ตอนที่ 657 คนน่าไม่อาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

หลินหยูและหญิงสาวหลายคนสบตามองกันทันที แล้วก็มองไปที่ชูฮันด้วยอาการตกใจ มันชัดเจนในน้ำเสียงของชูฮัน มันสื่อว่าตัวตนของชูฮันสูงกว่าเถาจินและพละกำลังก็แข็งแกร่งกว่า

สำหรับชูฮันค่ายที่มีประชากรแค่ 30,000 คนนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของชูฮันเลย

 

“คุณแค่บอกฉันมาตรงๆว่าจะเอายังไง ถ้าต้องการร่วมมือกับฉัน พวกคุณไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเรื่องอื่น ส่วนฉันเป็นใคร? พวกคุณยังไม่ต้องรู้ในตอนนี้” ชูฮันพูดขึ้นอีกครั้ง เขาไม่ได้ต้องการสร้างซ่องขึ้นใหม่ แต่ต้องการสร้างอาณาจักรแห่งความบันเทิง

 

หลินหยูที่แม้จะไม่ใช่คนใจอ่อนและเธอก็ไม่เคยทำการใหญ่ หากผู้ชายคนตรงหน้าทำให้หลินหยูรู้สึกว่าเขาต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างมากแน่ๆ และรู้ว่าเธอไม่สามรถต้านทานเขาได้ ดังนั้นเธอจึงตัดใจพยักหน้า

 

“ดี” ชูฮันยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบของอีกฝ่าย “ฉันจะมอบภารกิจให้สองภารกิจ อันดับแรกในระยะเวลาไม่กี่วันหลังจากนี้ให้ผนึกกำลังกับซ่องหลักๆทั้งหลายเอาไว้ ดึงผู้หญิงทั้งหลายมาเข้ากับตัวเองให้ได้ วิธีมันง่ายมากแต่มันก็หยาบคาย คือใช้เงินซื้อคนมาเข้าพวกนั่นเอง พรุ่งนี้จะมีคนเอาเงินมาให้คุณเอง ส่วนคุณก็มีหน้าที่ดึงคนมา”

 

หลังจากพูดจบ ชูฮันก็มีท่าทางสบายๆเหมือนเดิม ไม่มีอาการรู้สึกผิดหรืออะไรให้เห็น จากนั้นเขาก็เหยียดนิ้วที่สองขึ้นมา “ข้อสอง การจะให้พวกหัวหน้าหลักๆทั้งหลายตามคุณได้ ให้เริ่มจากการทำพวกเธอผิดใจกับคนอื่นๆ ล้างสมองพวกเธอซะ ดึงคนเข้ามาร่วมให้ได้มากที่สุด ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี รวมพลังสามัคคีของผู้หญิงในค่ายเถาจินและจากนั้นที่แห่งใหม่ที่ฉันจะสร้างให้คุณ ฉันจะให้รูปแบบการดูแลกิจการ ข้อมูลทุกอย่างเป็นทำการเก็บบันทึกเอาไว้ ทุกคนต้องแข่งขันกันเอง เราจะสร้างระบบการจัดอันดับขึ้นมาโดยอิงจากคำชมที่ลูกค้ามาใช้บริการ ยิ่งตำแหน่งสูงเท่าไหร่ราคาของผู้หญิงก็จะขึ้นตามไปด้วย”

 

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ชูฮันก็หยุดและมองหน้าหลินหยูที่ดูมึนงง “ตามทันมั้ย?”

 

หลินหยูที่กำลังตะลึงอยู่ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะดึงสติกลับมาได้ เธอสบตากับชูฮันและถาม “มันมีคนตั้งมากมาย มันต้องใช้เงินจำนวนมากเลยนะ คุณมีเงินเท่าไหร่?”

