ตอนที่ 346 ใช้ผูกใจคนรัก / ตอนที่ 347 หาหมอมารักษาหลียวน

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 346 ใช้ผูกใจคนรัก

 

 

 

 

“เสิ่นไห่ถังเองก็อยากแต่งงานกับอาจารย์ เดิมทีอาจารย์วางแผนจะแต่งงานหลังจากจัดการงานสำนักวิหคเขียวให้เรียบร้อยก่อน ทั้งสองรักใคร่กันดี ต่อมาเสิ่นไห่ถังไปทำธุระข้างนอก พบรัชทายาทตวนฮุ่ย ทั้งสองรักใคร่ชอบพอกัน

 

 

เสิ่นไห่ถังรู้โดยบังเอิญว่าคุณหนูใหญ่สกุลโจวหน้าตาเหมือนตนมาก จึงคิดจะเข้าแทนที่

 

 

นางสังหารคุณหนูใหญ่สกุลโจว บังเอิญคนของสกุลโจวมาเห็นเข้า ทางจวนสกุลโจวไม่อยากให้งานแต่งงานครั้งนี้ล้มเลิก จึงให้เสิ่นไห่ถังแต่งงานกับรัชทายาทแทนคุณหนูใหญ่สกุลโจว เสิ่นไห่ถังจึงทิ้งอาจารย์ไปเป็นพระชายารัชทายาท”

 

 

ซูจิ่วซือยังคงไม่พูดไม่จา ในเมื่อเป็นแม่แท้ๆ ของฟู่เฉินหรง ตนจึงไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ และไม่อยากพูดถึงความถูกผิดของนาง

 

 

จงมั่วเจียงเองก็ไม่คิดจะให้ซูจิ่วซือวิพากษ์วิจารณ์ ยังคงพูดต่อ “ต่อมาอาจารย์เห็นว่าเสิ่นไห่ถังจากไปนานไม่กลับมา จึงไปตามหานางที่เมืองหลวง หาตั้งนานก็ไม่พบ

 

 

วันหนึ่งขณะอยู่บนทางหลวงเห็นรถม้ารัชทายาทตวนฮุ่ย และเห็นคนที่นั่งในรถม้าคือเสิ่นไห่ถัง

 

 

อาจารย์ปะปนผู้คนเข้าไปในวังตะวันออก เสิ่นไห่ถังขอให้อาจารย์ยกโทษให้ ให้อาจารย์รักษาความลับนี้ไว้ อาจารย์รักเสิ่นไห่ถังอย่างจริงใจ แม้เจ็บปวด สุดท้ายก็ไม่ได้เปิดเผยเรื่องของเสิ่นไห่ถัง แต่ออกไปจากเมืองหลวง”

 

 

“หลังจากนั้นอาจารย์ก็ไม่ได้แต่งงาน รับข้าเป็นศิษย์ เอาใจใส่บ่มเพาะข้า เรื่องราวเหล่านี้อาจารย์ไม่เคยพูด ตั้งใจดูแลสำนักวิหคเขียวอย่างดี

 

 

ตอนที่เกิดเหตุการณ์รัชทายาทตวนฮุ่ย อาจารย์อยากช่วยเสิ่นไห่ถัง แต่อาจารย์ไปสาย เสิ่นไห่ถังฆ่าตัวตายเสียก่อน

 

 

เรื่องนี้อาจารย์บอกข้าไว้ก่อนตาย แม้ว่าเสิ่นไห่ถังจะทำอะไรให้อาจารย์เสียใจ แต่อาจารย์ก็ยังคงรักเสิ่นไห่ถังไม่มีวันลืม

 

 

เสิ่นไห่ถังมอบกำไลคืนให้อาจารย์ บอกอาจารย์ว่าลูกชายคนเล็กของนางถูกจับไป ถ้ารัชทายาทตวนฮุ่ยสามารถฟื้นคดีได้ นางอยากให้อาจารย์ช่วยตามหาลูกชายคนเล็ก พาเขากลับแคว้นเจียง

 

 

ต่อมามีการพลิกคดีรัชทายาทตวนฮุ่ย อาจารย์ตามหาฟู่เฉินหรงจนทั่ว แต่ไม่ได้ข่าวคราวเลย

 

 

หลังจากนั้นอาจารย์ก็ป่วยเสียชีวิต อาจารย์มอบกำไลให้ข้า ให้ข้าตามหาฟู่เฉินหรงต่อ ถ้าเจอก็มอบกำไลให้ฟู่เฉินหรง

