บทที่ 717 : ดื่มกินสมุนไพรล้ําค่า
“น้องห้า..นี่ถ้วยใหญ่ใส่น้ำที่เจ้าต้องการ..”
ดูเหมือนว่าจิตใจของหลิงซิ่วยอมรับได้อย่างสนิทใจแล้วว่าหลิงหยุนคือน้องห้าแห่งตระกูลหลิง!
ผมดำขลับของหลิงซิ่วปลิวสะบัดราวกับม่านน้ำตกหน้าอกใหญ่ เอวคอดเล็ก และแขนเรียวยาวสวยงามทั้งสองข้างประคองถ้วยใส่น้ำขนาดใหญ่ไว้ในมือ..
“….”
หลิงหยุนถึงกับพูดไม่ออกเพราะถ้วยใส่น้ำที่หลิงซิ่วนำมาให้หลิงหยุนนั้นใบใหญ่มาก มันใหญ่เกินไปจริงๆ..
ในเวลาเดียวกันนั้นทั้งเจสเตอร์และเพียร์ซต่างก็พากันขนหินที่หลิงหยุนต้องการเข้ามา หินจำนวนมากมายหลายก้อนถูกนำมากองไว้ข้างหลิงหยุน แต่ละก้อนล้วนมีขนาดเท่ากับลูกฟุตบอล
หลิงหยุนรับถ้วยใส่น้ำขนาดใหญ่มาจากมือของหลิงซิ่วเขาพยักหน้าแทนคำขอบใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ลุงใหญ่..ลุงสอง.. พวกท่านช่วยพาทุกคนออกไปจากสวนแห่งนี้ก่อน!”
หลิงเจิ้นและหลิงเย่วได้เห็นหลิงหยุนสั่งให้นำถ้วยใส่น้ำขนาดใหญ่กับก้อนหินมาจำนวนมากก็รู้สึกงุนงงสงสัย และได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่า รักษาคนเรียบร้อยไปแล้ว หลิงหยุนยังต้องการของพวกนี้มาทำอะไรอีกงั้นหรือ!
ทันทีที่หลิงหยุนมาถึง..ก็ได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความสามารถที่น่าอัศจรรย์ใจในหลายๆด้านของเขา หลิงเจิ้นและหลิงเย่วนั้นเมื่อได้ฟังคำพูดของหลิงหยุน ก็ไม่ต้องการสอบถามอะไรให้มากมาย ได้แต่เดินนำคนอื่นๆออกจากสวนชั้นที่เจ็ดไปรอที่สวนด้านหน้าแทน
หลิงหยุนเห็นหลิงซิ่วทำท่าทางคล้ายไม่อยากจะตามออกไปจึงได้แต่ยิ้มให้นางพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“พี่หลิงซิ่ว..ท่านอยู่กับข้าที่นี่ล่ะ!”
“ข้าก็กำลังคิดเช่นนั้นพอดี!”หลิงซิ่วร้องออกมาอย่างดีอกดีใจ เพราะนางต้องการอยู่ดูว่าหลิงหยุนกำลังต้องการทำอะไรกันแน่!
หลิงหยุนหันไปสั่งแวมไพร์ทั้งสี่ตนด้วยกระแสจิต–พวกเจ้าทั้งสี่มีหน้าที่คุ้มครองตระกูลหลิง หากศัตรูกล้าบุกเข้ามา พวกเจ้าก็จัดการสังหารมันได้ทันที!-
จากนั้นเจสเตอร์พอล เพียร์ซ และจอยซ์ต่างก็เดินออกไปด้านนอก..
เวลานี้..ภายในสวนชั้นที่เจ็ดของบ้านตระกูลหลิง ก็เหลือเพียงหลิงหยุน หลิงลี่ และหลิงซิ่ว เพราะทุกคนต่างก็ออกไปยืนรอที่ด้านนอกกันหมดแล้ว
“ท่านปู่..เวลานี้ท่านได้โปรดปล่อยวางทุกอย่าง อย่างได้คิดกังวลเรื่องใด แล้วค่อยๆ เดินลมปราณในร่างกาย!”
พูดจบ..หลิงหยุนก็ใช้มังกรพรางร่างเคลื่อนย้ายกองหินที่อยู่ข้างตัว เขาใช้ฝ่ามือซัดหินแต่ละก้อนไปวางไปตามตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็ว!
เพียงแค่นั้นก็สร้างความตกตะลึงให้กับหลิงซิ่วที่ยืนอยู่ข้างๆได้อย่างมากแล้วหลิงซิ่วได้แต่แอบคิดในใจว่าเหตุใดหลิงหยุนจึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
หลิงซิ่วมัวแต่ตกตะลึงจนไม่ทันสังเกตว่าเวลานี้ภายในสวนชั้นที่เจ็ดเริ่มมีหมอกหนาสีขาวปกคลุมอยู่รอบๆและหมอกหนานี้ก็ได้แยกสวนชั้นที่เจ็ดออกจากโลกภายนอกทันที!
