ตอนที่ 367 โตเช่นนี้แล้วยังห่างภรรยาไม่ได้อีก
เฝิงเยี่ยไป๋พูดเหน็บแนมว่า “ฮ่องเต้ไม่ได้โง่เสียหน่อย พระองค์เป็นผู้สูงส่ง หรือจะให้พระองค์ไปถูกด่าหรือ”
ที่จริงแล้วไปเยี่ยมเยือนแทนฮ่องเต้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร บนปากประชาชนด่าเขาอยู่ แต่ที่จริงแล้วที่แค้นอยู่ในใจคือฮ่องเต้ เพียงแต่หากไปเมืองหมอง นั่นเป็นถิ่นของซู่อ๋อง นี่ไม่ใช่ว่าส่งเขาไปเป็นเป้าหรือ
ไทเฮาร้อนรนขึ้นมา ไฉนถึงเป็นเช่นนี้ได้
เว่ยหมิ่นส่งสายตาให้เฝิงเยี่ยไป๋ ฉวยโอกาสนี้ รีบลากลับไปเสียเถิด! เฝิงเยี่ยไป๋ก็ดึงเขา ไม่ต้องดื้อดึงแล้ว ทะเลาะกับไทเฮาแล้วเขาได้ประโยชน์อันใดหรือ นั่นเป็นแม่แท้ๆ ของเขา ทำเอาแม่แท้ๆ โกรธจนเป็นอะไร ไม่เชื่อว่าเขาจะไม่เสียใจ
คำเตือนที่อยู่ในปากของเฝิงเยี่ยไป๋สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา เขาประสานมือให้ไทเฮา “หากไทเฮาไม่มีเรื่องใดล่ะก็ เช่นนั้นข้าขอลาก่อน ราชโองการที่ฮ่องเต้ตรัสสั่งตอนนี้ก็ต้องเริ่มเตรียมการแล้ว”
ไทเฮามองเขาด้วยอาการเหม่อลอยอยู่นาน ปล่อยวางความคิดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ แล้วพูดออกมาอีกว่า “ที่เจ้าไปครั้งนี้ คงจะใช้เวลากว่าครึ่งเดือน เจ้าให้ภรรยาของเจ้าอยู่บ้านคนเดียวเจ้าวางใจได้หรือ อย่างอื่นยังไม่ต้องพูดถึง ช่วงเวลาที่เจ้าไปนั้น อย่างน้อยก็ให้ภรรยาเจ้าอยู่ที่ข้านี้ มีข้าดูแลนาง เช่นนี้เจ้าก็วางใจได้กระมัง!”
เรื่องในราชสำนักนางแทรกไม่ได้ เพียงแต่การทำให้เขาหายกังวลเรื่องคนรักของเขานางยังสามารถทำได้อยู่ ไทเฮาคิดว่าตัวเองได้ถอยให้มากที่สุดแล้ว มองกลับไปที่เฝิงเยี่ยไป๋ บนหน้ายังคงเย็นชา ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นเดียว อยากจะเดาว่าเขาคิดอะไรอยู่ก็ยังคงยากเย็นนัก
นางหันศีรษะมองไปที่เฉินยางอีกครั้ง “สามีเจ้าไม่พูดอะไร เช่นนั้นความเห็นของเจ้าล่ะ”
ความเห็นของนาง พอมีเรื่องที่ลำบากทั้งสองฝ่ายและต้องผิดใจกับใคร ไทเฮาก็โยนเรื่องนี้ไปให้นาง สายตาหลายคู่หันมามองนางทันที มองจนนางรู้สึกหวาดกลัว
“ความเห็นของข้า…” นางคิดอยู่เล็กน้อย นางแบมือที่กำชายเสื้อเฝิงเยี่ยไป๋จนยับ พูดออกมาอย่างแน่วแน่ว่า “ท่านพี่ไปที่ใดข้าก็จะไปที่นั่น เขาจะไปเมืองหมอง เช่นนั้นข้าก็จะตามเขาไป”
เจ้าเด็กดี ความเยือกเย็นบนหน้าเฝิงเยี่ยไป๋ค่อยๆ คลายลง ตอนแรกยังคิดว่านางเป็นน้ำแข็งที่ไม่ละลาย พอมาดูตอนนี้ ไม่ใช่ว่าละลายแล้วหรือ สามีว่าเช่นไรภรรยาก็ว่าตาม เรื่องที่เขาฝันนั้น วันนี้ก็ได้เป็นจริงเสียทีแล้ว