 

 

ข้าดูกำไลอย่างละเอียดจึงเห็นว่า รัชทายาทตวนฮุ่ยได้สลักชื่อสองคนไว้คู่กัน มิน่าอาจารย์จึงไม่อยากเก็บกำไลไว้ ต่อมาข้าเผลอทำกำไลหาย นึกไม่ถึงว่าวนไปวนมาสุดท้ายก็อยู่ในมือของฟู่เฉินหรง

 

 

ซูจิ่วซือฟังอย่างสงบอยู่ครู่ใหญ่ จึงรู้ว่าสำนักวิหคเขียวกับฟู่เฉินหรงมีความผูกพันกันอย่างนี้เอง นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด

 

 

จงมั่วเจียงพูดจบก็ชี้ที่กำไลบนข้อมือของซูจิ่วซือ “เจ้ารู้ไหมว่ากำไลนี้เป็นอะไร

 

 

กำไลนี้อาจารย์ข้าได้มาจากหนานเจียง ว่ากันว่าใช้ผูกใจคนรัก

 

 

แค่เอาเลือดของตนทาที่กำไล แล้วเอากำไลไปให้คนที่ตนรัก คนคนนั้นพอใส่กำไลแล้ว จะถอดไม่ออกตลอดชีวิต ยกเว้นตาย

 

 

หากตนได้รับบาดเจ็บ อีกคนหนึ่งก็จะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว

 

 

และคนที่ใส่กำไลจะไม่สามารถมีลูกกับคนอื่นได้ กำไลมีคราบเลือดของใคร ก็จะยอมรับเฉพาะสายเลือดของคนคนนั้น ถ้าเป็นคนอื่น จะทำให้ตายทั้งกลม

 

 

“พ่อของอาจารย์รู้ว่าอาจารย์รักเสิ่นไห่ถังอย่างลึกซึ้ง แต่เสิ่นไห่ถังเป็นคนโลเล พ่อของอาจารย์จึงเอากำไลนี้มา เพื่อมัดใจเสิ่นไห่ถัง ไม่ให้นางทรยศต่ออาจารย์ แต่ไม่ได้บอกอาจารย์เรื่องนี้

 

 

อาจารย์มอบกำไลให้เสิ่นไห่ถัง แต่เสิ่นไห่ถังไม่ได้ใส่ ข้าเดาว่านางคงรู้เรื่องของกำไล”

 

 

 

 

——

 

 

 

 

ตอนที่ 347  หาหมอมารักษาหลียวน

 

 

 

 

“แม่หนู ฟู่เฉินหรงมอบกำไลนี้ให้เจ้า แสดงว่าอยากผูกกใจเจ้าให้อยู่กับเขา ผู้ชายที่เห็นแก่ตัวอย่างนี้ เจ้ายังจะอยู่กับเขาหรือ

 

 

จุดนี้เขาเหมือนแม่แท้ๆ  เวลานั้นนางจากอาจารย์ไปเพื่อชีวิตที่หรูหราสุขสบาย เวลานี้เขาใช้วิธีเดียวกันมาผูกใจเจ้า ถ้าเป็นข้า คงถีบทิ้งไปนานแล้ว เจ้าวางใจ ข้าไม่ให้เจ้ามีลูกหรอก ถึงอย่างไรก็ต้องรักษาชีวิตของเจ้าไว้”

 

 

ซูจิ่วซือรู้มาตลอดว่ากำไลนี้ไม่ธรรมดา นึกไม่ถึงว่าจะมีความเป็นมาอย่างนี้ นางยังคงสงบนิ่ง ตอบอย่างราบเรียบ “เรื่องราวในอดีตข้าไม่มีอะไรจะพูด พระชายาจากไปนานแล้ว ความจริงเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้

 

 

เฉินหรงไม่ใช่คนอย่างที่เจ้าว่า เรื่องนี้เขาอาจจะไม่รู้ คิดว่าเป็นมรดกของแม่ จึงมอบให้ข้า”

 

 

“เจ้าเชื่อมั่นในตัวผู้ชายคนนั้นขนาดนี้เชียวหรือ ระวังจะเป็นอย่างอาจารย์ข้า อาจารย์ข้าทุ่มเทความรักให้เสิ่นไห่ถัง มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้นาง เชื่อมั่นในตัวนางอย่างไร้ข้อกังขา สุดท้ายเป็นอย่างไร เสิ่นไห่ถังกลับเหยียบย่ำหัวใจของอาจารย์อย่างไม่ไยดี

