ตอนที่ 785 ออกจากจวน / ตอนที่ 786 จัดหาที่พักให้เรียบร้อย

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

ตอนที่ 785 ออกจากจวน

 

 

ซูหลีพูดด้วยเสียงเยียบเย็นว่า “อย่าให้นางเข้ามา”

 

 

“ขอรับ!” มีข้ารับใช้หลายคนที่คอยจับตามองนางตั้งแต่ต้น จึงเป็นธรรมดาที่รู้ว่าหลี่ซื่อต้องการกระทำสิ่งใด ในเวลานี้จึงไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งใด นอกจากจับกุมหลี่ซื่อเอาไว้ไม่ให้นางขยับตัว

 

 

“ซูหลี นี่เจ้ากระทำสิ่งใด หากนายท่านเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าจะ…” หลี่ซื่อเห็นดังนั้น จึงเริ่มเปิดปากก่นด่าออกมา

 

 

ซูหลีคล้ายกับไม่ได้ยินมิปาน นางเพียงหยิบขวดกระเบื้องสีขาวใบหนึ่งออกมาจากเสื้อ แล้วนำขวดใบนั้นไว้ตรงใต้จมูกของซูไท่

 

 

ซูเนี่ยนเอ๋อร์หมุนกายกลับมา เมื่อเห็นภาพสถานการณ์ที่วุ่นวายจนถึงขีดสุด นางจึงอ้ำอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นเพียงแค่เวลาอันสั้น ซูไท่ที่หมดสติไปก็ฟื้นคืนสติกลับมาดังเดิม

 

 

“นายท่าน ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ขอรับ” ข้ารับใช้ที่พยุงซูไท่อยู่เอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา

 

 

ซูไท่เพิ่งจะมีสติขึ้นมา ยังมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก และเมื่อสายตาของเขาเห็นหลี่ซื่อที่ถูกจับตัวเอาไว้ด้านข้าง ร่างกายจะลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที

 

 

“นางแพศยา! เจ้ามันนางแพศยา! เจ้ากล้ามีชายชู้ลับหลังข้า เจ้ายังกล้าส่ายหัวปฏิเสธ ยังกล้าพูดว่าเจ้ากับเขาไม่ได้มีเรื่องชายชู้พรรค์นั้น!?” ทันทีที่ซูไท่ลุกขึ้นยืน เขาก็ตบหน้าหลี่ซื่อสองฉาด

 

 

เขาแรงเยอะมาก หลี่ซื่อพยายามส่ายศีรษะ ในปากยังอมพะนำอะไรไว้คล้ายต้องการพูดอธิบาย เพียงแต่ในเวลานี้ซูไท่ถูกทำให้โมโหจนไม่หลงเหลือสติสัมปชัญญะเลยแม้แต่น้อย เขาจะฟังคำอธิบายของนางที่ไหนกัน!

 

 

“เจ้าไม่พูด ได้! งั้นเจ้าพูดให้ข้าฟังซะ! ซูไท่ก้าวไปอยู่ตรงหน้าของพ่อบ้านสกุลซู จากนั้นลากเขามาตรงหน้าหลี่ซื่อคล้ายกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงโมโห

 

 

“พูดออกมา เจ้ากับนางแพศยาสมสู่กันมานานเท่าไหร่แล้ว”

 

 

“นายท่านให้อภัยด้วยเถิดขอรับ! นายท่านให้อภัยด้วยเถิดขอรับ!” พ่อบ้านสกุลซูผู้นั้นถูกทำให้ตกใจจนสติล่องลอยออกจากร่างแล้ว เขาจะกล้าพูดออกมาเสียที่ไหนกัน จึงทำได้เพียงร้องขอความเมตตา

 

 

“พูด! เจ้าจะพูดไม่พูด หากเจ้าไม่พูด ข้าจะเอาชีวิตสุนัขเช่นเจ้า!” ซูไท่แผดเสียงร้องออกมาด้วยโทสะ ร่างทั้งร่างของพ่อบ้านสกุลซูถึงกับสั่นสะท้าน ผ่านไปพักใหญ่ถึงได้เงยหน้าแล้วเอ่ยด้วยท่าทีสั่นงกๆ ว่า

 

 

“สะ สามปีแล้วขอรับ…”

 

 

สามปี!?

 

 

ซูไท่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ก็เกือบจะหมดสติไปอีกครั้ง ทว่าเขาไม่ได้หมดสติ แต่กลับมีใบหน้าดำทะมึนตึง!

