ตอนที่ 681 กลยุทธ์ชายงาม

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น บทที่ 681 กลยุทธ์ชายงาม

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เฟิงไป่จั๋วจะระแวงเธอขนาดนั้น ยอมที่จะเสียเงินเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดคอยจับตาดูตัวเอง

เวลานี้ทำให้เสิ่นเจียวรู้ทันทีว่า เฟิงไป่จั๋วน่าจะคอยระแวงตัวเองตลอดเวลา

” หลายวันมานี้คุณแสร้งทำเป็นดีกับฉันขนาดนี้ คือใช้ฉันเป็นหมากตัวหนึ่ง หลอกใช้ฉันหรอ”

” เฮอ ใครจะไปรู้ละว่า ่ หมาก ่ อย่างคุณจะทำได้ลงคอ ถึงกับหักหลังผมโดยตรง

เฟิงไป่จั๋วยอมรับโดยตรงออกมา เสิ่นเจียวมองผู้ชายคนนี้ด้วยสายตาโหดร้าย เพียงชั่วขณะนั้นเธอเองก็มองไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้คิดอะไร

แต่เธอ เสิ่นเจียวก็ไม่ใช่แกะที่จะนั่งรอคนมาฆ่าง่ายๆ เธอคือเสิ่นเจียว คือคุณหนูใหญ่แห่งบ้านตระกูลเสิ่นนะ

เสิ่นเจียวกำหมัดแน่น เธอรู้สึกไม่ยินยอมที่จะถูกเฟิงไป่จั๋วหลอกใช้แบบนี้

” เฮอ คุณรอดูก็แล้วกัน”

เสิ่นเจียวกัดฟัน ในครั้งนี้ เธอตัดสินใจจะสู้สุดกำลัง

อีกด้านหนึ่ง ซูฉิงกำลังอยู่ในห้องทำงาน ผ่านไปไม่นาน ก็ได้รับสายมือถือจากเฟิงรั่วเหยียน

เห็นหน้าจอมือถือเขียนไว้ว่า ” เฟิงรั่วเหยียน” ซูฉิงรู้สึกไม่ยินยอม แต่ในที่สุดเธอก็รับสาย

” คุณหนูซู”

น้ำเสียงล้อเล่นของเฟิงรั่วเหยียนดังมาจากมือถือ ทำให้ซูฉิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

” พูดมา”

ซูฉิงรู้สึกเบื่อหน่าย พูดออกมาด้วยความสะอิดสะเอียน

” เฮ้ ไม่ต้องดุขนาดนี้ก็ได้”

ใครจะไปคาดคิดละว่าเฟิงรั่วเหยียนจะใช้ไม้เด็ดของตนอีก ถ้าไม่ใช่เพราะกังวลว่าเฟิงรั่วเหยียนจะทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายกับบริษัทซิงเฉินและกรุ๊ปตระกูลฮ่อแล้ว ซูฉิงก็ไม่อยากจะรับสายของเขาหรอก

” ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอวางสายนะ”

พูดจบ ซูฉิงก็จะวางสายทันที เสียงที่รีบเร่งของเฟิงรั่วเหยียนรีบตอบกลับมาทันที

” อย่าเพิ่งสิ”

เฟิงรั่วเหยียนรีบเหนี่ยวรั้งซูฉิงไว้ ” เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่น่ะ ออกมาทานข้าวด้วยกันไหม เดี๋ยวฉันเลี้ยง”

” ไม่มีอารมณ์จะทานข้าวกับคุณ”

ซูฉิงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ทางด้านเฟิงรั่วเหยียนยังคงไม่ตายใจ

” ถ้าคุณออกมาทานข้าวกับผม ผมจะบอกคุณเกี่ยวกับเฟิงไป่จั๋ว”

ซูฉิงยักคิ้ว เฟิงไป่จั๋วหรอ

” คุณรู้อะไรบ้าง”

” คุณออกมาก่อนถึงจะบอกให้”

คิดไม่ถึงเลยว่าเฟิงรั่วเหยียนจะใช้เหตุผลนี้นัดตัวเองออกมา เมื่อคิดถึงว่า ฮ่อหยุนเฉิงกำลังแข่งขันกับเฟิงไป่จั่วอยู่ ซูฉิงจึงทำได้แค่ตอบตกลง

เร็วมาก ซูฉิงสวมเสื้อคลุมตัวหนึ่ง แล้วก็รีบเดินทางไปตามที่หมายที่เฟิงรั่วเหยียนนัดไว้