ไทเฮาได้ยินก็ค้านขึ้นมาทันที “ใช้ไม่ได้! มีผู้ชายคนใดไปที่ใดพาภรรยาไปด้วยตลอด อีกอย่างเจ้ายังตั้งครรภ์อยู่ อย่าได้สร้างความลำบากให้สามีเจ้านัก สามีเจ้าไปทำงาน ไม่ใช่ไปเที่ยวเสียหน่อย หากเจ้าตามไปคนอื่นจะมองอย่างไร บอกว่าเขาโตเช่นนี้แล้วยังห่างจากภรรยาไม่ได้อีกหรือ”
เว่ยหมิ่นเข้าไปจูงมือนาง “เจ้าตั้งครรภ์อยู่ ยังเป็นคนแรกเสียอีก เพิ่งจะเดือนเศษ เป็นช่วงเวลาที่ยังไม่แน่นอนนักเลย ที่นั่นคนเร่ร่อนมีมากนัก แต่ละคนล้วนหิวโหย มีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง หากเจ้าไปแล้วเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไรดี”
เฉินยางพลิกมือตบไปที่หลังมือเว่ยหมิ่นเบาๆ หันศีรษะมองไปที่เฝิงเยี่ยไป๋ แล้วเรียนแบบน้ำเสียงของไทเฮาถามเขาว่า “ความเห็นของท่านพี่ล่ะ ข้าเชื่อฟังท่านี่ ท่านให้ข้าไป ข้าก็จะไป”
ไทเฮาบอกว่าเขาโตเช่นนี้แล้วยังห่างจากภรรยาไม่ได้นั้น ที่จริงแล้วก็ไม่ได้พูดผิดนัก เขาก็คือห่างจากภรรยาไม่ได้ แทบอยากจะพาไปด้วยทุกที่ เฉินยางพูดเช่นนี้ช่างตรงใจเขายิ่งนัก ฟังแล้วก็รู้สึกอบอุ่นในใจเขา ไปครั้งนี้ไม่ได้เจอนางสิบหลายวัน บอกไม่คิดถึงก็โกหกเสียแล้ว เพียงแต่หากพานางไปแล้วเกิดอะไรขึ้นมา ทำเอานางบาดเจ็บ ก็คงเสียใจไม่น้อย
——
ตอนที่ 368 กล้าพาภรรยาโดดเข้ากองไฟ
ไทเฮาคิดว่าเฝิงเยี่ยไป๋รักภรรยาเช่นนี้จะต้องไม่เห็นด้วยที่จะให้เฉินยางไปด้วยกัน ผู้ชายตระกูลเฝิงของพวกเขาล้วนเป็นเช่นนี้ ตั้งแต่รุ่นปู่นั้นก็ติดภรรยานัก อยู่ข้างนอกเป็นเขาที่เป็นใหญ่ อยู่ในบ้านเป็นภรรยาที่เป็นใหญ่ พูดถึงพ่อของเขาก็ยิ่งเสียกว่าอีก เป็นถึงผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระนคร ไปที่ใดมีแต่คนโค้งคำนับเอาใจ แขวนดาบไว้ที่เอว พูดสิ่งใดก็ไม่มีใครกล้าขัด เพียงแต่กลับบ้านแล้วก็ยังคงล้างเท้าให้ภรรยาไม่ใช่หรือ
ตระกูลเขารักภรรยาสืบกันมารุ่นต่อรุ่น ฝั่งเมืองหมองนั้นมีคนเร่ร่อนมากมายนัก มือสีดำนั้นใครจะรู้ว่ามีสิ่งสกปรกอันใด ดึงกระชากบนตัวเจ้าเมืองดั่งผีที่หิวโหย คำโบราณว่ากระต่ายร้อนรนขึ้นมายังกระโดดกำแพงได้ [1] ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่หิวจนแทบคลั่ง ทั้งปล้นจี้ขโมย ทำได้ทุกเรื่อง เฝิงเยี่ยไป๋จะเห็นด้วยที่จะพานางไปได้อย่างไร
ไทเฮาจิบชาช้าๆ แล้วได้ยินเขาถามว่า “พวกเราไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปอย่างลำบาก กินไม่ดีนอนไม่อิ่ม ยังต้องระวังคนเหล่านั้นมาแย่งหมั่นโถว ถุงเงินที่อยู่ในมือของเจ้า… ข้าเห็นแก่ตัวนัก อยากจะให้เจ้ารออยู่ที่บ้านดีๆ เพียงแต่ก็อยากจะเห็นเจ้าอยู่ตลอดเวลา เจ้าคิดดีแล้วค่อยบอกข้า เจ้าอยากจะตามข้าไปจริงหรือ”
เฉินยางแกล้งเม้นปากคิด สีหน้าเคร่งเครียดนัก ทำเอาเฝิงเยี่ยไป๋ก็กังวลขึ้นมา กำลังจะบอกไม่ต้องแล้ว ก็ได้ยินนางพูดอย่างหนักแน่นว่า “ข้าอยากตามท่านไป ไม่ว่าท่านจะให้ข้าไปหรือไม่ ข้าก็อยากจะตามท่านไป”
