“เยียนหรัน คุณเตรียมตัวหน่อย เดี๋ยวนับสามแล้วจะปล่อยโล่กังชี่ออกมา”
เมื่อมองจี้เยียนหรันที่กลับจากความตื่นตกใจแล้ว เย่เทียนก็เปล่งเสียงเตือนออกมา
“ห๊ะ?!”
จี้เยียนหรันตกใจแทบแย่ ก่อนจะมองไปทางโล่กังชี่ที่มีฝูงงูแยกเขี้ยวและแผ่แม่เบี้ยอยู่มากมายอย่างกลัวสุดขีด และไม่ยินดีที่จะให้เกิดขึ้นอีกครั้ง
“สาม!”
เย่เทียนจะไปรู้ได้อย่างไรว่าจี้เยียนหรันนั้นคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นเธอเงียบก็ถือว่ายอมรับแล้ว เลยเริ่มนับขึ้นมาทันที
แซกๆ!
แต่ทว่า เขาเพิ่งจะพูดไปเพียงเลขเดียว ก็มีเสียงแหลมประหลาดเกิดขึ้นมา ก่อนจะสะท้อนไปมาในซานกู่ไม่หยุด
จากนั้น ยังไม่ทันรอให้เย่เทียนมีสติกลับมา ฝูงงูเมื่อครู่ที่ยังพยายามก็ถอยกลับลงทะเลไป ก่อนจะแยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง
ยังไม่ทันไร ฝูงงูก็แยกย้ายกันไปจนหมด ถ้าไม่ใช่ว่ามีศพงูเต็มไปหมด และกลิ่นคาวคลุ้งในอากาศอย่างเข้มข้นนั้น เกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อว่าเมื่อครู่มีงูเข้ามาโจมตีเต็มไปหมด
คนที่ตอบสนองกลับมาคนแรกนั้นไม่ใช่เย่เทียน แต่เป็นลูกเด็กบรรจุศพ
“ให้ตายเถอะ!งูพิษม่วงนั้นเหมือนจะกลัวไอ้กระจอกนั่นจนไม่กล้าออกมาแล้ว!”
เขาด่าออกไป ก่อนจะหันหัวกลับไป แววตาที่เก็บซ่อนอยู่ก็เต็มไปด้วยความอาฆาตที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกพวกเขาค้นพบเหมืองหยกนี้แล้ว และคิดว่าเดี๋ยวหลังจากเสร็จกิจแล้วจะกลับมาลอบขุดและขโมยไปสักหน่อย มันย่ำแย่ตั้งแต่แรกจนสุดท้ายเลยเกิดแผ่นดินไหวจนเหมืองหยกนั้นหายไปจนสิ้นซาก
โชคยังดีที่ตอนแรกคิดเพียงว่าจะมาดูการเปลี่ยนแปลงของเหมืองหยกสักหน่อย แต่ด้วยความบังเอิญกลับทำให้เขาพบร่องรอยของงูพิษม่วง
เตรียมตัวมาหลายวัน และคิดว่าจะไปจัดการงูพิษม่วงในคืนนี้ แต่กลับเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทำให้แผนนั้นล่มสลายอย่างล่องลอยไปในทันใด
บวกกับทีมเล็กๆทั้งห้าคนในตอนแรก ที่ตอนนี้กลับมีสองคนที่ไม่สามารถไปจนสุดทางด้วยกันได้ และถึงขั้นติดต่อไม่ได้ด้วยซ้ำ จึงรู้ได้โดยไม่ต้องคิดเลยว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายขนาดไหน
เมื่อโจมตีกันอย่างติดต่อกัน ลูกเด็กบรรจุศพนั้นเหมือนมีไฟสุมอยู่ในท้อง ในตอนนี้เย่เทียนที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถเอาตัวการของงูพิษม่วงออกมาได้นั้น น่าจะเป็นที่ระบายอารมณ์ที่ดีที่สุดแล้วล่ะ!
ไม่เพียงแค่เขา แต่เว่ยเฉินหยู่กับหยูเสี่ยวหรงก็หันมาด้วยหน้าถอดสี แววตาก็จ้องไปที่เย่เทียนอย่างไม่เป็นมิตร
เมื่อเล่นละครไปนานแล้ว แต่กลับไม่ได้อะไรกลับมาเลย จะให้พวกเขาไม่หงุดหงิดใจได้อย่างไร?