 

 

เขาคิดไม่ถึงว่า ภรรยาที่เขาใช้เกี้ยวแปดคนหามแต่งเข้ามาอย่างถูกต้องตามประเพณีจะสมสู่กับพ่อบ้านสกุลซู อีกทั้งยังเป็นเวลานานถึงสามปี!

 

 

นี่!

 

 

นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายโดยแท้!

 

 

ซูหลีเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงร้อยแปดพันเก้าของซูไท่แล้ว นางก็ทราบทันทีว่าในใจของซูไท่กำลังคิดอะไรอยู่ นางอดแสยะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

 

 

นางไม่ใช่ซูไท่ และแม้นางจะไม่ใช่ซูหลีตัวจริง ทว่าในใจของนางกลับเคารพซูไท่เสมือนเขาเป็นบิดาที่แท้จริงของนาง แม้นางจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับซูไท่ ทว่านางก็ไม่ต้องให้ผู้อื่นใช้เรื่องเช่นนี้หลอกลวงซูไท่

 

 

เพียงแต่ช่วงเวลาที่นางทราบเรื่องนี้นั้นไม่ค่อยจะเข้าจังหวะนัก เวลานั้นนางอยู่ที่ซานซี หากนางให้คนนำจดหมายไปให้เขา ซูไท่คงจะไม่เชื่อนางอย่างแน่นอน

 

 

คาดไม่ถึงว่าในยามที่ซูหลีไม่อยู่ หลี่ซื่อกับซูเนี่ยนเอ๋อร์สองแม่ลูกนี้จะอยู่ในสกุลซูโดยตลอด จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ซูไท่จะฟังคำพูดของคนข้างกายมากกว่า

 

 

ดังนั้นนางตริตรองอย่างถี่ถ้วน แล้วคิดว่าหลังจากกลับไปจะบอกเรื่องนี้กับซูไท่ แต่คาดไม่ถึงว่าซูไท่จะทำกับนางเช่นนี้…

 

 

“ท่านพ่อก็ทราบอย่างชัดเจนแล้วว่า คนที่ใจคอเ**้ยมโหดคือใคร ลูกก็รู้เร็วก่อนท่านพ่อไม่นาน ลูกคิดจะกลับมารายงานท่านยามที่กลับเข้ามาในเมืองหลวง ใครจะคิดว่าท่านจะมองดูข้าตายไปเช่นนี้”

 

 

สีหน้าของซูหลีมีความเยียบเย็นอย่างบอกไม่ถูก

 

 

ซูไท่เห็นดังนั้นจึงเงยหน้ามองนางอย่างห้ามไม่ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 786 จัดหาที่พักให้เรียบร้อย

 

 

“ช่วยให้ท่านพ่อทราบเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว ก็ถือว่าเป็นการปลดเปลื้องความหนักใจของข้าแล้ว ชุยตาน!” หลังจากซูหลีเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ก็หมุนกายเดินออกมาไป

 

 

“ขอรับ!” ชุยตานนำเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดส่งให้กับสาวใช้ที่อยู่ด้านข้าง

 

 

“พวกเราไปกันเถอะ” ซูหลีพูดจบก็ไม่สนใจเรื่องวุ่นวายอะไรอีก นางสาวเท้าเดินไปทางห้องพักของตนเอง

 

 

ทันทีที่นางเดินออกไป ข้ารับใช้ของนางอย่างเย่ว์ลั่ว ชุยตานและคนอื่นๆ ต่างพากันเดินตามซูหลีออกไป

 

 

ภายในห้องนั้นหลงเหลือเพียงภาพแผ่นหลังที่แสนเย็นยะเยียบ

 

 

 

 

ในคืนวันนั้นซูหลีนำทุกคนในจวนและสิ่งของของนาง โดยเฉพาะของกำนัลที่ฮ่องเต้เคยพระราชทานให้นางหลายครา พากันเคลื่อนตัวครั้งใหญ่ออกจากสกุลซู

 

 

เหลือเพียงจวนที่ว่างเปล่า

 

 

ที่พักที่ฮ่องเต้พระราชทานให้นั้น แม้จะไม่ใหญ่เหมือนกับสกุลซู ทว่าสร้างได้ดีกว่าสกุลซู มิหนำซ้ำที่ตั้งยังดีกว่าสกุลซู บริเวณที่ตั้งของจวนสกุลซูนั้นค่อนข้างอยู่ไกล ยามที่ซูหลีไปว่าราชกิจยามเช้าจักต้องใช้เวลาครึ่งชั่วยามถึงจะไปถึง

 

 

