ตอนที่ 779 นางซูหลีเป็นใครกัน! / ตอนที่ 780 จะให้บอกน้องสาวอย่างไรดี

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

ตอนที่ 779 นางซูหลีเป็นใครกัน!

 

 

“ย่อมเป็นเช่นนั้นตอนนี้ข้าเองก็เป็นขุนนาง มีจวนของตนเองแถมยังเป็นเรือนพระราชทาน ไม่มีใครกล้าพูดมากอยู่แล้ว!” ใบหน้าซูหลีเย็นชา นางผงกศีรษะน้อยๆ

 

 

“นายท่านจะยอมหรือเจ้าคะ?” ไป๋ฉินยังคงลังเลน้อยๆ สตรีทั่วไปก่อนออกเรือนล้วนต้องเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่

 

 

ซูหลี…

 

 

แน่นอนว่าคุณหนูของพวกนางย่อมต่างออกไป

 

 

“ถึงจะไม่เห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วยอยู่ดี” แสงประกายแวววับพาดผ่านในดวงตาซูหลี

 

 

“คุณหนูไปไหนไป๋ฉินก็ไปด้วยเจ้าค่ะ” ไป๋ฉินผงกศีรษะ ชั่วชีวิตนี้ของนางเลือกแล้วว่าจะตามคุณหนูตลอดไป

 

 

มีแต่เย่ว์ลั่วที่คิดมากไปอีกขั้นหนึ่ง นางมองซูหลีอย่างอดไม่ได้

 

 

ไม่ว่าอย่างไร ซูหลีก็เป็นสตรี เป็นสตรีวันหนึ่งก็ต้องออกเรือน การจะย้ายออกไปนี้ทำให้สบายขึ้นก็จริง แต่เรื่องแต่งงานของคุณหนู…

 

 

จะให้นางพูดก็คงไม่งาม แต่นางก็รู้สึกว่าหากอยู่ที่นี่ต่อ ซูหลีก็คงลำบาก

 

 

ส่วนเรื่องออกเรือน นายท่านซูก็คงจะไม่ทำเป็นไม่เห็นกระมัง?

 

 

“เดี๋ยวพอถึงบ้านแล้ว ไป๋ฉินเจ้าไปบอกชุยตานให้เขาไปที่…” ซูหลีชะงักไปครู่หนึ่ง และไม่ได้สังเกตสีหน้าของสาวใช้ทั้งสอง นางหรี่ตาลงน้อยๆ แล้วเปิดปากกำชับอย่างละเอียด

 

 

“เจ้าค่ะ!” ดวงตาไป๋ฉินเบิกกว้าง ตอนนี้ซูหลีได้กลายเป็นแบบอย่างของนางแล้ว เพียงแค่จดหมายสั้นๆ ฉบับเดียวก่อนนี้ก็สามารถช่วยให้ตนเองรอดจากภยันตรายมาแล้ว

 

 

ตอนนี้กะอีแค่จัดการพวกคนสารเลวในบ้านก็ง่ายกว่าเดิม

 

 

ซูหลีเห็นนางตกปากรับคำอย่างรวดเร็ว แววตาเป็นประกายก่อนจะยิ้มพลางลูบใบหน้านาง

 

 

ไป๋ฉินหน้าแดงก่ำ เมื่อถูกผู้เป็นนายลูบใบหน้า คุณหนูของนางถึงแม้จะกลับเป็นผู้หญิง แต่ยังคงทำตัวเหมือนตอนเป็นผู้ชาย ชอบหว่านเสน่ห์ให้เหล่าสาวใช้อยู่เสมอ!

 

 

……

 

 

“หยุด!”

 

 

“คุณหนูถึงแล้ว” เสียงชุยตานดังลอดเข้ามาจากด้านนอก

 

 

“อืม” ซูหลีรับคำ นางเดินลงจากรถม้า ทันทีที่ก้าวลงมานางก็เห็นรถม้าแบบเดียวกันจอดอยู่หน้าบ้านพอดี

 

 

รถม้าคันนี้หรูหรากว่าของนางมากนัก ด้านบนยังสลักตราของสกุลซูเอาไว้ด้วย

 

 

นี่คือรถม้าของบรรดากุลสตรีสกุลซูใช้เวลาเดินทาง

 

 

แต่ตอนนี้ผ้าม่านรถม้าถูกเลิกขึ้น ด้านในไร้ซึ่งผู้คน

 

 

ด้านข้างมีคนขับรถม้ายืนอยู่ เหมือนกำลังเตรียมขับรถม้าคันนี้ออกไป!

