ตอนที่ 781 ข้าน้อยได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว / ตอนที่ 782 นายบ่าวความสัมพันธ์ลึกซึ้ง!

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

ตอนที่ 781 ข้าน้อยได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว

 

 

“นายท่าน!” ซูหลีเงยหน้ามองซูไท่ปราดหนึ่ง ทว่านางยังไม่พูดอะไรออกมา หลี่ซื่อที่กำลังอุ้มเด็กคนหนึ่งอยู่ กลับเปิดปากเอ่ยขึ้น

 

 

“ข้าน้อยออกเรือนให้กับนายท่านมาหลายปีเช่นนี้ ถือว่าพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว บัดนี้หากนายท่านยังเชื่อเรื่องชายชู้อะไร กระทั่งต้องการโยนเฉิงเกอเอ๋อร์ให้ตาย เรื่องนี้เป็นความไม่เป็นธรรมที่ข้าน้อยไม่อาจยอมรับได้ ประจวบเหมาะที่ซูหลีก็กลับมาพอดีเช่นนี้”

 

 

“นายท่านมิใช่เชื่อในสิ่งที่นางพูดหรือ บัดนี้ยังไม่รู้ว่านางจะกระทำสิ่งใดอีก เช่นนั้นข้าน้อยต้องการหย่าร้าง เพียงแต่เฉิงเกอเอ๋อร์นั้นไม่มีความผิด ยังหวังว่าต่อไปนายท่านจะปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี!”

 

 

ใบหน้าของหลี่ซื่อเต็มไปความเด็ดเดี่ยว ท่าทางที่ได้รับความไม่เป็นธรรมถึงขีดสุด ทว่ายังแสร้งทำเป็นไม่เป็นอะไร

 

 

ซูไท่กับนางเป็นสามีภรรยากันตลอดหลายปี จะพูดว่าไม่ชื่นชอบก็คงเป็นไปไม่ได้ มิเช่นนั้นจวนหลังของสกุลซูก็ไม่มีทางจะเงียบเหงาเช่นนี้มาตลอดหลายปี

 

 

เขาเห็นท่าทีของหลี่ซื่อแล้ว สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความสับสน เขาขยับปากเตรียมจะพูดอะไรออกมา

 

 

“ก็ควรหย่าร้างออกไปด้วยตนเอง!” และในเวลานี้เองซูหลีพลันลุกขึ้น แล้ววางจอกน้ำชาลงอย่างรุนแรง

 

 

จอกน้ำชากระทบกับโต๊ะจนเกิดเสียงดังกังวาน

 

 

คนในห้องแอบมองทางซูหลี อย่างห้ามไว้ไม่อยู่

 

 

ไม่ว่าซูหลีจะเป็นแต่งกายเป็นบุรุษหรือสตรี รังสีที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างก็ยังคงมีมากเกินไป

 

 

ยามอยู่ในบนท้องพระโรงยังมีท่าทางไม่สะทกสะท้าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในสกุลซูเล็กๆ เช่นนี้

 

 

“ข้ากลับมาแล้ว หรือเจ้ายังรู้สึกว่าตนสามารถเป็นนายหญิงหลักของจวนซูได้หรือ หลี่ชุ่ยหลาน ดูเหมือนเจ้าจะสำคัญตัวผิดไปแล้ว!”

 

 

หลี่ชุ่ยหลาน!

 

 

นี่เป็นชื่อตอนนี้หลี่ซื่อยังอยู่ในครอบครัวฝ่ายหญิง

 

 

บัดนี้กลับถูกซูหลีที่อายุน้อยกว่าเรียกขานเช่นนี้

 

 

“ซูหลี!” สีหน้าของซูไท่เปลี่ยนไปทันที เขาพูดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด “บัดนี้แม้แต่มารยาทพื้นฐานก็ไม่ทราบแล้วหรือ นางเป็นมารดาของเจ้า!”

 

 

ยามที่เขาเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ใบหน้าแดงก่ำของเขาเห็นได้ชัดว่าโมโหจนถึงขีดสุดแล้ว

 

 

คิดไม่ถึงว่าซูหลีได้ยินดังนั้นแล้ว เพียงชายตามองเขาอย่างสบายๆ ปราดหนึ่ง นางยกมุมปากยิ้มอย่างถากถางแล้วเอ่ยว่า

 

 

“อ้อ ท่านพ่อท่านยังอาลัยอาวรณ์ไม่อยากปลดนางหรือ นางลอบทำร้ายข้าหลายต่อหลายครา ถึงขั้นให้ข้ากินยาพิษที่ออกฤทธิ์มาตลอด 10 กว่าปี บัดนี้ท่านพ่อยังสามารถให้อภัยนางได้ ท่านพ่อ ท่านช่างมีใจกว้างดั่งมหาสมุทรโดยแท้!”