หมอกสีขาวนี้ไม่เพียงแยกพื้นที่ภายในออกจากโลกภายนอกแต่ยังสามารถเก็บเสียงได้อย่างดีด้วย หากใครที่คิดจะแอบฟังผู้คนที่อยู่ในค่ายกลเขาวงกตคุยกันแล้วล่ะก็ รับรองว่าต้องผิดหวังอย่างแน่นอน!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!จู่ๆ ทำไมสวนชั้นที่เจ็ดถึงได้หายไป?!” หลายคนต่างก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ช่างเป็นค่ายกลที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว..”หลิงเย่วถึงกับตกใจอย่างมาก
“น้องห้า..นี่เจ้า..” หลิงซิ่วได้แต่ตกตะลึง และถึงกับอึ้งไป
“พี่หลิงซิ่ว..นี่เรียกว่าค่ายกลเขาวงกต” หลิงหยุนหันไปมองพร้อมกับร้องบอกหลิงซิ่วที่กำลังยืนตะลึง
“นี่เจ้า..เจ้าช่างเก่งกาจเกินกว่าที่ข้าคาดคิดมากจริงๆ!”
หลิงซิ่วไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกให้หลิงหยุนฟังได้อย่างไร!
ยังคงมีหินเหลืออยู่ที่พื้นอีกสิบกว่าก้อนและหลิงหยุนก็ได้ใช้หินที่เหลือนี้สร้างค่ายกลหลุมพลังเพื่อกักเก็บพลังชีวิตที่ถูกปล่อยออกมาไม่ให้ระเหยไปด้านนอกได้
“และนี่คือค่ายกลหลุมพลัง..”หลิงหยุนอธิบายให้หลิงซิ่วฟังไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บครั้งก่อนหรือครั้งใหม่นี้หลังจากที่หลิงหยุนทำการรักษาให้จนหายดีแล้ว เส้นลมปราณของหลิงลี่ก็ไม่ติดขัดเช่นเก่าอีกแล้ว และเวลานี้เขาก็สามารถเข้าสู่ระดับสูงสุดของขั้นเซียงเทียน-3 ได้แล้ว
เส้นลมปราณที่เสียหายนั้นทำให้ลมปราณภายในร่างกายของหลิงลี่ไม่ต่างจากการถูกจองจำมาตลอดสิบแปดปี เขาจึงไม่สามารถเข้าสู่ด่านกลางของขั้นเซียงเทียนได้เสียที จึงแทบไม่ต้องพูดถึงการที่จะเข้าสู่ด่านสุดท้ายของขั้นเซียงเทียนเลย..
ระหว่างที่รักษาอาการบาดเจ็บภายในให้กับปู่ของเขานั้นหลิงหยุนก็รู้สึกดีใจและประหลาดใจไปพร้อมๆกัน เมื่อพบว่าปราณเสวียน (เหลือง) และปราณหวง (ดำ) ในร่างกายของหลิงลี่นั้นยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม!
ลมปราณเสวียน(เหลือง) และลมปราณหวง (ดำ) ภายในจุดตันเถียนของหลิงลี่นั้นมีอยู่มากมายเพียงใดอย่างนั้นหรือ
ลมปราณเสวียน(เหลือง) และลมปราณหวง (ดำ) ภายในจุดตันเถียนของหลิงลี่นั้นเรียกได้ว่ามีอยู่อย่างมากมาย และอัดกันแน่นอยู่ภายในนั้น เรียกได้ว่าหากหลิงลี่ยังคงฝึกกำลังภายในเช่นนี้ไปเรื่อยๆ รับรองว่าจุดตันเถียนของเขาจะต้องระเบิดออกสักวันอย่างแน่นอน!
ตั้งแต่เมื่อครั้งที่หลิงลี่ได้รับบาดเจ็บภายในอย่างสาหัสเมื่อสิบแปดปีก่อนนั้นเส้นลมปราณของเขาก็เสียหาย และใช้เวลารักษาอยู่เป็นเวลานาน แต่จุดตันเถียนของเขายังคงใช้การได้ดี หลิงลี่จึงยังคงแข็งแรง อีกทั้งเขาฝึกฝนกำลังภายในอยู่ทุกวันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง แต่ต่อให้เขามีลมปราณที่แข็งแกร่งมากเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ เพราะไม่สามารถเดินลมปราณและนำพลังปราณเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ได้!
