กัดฟันเอาโทรศัพท์ที่วางยัดอยู่ตรงช่วงล่างนั้นกดเปิดเครื่อง ในขณะที่คนสองหันหลังให้ ดีที่เสียงโทรศัพท์เป็นโหมดเงียบ นิ้วมือเธอที่สั่นน้อยๆกลับรีบเปิดข้อความดู
ข้อความด้านบนเป็นของออกัสส่งมาให้เธอ ข้อความด้านล่างเป็นของจักรกฤษ ตำแหน่งที่อยู่ข้อความของคนทั้งสองอยู่ติดกัน
เสียงสนทนาและเสียงฝีเท้าที่อยู่ด้านหลังก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เชอร์รีนชำเลืองมองครั้งหนึ่ง ในขณะเดียวกันนั้นก็เปิดข้อความแล้วพิมพ์ตอบ
แต่ทว่าสิ่งที่เธอกลับไม่ได้ระวังคือในขณะที่เร่งรีบอยู่นั้น ข้อความที่เธอกดเข้าไปไม่ใช่ของออกัส แต่เป็นของจักรกฤษ ความระวังของเธอได้อยู่ที่ความเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านหลัง นิ้วของเธอเคลื่อนไหวไปมาอยู่ที่หน้าจออย่างรวดเร็ว ระมัดระวังไม่ให้ส่งเสียงใดขึ้น
ออกัส ฉันถูกจับตัวมา เขาจะจัดการเด็กในท้องของฉัน เขาต้องการให้ฉันแท้ง หลังจากนั้นก็จะเจาะกระดูก หมอกำลังจะมา ฉันอยู่ที่……
ข้อความยังไม่พิมพ์ไม่เสร็จ ได้ยินแต่เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาจากด้านหลัง เงามืดได้ปกคลุมเข้ามา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิงหาได้มายืนอยู่ที่ข้างหลังของเธอ
ร่างกายนั้นสั่นเทา นิ้วมือพลอยสั่นตามไปด้วย ไม่กล้าที่จะพิมพ์ต่อเพราะจะถูกจับได้แน่ ก็เลยแสร้งทำเป็นตื่น ร่างนั้นก็ได้มีการขยับเขยื้อนขึ้น
ตื่นขึ้นอย่างดิ้นไปมา เชอร์รีนทำท่าหาว ในขณะเดียวกันก็ขยับเขยื้อนร่างนั้นลงไปข้างล่าง แล้วเอาโทรศัพท์มาที่ช่วงล่างของสะโพกหลังจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง
มองสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบอย่างประหลาดใจ และมองสิงหาอย่างตื่นตระหนก เธอพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “คุณลุงสิงหา หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ แล้วคุณลุงมาอยู่ที่นี่ด้วยได้ยังไง”
สิงหามองเธออย่างเย็นชา ไม่ได้ตอบอะไรใช้เพียงแค่สายตาเท่านั้น คนที่ยืนอยู่ข้างๆรีบใช้เชือกมัดตัวเธอเข้ากับเสาด้านหลัง
“คุณลุงสิงหา คุณลุงกำลังทำอะไรคะ?” ร่างของเธอนั้นขยับดิ้นรนอย่างเปลืองแรง
ในขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้น สิงหามองชื่อที่โทรมา หลังจากนั้นก็ไปรับโทรศัพท์พร้อมโบกมือให้ผู้ชายคนนั้นกินอาหารต่อ
ไม่มีใครสังเกตเชอร์รีนว่าเธอนั้นได้ออกแรงทั้งร่างกายในการยกก้นขึ้น เพื่อเอาโทรศัพท์ไปไว้ที่ด้านหลัง มือนั้นได้ถูกเชือกมัดไว้ ขยับไม่ค่อยสะดวก ไม่ต้องพูดถึงที่จะพิมพ์ข้อความเลย มันแทบเป็นไปไม่ได้ นิ้วโป้งกดอัดเสียง หลังจากนั้นดึงเสื้อออกให้มาปิดโทรศัพท์อย่างไม่ส่งเสียงดัง
หลังจากที่ได้คุยโทรศัพท์เสร็จ สิงหาก็กลับเข้ามา “เคยให้โอกาสแกแล้ว แต่แกไม่รับไว้เอง ฉันก็เลยต้องใช้มาตรการที่เข้มงวด”
“คุณลุงตั้งใจจะให้หนูแท้ง หลังจากนั้นก็ไปช่วยวินดาคุณลุงสิงหารู้หรือเปล่าสิ่งที่คุณลุงทำอยู่ตอนนี้มันเรียกว่าการลักพาตัว?”
“ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้ายนะ แค่แกรับปากมาว่าจะทำแท้งเด็กแล้วจะเจาะกระดูก ตอนนี้ฉันยังปล่อยแกไปได้นะ”
เชอร์รีนมองเหมือนไม่ได้มองโทรศัพท์ที่อยู่ด้านหลัง บนใบหน้ากลับไม่แสดงอาการใดๆ “ลูกของหนูก็มีชีวิตนะคะ หนูทำแท้งหน้าตาเฉยไม่ได้หรอกค่ะ!”
สีหน้าของสิงหานั้นเยือกเย็น “งั้น เราก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคุยกันอีก แกทำได้แค่ทำตามความคิดเห็นของฉันแล้วล่ะ”
“หนูไม่เห็นด้วย! ไม่เห็นด้วยเป็นอันขาด! นี่คุณลุงกำลังทำชีวิตคนอยู่นะคะ เด็กก็มีชีวิตนะคะ!”
“ถึงขั้นนี้แล้วช่วยไม่ได้แล้วล่ะ” สิงหาพูดแล้วก็หยิบสัญญาขึ้นมาไว้ตรงด้านหน้าของเธอ “ปั๊มนิ้วมือลงไปซะ!”
เชอร์รีนทำเสียงไม่พอใจ แล้วหันหน้าไปทางอื่น ไม่ได้ปั๊มนิ้วมือลงไป สิงหาไม่ต่อปากต่อคำบังคับเอานิ้วเธอให้ปั๊มลงไป
“งั้นตอนนี้จะให้ไปโรงพยาบาลหรอครับ” ผู้ชายที่ใส่เสื้อสูทถาม
สักชั่วเวลาอึดใจเดียว สิงหาก็เปลี่ยนใจ “ไม่ ให้หมอมา เอายาที่ต้องใช้เตรียมมาให้ครบ”
เขาอาจจะพาเธอไป ออกัสสังเกตเห็นได้ และไม่แน่ว่าได้ติดตามร่องรอยของเขาอยู่ที่เมือง S แล้ว
ที่นี่เป็นชานเมือง ห่างจากตัวเมืองไกลมากแล้วก็เปลี่ยว ช่วงเวลาสั้นๆค้นหาที่นี่ไม่เจอหรอก เมื่อรอให้เขาหาที่นี่เจอ เรื่องที่ควรทำก็ทำเสร็จแล้วล่ะ
โรงงานเก่าที่ทิ้งร้างไว้นั้นยังมีกลิ่นน้ำโชยมา ยังผลให้เชอร์รีนที่ถูกมัดอยู่รู้สึกคลื่นไส้ อยากขยับก็ขยับไม่ได้
สิงหารอการมาของหมอ และเชอร์รีนก็ไม่ได้พูดอะไร ในโรงงานที่ใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความเงียบ บรรยากาศทำให้คนนั้นรู้สึกหายใจไม่สะดวก
……
ตอนที่ได้รับข้อความนั้นจักรกฤษกำลังดื่มน้ำชา หลังจากที่ได้เปิดดูข้อความ แก้วชาที่อยู่ในมือเขาเกือบหล่นลงพื้น
กนกอรเห็นเขาเป็นอย่างนั้น ก็เอ่ยปากถามขึ้นอย่างตกใจ “เป็นอะไรไปหรอคะ?”
“ไม่มีอะไรครับ คุณดูซารางนะ ผมจะออกไปข้างนอก” จักรกฤษไม่ได้บอกกนกอร แต่ไหนแต่ไรมาเธอรับไม่ได้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม กลัวว่าเธอนั้นจะตกใจจนเป็นลม
“คุณออกไปทำอะไรคะ”
“ไปซื้อหมากรุก!” พูดจบ จักรกฤษก็เดินจากไป เห็นอย่างนี้แล้ว กนกอรขมวดคิ้วอย่างรู้สึกหงุดหงิด พูดอย่างหน่ายๆว่า “จริงๆเลยตานี่!”
