็วของศัตรูลงได้ ชายชรายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนแต่เมื่อเขาโจมตีคิ้วสีขาวราวหิมะของเขาก็ยกขึ้น ดวงตาของเขาจ้องมาที่ดวงตาของชิงสุ่ยทําให้รู้สึกกดดันอย่างยิ่ง

 

ชิงสุ่ยเรียกอสูรนรกรัตติกาลและหุบเขา 9 เทวาออกมา!

 

กฎแห่งพระราชวังเก้าเทวา!

 

เมื่อทุกอย่างพร้อมชิงสุ่ยก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ เขาไม่รู้ว่าชายชราผู้นี้จะฉวยโอกาสโจมตีมาเมื่อใดจึงต้องพยายามทําทุกอย่างให้ดีที่สุด

 

ตราประทับชวนเทียน!

 

ไม่ได้ผล!

 

นี่ก็เป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยคาดคิดเอาไว้แล้วและดังนั้นเขาจึงไม่ได้ผิดหวังแต่อย่างใด จากนั้นเขาก็กําง้าวทองทะลวงศัตรูเอาไว้แน่นและพุ่งเข้าไปปะทะกับศัตรู

 

ทักษะ 9 รากฐานบรรพกาลศึก!

 

มังกรทะยาน!

 

จ้าวทองทะลวงศัตรูพุ่งทะลวงไปยังชายผู้นี้ราวกับมังกรทองตัวใหญ่ การโจมตีครั้งแรกของชิงสุ่ยได้ระเบิดออกมาแล้วและยังหลอกล่อให้ศัตรูแสดงพลังของตนเองออกมาเพื่อเป็นการทดสอบพลังของชายผู้นี้ เขาได้โจมตีออกไปแต่ก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้แล้วเพื่อเป็นการไม่ประมาท

 

กระบองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในมือของชายผู้นั้นและฟาดตรงเข้ามาที่ชิงสุ่ย

 

การโจมตีครั้งนี้อาจจะดูธรรมดาอย่างยิ่งแต่ทุกสิ่งโดยรอบกับสั่นสะเทือนไป เพราะการโจมตีครั้งนี้ ให้ความรู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวกําลังพังทลายไป

 

ปัง!

 

ชิงสุ่ยกระเด็นไปเพราะแรงปะทะในครั้งนี้ อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บแต่เขาก็ยังสามารถรักษามันเอาไว้ได้ นี่ทําให้เขาประหลาดใจอย่างยิ่ง ชายผู้นี้ช่างมีดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋าที่ทรงพลังอย่างแท้จริง

 

ชิงสุ่ยเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋แต่มันก็มีความแตกต่างอย่างมากกับศัตรูของเขาในตอนนี้ ในตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าชายผู้นี้อยู่ในจุดสูงสุดของระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ อีกก้าวเดียวเขาก็จะก้าวเข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

 

แต่ก้าวเดียวนั้นเปรียบเสมือนระยะห่างระหว่างสวรรค์และโลก การจะก้าวขึ้นไปได้นั้นยากยิ่งนัก แม้ว่าชายชราจะทรงพลังกว่าชิงสุ่ยมาก แต่ก็ยังไปไม่ถึงระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋าของชายผู้นี้อยู่ในระดับเดียวกันกับชิงสุ่ย พลังของเขาย่อมลดลงไปอย่างมาก

 

ดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋านั้นเป็นเกณฑ์สําคัญในการยกระดับจากระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจไปยังระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้กลับมาสงบอีกครั้งนี้ไม่ใช่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของชายชราแต่ก็พอที่จะทําให้เขารู้สึกประหลาดใจได้ ดูเหมือนว่ามันจะยากสําหรับเขาที่จะเอาชนะชายผู้นี้

 

โลหิตและพลังปราณของเขากําลังพุ่งพล่านแต่ความสามารถในการฟื้นฟูตนเองของชิงชุ่ยนั้นก็ถือว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง เพียงช่วงเวลาสั้นๆเขาก็กลับมาเป็นปกติ ในตอนนี้ชิงสุ่ยผสมผสานเพลงหมัดไทเก๊กกลับกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตเอาไว้ด้วยกัน

 

ชิงสุ่ยกระเด็นไปอีกครั้งแต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆในตอนนี้ อสูรสยบมังกรกระโจมตีออกไป ข้างๆชิงสุ่ยแต่มันไม่สามารถเข้าใกล้ชายผู้นี้ได้เลย

 

อสูรนรกรัตติกาลนั้นมีพลังป้องกันที่มากมายแต่ก็ยังต้องกระเด็นกลับมาเพราะการโจมตีของชายผู้นี้ ด้วยเหตุนี้ชิงสุ่ยจึงสามารถบอกได้ว่าชายผู้นี้ทรงพลังอย่างยิ่ง

 

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าในตอนนี้จิตใจของเขานั้นว้าวุ่นจนเกินไปและรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

 

ฝนที่ตกลงมาในตอนนี้ทําให้ชิงสุ่ยเริ่มกลับมาสงบอีกครั้งและได้เข้าสู่รูปแบบการต่อสู้ของตนเอง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทําให้ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขากําลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

 