เมื่อเปรียบกันแล้ว ที่พักแห่งนี้อยู่ใกล้กว่ามาก อีกทั้งด้านหน้าและด้านหลังล้วนตรงไปยังราชสำนักที่หรูหรา สภาพแวดล้อมก็เงียบสงบเป็นอย่างมาก

 

 

กว่าพวกซูหลีจะมาถึงก็เป็นเวลากลางคืน จึงทำได้เพียงเก็บกวาดห้องหลักให้ซูหลีพักผ่อน

 

 

ยามเช้าของวันที่สอง ไป๋ฉินก็ตื่นขึ้นเป็นคนแรก จากนั้นจึงพาข้ารับใช้ไปเก็บกวาดทั่วทั้งบ้าน

 

 

ผ่านไปไม่นาน ทหารใต้อาณัติของโจวเว่ยก็มาหาถึงที่

 

 

ไป๋ฉินเห็นดังนี้จึงเตรียมตัวไปเรียกซูหลีออกมา ทว่าทหารผู้นั้นกลับกล่าวไม่ต้องลำบากใต้เท้าซู เขาเพียงมาส่งของให้กับซูหลีเท่านั้น

 

 

ดังนั้นหลังจากซูหลีตื่นขึ้นแล้ว ก็พบกับทหารนับสิบคนและยังมีสาวใช้อีกสองคน

 

 

สาวใช้สองคนนี้ใบหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก ซูหลีมองนางทั้งสองคนอยู่หลายปราดจึงพบว่า พวกนางเป็นคนที่คอยปรนนิบัตินางในคุกหลวงนั่นเอง

 

 

ส่วนทหารเหล่านั้น…ยิ่งเก่งกาจยิ่งกว่า ชุยตานออกไปสำรวจดูคราหนึ่ง กลับเข้ามาใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า คนเหล่านี้เดินฝีเท้าเบามาก หายใจเบาและรวดเร็ว ล้วนเป็นทหารฝีมือดีอันดับต้นๆ

 

 

หลังจากซูหลีได้ยินแล้ว ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความสับสน

 

 

นางกับโจวเว่ยนั้นไม่เคยไปมาหาสู่ นางรู้ว่าโจวเว่ยคือแม่ทัพประจำกองทหารรักษาพระองค์ และเป็นมือซ้ายมือขวาของฉินเย่หาน มีบทบาทไม่ต่างจากหวงเผยซานนัก ทว่าเมื่อเปรียบกันแล้ว ซูหลีนั้นคลุกคลีกับหวงเผยซานมากกว่า

 

 

ในเมื่อไม่ได้ไปมาหาสู่กัน พอโจวเว่ยส่งคนมาที่นี่มากมายขนาดนี้ นั่นจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

 

 

เมื่อคิดถึงคนที่อยู่เบื้องหลังโจวเว่ยแล้ว ซูหลีก็รู้สึกปวดฟัน นางรู้สึกว่าฮ่องเต้พระองค์นี้ต้องการสอดแทรกคนจำนวนนับไม่ถ้วนไว้สอดแนมนางอย่างโจ่งแจ้ง?

 

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูหลีพลันรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของตนเองทุกย่างก้าว ได้ถูกผู้อื่นจับตามองอยู่ตลอดเวลา

 

 

ทว่าเมื่อครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว สำหรับฉินเย่หานที่แม้แต่เรื่องของสกุลซูก็ยังทราบอย่างชัดเจน คิดดูแล้วคงจะมีผู้สอดแนมอยู่จำนวนไม่น้อย ผู้สอดแนมไม่ว่าจะอยู่ในที่ลับหรือที่แจ้งก็มีค่าเท่ากัน

 

 

อีกทั้งทหารเหล่านี้ยังเป็นผู้มีพลังยุทธ์ยอดฝีมือ ซูหลีครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่งก็รู้สึกควรจะรับไว้

 

 

นางกำลังกลัดกลุ้มใจเรื่องไม่มีคนใช้งานอยู่พอดี คนเหล่านี้ล้วนเก่งกาจกว่าชุยตานอยู่มาก นี่ไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหากลัดกลุ้มใจนี่หรอกหรือ

 

 

อีกฝ่ายเป็นถึงฮ่องเต้ นางก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้นก็รับเอาไว้แล้วกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ต่อไปหากนางต้องการกระทำสิ่งใด ก็คงจะสะดวกขึ้นกว่าเดิม

 

 

หลังจากซูหลีคิดได้แล้ว จึงให้คนจัดหาที่พักให้กับคนเหล่านั้น และให้พวกเขาพักในจวนของตนเอง