บทที่ 682 ผู้ชายที่นอนข้างฉัน

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น บทที่ 682 ผู้ชายที่นอนข้างฉัน

เพียงไม่นาน วิดีโอก็ถูกลงในโซเชียล จนกลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต

ซูฉิงถูกทำให้กลายเป็นกระแสนิยมอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้ซูฉิงแปลกใจก็คือ ชาวเน็ตไม่ได้โจมตีเฟิงรั่วเหยียน แต่กลับกลายเป็นคำด่าว่าซูฉิงแทน

เธอเห็นวิดีโอในโลกโซเชียลแล้วก็พลางครุ่นคิดสักครู่

คิดไม่ถึงเลยว่าชาวเน็ตจะมีทำเช่นนี้ ถึงกับเปลี่ยนภาพของตัวเองเลย

อีกอย่างเรื่องการแต่งงานของซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงก็เป็นที่รู้จักกันไปทั่ว เพียงเวลาไม่นาน ทาก็เกิดข่าวเป็นกระแสข่าว “ซูฉิงมีชู้” “ซูฉิงแต่งงานรอบที่สอง” บนโซเชียล

ซูฉิงถูกลากลงไปในคลื่นแห่งความวุ่นวายอีกครั้ง เธอกำมือไว้แน่น คิดไม่ถึงเลยว่าเฟิงรั่วเหยียนจะทำอย่างนี้ ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อจะทำลายชื่อเสียงเธอหรอ

ไม่น่าล่ะเขาถึงได้ใช้เฟิงไป่จั๋วเป็นข้ออ้าง คิดว่าเฟิงไป่จั๋วเองก็คงจะอดทนได้ไม่นาน ถึงได้หาเขาให้ช่วยเหลือ คิดอยากจะเหยียบย้ำตัวเองอย่างแรงสักครั้ง

ในขณะเดียวกัน ซูฉิงได้รับสายหนึ่ง

บนนั้นเขียนไว้ว่า สายของคนแปลกหน้า ซูฉิงกำลังเครียดกับเรื่องที่ตัวเองกลายเป็นไวรัลอยู่ จึงไม่ได้รับสาย

รอจนสายยกเลิกเอง จากนั้นไม่นาน มือถือดังขึ้นอีกครั้ง

ซูฉิงชำเลืองตามอง ยังคงเป็นสายของคนแปลกหน้าเหมือนเดิม ซูฉิงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด หยิบมือถือขึ้นมารับสาย พูดด้วยน้ำเสียงไม่อดทนว่า” ใคร”

” ตอนนี้รีบไปโรงแรมจวินเฉิน ไปด่วนเลย ถ้าไม่รีบไปทุกอย่างจะสายเกินแก้ไข”

ซูฉิงได้ยินแล้วเหงื่อตก ” ทำไมหรอ ทำไมต้องไปที่นั่น ”

” ถ้าไม่รีบไป ฮ่อหยุนเฉิงก็จะกลายเป็นเหมือนเธอ”

ได้ยินประโยคนี้ ซูฉิงครุ่นคิด

จะกลายเป็นเหมือนฉัน ประโยคนี้มันจะหมายความว่าอะไรกันแน่

” คุณเป็นใคร แล้วคุณรู้ได้ยังไง”

” คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอก” 0613 รีบไป”

เสียงของคนลึกลับเพิ่งพูดจบ ก็วางสายทันที

ซูฉิงมองดูคำด่าตัวเองในอินเทอร์เน็ต ทำตาโตขึ้นมาด้วยตกใจ รีบวิ่งออกไปทันที

ซูฉิงมาถึงโรงแรมจวินเฉิน เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ เห็นรถของฮ่อหยุนเฉิงจอดอยู่หน้าประตูโรงแรม

เธอทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ทำไมฮ่อหยุนเฉิงถึงมาที่นี่ได้ละ

ซูฉิงรีบเข้าไปโรงแรม กดลิฟต์ไปชั้นหก เป็นเหมือนที่คิดไว้เลย ลิฟต์เพิ่งจะถึง เธอก็เห็นฮ่อหยุนเฉิงอยู่ตรงหน้า

