ตอนที่ 50

Ranker’s Return

ตอนที่ 50

 

ฮยอนนูใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาโดยทันที เขาออกไปเพื่อล่าต่อ ตอนนี้การปรับเปลี่ยนพลังงานดาบของฮยอนนูนั้นทําได้ค่อนข้างดีทีเดียว แม้จะปรับได้ไม่เร็วเท่าเลบรอน แต่ความคมของดาบที่ได้จากพลังงานนั้นก็ถือว่าไม่แย่

 

[คุณได้ฆ่าโทรลล์โคลน]

 

[ได้รับค่าประสบการณ์]

 

สําหรับเขาในตอนนี้การล่ามอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาน้อยนั้นเป็นเรื่องที่ดีกว่า เมื่อการโจมตีมาจากทิศทางที่ไม่คาดคิดแล้ว เหล่าโทรลล์โคลนก็จะตื่นตระหนกและถูกฆ่าตายได้โดยง่าย

 

“การโจมตีด้วยพลังงานดาบนี่ดีจริง ๆ แต่มันก็ค่อนข้างกินพลังเวทเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน”

 

“ไอ้เจ้านายท่าน นี่มันอะไรกัน? ทําไมพลังเวทของนายมันเคลื่อนไหวตามใจชอบได้ แบบนั้นล่ะ?”

 

“นี่เป็นทักษะของนายท่านผู้ยิ่งใหญ่ของนายยังไงละ นายเข้าใจใช่ไหม? หืม?”

 

ทั้งอีประหลาดใจเมื่อเขาดูฮยอนนูต่อสู้ ปฏิกิริยาของทั้งอีทําให้ฮยอนนูรู้สึกว่าการที่ได้ฝึกฝนมาหลายชั่วโมงนั้นคุ้มค่า

 

“ถ้าฉันถ่ายวิดีโอนี้ละก็มันคงจะดังมากแน่ ๆ” ฮยอนนูพูดไปไม่ทันจบเขาก็รีบหยุดความคิดนั้นโดยเร็ว

 

“ไม่ ยังไงก็ต้องซ่อนมันเอาไว้ก่อน มันคือไพ่ตายที่สําคัญของฉัน”

 

[หน้าต่างแสดงข้อมูลตัวละคร]

 

[ชื่อตัวละคร: คังฮยอนนู]

 

เลเวล: 84

 

อาชีพ: อัศวินแห่งคีออน

 

ฉายา: ศิษย์ของเลบรอน นักรบผู้ได้รับการยอมรับจากคาน ดาวดวงใหม่ผู้ได้ รับการยอมรับจากเลบรอน บุคคลแรกผู้ได้พบกับจักรพรรดิ บุคคลแรกผู้ย่างกรายเข้าสู่เขตพระ ราชวังแห่งอาณาจักร รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ผู้เข้าจู่โจมผู้ฉายเดี่ยว ผู้สังหารมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวน

 

ค่าสเตตัส: พละกําลัง 160(+300) ความว่องไว 255(+150) พลังโจมตีทางกายภาพ 140(+280) พลังโจมตีเวทมนตร์ 130(+330) พลังงานการต่อสู้ 83(+100)

 

แต้มสเตตัสคงเหลือ: 0

 

ตอนนี้ฮยอนนูมีเลเวล 84 แล้ว ความเร็วในการเลเวลอัพของเขาไวกว่าที่คิดไว้มาก อย่างไรก็ ตามระดับของเขายังคงแย่อยู่เมื่อเทียบกับผู้เล่นอันดับต้น ๆ สําหรับผู้เล่นที่ติดอันดับสูงสุดแล้ว พวกเขาใช้เวลาสองวันในการเลเวลอัพหนึ่งเลเวล แต่สําหรับฮยอนนูแล้ว เขาเลเวลอัพได้ถึงสามเลเวลในเวลาเพียงสองวัน การคํานวณแบบง่าย ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าเขามีโอกาสสูงมากที่จะกลาย เป็นแรงค์เกอร์ติดอันดับในเวลาเพียงสามหรือสี่เดือน

 

“เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว”

 

ฮยอนนูพอใจกับตัวละครของเขาที่พัฒนาขึ้นอย่างมากในหนึ่งเดือน อย่าง ไรก็ตามเขากลับถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นชื่ออาชีพของตน

 

“อาชีพอัศวินแห่งคืออน”

 

ช่างเป็นอาชีพที่กินพลังเวทมนตร์มากจริง ๆ เฮ้อ

 

