ตอนที่ 683 ไม่มีกำลังโต้กลับ

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 683 ไม่มีกำลังโต้กลับ

เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นของเสิ่นเจียว ทำให้เฟิงไป่จั๋วเองก็อารมณ์เสียด้วย

ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเมื่อวานทั้งสองเพิ่งจะทะเลาะกันไปยกใหญ่ วันนี้กลับตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกัน จะทำลงกันได้อย่างไร

เมื่อคิดได้อย่างนี้ ทำให้เฟิงไป่จั๋วเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ต่อเสิ่นเจียว

” คุณทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง”

เสิ่นเจียวเองก็ยิ่งทวีความโมโหขึ้นไปอีก กุมผ้าห่มที่ปกปิดร่างกายไว้ หางตาก็มีน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อย

” ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว คุณก็ไม่ต้องทำตัวเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรีหรอก ผมเห็นแล้วมันรู้สึกปลอมมาก”

เฟิงไป่จั๋วดูถูกเสิ่นเจียวอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เสิ่นเจียวยิ่งโกรธมากขึ้น

“คุณพูดแบบนี้มันหมายความว่ายังไง หรือว่าคุณคิดว่าเราสองคน คนที่เสียเปรียบคือคุณหรอ”

เสิ่นเจียวจ้องมองเฟิงไป่จั๋วด้วยสายตาอำมหิต คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบอย่างนี้ ถึงกับพูดคำพูดแบบนี้ออกมา

” ใครเป็นคนที่เสียเปรียบนั้น คงไม่ต้องให้ฉันบอกหรอกมั้ง”

นัยน์ตาของเฟิงไป่จั๋วแสดงความเย็นชาออกมา ” คุณมานอนข้างผม ก็เพื่อหลอกใช้ผม เพื่อให้ผมช่วยบ้านตระกูลเสิ่นของคุณวางแผนต่างๆ ไม่ใช่หรอ”

ทันทีที่สิ้นสุดคำพูด เฟิงไป่จั๋วก็ถูกตบตีด้วยหมอน

เสิ่นเจียวใช้แรงทั้งหมดโยนหมอนที่อยู่บนเตียงใส่หน้าเฟิงไป่จั๋ว ” ต่อให้ฉันจะหลอกคุณ ก็ไม่ถึงกับใช้วิธีที่มันต่ำช้าแบบนี้หรอก”

เธอเป็นถึงคุณหนูบ้านตระกูลเสิ่น จะยอมลดทอนคุณค่าตัวเองทำเรื่องแบบนี้กับเฟิงไป่จั๋วได้ยังไง “คุณก็ไม่ต้องมองตัวเองสำคัญเกินไป คุณมีดียังไงถึงกับทำให้ฉันต้องใช้วิธีแบบนี้เพื่อสนองความพอใจของคุณ”

เห็นเสิ่นเจียวมองตัวเองด้วยสายตารังเกียจแบบนี้ ยิ่งทำให้เฟิงไป่จั๋วรู้สึกว่าเฟิงเจียวกำลังเสแสร้ง

” ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าบ้านตระกูลเสิ่นคิดอะไรอยู่ ฉันไม่หลงกลหรอก”

เฟิงไป่จั๋วกวาดตามองตัวของเสิ่นเจียว ยิ่งทำให้เสิ่นเจียวอึดอัดทำอะไรไม่ถูก

” ไอ้ลามก มัวแต่ดูอยู่ได้”

เสิ่นเจียวต่อยลงไปบนหน้าท้องของเฟิงไป่จั๋วที่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง การทำอย่างนี้สำหรับเฟิงไป่จั๋วแล้วมันไม่รู้สึกอะไร

“ไม่ต้องใช้ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้มาอ่อยเลย ผมไม่ประทับใจหรอก”

คิดไม่ถึงเลยว่าการกระทำเช่นนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับเฟิงไป่จั๋ว ทำให้เสิ่นเจียวทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

” คุณเป็นคนมานอนกับฉัน ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย คุณกลับพูดใส่ฉันเป็นชุด ทำไมหรอ คุณชายเฟิงน้อยนอนผู้หญิงมาแล้วเท่าไหร่ คงไม่ต้องให้ฉันพูดย้ำหรอกนะ”

เสิ่นเจียวหักหน้าเฟิงไป่จั๋วอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เฟิงไป่จั๋วโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

” มันเป็นสัญชาตญาณของผู้ชายนี่ นอนผู้หญิงมาแล้วหลายคนแล้วจะทำไม”

สายตาทั้งสองข้างของเฟิงไป่จั๋วเต็มด้วยความเย็นชา เหลือบมามองเสิ่นเจียว “แต่ว่าคุณน่ะ ไม่มีอะไรดีแล้ว ยังจะมีหน้ามาหลอกล่อผมอีก”