เธอคิดจะเดินไปหาเขา วินาทีต่อมา ข้างกายของฮ่อหยุนเฉิงทำไมถึงมีผู้หญิงอยู่ด้วยละ

ใจของซูฉิงกระตุกไปสักพัก ผู้หญิงคนนั้นก็คือเสิ่นเจียว

เสิ่นเจียวประคองฮ่อหยุนเฉิงที่เดินโซเซไปมา อาจจะเป็นเพราะว่าฤทธิ์ยาแรงเกินไป หรือไม่ก็ฮ่อหยุนเฉิงตัวหนักเกินไป ทำให้เธอต้องใช้แรงอย่างมากในการพยุงเขา

” คุณไม่ต้องยุ่งกับผม”

ฮ่อหยุนเฉิงปริปากพูด พยายามจะผลักเสิ่นเจียวออกไป แต่เสิ่นเจียวไหนเลยจะยอมปล่อยโอกาสดีๆ แบบนี้ไป ฉวยโอกาสตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงฮ่อหยุนเฉิงยังไม่ได้สติ จับแขนของฮ่อหยุนเฉิงอย่างแน่น

” คุณเมาหนักมาก เดี๋ยวฉันจะพาคุณกลับไปที่พัก”

เสียงของเสิ่นเจียวดังอยู่ข้างหูของฮ่อหยุนเฉิง ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

น้ำหอมบนตัวของเธอมันฉุนจมูกมาก ทำให้สติของฮ่อหยุนเฉิงพยายามคืนกลับมาอีกครั้ง

” ไม่ต้อง ผมจะกลับบริษัท”

ฮ่อหยุนเฉิงใช้แรงทั้งหมดเพื่อให้หลุดพ้นจากเสิ่นเจียว แต่จะทำยังไงได้ละในเมื่อแรงที่มีอยู่ค่อยๆ หมดลงไปทุกที ถึงขึ้นที่ว่าแรงที่จะทำให้หลุดจากเสิ่นเจียวก็ไม่มี

” ดูคุณตอนนี้สิ ถ้าจะกลับไปแบบนี้ มันอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้”

มุมปากของเสิ่นเจียวโค้งขึ้นเล็กน้อย เธออุ้มร่างของฮ่อหยุนเฉิง เก็บเกี่ยวความสุขในทุกวิทุกนาทีที่ได้อยู่กับเขา

” ออกไป”

ฮ่อหยุนเฉิงร้องบอก ภาพที่เห็นข้างหน้ายิ่งเลือนรางลงทุกที อีกนิดเดียวก็จะสลบไปแล้ว

” คุณดูคุณในตอนนี้สิ ยังไม่อยากให้ฉันพยุงอีก เดี๋ยวคุณก็หกล้มหรอก”

” ปล่อย”

ตอนที่เสิ่นเจียวคิดว่าตอนเองกำลังจะทำสำเร็จแผนนั้น เสียงของซูฉิงก็ดังมาจากข้างหลัง

เสิ่นเจียวทำตาโตด้วยความตกใจ จ้องมองผู้หญิงที่มาด้วยรังสีดุร้ายตรงหน้า ทำให้ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

” กอดสามีของคนอื่น คุณรู้สึกว่ามันสนุกนักหรอ”

รอบตัวของซูฉิงกระจายความกดดันออกมา ทำให้คนรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว

” คุณ คุณทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ”

เสิ่นเจียวหน้าแดงเรื่อ คิดไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้จะถูกซูฉิงจับได้คาหนังคาเขา มือที่จับฮ่อหยุนเฉิงก็ค่อยๆ คลายลง

เห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงกำลังจะหมดสติเพราะความอ่อนแรง ซูฉิงรีบไปพยุงเขาไว้

กลิ่นที่คุ้มเคยลอยเข้าไปในจมูกของฮ่อหยุนเฉิง ทำให้เขาสบายใจขึ้นไม่น้อย

” ฉันมาหาสามีฉันไง คุณกระชากไปมากับสามีฉันที่นี่ มันหมายความว่าอะไร”

ซูฉิงจ้องมองเสิ่นเจียวแวบหนึ่ง เสิ่นเจียวไม่มีที่จะหลบ และไม่กล้าจ้องตาคู่นั้นของซูฉิงด้วย

เห็นมือของซูฉิงคล้องแขนของฮ่อหยุนเฉิงไว้ รู้สึกมีน้ำโหเล็กน้อย ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีโอกาสได้อยู่กับฮ่อหยุนเฉิงสองต่อสอง กลับถูกซูฉิงทำลายอีกครั้ง

” ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ถ้ายังหน้าด้านไม่ไปอย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้านะ”