สถานการณ์ของหลิงลี่ไม่ต่างจากลูกโป่งที่ถูกเป่าลมเข้าไปจนใหญ่โตภายในลูกโป่งอัดแน่นด้วยอากาศ แต่กลับไม่มีที่จะระบายอากาศภายในออกไป หากยังขืนเป่าลมเข้าไปอีกเรื่อยๆ แน่นอนว่าสักวันก็ต้องจบลงด้วยการที่ลูกโป่งระเบิดแตกอย่างแน่นอน!
แต่เวลานี้อาการบาดเจ็บต่างๆของหลิงลี่ได้หายดีแล้วและภายใต้คำแนะนำของหลิงหยุน ลมปราณเสวียน (เหลือง) และลมปราณหวง (ดำ) ก็ค่อยๆเคลื่อนที่ไปยังเส้นลมปราณต่างๆได้อย่างสะดวกไม่ติดขัด ทำให้หลิงลี่สามารถเข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-3 ได้ในทันที!
การรักษาของหลิงหยุนนั้นช่างล้ำเลิศ!และสมกับฉายาหมออมตะอย่างแท้จริง แต่นี่ยังเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น..
หลิงหยุนต้องการช่วยท่านปู่ของเขาจึงไม่ต้องการเร่งรีบนัก..
เพราะขั้นตอนต่อไปนั้นเป็นขั้นตอนสำคัญและแน่นอนว่าหลิงหยุนไม่ต้องการให้ผู้ใดเห็น จึงได้สร้างค่ายกลเขาวงกตขึ้นมา!
หลังจากที่ค่ายกลหลุมพลังได้ดูดซับเอาพลังชีวิตธาตุไม้ที่หลิวเทวะปลดปล่อยออกมาไว้ได้หนาแน่นมากจนเกินพอแล้วหลิงหยุนจึงถามหลิงลี่ว่า
“ท่านปู่..เวลานี้ท่านรู้สึกเช่นใดบ้าง”
ในเมื่ออยู่ในค่ายกลเขาวงกตหลิงหยุนจึงไม่จำเป็นต้องพูดด้วยกระแสจิต และได้แต่เอ่ยถามหลิงลี่ออกไปตรงๆ
“หลิงหยุน..ปู่รู้สึกว่าตนเองสามารถเดินลมปราณเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-4 ได้ตลอดเวลา..”
หลิงลี่ค่อยๆลืมตาขึ้นมองหลิงหยุนสายตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ชื่นชมโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากพูดออกมา
หลานชายที่เก่งกาจล้ำเลิศเช่นนี้ยากนักที่จะหาพบได้ในใต้หล้านี้ และคงจะมีเพียงแค่หลิงหยุนคนเดียวเท่านั้น!
“ถ้าเช่นนั้น..ก็เริ่มได้เลย!”
หลิงหยุนร้องอุทานออกมาอย่างมีความสุขเขาเดินเข้าไปหาหลิงลี่พร้อมกับเรียกบัวหิมะเทียนซันออกมาจากแหวนพื้นที่ บัวหิมะเทียนซันนี้หลิงหยุนได้เป็นของขวัญจากท่านหมอเสี่ยวในวันเปิดคลินิก
“นี่มัน..”
หลิงหยุนเข้ามาคาราวะท่านปู่ของเขาเป็นครั้งแรกนั้นหลิงลี่ไม่มีของขวัญมอบให้นั้นไม่แปลก เพราะเขาเป็นปู่! แต่หากหลิงหยุนซึ่งเป็นหลานไม่มีอะไรมามอบให้กับปู่ของเขาเลย ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก!
“ท่านปู่..ข้าเป็นหลานแท้ๆของท่าน ท่านยังจะเกรงใจข้าอยู่อีกรึ” หลิงหยุนถามยิ้มๆ
“เจ้าหลานตัวร้าย..นี่ข้าคงจะไม่สามารถปิดบังอะไรเจ้าได้เลยสินะ!” หลิงลี่หน้าแดงและรีบเอื้อมมือไปคว้าบัวหิมะเทียนซันในมือของหลิงหยุนมา
“ส่วนนี่คือเห็ดหลินจืออายุสองร้อยปี..”
ทันทีที่หลิงลี่กินบัวหิมะเทียนซันเข้าไปเขาก็สัมผัสได้ว่าเส้นลมปราณและจุดตันเถียนของตนเองนั้นดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นมาพร้อมๆกัน โดยเฉพาะเส้นลมปราณที่เคยติดขัดมาถึงสิบแปดปี
แต่ยังไม่ทันที่หลิงลี่จะได้ดีใจเขาก็เห็นหลิงหยุนส่งเห็ดหลินจืออายุสองร้อยปีมาให้ จึงได้แต่นิ่งไปด้วยความตกตะลึง
จากนั้น..หลิงลี่จึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและตื่นเต้นเป็นที่สุด และแทบไม่ต้องรอให้หลิงหยุนร้องเตือนอีกครั้ง
ส่วนหลิงซิ่วก็ได้แต่ยืนมองด้วยความตกใจดวงตาของนางจับจ้องอยู่กับการเล่นกลของหลิงหยุนด้วยร่างกายที่สั่นเทา..