 

ชูฮันไม่มีท่าทีสะเทือนกับคำพูดของหลินหยูเลย “แน่นอนว่ามันต้องใช้เงินจำนวนมากในจะเปิดซ่องที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ดูจากพื้นที่ของค่ายเถาจินที่มีแล้วเราไม่สามารถสร้างมันขึ้นได้ที่ค่ายเถาจินที่เละเทะแบบนี้ เราจะเปิดซ่องระดับสูงที่ราคาแพงหูฉีกแม้สภาพแวดล้อมจะไม่ได้ดูแพงตามไปด้วย แต่เราจะเน้นความสะอาดและรสนิยมที่ดี เราไม่จำเป็นต้องพัฒนาสภาพแวดล้อมด้านนอกเพราะคนอื่นๆจากทั่วทุกมุมจะตามมาเปิดกิจการในภายหลังกันเอง”

 

ที่ชูฮันพูดนั้นการเพ้อฝัน เมื่อเมืองโรแมนติกทำการเปิดอย่างเป็นทางการ และหลังจากที่เขาประกาจความลับของอันดับ S+ ในการจัดอันดับ มันก็จะไม่มีปัญหาการขาดแคลนทางธุรกิจ กลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่จะมุ่งหน้ามาและทำเงินให้เขาจำนวนมาก

 

“เฮือก!”

 

เด็กสาวบางคนที่สั่งสมความกลัวมาตั้งแต่แรกตกใจช็อคจนเป็นลมไป บางคนก็กลัวจนตัวสั่นจนไม่กล้าขยับปาก

 

ชูฮันไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำพูดของเขานั้นสั่นประสาทของคนทั่วไปมากแค่ไหน เขามองหลินหยูและพูดต่อ “คุณควรรู้ไว้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการจากคุณก็คือ ความสามารถในการหลอกล่อ เพราะงั้นสอนสาวๆทุกคนซะ เงินที่ได้นอกเหนือจากราคาที่ตั้งไว้และเป็นเงินพิเศษของสาวๆแต่ละคนเอง และคุณในฐานะผู้จัดการจะคือหัวหน้าที่ซ่อนไว้ที่แท้จริง มั่นใจได้ว่าฉันจะให้ส่วนแบ่งอย่างเหมาะสมแน่นอน”

 

หลินหยูใช้เวลาอยู่พอสมควรเลยกว่าจะสามารถแยกแยะคำพูดของชูฮันได้ หลังจากผ่านไปพักใหญ่เธอก็บังคับจิตใจตัวเองให้กลับมาและเอ่ยถาม “ทุกอย่างจะค่อยๆตามมาเองช้าๆ ตราบใดที่คุณเชื่อใจฉันและให้ทรัพยากรฉันไว้ดำเนินงาน ฉันมั่นใจว่าจะทำหน้าที่ได้ดี แต่ตอนนี้มันยังมีคำถามหลักอยู่ ที่ไหนคือที่ใหม่ของเรา? ถ้าฉันรวบรวมผู้หญิงทั้งหมดมาได้แล้วเราจะผ่านคนเฝ้าระวังของเถาจินและออกไปจากค่ายได้ยังไง?”

 

“คนเฝ้าระวัง?” ชูฮันเลิกคิ้วและเอ่ยทวนคำของหลินหยูด้วยน้ำเสียงเย้นหยัน “คุณไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาพวกนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องการทำงานเบื้องหลังอะไรทั้งนั้น ฉันจะจัดการมันให้เอง ฉันจะมารับตัวพวกคุณและไปจากค่ายเถาจินเมื่อถึงเวลา ส่วนเรื่องสถานที่ใหม่นั้น คุณก็จะรู้เองเมื่อไปถึง”

 

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูจะดูถูกความสามารถของเถาจินที่ชัดเจน ไม่ว่าหลินหยูหรือสาวๆคนอื่นในร้านหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะแสดงอาการตกใจออกมา นี้ผู้ชายคนนี้แกร่งกล้ามากขนาดไหนกัน แม้แต่หัวหน้าของค่ายเถาจินยังไม่อยู่ในสายตาของผู้ชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ?

