ตอนที่ 656 มันอยู่ไหนล่ะ?

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

เป็นผู้หญิง?

 

ชูฮันงุนงง มองไปที่หลินหยูและตั้งคำถามที่เป็นช่องโหว่ “เจ้านายของพวกคุณช่วยพวกคุณเอาไว้แต่ไม่สนใจอะไรเลย เอาพวกคุณมาใช้งานแบบนี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แล้วพวกคุณยังยอมจะติดตามเจ้านายแบบนี้?”

 

ตามความคิดส่วนตัวของชูฮัน เจ้านายแบบนี้นั้นไม่เพียงแต่เย็นชาและไร้หัวใจและยังไร้ซึ่งความเป็นคนอีก คนฉลาดจะมองออกว่าหญิงสาวพวกนี้มีวันที่เลวร้ายอย่างไรมายบ้าง พวกเธอต้องทนทุกข์ทรมานในค่ายเถาจิน แล้วยังเจอความกดดันจากเถาจิน แต่เจ้านายของพวกเธอกลับยังให้พวกเธออยู่ที่นี้ต่ออีก นี้มันไม่ต่างอะไรกับกับผลักพวกเธอเข้ากองไฟไม่ใช่เหรอไง?

 

เมื่อได้ยินชูฮันพูดอย่างนั้น หลินหยูก็มีท่าทางไม่พอใจอย่างชัดเจน เธอแย้งคำพูดของชูฮันทันที “เจ้านายดีกับพวกเรา เราจะทำในสิ่งที่เราทำได้เพื่อเจ้านาย และมันไม่มีหนทางอื่นนอกจากต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี้ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด?”

 

นี้ยิ่งทำให้ชูฮันรู้สึกแปลกกว่าเดิม “ไม่มีทางอื่น? ค่ายอื่นๆนั้นคุณต้องการจะใช้ชีวิตแบบไหนมันขึ้นอยู่กับทางเลือกของแต่ละคนเอง มันจะไม่มีทางได้ยังไง? และเจ้านายของพวกคุณช่วยชีวิตพวกคุณเอาไว้จากเถาจินจนเกิดความไม่พอใจแบบนี้ แสดงว่าเจ้านายของพวกคุณจะต้องไม่ธรรมดา ถ้าเจ้านายของพวกคุณต้องการให้พวกคุณมีชีวิตที่ดีจริงๆมันก็ไม่ได้ยากอะไรเลย!”

 

หลินหยูสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างโกรธจัด “เจ้านายของเราแข็งแกร่งมาก ดังนั้นเถาจินจึงอิจฉา แต่เธอไม่มีเงินเลยแถมเธอยังมีหนี้ก้อนใหญ่ติดตัวอีก พวกเราเลยพยายามหาเงินเพื่อช่วยเธอจ่ายหนี้ มันผิดเหรอไง? มันคือการตอบแทนที่เราพอจะทำได้ที่เธอเสียสละตัวเองเชื่อเหลือพวกเรา?”

 

“เรื่องจริงงั้นเหรอ? เธอยังติดหนี้คนอื่นอยู่?” ชูฮันตกใจและถอนหายใจเพราะปัญหามากมายที่ติดค้างของหญิงสาวพวกนี้ เขาเอ่ยถามต่ออย่างสงสัย “แล้วเจ้านายพวกคุณอยู่ไหนล่ะ?”

 

“เจ้านายไม่ได้อยู่ในค่ายเถาจิน เธอออกไปข้างนอกเพื่อหางานที่สามารถทำเงินได้ เธอวางเป้าหมายเป็นนักล่า และเพราะเธอไม่อยู่ที่นี้ เถาจินจึงกล้าที่จะเล่นงานพวกเรา แต่พวกเราก็ยังเป็นกังวลเรื่องเงินอยู่!” หลินหยูพูดจากนั้นก็มองชูฮันด้วยสายตาขอโทษ “นอกจากจะต้องจ่ายหนี้แล้ว เรายังต้องหาเงินเพื่อประทังชีวิตกันด้วย ภายใต้การกดดันอย่างหนักจากเถาจินเราอยู่กันอย่างยากลำบากมาก ข้าวแทบไม่มีกิน เพราะงั้นก่อนหน้านี้เราถึงพยายามจะหลอกเอาเงินจากคุณ”