ฮยอนนูรู้สึกเช่นนั้นหลังจากที่ล่ามาสองวัน ในอนาคตเขาคงจะต้องดื่มน้ํายาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์อย่างบ้าคลั่งแน่ ราคาของน้ํายาพวกนี้ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกัน ไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดที่ดาบ ยาวปลายมนซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานดาบเล่มนี้ตัดไม่ขาด สําหรับโทรลล์โคลนที่เขาเพิ่งล่ามานั้น ปาร์ตี้สี่คนที่มีเลเวลมากกว่า 120 จะใช้เวลาถึง 10 นาทีในการล่าเพียงตัวเดียว ทว่าสําหรับฮยอนนูแล้ว เขากลับใช้เวลาไม่ถึงนาที และถ้าหากสกิลต่าง ๆ ไม่ได้รับการปรับให้ดีขึ้นละก็ พลังเวทของเขาจะต้องหมดไปในเวลาไม่นานแน่

 

“ฉันต้องหาไอเทมที่ช่วยลดปริมาณการใช้พลังเวทซะแล้ว..”

 

ปัญหาของฮยอนนูถาโถมเข้ามาไม่จบไม่สิ้น

 

“คุณเคล! คุณคิดว่าแบบนี้มันจะประสบความสําเร็จไหม?” เจมี่ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

เคลไม่รู้ว่าทําไมเจ้านายถึงถามเขาแบบนี้ แต่เขาก็ตอบไปอย่างมั่นใจว่า “ครับ! ผมคิดว่ามันจะ ประสบความสําเร็จอย่างมากแน่ น่าจะอยู่ยาว ๆ อย่างน้อยก็ครึ่งปีเลยครับ”

 

“จริงเหรอ?”

 

“ครับ!”

 

ผมกลับคิดอีกอย่างนะ” เจมี่แสดงสีหน้าเคร่งขรึม

 

เคลสงสัย “ถ้าอย่างนั้นบอสคิดว่ามันจะล้มเหลวเหรอครับ?”

 

“ไม่หรอก ผมคิดว่ามันคงอยู่ยาว ๆ อย่างต่ําสองปีต่างหากละ คุณไปได้ความคิดดี ๆ แบบนี้ มาจากไหนกัน? คุณเคล พักหลังมานี้คุณพัฒนาไปเยอะเลยนะ”

 

เคลถอนหายใจเบา ๆ หลังจากได้ยินคําชมของเจมี “นี่ไม่ใช่ความคิดของผมหรอกครับ”

 

“ถ้างั้นมันเป็นของใครกัน? คนที่คิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้สมควรได้รับโบนัสอย่างยิ่ง”

 

“เป็นความคิดของบอสใหญ่ประจําชอยครับ จริง ๆ แล้วมันเป็นเนื้อหาที่เขาจะใช้สตรีมน่ะ ครับบอส”

 

เจมีพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคําพูดของเคล ราวกับว่าตอนนี้เขาถูกทุบที่หัวด้วยค้อนอย่างจัง สมองของเขาอยู่ในอาการมึนงงจากการช็อกเมื่อครู “บอสใหญ่ประจําซอยงั้นเหรอ? บอสใหญ่ประจําซอยคนที่ผมรู้จักคนนั้นน่ะนะ? จริงเหรอ?”

 

“ครับบอส! เป็นความคิดของเขาครับ ผมยังรู้สึกประหลาดใจจริง ๆ ตอนได้ยินไอเดียที่จะให้คนดังสวมหน้ากากแล้วมา PvP กัน”

 

“คิดถูกจริง ๆ ที่ดึงตัวเขา เหมือนกับพระเจ้าส่งเขามาโปรดเลย”

 

“เขามีความคิดที่ดีพอ ๆ กับทักษะเลยครับ เขาเป็นคนทําคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยม และจะสร้าง คอนเทนต์เพิ่มเติมในอนาคตต่อไปอีก” เคลพูด จากนั้นเขาก็ผุดความคิดดี ๆ ขึ้นมา “บอสครับ! ช่องของเรามีช่วงเวลาไหนที่จะว่างในเร็ว ๆ นี้ไหม?”