เมื่อได้เห็นชายชราเคี้ยวเห็ดหลินจือที่เหนียวอยู่ในปากหลิงซิ่วจึงเข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดหลิงหยุนจึงให้ตนเองไปนำถ้วยใส่น้ำมาให้
“หลานจะไปรินน้ำมาให้ท่านปู่แก้วใหม่..”
แต่หลิงหยุนกลับหัวเราะพร้อมกับโบกมือแล้วร้องบอกว่า“ไม่ต้องหรอกพี่หลิงซิ่ว!”
จู่ๆน้ำเต้าลูกใหญ่ก็โผล่ออกมาจากมือของหลิงหยุน เขาจัดการรินน้ำลายมังกรลงในชามพร้อมกับยื่นให้หลิงลี่ด้วยท่าทางเคารพนบนอบ
“ท่านปู่..ท่านดื่มนี่เข้าไปแทนน้ำเถิด ข้ารับรองว่าไม่มีอันตรายอะไร!”
พลังชีวิตจากน้ำลายมังกรกระจายไปทั่วทั้งร่างประกอบกับพลังชีวิตที่เข้มข้นจากต้นหลิวเทวะ และยังมีบัวหิมะเทียนซันกับเห็ดหลินจือสองร้อยปี ทำให้หลิงลี่ถึงกับร้องอุทานออกมาอย่างอดกลั้นต่อไปไม่ไหว!
“สวรรค์..นี่มันอะไรกัน!”
แน่นอนว่าชายชราอย่างหลิงลี่ย่อมคิดไม่ถึงว่าหลังจากเพิ่งผ่านหายนะที่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตายมา เขาจะได้มานั่งมีความสุขอย่างเปี่ยมล้นอยู่ตรงนี้!
ได้กินบัวหิมะเทียนซันและเห็ดหลินจือสองร้อยปี และยังได้ดื่มน้ำลายมังกรอีก!
ทั้งหมดที่พูดมานั้นแม้แต่ผู้นำตระกูลใหญ่ หรือหัวหน้าสำนักใหนๆ ก็ยากที่จะมีโอกาสได้พบกับความสุขเช่นนี้!
เวลานี้หลิงลี่รู้สึกอิ่มมาก..เขาอิ่มไปด้วยพลังชีวิตที่อัดแน่นอยู่เต็มร่างกาย!
“ท่านปู่..ท่านยังอิ่มไม่ได้! ข้ายังมี..” หลิงหยุนเห็นว่าชายชราทำท่าคล้ายจะอิ่มและกินไม่ลงแล้วจึงรีบร้องบอกทันที
“ห๊ะ!”
“นี่เจ้ายังมีอะไรอีกรึ!”
หลิงลี่ถือชามเปล่าไว้พร้อมกับกระพริบตาด้วยความงุนงง“เด็กน้อย! นี่เจ้าจะฆ่าปู่หรือยังไง! ปู่อิ่มจนจะกินไม่ไหวแล้ว”
หลิงซิ่วถึงกับหัวเราะคิกคัก..จากนั้นก็โน้มตัวลงไปพูดกับหลิงลี่ว่า “นะคะท่านปู่.. กินอีกนิดเดียวเอง!”
หลังจากนั้น..หลิงหยุนก็เรียกสมุนไพรเหอโชวู และโสมสองพันปีที่เขาได้มาจากป่าเสินหนงเจี๋ย หลิงหยุนหักออกมอย่างละท่อนขนาดเท่าฝ่ามือ
“ท่านปู่..ท่านต้องพยายามกินเข้าไปให้หมด..”
“โอ้..สมุนไพรเหอโชวูต้นใหญ่ถึงเพียงนี้เชียวรึ แล้วนี่ก็.. โสมพันปีใช่หรือไม่?! นี่มันคงอายุหลายพันปีแล้วสินะ!”
หลิงลี่ได้เห็นถึงกับตกใจจนแทบช็อคเขาไม่คาดคิดว่าจะได้ดื่มกินสมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้ในชีวิต!
แต่หลิงหยุนก็ไม่ปล่อยให้หลิงลี่ต้องตกใจอยู่นานนักเขารีบคะยั้นคะยอให้หลิงลี่กินสมุนไพรเหอโชวูและโสมพันปีเข้าไปทันที
“ท่านปู่..ระวังติดคอ ท่านรีบดื่มน้ำลายมังกรตามเข้าไปเร็วเข้า!”