 

อีกครั้งที่ชูฮันงุนงง “ตอนนี้นักล่าเป็นอาชีพที่กำลังมาแรง เพราะงั้นเงินที่เจ้านายติดหนี้อยู่น่าจะหาไปจ่ายได้คืนในอีกไม่นาน”

 

ชูฮันรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เขาเกลี้ยกล่อมฟานเจี้ยนให้ตั้งสมาคมนักล่าขึ้นและตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นองค์กรที่ทำกำไรอย่างมากสุดในตอนนี้ ตอนนี้ฟานเจี้ยนอู้ฟู้อย่างมาก แต่ทำไมสถานะของเจ้านายสาวๆพวกนี้ถึงได้ย่ำแย่ขนาดนั้น? ในเมื่อความสามารถของเธอนั้นสูงขนาดที่เถาจินไม่กล้าทำอะไร มันชัดเจนว่าความสามารถในการต่อสู้ของเจ้านายพวกเธอจะต้องแข็งแกร่งอย่างมากและน่าจะเงินได้มากโขจากการรับงานในฐานะนักล่า

 

และชูฮันยังไม่ได้รับส่วนแบ่งเจ็ดส่วนจากฟานเจี้ยนเลย…

 

ได้เห็นท่าทางไม่ค่อนเชื่อของชูฮัน หลินหยูก็เอ่ยตอบ “แม้ด้วยความสามารถในการทำเงินหาเงินของเจ้านายเราจะมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังคงไม่หลุดพ้นไปอีกครึ่งชีวิต”

 

ด้วยเหตุนี้ชูฮันจึงสงสัย “เธอติดหนี้เท่าไหร่กัน?”

 

“ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ในตอนแรก เพียงแค่ไม่กี่พันเหรียญล่มสลาย” มีความเย็นชาบนใบหน้าของหลินหยู “แต่คนที่เจ้านายติดหนี้เขามีเวลาจำกัด นั้นก็คือดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นทุกวันถ้าเจ้านายไม่ยังชดใช้หนี้ และตอนนี้เวลามันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว จำนวนเงินมันจึงทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ทำให้ตอนนี้หนี้มันขึ้นไปหลายหมื่นเหรียญล่มสลายแล้ว”

 

ชูฮันตกตะลึงค้าง ทำไมนี้มันฟังดูคุ้นๆจัง?

 

“เจ้านายของพวกคุณชื่ออะไร?” ชูฮันถามอย่างเปิดเผย

 

“เธอชื่อเจียงหลิงโหลว” หลินหยูไม่คิดปิดบัง เธอเอ่ยตอบมาทันที

 

ครั้งนี้ไม่เพียงแค่ชูฮันเท่านั้นแต่หวังไคห็ตะลึงค้างราวกับโดนฟ้าป่า กลายเป็นว่าคนที่พวกเขาพูดถึงอยู่คือเจียงหลิงโหลว…ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มัน!

 

แสดงว่าที่เป็นหนี้คือเป็นหนี้ชูฮันนี่เอง? นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่คิดเลยว่าชูฮันจะขุดหลุมดักเจียงหลิวโหลวได้ใหญ่ขนาดนี้ แต่ชูฮันนี่ชั่วชะมัด!

 

ชูฮันต้องฝืนบังคับตัวเองไม่ให้หลุดหัวเราะออกมา เขาขบปากตัวเองอย่างไว้อย่างห้ามใจ “แล้วตอนนี้เจียงหลิวโหลวอยู่ไหน คุณรู้ไหม?”

 

หลินหยูไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงแปลกนัก เธอเพียงส่ายหัว “ฉันไม่รู้ เจ้านายเป็นคนไม่เข้าใจการทำธุรกิจเลนสักนิดและเธอไม่รู้วิธีทำเงิน ฉันกลัวว่าแม้ตอนนี้เธอจะเป็นนักล่า แต่กลัวว่าเงินที่หาได้มาจะสูญหายไปหมด กลับมาฆ่าหมูหาเงินยังจะดีซะกว่า!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ชูฮันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาตบโต๊ะอย่างพอใจและถามอย่างขำๆ “เธอทำไมถึงต้องฆ่าหมู?”