จักรกฤษโทรหาออกัสแต่กลับติดต่อไม่ได้ จึงรีบไปที่อพาร์ทเม้นท์แต่ไม่มีคน ที่บริษัทก็ไม่มี หาเจ้าตัวไม่เจอเลย
เขาร้อนรนเหมือนมดถูกน้ำร้อน แต่จักรกฤษไม่กล้าโทรหาเชอร์รีน
ถ้าโทรได้ เชอร์รีนจะต้องโทรหาออกัส ไม่ใช่ส่งข้อความมา ถ้าโทรหาเชอร์รีนแล้วเกิดผลเสียอะไรกับเธอล่ะ?
เขาหันหลังกลับไปขึ้นรถ มือกำแน่น และไปยังอีกที่หนึ่ง….
เวลาผ่านไป สิงหามองนาฬิกาไม่หยุด หมอยังไม่มา ความอดทนเขาค่อยๆหายไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดหมอก็มาถึง ในมือนั้นถือกล่อง ของที่ควรเตรียมมา เตรียมมาพร้อมแล้ว ยาทำแท้ง แล้วก็ยังมีเครื่องเจาะกระดูก
เชอร์รีนเห็นเครื่องนั้นก็ให้มีความรู้สึกสะท้าน ดูเหมือนว่าเครื่องนั้นได้ทิ่มลงไปในกระดูกของเธอ….
ความสั่นเทาน้อยๆค่อยๆคืบคลานเข้ามา สองมือของเธอกำแน่นเข้าด้วยกัน!
สิ่งที่ต้องยอมรับเลยก็คือ เวลานี้เธอรู้สึกหวาดกลัวจริงๆ และความรู้สึกจนปัญญาได้กระจายเข้ามาในร่างของเธอ ก็เหมือนกับคนที่จมน้ำที่ถูกบีบคออย่างโหดเหี้ยม ขนาดจะหายใจยังหายใจไม่ได้เลย
ตอนนี้ขอเพียงแค่สิงหาสั่งมาคำเดียว พวกยาทำแท้ง เครื่องเจาะกระดูกก็จะถูกใช้บนร่างกายของเธอ และเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้นลง….
ทั่วร่างนั้นเย็นยะเยือก เหมือนเข้าไปในอุโมงค์น้ำแข็งที่เยือกเย็น เย็นจนเธอทนไม่ได้…..
สุนันท์กำลังจัดแจงเสื้อผ้า รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้านั้นงดงาม และเธอกำลังแต่งหน้าอยู่
หยาดฝนเดินลงมาจากชั้นบน มองดูท่าทางของเธอก็ให้รู้สึกสนใจ
หลังจากที่เกิดเรื่องของพี่ใหญ่ขึ้น วันนั้นเธอยังหน้าบึ้งตึงและทำให้คนรับใช้กลัวจนไม่กล้าหายใจอยู่เลยไม่ใช่หรอ ทำไมวันนี้ถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ?
หรือว่าพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก?
“พี่สะใภ้ นี่กำลังเตรียมตัวจะไปไหนคะ” หยาดฝนเอ่ยถามขึ้น
“ไปโรงพยาบาลน่ะ พี่จะไปเยี่ยมวินดาไปดูว่าเป็นไงบ้าง” สุนันท์ฉีกยิ้ม คิ้วที่สวยนั้นยกขึ้น
คนพวกนั้นบอกว่าอาการของเธอหนักหนาสาหัส ผมที่อยู่บนศรีษะใกล้ร่วงจนจะหมดแล้ว สีหน้าไม่มีสง่าราศีกลายเป็นหญิงขี้เหร่ที่ไม่มีผม จะใช้อุบายอะไรไปยั่วผู้ชายได้อีก?
หลังจากที่ได้ข่าวว่าอาการของเธอหนักหนาสาหัส เธอก็อดทนที่จะไม่ไปโรงพยาบาล แล้วก็ไม่ได้ไปกวนสิงหา แต่กลับวางแผนว่าจะนั่งดูอะไรดีๆอยู่ที่บ้าน
เธอกับสิงหาเป็นคู่สามีภรรยามาสิบกว่าปีแล้ว หลายปีนั้นพวกเขาเคยมีความสุขกันมาก แม้ว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น แต่ว่าเธอยังคงรักเขา!