 

 

“แล้วไยก่อนหน้านี้กลับอภัยให้ข้าไม่ได้เล่า”

 

 

ภายในคำพูดของซูหลีเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก ซูไท่ได้ยินแล้วอดที่จะตกใจไม่ได้

 

 

เขาเปิดปากเหมือนต้องการพูดอะไรออกมา ทว่าเมื่อสบเข้ากับดวงตาที่เฉียบคมของซูหลีแล้ว กลับพูดอะไรออกมาไม่ได้

 

 

“เจ้าพูดจาส่งเดชอะไรกัน เรื่องจนถึงบัดนี้แล้ว ท่านยังต้องการสาดโคลนใส่ข้า ซูหลี!!! ไม่ต้องพูดเรื่องที่เจ้าไม่มีมารยาทต่อข้า เรื่องที่ข้าเคยกระทำในวันเกิดของเจ้า เจ้ากล้าพูดว่าเป็นความผิดหรือ เห็นได้ชัดว่าเจ้าใช้วิธีสกปรกถึงได้รอดไปได้!”

 

 

“บัดนี้เจ้ายังต้องการโยนความผิดให้กับข้าอีก!” อารมณ์ของหลี่ซื่อตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นก้าวไปด้านหน้าหลายต่อหลายก้าว

 

 

“ท่านแม่!” ซูเนี่ยนเอ๋อร์เห็นหลี่ซื่อกระทำเช่นนี้ จึงอดที่จะเข้าไปดึงแขนเสื้อหลี่ซื่อเอาไว้มิได้

 

 

หลี่ซือถูกนางเตือนสติขึ้น ก็พบว่าสีหน้าของซูไท่นั้นไม่น่าดูจนถึงขีดสุด

 

 

อารมณ์ที่แสดงออกทางสีหน้าของหลี่ซื่อเปลี่ยนไปถนัดตา นางเปลี่ยนเป็นท่าทีได้รับความไม่เป็นธรรม นางคุกเข่าลงต่อหน้าซูไท่แล้วเอ่ยว่า

 

 

“นายท่าน เรื่องก่อนหน้านี้ไม่ต้องพูดถึงแล้ว ข้าน้อยเป็นผู้อาวุโส จะสามารถถือสาซูหลีที่เป็นคนรุ่นหลังได้อย่างไร ทว่าเรื่องตรงหน้านี้…”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 782 นายบ่าวความสัมพันธ์ลึกซึ้ง!

 

 

“อย่างไรข้าน้อยก็ไม่อาจปล่อยให้คนใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้! นายท่าน ชื่อเสียงของสตรีนั้นสำคัญมาก ซูหลีนางไม่มีมารดาสั่งสอน นายท่านก็ไม่ทราบหรือ!?”

 

 

ทันทีที่หลี่ซื่อพูดจบ สีหน้าของซูหลีกับซูไท่ก็เปลี่ยนไปในช่วงเวลาเดียวกัน

 

 

ซูไท่ถึงกับใบหน้ากระตุกเล็กน้อย ทว่าซูหลี

 

 

กลับมีสีหน้าเย็นชาในชั่วพริบตา

 

 

หลี่ซื่อกำลังกล่าวว่าซูหลีไม่มีมารดาสั่งสอน แม้แต่มารดาของซูหลีก็ถูกนางลากเข้าไปด่าด้วย

 

 

มารดาแท้ๆ ของซูหลีไม่อาจพูดได้ว่าดีนัก อย่างน้อยก็เรื่องที่มารดาของซูหลีเลี้ยงดูนางแบบบุรุษ นี่ก็เป็นความผิดของมารดาของนาง ทว่ามีความผิดเช่นนี้แต่ถูกคนพูดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

 

โดยเฉพาะถูกคนอย่างหลี่ซื่อพูดเช่นนั้น!

 

 

“ซูหลี เจ้าไม่ต้องพูดออกมาแล้ว ก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดของเจ้า เจ้ายังพูดถึงมารดาเจ้าเช่นนี้ เจ้ายังจะ…” ซูไท่เคว้งคว้างอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็เบนเข็มไปทางหลี่ซื่อ

 

 

“ท่านพ่อ!” ซูหลีทนฟังต่อไปไม่ไหว และไม่อยากที่จะพัวพันกับบิดาไม่เอาถ่าน แม่เลี้ยง น้องเลี้ยงคนเหล่านี้อีก นางเพียงแค่นยิ้มเย็นออกมาแล้วเอ่ย

 

 

“ท่านเชื่อที่หลี่ชุ่ยหลานพูดใช่หรือไม่ หรือบิดาจะยินดีเลี้ยงบุตรให้กับผู้อื่น”

 

 