ซูฉิงเพิ่งเดินทางมาถึงร้านอาหาร ก็เห็นในมือของเฟิงรั่วเหยียนถือช่อดอกไม้สดไว้ สวมชุดสูท ทำทรงผมด้วยสเปรย์ฉีดผม ทำให้ซูฉิงขนลุกไปทั้งตัว

เห็นภาพที่มันเลี่ยนคอแบบนี้ ทำให้ซูฉิงเข้าสู่ห้วงการคิดพินิจพิจารณา

เมื่อเทียบกับตัวเธอแล้ว เธอแต่งตัวสบายๆ กับแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหนึ่ง

ซูฉิงเดินไปตรงหน้าเฟิงรั่วเหยียนอย่างช้าๆ เห็นเพียงท่าทางที่ดูถูกของเฟิงรั่วเหยียน ” ทำไม จะมาเจอฉันถึงกับแต่งตัวแบบทำส่งๆ ละ”

” คุณบอกว่ามีเรื่องจะบอกฉันไม่ใช่หรอ แล้วทำไมถึงมีคนมามากขนาดนี้ละ”

ซูฉิงมองไปรอบๆ มีทั้งเด็กถือกระเช้าดอกไม้ มีวงดนตรี บนพื้นยังรวยไปด้วยกลีบดอกไม้

กับท่าทีที่ซูฉิงตอบสนอง เฟิงรั่วเหยียนถึงกับกุมขมับแบบทำอะไรไม่ถูก

” ผู้หญิงแบบคุณนี่นะ”

จากนั้น สีหน้าของเฟิงรั่วเหยียนก็กลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม เขายกช่อดอกไม้ในมือขึ้นมา คู่กับชุดสูททำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่มาดนิ่งขึ้น

“อืม”

ซูฉิงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เธอจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยกับการกระทำของเฟิงรั่วเหยียน

” คุณหนูซู ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้เจอคุณ คุณก็ได้เอาใจผมไปแล้ว”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซูฉิงก็คิดอยู่สักครู่ เท้าของเธอก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง สำหรับคำพูดของเฟิงรั่วเหยียนนั้นทำให้เธอไม่กล้าจะรับไว้

” ครั้งแรกที่พบคุณ ผมคิดว่าเราเกิดมาเพื่อเป็นคู่แข่งกัน แต่ต่อมาหลังจากที่ผมได้รู้จักคุณจริงๆ มันทำให้ผมรู้ได้ว่าอะไรคือความรัก”

ซูฉิงมองลงด้วยแววตาที่เยือกเย็น ฟังบทพูดที่ไม่ได้คุ้นหู ไม่รู้ว่าไปคัดลอกมาจากใครอีกที

” ต่อมา ผมได้นัดคุณออกมาเจอกันหลายครั้ง คุณปฏิเสธผมโดยตลอด ผมรู้ คุณชอบผมจริงๆ มันคือการเล่นตัว…”

คิดไม่ถึงเลยว่าเฟิงรั่วเหยียนยิ่งพูดยิ่งดราม่า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง ” แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ฉันหยุดรักคุณได้เลย ซูฉิง ช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอคุณ มันทำให้ผมว้าวุ่นใจ แต่เวลาเจอคุณ ผมกลับทำอะไรไม่ถูก”

ซูฉิงมองดูเฟิงรั่วเหยียนที่จัดทรงผมอย่างดี ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่รู้จะเอายังไงดีไปชั่วขณะหนึ่ง

วินาทีต่อมา เฟิงรั่วเหยียนก็ยื่นช่อดอกไม้ออกมา พร้อมกับคุกเข่าข้างเดียว มืออีกข้างก็ถือแหวนเพชรไว้ ” คุณหนูซู ผมรักคุณจนไม่สามารถออกจากความรู้สึกนี้ได้แล้ว คุณยินยอมจะแต่งงานกับผมไหม”

คำพูดนี้ออกมา วงดนตรีรอบๆ ก็บรรเลงทันที และเด็กถือกระเช้าดอกไม้ที่อยู่ข้างๆ ก็ปรบมือร้องด้วยความยินดี ” แต่งเลย แต่งเลย”

พูดพร้อมกับโปรยดอกไม้ลงบนตัวตัวทั้งสองฝ่าย

แต่อีกด้านหนึ่ง เพราะว่าไม่กี่วันมานี้ ฮ่อหยุนเฉิงกำลังต่อสู้กับเฟิงซื่อกรุ๊ป และตระกูลเสิ่นก็ร่วมด้วย จึงถูกตระกูลเสิ่นเชิญไปงานเลี้ยง