” อย่างคุณนะหรอจะคู่ควร” เสิ่นเจียวจ้องมองท่อนล่างของเฟิงไป่จั๋วด้วยสายตาที่ไร้อารมณ์ ” สั้น เล็ก และไม่มีแรง ธรรมดาแล้วยังจะมามีความมั่นใจอีก”

คำพูดประโยคนี้ได้ยั่วโมโหเฟิงไป่จั๋วอย่างจัง เขาลุกขึ้นแล้วก็กดเสิ่นเจียวลงไป ” ถ้าคุณพูดมากอีก ผมจะโยนคุณลงไปจากที่นี่”

“คุณกล้าหรอ”

เสิ่นเจียวจ้องมองเฟิงไป่จั๋วด้วยความดุร้าย นัยน์ตาลุกเป็นไฟ

” ทำไมจะไม่กล้า คุณอย่าคิดว่าผมจะไม่กล้าทำอะไรคุณ”

นัยน์ตาของเฟิงไป่จั๋วดำเหมือนการแต้มหมึก ทำให้เสิ่นเจียวคาดเดาความคิดของเขาไม่ได้เลย

” คุณคงจะยังต้องรอความช่วยเหลือของคนอื่นละสิ ผ่านไปสองสามวันบริษัทจะล้มละเลยไม่ว่า แม้แต่ตัวเองก็เอาตัวไม่รอด”

ในตอนนี้เฟิงไป่จั๋วอ่อนแอมาก แต่บ้านตระกูลเสิ่นกลับมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเขาทำอะไรเสิ่นเจียว จุดจบต้องน่าอนาถกว่านี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

เมื่อคิดได้อย่างนี้ เฟิงไป่จั๋วก็สงบสติอารมณ์ ยกตัวขึ้น

” คุณออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว”

เสิ่นเจียวร้องตะโกนใส่เฟิงไป่จั๋ว นัยน์ตาทั้งสองเต็มด้วยความแน่วแน่

เฟิงไป่จั๋วไม่พูดอะไร สวมเสื้อเมื่อคืนแล้วก็เดินออกไปทันที

ทันใดนั้น ในห้องก็เหลือเพียงแค่เสิ่นเจียวเพียงคนเดียว

เธอหายใจเข้าออกยกใหญ่ บรรยากาศตอนที่อยู่กับเฟิงไป่จั๋วนั้นอึดอัดมาก จนเธอแทบจะหายใจไม่ออก

ทันทีที่เฟิงไป่จั๋วกลับไปถึงบริษัทก็ได้รับข่าวร้าย

เสิ่นซื่อกรุ๊ปได้กดดันเฟิงซื่อกรุ๊ปหนักกว่าเดิม ทำให้เฟิงซื่อกรุ๊ปไม่มีกำลังในการโต้กลับเลยในชั่วขณะหนึ่ง

เขาเอากำปั้นทุบลงบนโต๊ะอย่างแรง จะโทษก็ต้องโทษคำพูดของเสิ่นเจียวเช้าวันนี้ ทำให้เธอได้รู้ถึงความลับของเฟิงซื่อ ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีการโจมตีรุนแรงขนาดนี้หรอก

เฟิงไป่จั๋วรู้สึกว่าเสียใจเล็กน้อย ที่ตอนเช้าพูดคำพูดไร้สาระกับเธอไปมากขนาดนี้

ดูๆแล้ว เขาถูกเสิ่นเจียวเอาเปรียบอีกแล้ว

เมื่อเห็นบริษัทของตัวเองนับวันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ เฟิงไป่จั๋วจึงฝากความหวังทั้งหมดไว้บนตัวหวังปินปิน

เขากำกำปั้นไว้แน่น ภาวนาเพียงแค่หวังปินปินจะสามารถทำโปรเจ็คเสร็จในเร็วๆ นี้

การโจมตีของบ้านตระกูลเสิ่นยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะทำลายเกาะป้องกันด่านสุดท้ายของบริษัทแล้ว ในเวลาแบบนี้ เฟิงไป่จั๋วเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

อีกด้านหนึ่ง บ้านของซูฉิง

ซูฉิงแทบจะไม่ได้นอนเลยทั้งคืน เธออยู่ข้างเตียงของฮ่อหยุนเฉิง คอยจับตามองลมหายใจที่สม่ำเสมอของฮ่อหยุนเฉิง ในใจรู้สึกเจ็บปวดลึกๆ ชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อคิดถึงการกระชากไปมาของฮ่อหยุนเฉิงกับเสิ่นเจียวเมื่อคืนนี้ ยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดใจกว่าเดิม