 

“คุณไม่รู้อะไร นี่มันดีที่สุดสำหรับเจ้านายฉันแล้ว!” ทันใดนั้นหลินหยูก็หันมาชื่นชมเจ้านายตัวเอง “เจ้านายของเราเป็นผู้หญิงแต่เธอมีความรู้เกี่ยวกับโครงร่างของสิ่งมีชีวิตต่างๆเยอะมาก เธอสามารถชำแหละร่างกายและกระดูก แยกชิ้นเนื้อเป็นจุดๆได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ยิ่งสัตว์ทั้งหลายในโลกาวินาศนั้นแข็งแกร่งและพัฒนาขึ้น คนทั่วไปไม่สามารถจำแหละเนื้อพวกมันเพราะมันต้องใช้พละกำลังอย่างมาก”

 

หลินหยูดูท่าทางตื่นเต้น เช่นเดียวกับหญิงสาวคนอื่นที่มีสีหน้าชื่นชมเมื่อได้ยินเรื่องราวของเจ้านายตัวเอง หลายคนมีท่าทางคึกคัก พูดคุยถึงเจ้านายตัวเองอย่างมีชีวิตชีวา

 

ชูฮันอึนจนไม่รู้ต้องทำอะไรตอนนี้ เขาจึงนั่งเงียบๆอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

 

“เกิดอะไรขึ้นชูฮัน?”  หวังไคเกิดข้อสงสัย

 

“หึ!” ชูฮันแสยะยิ้ม “นายไม่ได้ฟังหลินหยูหรือไง เจียงหลิวโหลวเก่งเรื่องการฆ่า!”

 

หวังไครู้สึกกลัวขนลุกตั้ง “หลินหยูพูดอย่างนั้นเหรอ?”

 

“อย่าพูดอะไรโง่ๆให้ฉันได้ยิน” ชูฮันถอนหายใจอย่างหงุดหงิด “เธอเก่งเรื่องการเลาะกระดูก มีเทคนิคที่ดี เธอสามารถชำแหละสัตว์ได้จนไม่เหลือเค้าเดิม และสามารถชำแหละคนจนตาย”

 

หวังไคหยุดหายใจทันที มันแอบชะโงกหน้าออกมาจากกระเป๋าชูฮัน

 

เจ้าแห่งการฆ่าเลาะกระดูก เลาะจนไม่เหลือร่างเดิม!

 

“ในเมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว งั้นฉันจะแนะนำอะไรให้ นี่ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยให้ชีวิตพวกคุณดีขึ้น แต่ยังช่วยให้เจ้านายของพวกคุณจ่ายหนี้ได้เร็วขึ้นด้วย” ชูฮันพูดกับหญิงสาวทุกคน

 

หลินหยูมีท่าทางระมัดระวัง “ว่ามาสิ”

 

ชูฮันยิ้มบางๆ “ภายใต้เงื่อนไขก่อนหน้านี้ ฉันจะให้พวกคุณได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและใหญ่กว่านี้ แต่พวกคุณจะต้องทำกิจการเดิมต่อไปและช่วยฉันเปิดซ่อง”

 

การพูดออกมาตรงๆของชูฮัน ทำให้ทีมกุ้งเสือดำที่อยู่ด้านนอกมีสีหน้าตกใจ

 

หลินหยูไม่รู้สึกผิดปกติอะไรกับการพัฒนาอาชีพของตัวเองให้สูงขึ้น ไม่ว่าอาชีพนั้นมันจะน่าอดสู่เกินทนอย่างไร แต่ที่เธอสนใจที่สุดตอนนี้คือคำพูดของชูฮัน “คุณพูดว่าจะให้พวกเราได้อยู่ในที่ที่ใหญ่โตกว่านี้ ฉันเชื่อคุณ แต่คุณก็เห็นสถานการณ์ของพวกเราตอนนี้ ไหนจะเรื่องที่เราไม่รู้ว่าคุณคือใคร แล้วมีความสัมพันธ์ยังไงกับเถาจิน เราไม่สามารถเมินเฉยเรื่องพวกนี้ไปได้?”

 

“เถาจิน?” ความถากถางในน้ำเสียงของชูฮันนั้นแทบปิดไม่มิด “มันอยู่ไหนล่ะ?”