ชิงสุ่ยรู้ถึงประโยชน์ของการต่อสู้โดยเฉพาะการต่อสู้ที่แท้จริง การฝึกฝนจะไม่สามารถให้ผลลัพธ์เช่นนี้ได้ ชิงสุ่ยเปิดใช้งานการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขา เขาไม่กล้าเรียกอสูรอัสนีคลั่งออกแมาเพราะไม่รู้ว่ามันจะตายจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของชายชราหรือไม่

 

นี้ไม่เหมือนกับเลิงหมิงที่ชิงสุ่ยยังสามารถป้องกันหรือรับมือได้ เขาต้องใช้เพียงพลังของตนเองต่อสู้ไปเรื่อยๆ และในตอนนี้เขาสามารถป้องกันได้เพียงตนเองเท่านั้น

 

กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวาได้ลดพลังของชายชราไปอย่างมาก กฎแห่งพระราชวังเก้าเทวานั้นสามารถลดพลังของศัตรูลงไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ศัตรูยังอยู่ในระยะทําการและแม้แต่พลังภายในร่างกายก็จะถูกกลืนกินไปเรื่อยๆ แต่ด้วยพลังของชายชราอัตราของพลังที่ลดลงไปนั้นถือว่าน้อยยิ่งนัก

 

ย่างก้าวดาวตก!

 

พฤกษาแห่งพิษ

 

ชิงสุ่ยใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีตั้งแต่อาวุธลับจนถึงพิษ ถึงอย่างนั้นก็ส่งผลต่อชายชราเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เคล็ดวิชาล่าสังหารนั้นไม่สามารถต่อต้านได้แต่ชายชราย่อมมีป้ายตายที่ซ่อนเร้นเอาไว้อยู่ ความเร็วของเขาในตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก

 

ชายชรารู้สึกตกตะลึงจนพูดไม่ออก ความสามารถของชายหนุ่มผู้นี้ช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีใครที่จะสามารถลดพลังของศัตรูลงไปได้มากถึงเพียงนี้และแม้แต่พลังโจมตีของชิงสุ่ยเองนั้นก็ไม่ได้ถือว่าต้อยเลย

 

มรดกเทพอสูรพฤษภโลก!

 

ชายชราเริ่มบ้าคลั่งในขณะที่เขาปลดปล่อยทักษะสังหารไร้ปรานีของตนเองออกไป กระโปรงสีแดงในมือของเขานั้นเริ่มเปล่งแสงออกมาอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นมันก็ฟาดตรงมาที่ชิงสุ่ย แม้ว่าความเร็วของชายผู้นี้จะถูกลดลงไปแล้วแต่ชิงสุ่ยก็ตระหนักได้ว่ามันสายไปแล้วที่เขาจะหลบการโจมตีครั้งนี้

 

หุบเขา 9 เทวา!

 

ปัง!

 

หุบเขา 9 เทวากระเด็นไปจากการโจมตีครั้งนี้แต่ดูเหมือนว่าพลังของกระบองนั้นจะหายไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและมันยังคงพุ่งเข้ามาหาร่างกายของชิงสุ่ย

 

ผัวะ!

 

แสงสีทองบนร่างกายของชิงสุ่ยไม่ได้ปรากฏขึ้นแต่มันก็ยังสร้างความเสียหายต่ออวัย วะภายในของเขาได้ ชิงสุ่ยอ้วกออกมาแต่มันก็ทําให้เขารู้สึกดีขึ้นจากอาการอึดอัดท้อง มันทําให้เขาดูบาดเจ็บหนักแต่จริงๆแล้วเขานั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย หากเขาบาดเจ็บหนักจริงๆแสงสีทองบนร่างกายของเขาก็คงปรากฏขึ้นแล้ว

 

ผลของหุบเขา 9 เทวานั้นสามารถลดพลังที่เข้ามาลงไปได้มากแม้ว่ามันจะกระเด็นไปก็ตาม มิฉะนั้นการโจมตีครั้งนี้ย่อมทําให้เกราะทองคําวชิระของชิงสุ่ยนั้นเปิดใช้งานขึ้นมา

 

ชายชราถอนหายใจออกมา นี่คือทักษะสังหารไร้ปรานีของเขาซึ่งเขาควรจะทําให้ชิงสุ่ยนั้นตาย ลงไปจากการโจมตีครั้งนี้

 

เขารู้ดีว่าตนเองไม่สามารถไว้ชีวิตชายหนุ่มคนนี้เอาไว้ได้แม้ว่าตัวเขาเองจะชื่นชอบมากเพียงใดก็ตาม ความตายเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้นและตอนนี้เขาก็ได้วางแผนการใช้ทั้งหมดแล้วและต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

 

โดยไม่รอให้ชิงสุ่ยได้พักหายใจ ชายชราก็พุ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้ง

 

ผู้ขนของหอคอยจักรพรรดิกําลังเฝ้ามองด้วยความกังวล แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อมั่นในตัวชิงสุ่ย แต่สิ่งที่ได้เห็นนั้นไม่อาจทําให้พวกเขารู้สึกวางใจได้เลย ในตอนนี้การต่อสู้เริ่มขึ้นอีกครั้ง