ตอนที่ 534 ชายงามอันดับหนึ่ง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

พวกที่มาในคราวนี้มิใช่พวกตัวตลกพวกนั้น ดูจากการมาถึงอย่างเอิกเกริกก็รู้ได้แล้ว

จักรพรรดิแห่งภูตมากถึงยี่สิบสี่คนยกเกี้ยวที่หรูหรามาเกี้ยวหนึ่ง มันประดับประดาไปด้วยผ้าไหมพลิ้วปลิวลอยลมทะเล เพียงแต่ว่าผู้ที่อยู่ในเกี้ยวแห่งนั้นยังไม่ได้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา

จักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงทั้งยี่สิบสี่คน แต่ละคนล้วนแต่มีร่างกายกำยำล่ำสัน ไม่ว่าจะเป็นพลังวิญญาณหรือร่างกาย ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้เผชิญหน้าเกิดความรู้สึกที่กดดันจากความแข็งกร้าวนั้น

มุมปากมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย ดูจากรูปกระบวนแล้ว นี่คงจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่มาเยือน เพราะมันดูไม่เหมือนเป็นนักโทษเลยจริง ๆ

สีหน้าของคนเหล่านั้นที่ถูกมู่เฉียนซีซัดร่วงพลันเปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง “ท่านผู้นำโม่แห่งแดนตะวันออกเฉียงเหนือมาแล้ว” “อืม… คึกคะนองกันขึ้นมา …ผู้นำโม่งั้นรึ ?” มู่เฉียนซีพึมพำกับตัวเองเบา ๆ สายตาของมู่เฉียนทอดมองไปที่เกี้ยวนั้น

“ข้าเพียงแค่ผ่านทางมาเท่านั้น มิได้คิดที่จะก่อเรื่องสร้างปัญหาขึ้น  ถ้าหากว่าเจ้าเป็นผู้นำของพวกเขาละก็ จงได้อย่าให้เหล่าคนของเจ้าขวางทางข้าอีกต่อไปเลย”

ชายร่างกำยำที่ยืนอยู่ด้านหน้าเกี้ยวนั้นกล่าวขึ้น “สาวน้อย เจ้าบังอาจนัก! หากว่าเป็นที่อื่นนั้นก็คงจะมิเป็นไร แต่ที่นี่คือเกาะวิญญาณมรณะ เช่นนั้นเจ้าก็ควรรู้จักกฎของเกาะแห่งนี้สักหน่อย”

“กฎ? กฎอะไรล่ะ ?” “หากคิดที่จะผ่านทางไป เช่นนั้นก็ต้องจ่ายราคาของมันมา”

“เจ้าหมายถึงค่าผ่านทางรึ ? เงินทองนั้นข้ามีไม่ขาด เจ้าบอกจำนวนมาเถอะ” มู่เฉียนซีเอ่ย

ชายร่างกำยำเหล่านั้นพากันแสยะยิ้ม เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วแม่สาวน้อยนางนี้ยังไม่รู้จักเจียมตัวอีก เงินนั้นก็มิใช่สิ่งที่จะสามารถทำได้ทุกอย่าง

“สาวน้อย ที่นี่คือเกาะวิญญาณมรณะ ค่าผ่านทางนั้นมิใช่ถูก ๆ  จงเอาสิ่งของมีค่าทั้งหมดบนตัวเจ้าออกมารวมทั้งตัวของเจ้าเองด้วย จากนั้นก็ค่อยดูอารมณ์ของท่านผู้นำของเรา ถ้าหากว่าเขาอารมณ์ดี เจ้าก็สามารถออกไปได้อย่างราบรื่น”

“พวกเจ้าไม่อันธพาลเกินไปหรือ ?” มู่เฉียนซีถามกวน ๆ “เพราะที่แห่งนี้คือเกาะวิญญาณมรณะอย่างไรเล่า” พวกเขาตอบ

คำนี้แสดงถึงทุกสิ่ง ความโกลาหลวุ่นวาย การฆ่าฟัน การปล้นสะดม ทุกอย่างล้วนแต่เป็นเรื่องที่มีเหตุผลที่สามารถรับได้

“พูดเสียดูดีว่าที่นี่คือเกาะวิญญาณมรณะ พวกเจ้าล้วนแต่เป็นนักโทษผู้ที่ต้องสิ้นชีวิต แค่เพียงข้ามีพลังความสามรถที่เพียงพอ ก็สามารถฆ่าฟันฝ่าออกไปอย่างที่พวกเจ้าไม่สามารถที่จะหยุดยั้งได้เลย” สายตาของมู่เฉียนซีฉายแววเย็นฉา

“สาวน้อย เจ้าช่างไร้เดียงสานัก อย่าได้คิดว่าเจ้าจัดการกับพวกสวะนั้นได้แล้วจะสามารถออกไปจากเกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัย”

ทันใดนั้น อีกสิบเจ็ดคนที่เหลือวางเกี้ยวนั้นลงที่บนผิวน้ำทะเล มีพลังวิญญาณรองรับเกี้ยวนั้นเอาไว้ มันไม่จมลงไปสู่ก้นทะเล! — ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

คนทั้งสิบเจ็ดคนนั้นล้วนแต่เป็นบุคคลระดับจักรพรรดิแห่งภูต พวกเขาพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีอย่างมั่นใจ แน่นอนว่าคนพวกนี้ไม่อาจรับมือได้อย่างง่ายดาย

“เสี่ยวหง ออกมา!”