 

 

ซูหลีปรายตามองน้อยๆ ก่อนจะหลุบสายตาลง นางจัดเสื้อผ้าบนร่างตนเอง ชุดที่นางใส่นั้นยังเป็นชุดนักโทษอยู่เลย

 

 

เพียงแต่ด้านนอกถูกคลุมด้วยเสื้อสีอ่อน จึงบดบังเสื้อขาวที่สะดุดตาด้านในเอาไว้จนหมดสิ้น

 

 

แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้านสกุลซู

 

 

เย่ว์ลั่วเดินตามอย่างร้อนรน ทิ้งแค่ไป๋ฉินและชุยตานเอาไว้ ไป๋ฉินลากชุยตานไปอีกทาง และจัดการบอกเรื่องที่คุณหนูสั่งไว้กับอีกฝ่าย

 

 

ส่วนฟากซูหลีก็เดินนำเย่ว์ลั่วเข้าไปในเรือนกลางทันที

 

 

“ท่านพ่อ ไม่ใช่ว่าลูกจะว่าท่านนะ แต่คำพูดของซูหลีท่านก็เชื่อด้วยหรือ ซูหลีเป็นใคร คนที่ปิดบังสถานภาพตนเองกับท่านมาหลายเช่นนี้ นางเห็นท่านอยู่ในสายตาหรืออย่างไร?”

 

 

“ตอนนี้ท่านกำลังจะสูญเสียสายเลือดที่แท้จริงของท่านเพียงแค่คำพูดของนาง!”

 

 

“ท่านพ่อ! ท่านทำเช่นนี้จะสู้หน้าท่านแม่ได้อย่างไร? ท่านแม่ต้องทุกข์ทรมานขนาดไหนกว่าจะคลอดน้องชายมาได้ คิดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อจะทำเช่นนี้กับพวกเขา หากท่านพ่อให้อภัยท่านแม่ไม่ได้ ก็ให้….”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 780 จะให้บอกน้องสาวอย่างไรดี

 

 

ทันทีที่เดินเข้าไปในเรือนหลักหลังนี้ ซูหลีก็ได้ยินเสียงแหลมของซูเนี่ยนเอ๋อร์

 

 

ซูเนี่ยนเอ๋อร์อยู่ในสำนักหญิงฉยงสือมากเข้า นางก็ฉลาดมากขึ้นมาเอง อย่างน้อยความสามารถทางฝีปากของนางดูไม่เลวเลยทีเดียว

 

 

ซูหลีชะงักฝีเท้าแล้วหัวเราะเสียงเย็น

 

 

“คุณหนู?” เย่ว์ลั่วถามก่อนจะมองนาง

 

 

“ไม่เป็นไร เข้าไปกันเถอะ” ใบหน้าซูหลีเรียบเฉย สาวเท้าเดินเข้าไปในเรือนหลักอย่างไม่ลังเล!

 

 

“แอ๊ด!” นางยื่นมือผลักเปิดประตูใหญ่

 

 

หลายคนในนั้นต่างหันหน้ามามองนาง

 

 

“ซูหลี!?” อารมณ์บนใบหน้าซูเนี่ยนเอ๋อร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ควบคุมตนเองไม่ได้ จนหลุดเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมา

 

 

“ปกติเจ้าเรียกท่านพี่หลี ท่านพี่หลีออกจะคุ้นปาก? ทำไมตอนนี้ไม่เรียกพี่หญิงล่ะ?” ซูหลีกระตุกมุมปาก ใบหน้านางเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม

 

 

ซูเนี่ยนเอ๋อร์ได้สติกลับมา ความดำมืดพาดผ่านในดวงตานาง

 

 

ชุดสตรีบนร่างซูหลีไม่นึกเลยว่าจะ…สวยงามขนาดนี้!

 

 

ตอนนี้ซูเนี่ยนเอ๋อร์รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมาแล้ว รู้เช่นนี้พอซูหลีรอดจากเรื่องนี้ได้ ไม่ควรจะไปแฉนาง

 

 

มิฉะนั้นอีกฝ่ายสวมชุดสตรีเช่นนี้ นางจะมีที่ยืนตรงไหน?