คำพูดนี้ฟังดูแล้วค่อนข้างจะเนรคุณ ทำให้สีหน้าของซูไท่เปลี่ยนไปโดยฉับพลัน

 

 

“เจ้า…” เขายกมือขึ้นเตรียมจะตีซูหลี

 

 

ในตอนนั้นเอง

 

 

“คุณหนู บ่าวนำคนที่จับกุมไว้มาที่นี่แล้วขอรับ!” เสียงของชุยตานล่องลอยเข้ามา ซูหลีกำลังถอยหลังหลบฝ่ามือของซูไท่พอดี

 

 

“ซูหลี เจ้ามันบุตรอกตัญญู…บุตรีอกตัญญู! เจ้ากล้าพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร วันนี้ข้าไม่ได้เชิญคนดูแลกฎในบ้านมา คงยังจัดการเจ้าไม่ได้!” ซูไท่ยังอยู่ในความโมโห เขาถลึงตาจนดวงตาเบิกกว้าง มองดูแล้วช่างน่ากลัวยิ่งนัก

 

 

ทว่าซูหลีเห็นดังนั้น นางเพียงแค่นยิ้มเย็นแล้วเอ่ยว่า “ท่านพ่ออย่าเพิ่งรีบร้อน ในเมื่อจะเชิญคนดูแลกฎในบ้านมาแล้ว เช่นนั้นก็พูดอย่างเปิดเผย แล้วค่อยเชิญคนดูแลกฎในบ้านมาดีกว่ากระมัง!”

 

 

พูดจบ นางก็ไม่รอให้ซูไท่มีปฏิกิริยาตอบโต้ นางร้องเสียงดังว่า “ชุยตาน นำคนเข้ามา!”

 

 

“ขอรับ!”

 

 

เส้นเลือดสีเขียวตรงขมับของซูไท่ก็เต้นตุบๆ และเห็นชุยตานนำคนที่ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาเข้ามา!

 

 

เมื่อซูไท่เห็นคนผู้นั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

 

 

“เจ้า…” ซูไท่ชี้ไปที่คนผู้นั้นอย่างพูดไม่ออก

 

 

“นะ นายท่าน!” ร่างของผู้ดูแลของสกุลซูสั่นเทิ้ม เมื่อแหงนศีรษะและมองเห็นซูไท่ เขาก็แทบจะเป็นลมไป

 

 

ทว่าสิ่งที่ซูไท่ไม่สังเกตเห็นก็คือ หลังจากที่ผู้ดูแลผู้นี้ปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของหลี่ซื่อก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดในชั่วพริบตา ร่างทั้งร่างแทบจะล้มแหล่มิล้มแหล่

 

 

“ผู้ดูแลอยู่กับท่านพ่อมาหลายสิบปีแล้วกระมัง” ซูหลีแค่นยิ้มเย็นออกมา จากนั้นจึงเดินวนรอบผู้ดูแลสกุลซูรอบหนึ่ง

 

 

สีหน้าของผู้ดูแลโทรมลง ไม่เอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้น

 

 

“เจ้านี่ช่างเป็นคนจงรักภักดีโดยแท้!” ซูหลีหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยคำพูดประหลาดออกมา

 

 

ในเวลานี้แม้แต่ซูเนี่ยนเอ๋อร์ก็ยังมองนางด้วยความฉงนสงสัย

 

 

นี่ซูหลีต้องการกระทำสิ่งใดกัน

 

 

ซูหลีเห็นท่าทางของซูเนี่ยนเอ๋อร์แล้ว จึงคาดว่าซูเนี่ยนเอ๋อร์คงจะไม่ทราบเรื่องงามหน้าที่มารดาของตนได้กระทำไว้

 

 

“หึ!” นางแสยะยิ้มออกมา นางพลันโค้งตัวสบตากับผู้ดูแลผู้นั้น แล้วเอ่ยเน้นทีละคำว่า

 

 

“ดูสิ เพื่อแบ่งเบาภาระของนายท่าน ถึงกับแบ่งเบาภาระบนเตียงของนายหญิงของเจ้าด้วย และยังมั่วโลกีย์กับนายหญิงของเจ้าจึงให้กำเนิดข้าวนอกนานี้ออกมา! บัดนี้รู้ว่าข้าไม่ใช่บุรุษ เกรงว่าภายในใจของผู้ดูแลคงจะดีใจกระมัง!”

 

 

“สกุลซูที่ยิ่งใหญ่ ต่อไปก็คงตกเป็นของบุตรชายของเจ้า!”

 

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ!?”

 

 

“ซูหลี!”

 

 

“ซูหลี!!!” ทันทีที่คำพูดนี้พูดจบ ทำให้เกิดเสียงร้องเพราะความโกรธของหลายคนดังขึ้น