เขาก็ได้ตอบตกลง อีกอย่างศัตรูของศัตรูก็คือมิตร เขาเองก็ไม่อยากจะสร้างความบาดหมางกับใครเพิ่มขึ้นด้วย

ฮ่อหยุนเฉิงมาถึงห้องวีไอพี นั่งลง มองเห็นเสิ่นเจียวนั่งอยู่ใจกลางในห้องวีไอพีโดยไม่ได้สังเกตมาก่อน

ถึงแม้ว่าจะรู้สึกแปลกใจ แต่ว่ายังไงแล้วเสิ่นเจียวก็เป็นลูกสาวของตระกูลเสิ่น เธอมาอยู่ที่นี่ได้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใจอะไร

“คุณชายฮ่อ”

เสิ่นมู่ลู่ยกจอกเหล้าทักทายฮ่อหยุนเฉิงก่อน

ทั้งสองได้สนทนากันถึงเรื่องทั่วไปของครอบครัว ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกว่าอากาศภายในห้องมันหายใจลำบาก เลยใช้ข้ออ้างว่าขอออกไปสูบอากาศข้างนอก ออกจากห้องวีไอพีไป

ทันได้นั้น ในห้องก็เหลือแค่เสิ่นมู่ลู่กับเสิ่นเจียวสองคน

สองคนมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน จากนั้น เสิ่นเจียวก็หยิบซองผงออกมาเทใส่ในจอกเหล้าของฮ่อหยุนเฉิง

” ยานี้จะใช้ได้จริงหรอ”

เสิ่นมู่ลู่มองตาโต เสิ่นเจียวพยักหน้า ” ใช้ได้แน่นอน มันเป็นยามอมที่ฉันซื้อมาจากตลาดมืดเชียวนะ ใช้สำหรับร้านค้าแบบนั้นโดยเฉพาะเลย”

เสิ่นมู่ลู่ผงกหัว ยานี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่น ใส่เข้าไปในเหล้า มันก็จะละลายอย่างรวดเร็ว

อีกอย่าง ตระกูลเสิ่นมาครั้งนี้ ไม่ได้มาแบบไม่ได้เตรียมตัว ตอนนี้พวกเขาล้มตระกูลเฟิงได้แล้ว เป้าหมายต่อไปก็คือตระกูลฮ่อ

เพื่อภารกิจครั้งนี้ เสิ่นเจียวยังได้ติดต่อสื่อให้คอยจับตาดูอย่างลับๆ

ทันทีที่สื่อได้ยินข่าวของตระกูลฮ่อ ก็ทยอยมากันเพียบ เอากล้องส่องไว้ตามที่ต่างๆ

อีกด้านหนึ่ง บนโต๊ะอาหาร

ซูฉิงจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า สะบัดมือโดยไมต้องคิด ” ไม่ ฉันขอปฏิเสธ”

คิดไม่ถึงเลยว่าซูฉิงจะปฏิเสธได้สะใจขนาดนี้ มันทำให้เฟิงรั่วเหยียนหน้าแตกทันที

เขาโยนช่อดอกไม้ให้กับเด็กถือกระเช้าดอกไม้ ” ผู้หญิงอย่างคุณ ยังมีหัวใจหรือเปล่าเนี่ย ฉันพูดคำพูดที่มันลึกซึ้งมากมายขนาดนี้ จะไม่รู้สึกหวั่นไหวบ้างเลยหรอ”

” ทำไมฉันต้องหวั่นไหวด้วยละ”

ซูฉิงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เห็นภาพที่ซูฉิงปฏิเสธตัวเอง ใจของเฟิงรั่วเหยียนก็เจ็บจี๊ดไปสักพัก

แต่ว่าวิดีโอฉากที่เฟิงรั่วเหยียนขอซูฉิงแต่งงานนั้นถูกคนหลายคนถ่ายไว้ แม้ว่าซูฉิงจะปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางพวกเขาในการจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

วิดีโอนี้ถูกคนที่มีเจตนาชั่วเอาไปตัดต่อ เปลี่ยนจากที่ซูฉิงสะบัดมือปฏิเสธให้เป็นพยักหน้าตอบตกลง และก็เพิ่มประโยคที่เฟิงรั่วเหยียนสารภาพรักเข้าไปด้วย ให้คนที่เห็นต่างห้ามความเห็นใจไม่อยู่