 

 

เดิมนางเป็นหญิงงามที่ลือชื่อคนหนึ่งในเมืองหลวง

 

 

แต่ตอนนี้เมื่อเปรียบกลับซูหลีนางด้อยลงไปถนัดตา!

 

 

ซูหลีไม่พูดอะไรกับนางมากมายนัก นางเดินตรงไปทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ไม้แดงด้านข้าง

 

 

“แปะ แปะ!” นางใช้ด้ามพัดในมือเคาะบนโต๊ะเบาๆ ใบหน้าหงุดหงิดพลางเอ่ย “ยืนนิ่งกันทำไม เอาชามา!”

 

 

นางตำหนิสาวใช้ที่อยู่รับใช้ในเรือนหลักนี้

 

 

สาวใช้พวกนี้เป็นคนสนิทของหลี่ซื่อและซูเนี่ยนเอ๋อร์ จู่ๆ เห็นซูหลีเดินเข้ามา ก็งุนงงทำอะไรไม่ถูก

 

 

แต่เป็นสาวใช้คนสนิทของซูเนี่ยนเอ๋อร์ที่ได้สติรีบรินชาให้นาง

 

 

ซูหลีโยนพัดลง ประคองแก้วชา แล้วจิบเบาๆ

 

 

ซูไท่มองบุตรสาวผู้นี้ด้วยใบหน้านิ่งขรึม

 

 

ซูหลีมีใบหน้าที่งดงามอย่างยิ่งยวด ทุกรอยยิ้มอากัปกิริยาล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน ทั้งดวงตาดอกท้อคู่นั้นยังมีเงาของมารดานางที่จากไป

 

 

เพียงแต่ซูไท่ไม่ได้อยากจะเห็นความคล้ายคลึงนี้ โดยเฉพาะเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าซูหลีหลอกลวงเขามาหลายปีขนาดนี้

 

 

ลูกชายคนโตที่เขาฟูมฟักกลับกลายมาเป็นบุตรสาว!

 

 

เรื่องนี้หากเปลี่ยนเป็นใคร ก็คงจะทนรับไม่ไหว

 

 

“พี่หญิงเองก็เก่งไม่น้อย ขนาดทำเรื่องที่คนรังเกียจขนาดนี้ ยังสามารถรอดมาได้อย่างปลอดภัย!” พวกซูเนี่ยนเอ๋อร์เองไม่ใช่ไม่รู้เรื่องวันนั้นที่ประตูวังหลวง

 

 

แต่พวกเขาไม่รู้ว่าถูกปล่อยออกมาเร็วเช่นนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าซูหลีได้รับพระบรมราชโองการ

 

 

ตอนนี้บ้านสกุลซูก็วุ่นวาย เพราะความขัดแย้งระหว่างซูไท่และหลี่ซื่อ บรรดาข้ารับใช้ก็ไปวังหลวงไม่สะดวก ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่พวกเขาจึงไม่รู้เรื่องรู้ราว

 

 

ซูหลีวางแก้วน้ำชาลง เหลือบตามองซูเนี่ยนเอ๋อร์พลางเอ่ย “น้องหญิงอยู่ในสำนักฉยงสือนานขนาดนี้มีปัญญาขึ้นมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านี้หรือ? เรื่องที่คนรังเกียจ? เจ้าคิดดีแล้วหรือที่พูดเช่นนี้ออกมา?”

 

 

ซูเนี่ยนเอ๋อร์คิดถึงบรรดาประชาชนที่ตื้นตันที่ประตูเมืองหลวงก็พูดอะไรไม่ออก

 

 

คนพวกนี้ใกล้จะเห็นซูหลีเป็นเซียนอยู่แล้ว!

 

 

แต่ในสายตาซูเนี่ยนเอ๋อร์ ซูหลีจะเป็นเซียนได้อย่างไร นางเป็นมารชัดๆ! เป็นมารตัวร้ายที่ดูดเลือดดูดเนื้อคนโดยเฉพาะด้วย!

 

 

“ซูหลี เจ้าพูดกับน้องสาวเจ้าอย่างไร?” ซูไท่รู้สึกกับซูหลีค่อนข้างซับซ้อน แต่กับบุตรสาวอย่างซูเนี่ยนเอ๋อร์ เขายังคงรักและทะนุถนอมเช่นเดิม