ตอนที่ 533 เยี่ยโกรธแล้ว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

พวกเขารู้สึกกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก ทุกกระบวนท่าของมู่เฉียนซีล้วนแต่เป็นทักษะวิญญาณที่สามารถเอาชนะศัตรูคู่ต่อสู้ข้ามขั้นได้ อีกทั้งยังเป็นกระบวนท่าที่สูญเสียพลังวิญญาณไปไม่น้อย ทว่า ราชาแห่งภูตผู้วิปริตตรงหน้ากลับยิ่งมีแรงและกล้าหาญยิ่งขึ้น

“พลังจิตของคนผู้นี้แข็งแกร่งมาก!”

“ต่อให้พลังจิตแข็งแกร่งเพียงใด มันก็สิ้นเปลืองและต้องหมดอยู่ดี!”

พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีตอนนี้แทบจะหมดแล้ว ทว่ายาวิญญาณกองพะเนินในมิตินั้น ใช้อย่างไรก็ไม่มีทางหมดแน่นอน

ยาฟื้นฟูพลังวิญญาณหลายขวดถูกมู่เฉียนซีกระดกกลืนลงไป จากนั้นพลังวิญญาณของนางก็ฟื้นฟูกลับมาและมีกำลังในการต่อสู้ได้ต่อ

ออกจากเซี่ยโจวเพื่อมาฝึกประสบการณ์ครั้งนี้ นางใช้เวลาหลายวันในการปรุงยาอยู่ในห้องปรุงยา ต่อให้นางต้องต่อสู้ทุกวันยาวิญญาณเหล่านี้ก็มีเพียงพอ

พวกเขากล่าวอย่างประหลาดใจว่า “นี่พวกเราถูกกักขังไว้ที่เกาะวิญญาณมรณะจนไม่รู้เรื่องราวของโลกใบนี้แล้วงั้นรึ ยาวิญญาณนั่นกินเช่นนี้ก็ได้รึ?”

“พี่ใหญ่! พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีเวลาผ่านไปสิบกว่าปี โลกสี่ทิศอาจจะมีสมุนไพรวิญญาณมากเหมือนกับต้นไม้ต้นหญ้า นักปรุงยาก็อาจจะมีมากเหมือนกับจอมภูต ยาวิญญาณจึงได้มีค่าน้อยลงกระมัง!”

“ก็มีแค่เหตุผลนี้เหตุผลเดียวแล้วกระมัง!”

สิบกว่าปี โลกภายนอกมิได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายนัก ยาวิญญาณยังคงเป็นสิ่งล้ำค่าอยู่เฉกเช่นเดิม เพียงแต่พวกเขาแค่ได้เจอกับมู่เฉียนซี ดังนั้นจึง……

ตูม ตูม ตูม!

ปัง ปัง ปัง! เสียงดังสนั่นขึ้น ร่างของคนเหล่านี้ก็ลอยอยู่บนพื้นผิวน้ำ

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “พวกเจ้าช่างอ่อนแอยิ่งนัก” ต่อสู้มานานถึงเพียงนี้แล้วก็ยังไม่ทำให้นางทะลวงพลังวิญญาณระดับเจ็ดได้

ตอนแรกที่ทะลวงพลังวิญญาณระดับเจ็ดนั้นก็เป็นเพราะว่าหอเทพเพิ่มพลังให้นางคราเดียวก็พุ่งสูงขึ้น ตอนนี้กลับมาฝึกฝน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วพลังนั้นเต็มกว่าเดิมมาก

พวกเขาน้ำลายฟูมปาก มิใช่ว่าพวกเขานั้นอ่อนแอ แต่เป็นเพราะนางผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์ต่างหากเล่า!

จากนั้นก็มีคนเข้ามา เสียงดูถูกเหยียดหยามเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า “ถุย! คนไร้ประโยชน์ยังไงก็เป็นคนไร้ประโยชน์อยู่วันยังค่ำ โดนสาวน้อยขั้นราชาโจมตีจนมีสภาพนี้ ช่างน่าอายยิ่งนัก”

ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำขึ้นมาด้วยความโกรธ “งั้นเจ้าก็ลองดูสิ!”

ผู้ที่ย่างกรายเข้ามานี้เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วม ดวงตาของเขามองไปที่มู่เฉียนซีและเปล่งประกายขึ้นด้วยความน่าทึ่ง

“แม่นางน้อย ไม่รู้ว่าเจ้ามาที่เกาะวิญญาณมรณะด้วยเหตุอันใด?”

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากว่าเจ้าแหกตาดู ก็จะรู้ว่าข้าผ่านทางมา!”

“แต่เส้นทางของเกาะวิญญาณมรณะ ใช่ว่าจะราบรื่นนัก! โดยปกติแล้วจะไม่มีใครย่างกรายมาที่นี่”

“ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว ยังไงก็ต้องไปให้ถึงที่สุด!”

เขามองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “แม่สาวน้อย ขอเพียงแค่เจ้าทำดีกับข้า เจ้าคิดจะผ่านทางนี้ไปได้อย่างราบรื่นนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!”

กระบี่มังกรเพลิงขยับและชี้ไปที่หน้าของคนผู้นั้น “เจ้าเป็นใครกัน คิดอยากจะให้ข้าทำดีด้วย”

สีหน้าของเขาดำคล้ำลงด้วยความไม่พอใจ “สาวน้อย การหยิ่งยโสนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับเกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้แล้ว เจ้ากำลังทำเรื่องที่เป็นภัยแก่ตัว!”

“จับตัวมา!”

เขาเป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก การจะรับมือกับสาวน้อยอย่างมู่เฉียนซีแน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นต้องลงมือเอง แค่ลูกน้องของเขาก็เพียงพอที่จะจัดการกับนางแล้ว

เขาชอบดูหญิงสาวผู้หยิ่งยโสผู้นี้ขัดขืนอย่างสุดชีวิต มันต้องน่ารักมาก ๆ เป็นแน่

สายตาของเขาจับจ้องไปที่มู่เฉียนซี สายตาที่น่าขยะแขยงนั้นทำให้จิ่วเยี่ยอยากจะทำให้สิ่งมีชีวิตทุกสรรพสิ่งในเกาะวิญญาณมรณะกลายเป็นโครงกระดูกขาว

จื่อโยวที่ยืนอยู่ข้างจิ่วเยี่ยกล่าวขึ้นว่า “เยี่ย เจ้าโกรธแล้ว!”

จื่อโยวมีความสุขกับความโกรธนี้ของจิ่วเยี่ย เยี่ยผู้ที่เย็นชา ไร้หัวใจและไร้ความรู้สึกอย่างไร้ที่เปรียบนั้น ตอนนี้หัวใจของเขาสั่นไหวขึ้นแล้ว หัวใจทั้งดวงของเขาอยู่ที่สาวงามผู้นั้น ไม่ว่าใครก็มิอาจมาหยาบคายได้

จิ่วเยี่ยมิได้เปล่งเสียงกล่าวอะไรออกมา สายตาของเขาจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างไม่ละสายตา หนทางของซี ซีต้องเดินไปถึงจุดสูงสุดด้วยตัวเอง

คนกลุ่มนี้กลับแข็งแกร่งกว่าพวกไร้ประโยชน์กลุ่มก่อนหน้าไม่น้อย

ขวั่บ ขวั่บ ขวั่บ! มู่เฉียนซีใช้ทักษะพันเงาเคลื่อนไหวไปมาระหว่างพวกเขา และหลบหลีก!

ปัง ปัง ปัง!

ในที่สุดนางก็หาโอกาสตอบโต้กลับได้แล้ว!

“มังกรวารีพิฆาต!”

“มังกรเพลิงสังหาร!”

“ทักษะเทียนซวน!”

ตูม ตูม ตูม! เพียงลมหายใจเดียวนางตอบโต้ด้วยสามกระบวนท่าติดต่อกัน!

ทั่วทั้งพื้นมหาสมุทรระเบิดขึ้น ม่านน้ำที่ปรากฏขึ้นแต่ละชั้นนี้บดบังการรับรู้ของพวกเขา

ร่างสีม่วงทะลุออกมาจากม่านน้ำแต่ละชั้นนั่น และแสงสีเงินนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป!

“อาวุธลับ! รีบหลบเร็วเข้า!”

“รีบสกัดกั้นเอาไว้ให้ได้!”

หลบ! เข็มยาพุ่งเข้าหาพวกเขาไม่ยอมปล่อยราวกับมีตาก็มิปาน!

สกัดกั้น! ทันใดนั้นเองเข็มยาขนาดเล็กก็พุ่งเข้าใส่พวกเขามากยิ่งขึ้น

“อ๊า!” เสียงกรีดร้องดังก้องขึ้น

เท้าของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวลงมาตามม่านน้ำและเหยียบลงบนพื้นผิวน้ำเบา ๆ

ลมสมุทรพัดพาผมสีดำขลับ ไม่มีความตื่นตระหนกหลังจากการสงครามครั้งใหญ่ อีกทั้งยังสงบและเยือกเย็นเป็นอย่างมาก

พี่ใหญ่ผู้นั้นกล่าวอย่างน่าทึ่งว่า “สวยงามเลยทีเดียว!”

“อ๊า อ๊า อ๊า!” เพียงแต่ว่าสีหน้าของเหล่าบรรดาสหายของเขาเขียวขจีขึ้น ทำให้เขาได้สติกลับมา

โดนพิษเข้าแล้ว!

เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “นี่เจ้า เอายาแก้พิษมาให้ข้าประเดี๋ยวนี้!”