ทว่ามู่เฉียนซีไม่ได้มีเพียงอู๋ตี้เท่านั้นที่เป็นสัตว์พันธสัญญา  หากไม่มียอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตแล้วละก็ พวกเขาคิดที่จะจับตัวนางก็มิใช่เรื่องง่ายดายเช่นกัน “แย่แล้ว สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามสองตัว!”

พวกเขานั้นเป็นเพียงจักรพรรดิระดับสูง แต่มิใช่สูงสุด เมื่อต้องเผชิญกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถึงสองตัว ความเสียเปรียบย่อมมาเยือน

“จับแม่สาวน้อยนั่นมาให้ได้!”

“มังกรวารีพิฆาต!” มู่เฉียนซีตะโกน นางไม่มีทางยอมถูกพวกเขาจับตัวเอาได้ง่าย ๆ จากนั้นนางก็เริ่มใช้วิชาย่างก้าวพันเงาและมุ่งกลับไปบนเรือ — ปึก! —

ในตอนนี้เอง กลไลของเรือถูกเปิดใช้งานขึ้น!

— ปึก! —

เมื่อเห็นกลไกเข้า พวกเขาก็มิได้ให้ความสำคัญกับมันแต่อย่างใด

“สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาเอ๋ย เมื่อต้องรับมือกับพวกเราเหล่าบุคคลจักรพรรดิแห่งภูต กลไกนั่นจะทำอะไรพวกเราได้”

— ตูม! —

ขณะที่พวกเขากำลังชะล่าใจอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงที่ไพเราะเสียงหนึ่งลอยมา

“พวกโง่ รีบหลบไปซะ!”

— ตูม! —

ควันสีดำก่อตัวขึ้นทั่วบริเวณเครื่องกลไกนั้น มันไม่ได้น่ากลัว ทว่าพิษเหล่านั้นที่เครื่องกลไกนั่นมีอยู่ กลับเป็นพิษที่สามารถเอาชีวิตคนไปได้

“แค่ก ๆ ๆ!”

— บุ๋ง!  บุ๋ง!  บุ๋ง! —

น้ำทะเลที่อยู่รอบด้านของเรือในเวลานี้เหมือนกับกำลังเริ่มเดือดและเกิดฟองอากาศในน้ำขึ้นมา คนเหล่านั้นจึงได้ถอยออกไปอย่างรีบร้อน และเมื่อมองเห็นผิวน้ำทะเลตรงนั้นก็ถึงกับเหงื่อตกกันเลยทีเดียว ฤทธิ์ของพิษนั้นร้ายแรงยิ่งนัก ผ้าม่านที่ทำด้วยผ้าไหมถูกเปิดออก เงาร่างสีเขียวเงาหนึ่งพุ่งออกมา เขามีจมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเรียวโค้งทรงกระบี่ ดวงตาเหมือนกับดวงดาว ช่างดูดียิ่งนัก

มู่เฉียนซีกล่าว “โอ้! เกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้มีชายหนุ่มรูปงามอยู่ด้วย”

“ดูเหมือนว่าหน้าตาของข้าน้อยจะเข้าตาของแม่นาง” ชายรูปงามกล่าวขึ้นเบา ๆ ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นแฝงรอยยิ้ม

“เข้าตาแล้วอย่างไร ? ด้วยรูปลักษณ์ของเจ้า เจ้าจะมาใช้กลอุบายชายงามกับข้า ยังอีกห่างไกลข้าขอบอกไว้ก่อนเลย”

“จะดีร้ายอย่างไรข้าก็เป็นชายงามอันดับหนึ่งแห่งเกาะวิญญาณนี้ เจ้ากล่าวเช่นนี้มันทำให้ข้าช้ำใจ” “อย่าได้ไร้สาระ เข้าเรื่องเลยดีกว่า!  เจ้าจะเอาอย่างไรถึงจะยอมปล่อยพวกเราผ่านไป ?” การผ่านทางที่เกาะวิญญาณมรณะ หากจะต้องต่อสู้เพื่อฝ่าออกไปแล้วละก็ ถือว่าเป็นโอกาสในการฝึกในสนามรบจริงอีกอย่างหนึ่ง

หากไม่ต้องต่อสู้ก็สามารถประหยัดเวลาในการเดินทางได้

“แดนส่วนตะวันออกเฉียงเหนือนี้ข้าเป็นผู้รับผิดชอบดูแล ถึงต่อให้ข้าดูแลเจ้าเหมือนดั่งดูแลหยกมีค่าและปล่อยเจ้าไป คนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นที่รอเจ้าอยู่เบื้องหน้าก็ไม่ได้ว่าง่ายเหมือนเช่นข้า”

“แต่ว่า…”

— พรึ่บ! —

พัดพับด้ามหนึ่งถูกเขาหยิบออกมากาง ใบหน้าของเขาฉายแววแห่งความอ่อนโยนออกมา “แต่ว่าแม่นางจะต้องตอบแทนข้าให้พอใจก่อน หากว่าข้าพอใจ ไม่แน่ข้าอาจจะปกป้องแม่นางในการเดินทางนี้ก็ได้”

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ตอบแทนรึ ? เจ้าต้องการการตอบแทนอะไรล่ะ ?”