แต่ถึงยังไง เธอก็ยังคงเลือกเชื่อใจฮ่อหยุนเฉิงจึงได้พาเขากลับมาบ้าน แต่ว่าความรู้สึกที่ปวดร้าวนี้ทำให้เธอนอนไม่หลับ ท้ายที่สุดทำได้แค่มองดูฮ่อหยุนเฉิงนอนหลับตลอดทั้งคืน

เช้าวันต่อมา แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนใบหน้าที่ชัดเจนของฮ่อหยุนเฉิง นิ้วมือของเขาขยับขึ้นลงเล็กน้อย ทำให้ซูฉิงตื่นขึ้นมาทันที

“ฮ่อหยุนเฉิง”

ซูฉิงเรียกเขาครั้งหนึ่ง เห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้ตอบรับ ทำให้นัยน์ตาของเธอเก็บกลับไปอีกครั้ง

” เสี่ยวฉิง…”

วินาทีต่อมา เสียงของฮ่อหยุนเฉิงดังขึ้น ทำให้ตาของซูฉิงเต็มไปด้วยความสว่างอย่างรวดเร็ว

” คุณตื่นแล้วหรอ”

เสียงของฮ่อหยุนเฉิงแหบแห้งเล็กน้อย ซูฉิงพยุงฮ่อหยุนเฉิงขึ้นมา บนใบหน้ายังคงเป็นสีหน้าไม่สู้ดี

เธอเดินออกไปข้างนอกตักน้ำมาให้ฮ่อหยุนเฉิงแก้วหนึ่ง ยื่นไปตรงหน้าฮ่อหยุนเฉิง”ดื่มซะ”

ฮ่อหยุนเฉิงสังเกตเห็นสีหน้าของซูฉิง เขาสัมผัสไปบนหน้านิ่วคิ้วขมวดของซูฉิง ” เป็นไรหรอ”

” ไม่ได้มีอะไร”

ซูฉิงทำหน้ามุ้ย คิดถึงภาพที่ฮ่อหยุนเฉิงกับเสิ่นเจียวกระชากไปมา เธอแบกฮ่อหยุนเฉิงกลับมา หลังจากนั้นยังได้ตรวจสอบร่างกายของฮ่อหยุนเฉิงอย่างละเอียดอีกรอบ

ร่องรอยที่ถูกผู้หญิงคนอื่นทิ้งไว้นั้น เธอไม่อยากจะเหลียวมองมันเลยสักนิด

“ทำไมดูไม่มีความสุขเลยละ”

ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกว่าท่าทางของซูฉิงตอนนี้ตลกมาก จึงยิ้มมุมปาก

” คุณยังยิ้มได้อีกหรอ”

ซูฉิงจ้องมองฮ่อหยุนเฉิง “ทำไมเมื่อคืนคุณถึงได้อยู่ที่โรงแรมจวินเฉิน”

“อ๋า”

ฮ่อหยุนเฉิงอึ้งไปสักพัก เมื่อคืนนี้เขาอาการสะลึมสะลือ ซูฉิงพูดขึ้นมาแบบนี้ ทำให้เขานึกอะไรบางอย่างออก

” เมื่อคืนเสิ่นมู่ลู่เรียกฉันไปหาน่ะ เห็นบอกว่าจะพูดเรื่องเกี่ยวกับบ้านตระกูลเฟิง ในระหว่างนั้นผมออกไปสูบอากาศข้างนอก จากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าทำไมถึงแขนขาอ่อนแรงน่ะ”

เมื่อพูดถึงตอนนี้ ทั้งสองคิดได้พร้อมกัน

” น่าจะเป็นบ้านตระกูลเสิ่นที่ทำอะไรบางอย่าง”

ซูฉิงก้มหน้าลง ครุ่นคิดอย่างใจจดใจจ่อ

” ดูๆแล้ว พวกเขาต้องมีการวางแผนกันก่อนแน่นอน แม้แต่ยาแฝดก็ยังเตรียมมาก่อน ยังดีนะที่ฉันไปได้ทัน ไม่งั้น คุณก็น่าจะ…”

ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงจากหัวจรดเท้า ฮ่อหยุนเฉิงรีบทำตัวเคร่งขรึมทันที

” ผมไม่ทำหรอก” เขากุมมือซูฉิงไว้ ” น้ำหอมบนตัวของผู้หญิงคนนั้นทำให้ฉันรู้สึกลำบาก ต่อให้ไม่ได้สติ ผมก็ไม่อยากจะใกล้ชิดเธอ”

เห็นสีหน้าที่จริงจังของฮ่อหยุนเฉิงแล้ว ทำให้ซูฉิงแอบยิ้ม