 

“เดี๋ยวนะ…มีว่างหนึ่งชั่วโมงตอนสองถึงสามทุ่ม รายการอารีน่าทัวร์มันจบไปแล้วนี่” เจมีตอบพลางสงสัยว่าทําไมจู่ ๆ เคลถึงได้ถามคําถามแบบนี้

 

เคลพูดต่อด้วยความตื่นเต้นว่า “ถ้าเราถ่ายทอดคอนเทนต์ราชานักสู้ผู้สวมหน้ากากในช่วงเวลานี้ละครับ? เอาไลฟ์สตรีมมาตัดต่อทําซับ แล้วก็ถ่ายทอดลงบนช่องของเราไปเลย”

 

เมื่อได้ยินคําแนะนําของเคลแล้วเจมีก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน เนื่องจากเขาเองก็รู้ว่านี่เป็นความคิดที่ดี เคลและเจมีคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นาน มีหลายสิ่งที่ต้องคิดเกี่ยวกับคอนเทนต์ราชานักสู้ ผู้สวมหน้ากาก ตั้งแต่แนวคิด วิธีการจัดรวมถึงทิศทางการดําเนินไปของคอนเทนต์เมื่อจัดไปแล้ว เมื่อสิ้นสุดการประชุมนี้แล้ว ก็มีเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่เท่านั้น นั่นคือการตัดสินใจว่าใครจะมาเป็น โปรดิวเซอร์ผู้ช่วยในการจัดการเค้าโครงและรายละเอียดโดยรวม

 

“ฉันจะให้ใครเป็นหัวหลักในการทํางานนี้ดีนะ? คริส หรือว่าจัสตินดี?” เคลเสนอชื่อนักตัดต่อ มากความสามารถของไนกี้ออกมา ทั้งคริสและจัสตินต่างก็เป็นโปรดิวเซอร์ที่มีพรสวรรค์ที่สุดของ ไนกี้ ณ ขณะนี้

 

“แล้วทําไมเราต้องตัดสินใจเลือกจากพวกเขากัน?”

 

“ถ้างั้นเราจะเลือกใครดีล่ะครับ? บอส”

 

“มันก็แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

 

พอได้ยินคําพูดของเจมี่แบบนี้แล้ว ก็มีแต่ชื่อของชายผู้นั้นเท่านั้นที่เคลนึกได้ “เอลลิส! เอลลิสมูฟวียังไงละ!”

 

“ใช่แล้วคุณเคล จัสตินกับคริสนะมีฝีมืออยู่แล้ว แต่ถึงยังไงก็อยู่กันคนละระดับกับเอลลิสเลย อีกอย่างเขาก็รับหน้าที่ตัดต่อให้กับบอสใหญ่ประจําซอยอยู่แล้วด้วย”

 

ในที่สุดการประชุมก็สิ้นสุดลง เคลเริ่มดําเนินการจัดหาทีมในการจัดการคอนเทนต์ราชานักสู้ผู้ สวมหน้ากากทันที โดยเริ่มจากการนัดพบกับเอลลิสเพื่อที่จะให้เขารับหน้าที่เป็นนักตัดต่อส่วนตัว ของฮยอนนู

 

เอลลิสคิดว่าเดือนที่แล้วเป็นช่วงที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิตไม่สิ ตั้งแต่ต้นเดือนมานี้เขารู้สึก ว่าชีวิตของตัวเองเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

 

“ไนกี้เหรอ? นี่คือไนกี้เมเนจเม้นท์จริง ๆ ใช่ไหม? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เอลลิสตรวจสอบอีเม ลของเขาแบบที่ไม่เคยทํามาก่อน จนกระทั่งแน่ใจว่าอีเมลมาจากไนกี้ที่คอยจัดการดูแลฮยอนนูจริง ๆ เขาคิดว่ามันเป็นข้อเสนอสําหรับตัวเอง แต่แล้วเขาก็ส่ายหัว เห็นได้ชัดว่าไนกี้มีคนตัดต่ออยู่แล้ว มากมาย

 

“ถ้างั้นมันเรื่องอะไรกัน?”

 

เอลลิสตรวจดูอีเมลของเขาอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

“เอ๋? เรื่องจริงเหรอ? ข้อเสนอให้เข้าร่วมงั้นเหรอ?”

 

อีเมลจากไนกี้นั้นมีจุดประสงค์เพื่อยื่นข้อเสนอในการดึงตัวจริง ๆ ถ้าหากลบข้อความพิธี รีตรองออกไปจนหมดแล้วละก็ มันก็จะสรุปได้สั้น ๆ ว่า

 

“ผมต้องการให้คุณช่วยปรับแต่งและถ่ายทอดวิดีโอของบอสใหญ่ประจําซอยบนช่องออกอากาศของทางในกที่ชื่อว่า “ไนกี้ชาแนล” ผมอยากให้คุณเข้าร่วมกับเราในฐานะหัวหน้าฝ่ายตัดต่อของบอสใหญ่ประจําซอย

 

“ยังไงฉันก็ต้องทําอยู่แล้ว แบบไม่มีเงื่อนไขเลยด้วย”

 

เอลลิสรู้สึกยินดี เขาไม่ควรพลาดโอกาสนี้ และเขาควรทําโดยไม่มีเงื่อนไข วิดีโอที่จะออกอากาศนั้นสั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีความยาวถึงหนึ่งชั่วโมง ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ต้นฉบับอาจจะมีความยาวมากกว่าสองหรือสามชั่วโมงเลยก็ได้

 

“เรื่องด่วนเลยนะแบบนี้ ด่วนเลย!”