มู่เฉียนซีกล่าว “คิดจะเอายาแก้พิษจากข้า แต่กล่าววาจาเช่นนี้ คิดเหรอว่าข้าจะให้ ?”

“ต่อให้เจ้าไม่ให้ ก็ต้องให้!”

เมื่อเห็นเหล่าสหายที่อยู่ตรงหน้ายิ่งโดนพิษฝังลึกมากขึ้น เขาก็จำต้องออกโรงแล้ว

พลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก แน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งกว่าเหล่าบรรดาน้อง ๆ เหล่านั้น พลังการกดดันนั้นทำให้ความเร็วในการหลบหลีกของมู่เฉียนซีช้าลงไม่น้อยเลย

เมื่อเผชิญหน้ากับการกดขี่ของจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก มู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ว่าโอกาสในการทะลวงพลังนั้นได้มาถึงแล้ว

หลังจากหลบหลีกการโจมตีอันน่าตื่นเต้นหลายต่อหลายครั้ง ฉากกำบังที่ไม่ทลายในก่อนหน้านี้ก็ได้ทลายลงแล้ว!

ราชาแห่งภูตระดับเจ็ด!

“สาวน้อยนี่ทะลวงพลังวิญญาณแล้ว!” พวกเขามองมู่เฉียนซีด้วยความตกตะลึง

“เลื่อนขั้นแล้วอย่างไร ? ยังห่างชั้นกับพี่ใหญ่มากนัก การที่พี่ใหญ่จะจับนางได้นั้น ช่างเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่ง!”

หลังจากที่เลื่อนขั้นพลังวิญญาณได้ มู่เฉียนซีก็หันกลับมารวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมด จากนั้นร่างของนางก็ทะยานขึ้นสู่อากาศ!

“ทักษะเทียนซวน!”

ตูม!

ทักษะเทียนซวนที่รวบรวมพลังวิญญาณของนางทั้งหมดนั้นตกลงมา ทำให้คู่ต่อสู้ผู้นี้จำต้องรับมือกับนางอย่างจริงจัง!

ตูม!

ในที่สุดเขาก็จับได้แล้ว เพียงแต่กว่าจะจับได้นั้นเม็ดเหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นมาเต็มหน้าผากของเขา!

หากสาวน้อยผู้นี้มีพลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิ เกรงว่าการโจมตีนี้เขาก็มิอาจหลบหลีกได้!

“สาวน้อย ครานี้ เจ้าคงจะไม่มีอุบายอื่นใดแล้วกระมัง!”

ตอนนี้ได้สูญเสียพลังวิญญาณไปมาก  ต่อให้กินยาวิญญาณมากเพียงใดก็มิอาจฟื้นฟูพลังวิญญาณกลับมาภายในชั่วพริบตาได้ เขารู้ว่าตอนนี้สาวน้อยผู้นี้ได้ตกเป็นสัตว์เลี้ยงในกระเป๋าเขาแล้ว

ในขณะที่เขากำลังจะเข้าใกล้มู่เฉียนซี ทันใดนั้นเองเงาร่างสีขาวได้ส่องประกายขึ้น ปากยังคาบผลอิงเถาสีแดงอยู่

“อู่ตี้ผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในใต้หล้า อุบายของนายท่านของข้ามีมากมายนัก! เพียงแต่ว่าคนเลวเช่นเจ้าปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการเถอะ”

ผลอิงเถาสีแดงนั้นถูกมันกลืนกินเข้าไปแล้ว และมันก็ได้แปลงร่างเป็นสายฟ้าสีขาวขึ้น

“รวดเร็วยิ่งนัก!”

ความเร็วอันน่าสยดสยองนั้นทำให้เขาไม่กล้าดูถูกสิ่งมีชีวิตตัวน้อยตรงหน้าตัวนี้ เขารวบรวมพลังวิญญาณปกป้องร่างกาย และรีบตอบโต้กลับทันที

ขวั่บ!

เขาระมัดระวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่าก็ยังคงให้อู้ตี้ฝากรอยเลือดไว้ที่คอจนได้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแมวน้อยตัวนี้ข่วนเขาได้อย่างไร

ปัง ปัง ปัง!

อู๋ตี้ลงมืออีกครั้ง การเผชิญหน้ากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม เขาผู้มีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก เห็นได้ชัดว่าสู้ไม่ได้!

ปัง!

กลุ่มที่สองก็ได้พ่ายแพ้ไปอย่างสมบูรณ์ และตอนนี้บนพื้นผิวน้ำก็มีเสียงขึ้นอีกครั้ง แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี มีคนมาอีกแล้วรึ!

ผู้ที่มาในครั้งนี้ พลังความแข็งแกร่งนั้นดูดีเลยทีเดียว! อู๋ตี้กระโดดขึ้นไปบนไหล่ของมู่เฉียนซีและมองไปข้างหน้า