นางนวดไปที่ท้อง ยิ้มอย่างอบอุ่นว่า “ท่านก็พูดแล้วไม่ใช่หรือ เขายังตัวเล็กอยู่เลย ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง อะไรก็ยังไม่รู้เรื่อง ก็เพียงแค่ลำบากไม่กี่วัน จะยังทำเอากระดูกแตกสลายได้หรือ ข้าไม่ได้อ่อนแอเช่นนั้นนัก เขาก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นนั้น อย่างไรเสียก็ไม่มีสิ่งที่ที่สำคัญกว่าการที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันแล้ว”
ตั้งแต่ที่นางท้อง ความห้าวหาญที่ยังเป็นวัยเด็กบนตัวนั้นก็ค่อยๆ หายไป เริ่มรู้เรื่องมากขึ้น ทั้งคนให้ความรู้สึกกับเขาเหมือนดั่งหยกที่อบอุ่น กอดเอาไว้สามารถทำให้นางอบอุ่นได้ ยิ่งอยู่ข้างกายยิ่งนานก็ยิ่งรู้เรื่องมากขึ้น
นางก็เหมือนดั่งหยกที่ติดอยู่หัวใจของเขา สุดท้ายก็ไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียวอีกแล้ว ความพยายามในช่วงเวลานี้ไม่ได้เสียเปล่า คำพูดของนางประโยชน์เดี๋ยวนี้มากยิ่งกว่าคำหวานซึ้งใดๆ ช่างทำเอาเขาดีใจเหลือเกิน
ไทเฮายังคิดจะดุนางว่าไม่รู้เรื่อง เฝิงเยี่ยไป๋กลับขวางอยู่ตรงหน้านางแล้วอ้าปากก่อน “ตามข้าไปกลัวหรือไม่”
“ไม่กลัว! ท่านพูดไว้แล้วไม่ใช่หรือ มีท่านอยู่ข้าจะทำสิ่งใดก็ได้ ฟ้าถล่มลงมาก็มีท่าน ข้ายังมีสิ่งใดต้องกลัวอีกหรือ!”
เฝิงเยี่ยไป๋ดึงมือนางเข้ามาจูบ “ภรรยาแสนดี สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของข้า เจ้าวางใจได้ ในเมื่อเจ้าตามข้าไปแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้ามีสิ่งใดเกิดขึ้นไม่ได้ คืนนี้กลับไปเก็บของ พรุ่งนี้พวกเราก็ไปด้วยกันเลย”
เว่ยหมิ่นอึ้งอยู่กับที่ “เจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไร คนที่อยู่ที่นั่นเป็นอย่างไร เจ้าพานางไป หากมีสิ่งใดที่ดูแลไม่ถึง นางเกิดเรื่องขึ้นมา เจ้าจะทำอย่างไร”
ไทเฮาก็รู้สึกว่าลูกชายของนางนี้บ้าไปเสียแล้ว นางส่ายหน้าไม่หยุด ทั้งจนใจและเจ็บปวด นางอ้าปาก เพียงแต่พอมองดูใบหน้าที่ดีใจของเขานั้น ก็พูดไม่ออกอีกแล้ว ทำเอานางเหม่อลอยย้อนนึกถึงวันที่นางเพิ่งแต่งงานใหม่ๆ เขากับพ่อของเขา แทบจะเป็นเหมือนกันเลย หากเชื่อมั่นใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็ไม่มีเหตุที่จะไม่สนใจหรือทำครึ่งๆ กลางๆ เหล่าผู้ชายรักผู้หญิงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่บรรพบุรุษของพวกเขานั้น มีเขาคนแรกที่กล้าพาภรรยาโดดเข้ากองไฟ
——
[1] กระต่ายร้อนรนขึ้นมายังกระโดดกำแพงได้ เป็นสำนวนจีน หมายถึงเมื่อร้อนรนหรือคับขันก็สามารถทำได้ทุกเรื่อง