ซูฉิงขึ้นเสียงบอก เสิ่นเจียวรู้สึกเสียหน้ามาก และยังต้องเสียโอกาสดีๆ แบบนี้อีก ก้มหน้าลง ยังคงไม่ยอมจากไป

แต่ใจของซูฉิงรู้สึกหงุดหงิดมาก จึงตีไปบนหลังของเสิ่นเจียวทีหนึ่ง เสิ่นเจียวสลบไปในทันที

ซูฉิงพยุงเสิ่นเจียวไปไว้ห้องที่ได้จองไว้ก่อนหน้านี้ แล้วก็กลับมายังทางเดินโรงแรม พยุงฮ่อหยุนเฉิงขึ้นมา

เหลือแต่ซูฉิงที่พยุงแขนของฮ่อหยุนเฉิง เธอพยุงฮ่อหยุนเฉิงเดินลงถึงใต้ตึก พยุงเขาเข้าไปในรถ แล้วตัวเองก็ไปนั่งในที่นั่งคนขับ

เห็นสภาพที่ไม่ได้สติและเหมือนจะหลับของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงถอนหายใจเฮือก

ถ้ามาช้ากว่านี้อีกแค่ก้าวเดียว ก็น่าจะเสียท่าให้กับเสิ่นเจียวจริงๆ

บ้านตระกูลเสิ่นชั่วมาก ถึงกับทำเรื่องที่มันน่าอายในกลางวันแสกๆ แบบนี้ ต่อไปคงต้องระวังตัวมากกว่านี้แล้วละ

อีกด้านหนึ่ง สื่อต่างๆ ที่จับตามองในโรงแรม

พวกเขามองดูภาพที่ถ่ายไว้ได้ รู้สึกว่าผู้หญิงในภาพมันคุ้นๆ แต่ว่าไม่ใช่ตัวของเสิ่นเจียวแน่นอน

แต่ว่าไม่เป็นไร เห็นสีหน้าท่าทางที่ผ่อนคลายของฮ่อหยุนเฉิงซบลงบนตัวของผู้หญิงคนนี้ ก็น่าจะเพียงพอต่อการทำข่าวของพวกเขาแล้ว

แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายหน้าตรงของผู้หญิงคนนั้นไว้ แต่ว่า ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะใช่เสิ่นเจียวหรือเปล่า ขอแค่มีความสัมพันธ์กับฮ่อหยุนเฉิง ก็น่าจะเป็นพาดหัวข่าวในวันนี้ได้แล้วละ

พูดๆ ไปก็รู้สึกแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าสีหน้าของฮ่อหยุนเฉิงเวลาอยู่ในอ้อมกอดของผู้หญิงคนนี้จะรู้สึกผ่อนคลายขนาดนี้

แต่ก็คิดไม่ถึงหรอกว่า ผู้หญิงที่อยู่ในกล้องของพวกเขานั้น จริงๆ แล้วก็คือซูฉิง

วันต่อมา เสิ่นเจียวตื่นมา เห็นว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องพักในโรงแรม

เมื่อคิดถึงแผนการเมื่อวาน เธอก็เม้มปาก กำลังจะพลิกตัวนั้นก็เห็นว่าตัวเองกอดผู้ชายไว้ข้างกาย ทันในนั้น เธอก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ผู้ชายที่นอนข้างกายเธอ ทั้งรูปร่างและหน้าตาไม่ได้เหมือนกับฮ่อหยุนเฉิงเลยสักนิด

เสิ่นเจียวทำตาโตด้วยความตกใจ รีบลุกขึ้นมา ปรากฏว่าตัวเองไม่สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น จึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกของตัวเองไว้ เสียงที่ส่งมาจากผู้ชายที่นอนอยู่ทำให้เธอได้สติทันที

เธอจ้องมองผู้ชายที่คุ้นหน้า ทำไมถึงเป็นเฟิงไป่จั๋วละ ทำให้เธอตกใจจนลุกออกมาจากที่

” กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

เสียงกรีดร้องอันโศกเศร้าของเสิ่นเจียวดังไปทั่วห้อง ทำให้เฟิงไป่จั๋วตื่นอย่างรวดเร็ว

เขาเห็นว่าผู้หญิงที่นอนกับตัวเองคือเสิ่นเจียว อ้าปากค้าง จ้องมองนัยน์ตาที่ตกตะลึงของเสิ่นเจียว ไม่รู้จะพูดอะไรในชั่วขณะหนึ่ง