 

 

แม่เป็นอย่างไรลูกก็เป็นอย่างนั้น การที่ฟู่เฉินหรงมอบกำไลให้เจ้าแสดงว่าเขาไม่ใช่คนดี”

 

 

จงมั่วเจียงสีหน้าดูแคลน จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ  “เจ้าช่างเป็นผู้หญิงที่โง่เขลาจริงๆ  กำไลนี้เป็นของอาจารย์ข้า ไม่ใช่มรดกของเสิ่นไห่ถัง ข้าไม่คิดจะมอบให้ฟู่เฉินหรง ในเมื่อย้อนกลับมาแล้ว เจ้าก็อย่าคิดจะไปเลย เว้นแต่ว่าเจ้าจะถอดกำไลทิ้งไว้”

 

 

ซูจิ่วซือขมวดคิ้ว ไม่พูดไม่จา นางไม่มีวันอยู่กับจงมั่วเจียงแน่ ส่วนคำพูดทั้งหมดของจงมั่วเจียง นางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้าเป็นความจริง นางก็ไม่สงสัยในตัวฟู่เฉินหรง เขาไม่ใช่คนแบบนั้น

 

 

พอเห็นซูจิ่วซือดึงดันอย่างนี้ จงมั่วเจียงก็รู้สึกเหมือนได้เห็นอาจารย์ เวลานั้นเขาเห็นอาจารย์เหม่อมองภาพวาดตามลำพัง มักจะยืนทั้งวัน

 

 

พอเริ่มรู้ความเป็นมาของอาจารย์ เขาก็รู้สึกว่าอาจารย์ช่างโง่เขลาจริงๆ  เสิ่นไห่ถังไม่มีค่าสมควรที่จะคิดถึง และตลอดชีวิตของเขาไม่เคยลืม

 

 

เวลานี้เขามองซูจิ่วซือเห็นเงาของอาจารย์ เขาต้องขัดขวางอย่างแน่นอน ไม่มีวันให้คนที่ใส่กำไลนี้ย่ำรอยเดิมของอาจารย์

 

 

พอฟ้าสว่าง ฝนหยุดนานแล้ว อากาศเริ่มแจ่มใส ทั้งหมดมาถึงเมืองชินโจว จงมั่วเจียงพานางไปอยู่คฤหาสน์ใหญ่ชานเมือง เป็นที่อยู่ส่วนตัวของจงมั่วเจียง หน้าประตูมีสาวใช้ยืนเป็นแถว พอเห็นจงมั่วเจียง ก็ทักทายพร้อมพัน

 

 

“พาแม่นางคนนี้ไปหอหยกเขียว วันหลังให้นางอยู่ที่หอหยกเขียว จะได้ดูแลนางให้ดี ส่วนเขา…” จงมั่วเจียงเบนสายตาไปยังกู้หลียวน ซูจิ่วซือเกรงว่าเขาจะทำให้กู้หลียวนลำบาก จึงรีบพูดขึ้น “เขาเป็นพี่ชายข้า”

 

 

“ท่าทางแข็งแรงดี ต่อไปให้ทำหน้าที่ผ่าฟืน!”

 

 

พอได้ยินว่าให้เขาผ่าฟืน กู้หลียวนก็หน้าเขียว เมื่อคืนโดนฝนตลอดคืน ตอนนี้รู้สึกเวียนหัว คงจะป่วยด้วยโรคลมหนาว

 

 

“เจ้าสำนักจง…”

 

 

จงมั่วเจียงมองหน้าซูจิ่วซือเหมือนจะยิ้ม “ถ้าเจ้ารับปากแต่งงานกับข้า กู้หลียวนก็ไม่ต้องผ่าฟืน มีแบบแผนที่ไหนให้น้าชายผ่าฟืน แต่เวลานี้เขาไม่มีฐานะอะไร จะกินข้าวอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร ข้าให้โอกาสเขาทำงานตอบแทนค่าอาหาร ผ่าฟืนได้เท่าไรก็ให้อาหารเท่านั้น”

 

 

ซูจิ่วซือรู้ว่าจงมั่วเจียงจงใจแยกนางกับกู้หลียวนออกจากกัน พอเห็นสีหน้ากู้หลียวนไม่ดี เหมือนกับไม่สบาย นางเป็นห่วงลูกชาย รีบพูดขึ้น “หาหมอมารักษาหลียวนได้ไหม”