 

เอลลิสเริ่มเขียนตอบกลับอย่างรวดเร็ว มันคือการตอบตกลงกลับไปโดยไม่มีเงื่อนไข เขาเริ่มดําเนินการอย่างมีแบบแผนในการเปิดตัวการออกอากาศจริงของฮยอนนู

 

จู่ ๆ ฮยอนนูก็จําสิ่งที่ยองซานพูดเมื่อเช้านี้ได้

 

“มีผู้เล่นจํานวนมากทําหน้าที่เป็นตัวแทนในอารีน่า โดยเฉพาะพวกที่ติดอันดับตั้งแต่หนึ่งล้านถึงสิบล้าน นายจะไม่ระวังตอนที่สู้ในอารีน่าชักหน่อยเหรอ?”

 

อัศวินตัวแทนนั้นเป็นกลุ่มที่มีตัวตนอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนกับไม่มีตัวตน นี่เป็นวิธีที่ดีที่ สุดในการกล่าวถึงพวกอัศวินตัวแทน ในอารีน่านั้นจะสามารถพบผู้เล่นระดับใดก็ได้ แม้แต่ผู้เล่นใน หมวดหมู่เหรียญทองที่รู้จักกันในนามบีคอน ทว่าพวกเขากลับเป็นกลุ่มคนผู้ทําลายกฎ และ จะช่วยเพิ่มอันดับในอารีน่าให้กับใครก็ตามที่จ่ายเงินให้แก่พวกเขาโดยไม่สนว่าจะใช้วิธีการแบบไหน ขอเพียงแต่ได้รับเงินมาเท่านั้น

 

นี่คืออัศวินตัวแทนนั่นเอง ไม่ว่าอย่างไรแล้วอัศวินตัวแทนก็ยังเป็นที่ต้องการสําหรับหลาย ๆ คนยิ่งไปกว่านั้นคนที่ต้องการก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงด้วย ตัวแทนคนหนึ่งที่มีชื่อว่าโม” นั้นก็เป็นหนึ่งในบุคคลสําคัญสําหรับโลกของอัศวินตัวแทนนี้เช่นกัน แม้เขาจะไม่ได้เปิดตัวอย่างมือ อาชีพและไม่มีวิดีโอแม้แต่คลิปเดียว แต่เขาก็กลับกลายเป็นคนดังขึ้นมาได้ เนื่องจากการพูดต่อ ๆ กันแบบปากต่อปากและคลิปวิดีโอการจัดอันดับของ “โลกสวรรค์

 

‘ยองซานบอกฉันไว้ให้ระวังตัว เพียงแต…’

 

ไลฟ์สตรีมของฮยอนนูในวันนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการไต่แรงค์ในอารีน่า ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ เจอกับอัศวินตัวแทนมาแล้วสามคนติดต่อกัน และได้ปะทะกันในการต่อสู้ที่คาดไม่ถึง อันที่จริงฮยอนนูไม่สนใจคําแนะนําของยองซานเลยแม้แต่น้อย ทําไมเขาจะต้องกลัวพวกอัศวินตัวแทนกัน?

 

อย่างไรก็ตามยิ่งฮยอนนูได้ต่อสู้กับพวกอัศวินตัวแทนมากเท่าไหร่เขาก็ต้องยอมรับความจริง “ทุกคนมีฝีมือกว่าที่ฉันคิดไว้แฮะ” อัศวินตัวแทนพวกนี้มีฝีมือไม่ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันก็ถือ ว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงเป็นอัศวินตัวแทนไม่ได้

 

“แต่ก็นะ ยังไงฉันก็เทพกว่าอยู่ดี”

 

ฮยอนนูยอมรับในฝีมือพวกเขา แต่มันก็เท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาต้องเน่าตายอยู่ในความมืดไปชั่วชีวิตอยู่แล้ว เพราะฮยอนนูนั้นแตกต่างออกไป เขาดีกว่าพวกนั้นในทุก ๆ ด้าน ทั้งทักษะเกียรติยศ อีกทั้งเงินทอง ต่างก็ได้รับการเตรียมการเอาไว้ให้ฮยอนนูแล้วทั้งหมด