“ข้าอยากจะให้แม่นางช่วยอะไรสักอย่าง”

“เจ้าเป็นผู้นำแห่งเกาะวิญญาณมรณะ กลับต้องการให้ข้าซึ่งเป็นผู้ผ่านทางช่วยเหลือ เกรงว่าคงจะมีแผนอย่างอื่นเป็นแน่”

“มิใช่ว่ามีแผนอื่น แต่เป็นเพราะว่าเจ้านั้นเป็นราชาแห่งภูตพอดีต่างหากเล่า” เหล่าลูกสมุนของเขาล้วนตะลึงงัน บางคนกล่าวขึ้น “ทะ… ท่านผู้นำ! ท่านคงมิได้จะให้เจ้าเด็กสาวผู้นี้เข้าร่วมกระมัง”

“นั่น คงจะไม่เหมาะสมเลยนะขอรับ”

“ที่เกาะสิ้นวิญญาณได้จัดการแข่งขันต่อสู้สัตว์ขึ้นทุกปี ปีละครั้ง และแบ่งเป็นขั้นการแข่งขันระดับราชา ระดับจักรพรรดิ เพียงแต่ว่าพวกเขานั้นมีบุคคลระดับราชาที่สามารถลงแข่งขันได้น้อยยิ่งนัก เมื่อได้เห็นถึงพลังความสามารถของแม่นาง ข้าจึงอยากที่จะดึงตัวเจ้ามาร่วมมือกัน”

มู่เฉียนซี “ข้านั้นมิได้มีเวลาว่างที่จะไปแสดงละครให้ผู้อื่นชม อย่างไรเสียฆ่าฝ่าออกไปเองในตอนนี้ก็ยังจะเป็นการง่ายกว่า”

“ประเดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไป  ขอเพียงแค่แม่นางเอาอันดับหนึ่งในเขตการแข่งของระดับราชามาให้ข้า สมบัติในคลังสมบัติของข้า ข้าให้แม่นางเชิญเลือกได้ตามสบาย” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่แยแส “ข้ารู้สึกว่าสมบัติเหล่านั้นของเจ้า ไม่ได้แน่นอนเลยว่าข้าจะชอบมัน”

“จะชอบหรือไม่นั้นไปดูเสียก็รู้แล้วมิใช่หรือ ?”

“เหอะ! เช่นนั้นข้ามิใช่ว่าเป็นแกะเข้าปากพยัคฆ์หรอกหรือ ?”

“แกะที่มีพิษร้าย เกรงว่าพวกเรานั้นคงไม่มีใครที่อาจจะทำอะไรมันได้”

“เจ้าเป็นคนฉลาด” มุมปากของมู่เฉียนซีเผยรอยยิ้มบาง ๆ “เอาล่ะ ๆ ในเมื่อมาถึงเกาะวิญญาณมรณะแล้ว ข้าก็ไปดูบรรยากาศรอบเกาะเสียหน่อยก็คงไม่เป็นไร  นำทางไปเถิด” “แม่นางเป็นคนที่สบาย ๆ ช่างเลือกดีจริง ๆ” รอยยิ้มของเขานั้นยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ  เขากวักมือเรียกให้เหล่าคนของตนเตรียมขึ้นเรือ

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

ทว่าเข็มยาหลายเข็มปักลงบนพื้นเป็นเส้นตรงยาวแนวขวางที่หน้าพวกเขา มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็น “พวกเจ้ามาอย่างไรก็กลับไปอย่างนั้น เรือของข้าไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า”

“อะไรกันแม่นาง ?! พวกเรานั้นเป็นหุ้นส่วนกันแล้ว เจ้ากลับบอกว่าเราเป็นคนแปลกนหน้า ช่างไร้ความรู้สึกดีแท้”

มู่เฉียนซีพยักหน้า “อืม ข้ามันสตรีไร้ความรู้สึก หากเจ้ามีปัญหาและยังเข้ามาใกล้กว่านี้อีก กลไกบนเรือลำนี้ก็จะไม่เกรงใจเจ้าแล้ว”

เขาส่ายหน้า ทำได้เพียงเดินกลับไปที่เกี้ยวของตน และให้เหล่าคนของเขายกเกี้ยวนำทางไปโดยมีเรือของมู่เฉียนซีตามเกี้ยวของพวกเขาไปจากด้านหลัง

จากนั้นไม่นาน เกาะที่มีพื้นที่ขนาดเล็กก็ได้ปรากฏแก่สายตาของมู่เฉียนซี ที่แห่งนั้นก็คือเกาะวิญญาณมรณะ

.