 

สิ่งที่ทำให้เหล่าสาวๆยิ่งกว่าเหลือเชื่อก็คือ ผู้ชายคนนี้บอกว่าจะขยายซ่องให้มีขนาดใหญ่โต จนเป็นอาณาจักรสีชมพู!

 

ตรงข้ามกับเจียงหลิงโหลวที่ติดหนี้หลายหมื่นเหรียญล่มสลาย วิธีในการทำเงินของชูฮันนั้นเหมือนเป็นการมอบแสงสว่างให้ความต้องการที่มีอยู่ในตัวคนซึ่งอย่างไรมันก็ทำเงินได้แน่นอน

 

ชูฮันเดินจากออกไปอย่างเย่อหยิ่งท่ามกลางสาวๆที่เอาแต่ก้มหน้าเงียบ ขณะที่ยังคงมีชายสามคนที่ยังคงไม่ได้สตินอนกองอยู่ที่พื้นเหมือนเดิม ชูฮันเพียงแค่ส่งสายตาออกคำสั่งให้ทีมกุ้งเสือดำลากตัวชายสามคนออกไปทิ้งในด้านนอกในซอยแทน

 

คืนนี้คือคืนแห่งการเปลี่ยนแปลงที่กระทันหัน “ฉันขอถามอย่างหนึ่ง?”

 

“ไม่ได้เด็ดขาด!” คำตอบของชูฮันทำให้หวังไคพูดไม่ออก

 

หวังไคที่คิดดีแล้วตัดสินใจถามออกมาในที่สุดอย่างไม่สนใจ “จำนวนของผู้หญิงในค่ายเถาจินนั้นเยอะพอสมควร ทีละคนๆการซื้อคนมันใช้เงินเยอะมาก นายคิดจะใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่สำหรับภารกิจนี้?”

 

ชูฮันชะงักและตอบ “ตัวเล็กๆอย่างแกคงไม่รู้อะไรเรื่องใหญ่ๆหรอก การลงทุนในช่วงแรกเริ่มมันเป็นเรื่องจำเป็น อนาคตเราจะได้คืนกลับมาเป็นพันเท่าที่เราลงทุนไป”

 

หวังไคตะลึงและในที่สุดก็ยอมรับโดยไม่พูดแก้อะไรออกมา “อืม ที่นายพูดมามันก็ถูกแล้ว ตอนนี้ปัญหาพื้นฐานยังไม่ได้รับการแก้ไข เหรียญล่มสลายที่เหลืออยู่กับแกนั้นจะไม่ถูกใช้ในการลงทุนก่อสร้างของค่ายอีก ห้าพันเหรียญที่เหลือตอนนั้นมอบให้เหมิงชีเหว่ยเพื่อไปพัฒนากองกำลังสอดแนมใต้ดินแทนแล้ว ตอนนี้นายไม่มีเงินติดตัวเลย แล้วจะไปเอาเงินมาจากไหน?”

 

ชูฮันยกยิ้มมุมปากและชี้นิ้วไปทางที่พักที่แสนจะหรูหราตรงหน้า “นี้มันน่าจะพอสำหรับการหาเงิน?”

 

“นี่มัน…” หวังไคมองไปที่คฤหาสน์สุดหรูตรหชงหน้า

 

“แกนี่มันโง่ไม่ต่างจากหนูที่แค่ตัวใหญ่กว่า! ” ชูฮันพูดอย่างหยาบคาย “ถ้าแกหาเหรียญไม่ได้ก็ค้นทั้งบ้าน ถ้ายังหาไม่เจอก็เอาของมีค่าไปแลก จากการคำนวนของฉัน ฟานเจี้ยนจะต้องส่งมอบของให้ฟานเจี้ยนตามได้รับคำสั่งภารกิจ และเถาจินจะต้องเก็บไว้ที่บ้านพักแน่นอน ส่วนเรื่องที่แกเป็นห่วงเรื่องถูกจับได้ท ฉันเชื่อความสามารถของฟานเจี้ยนที่เป็นวิวัฒนาการระยะ 6