เมื่อสังเกตเห็นแววตาเกลียดชังทั้งสามแล้ว เย่เทียนก็รีบมีสติกลับมา ก่อนจะขยับเท้าอย่างไม่ทิ้งร่องรอย แล้วขวางจี้เยียนหรันเอาไว้ที่ด้านหลัง
“คนเลวอย่างแกนี่เป็นใครกัน?มาที่นี่ตอนดึกดื่นทำไมกัน?!”
ความหงุดหงิดโกรธเคือง กลับไม่ได้ทำให้สติสัมปชัญญะหายไป ลูกเด็กบรรจุศพลองถามเย่เทียนอย่างละเอียด
“หรือว่าพ่อแม่คุณไม่เคยสอนคุณเหรอ ว่าก่อนจะถามชื่อคนอื่น ต้องบอกชื่อแซ่ของตัวเองก่อนน่ะ?”
เย่เทียนเบ้ปาก ก่อนจะถามกลับออกมาอย่างสนใจเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อน หรือว่าชาตินี้ ลูกเด็กบรรจุศพนั้นโด่งดังเรื่องความลึกลับอยู่ดี เขานั้นสงสัยจริงๆว่าคนคนนี้เป็นใครกันแน่
“ลูกเด็ก ยังเสียเวลาพล่ามอะไรกับพวกเขาอยู่อีก ไอ้เลวสองคนนี้พังงานของพวกเราหมดเลย เอาพวกเขาสองคนมาชดใช้เถอะ!”
เว่ยเฉินหยู่ที่อายุเกินครึ่งร้อยโน้มตัวลง ก่อนจะกัดฟันพูด
“ลูกเด็กบรรจุศพ!เว่ยเฉินหยู่!หยูเสี่ยวหรง!ฉันเป็นหัวหน้าทีมตำรวจของเจียงหนันชื่อจี้เยียนหรัน!”
“ฉันสงสัยว่าพวกคุณมีความเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม ตอนนี้ฉันต้องจับตัวพวกคุณไปสอบสวนสักหน่อย พวกคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด แต่ทุกคำที่คุณพูดจะเป็นหลักฐานในชั้นศาล!”
ในตอนนั้น ในที่สุดจี้เยียนหรันก็มีสติกลับมาจากการเปลี่ยนแปลง ก่อนจะเดินอ้อมเย่เทียนอย่างไม่ยอมถอย พลางพูดไปทางทั้งสามคนด้วยใบหน้าแน่วแน่ดำรงธรรม
เมื่อเย่เทียนได้ฟังดังนั้น ก็ตบหน้าผากด้วยความไม่สบอารมณ์ จนเกือบจะอดไม่ได้ที่จะเปิดสมองของจี้เยียนหรันออกมาดูว่าข้างในนั้นมีอะไรบ้าง
ทำไมนายนี่ไม่มีความรู้ตนเลยนะ?ความร้ายกาจของทั้งสามคนเมื่อครู่นั้น คุณสามารถแก้ไขได้ไหมล่ะ?
อีกอย่าง นี่มันป่าเขาลึก คุณว่าจะจับสามคนนี้ไปอย่างทระนงตน มันไม่เป็นการกระตุ้นพวกเขาหรอกเหรอ?ไม่กลัวว่าพวกเขาจะทำลายหลักฐานต่างๆหรือไง?
“เป็นเพียงคนตัวเล็กๆก็กล้าพูดอะไรแบบนี้ด้วย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆเลย!”
“ยังจะต่อล้อต่อเถียงอะไรกับเธออีก ฆ่าก็จบแล้ว!”
ตอนที่เย่เทียนกำลังคาดการณ์นั้น ทีมจัดศพทั้งสามก็ไม่ได้ตื่นตกใจไปกับคำของจี้เยียนหรันเลย แถมยังโมโหขึ้นมามากกว่าเดิมอีกด้วย
ตั้งแต่ตอนที่ฝูงงูโจมตีนั้น พวกเขาก็มองออกแล้วว่าจี้เยียนหรันเป็นเพียงคนธรรมดาที่พยายามจะปล่อยพลังออกมาให้ได้ ถึงแม้จี้เยียนหรันจะมีความเป็นข้าราชการ แต่พวกเขาจะสนใจได้อย่างไรกัน?!
ในฐานะที่ทีมจัดศพเป็นกลุ่มฆาตกร จะไม่มีนอกมีในกับทางราชการเลยได้อย่างไร สิ่งเดียวที่ต่างกันก็มีเพียงเป็นระบบของประเทศไหนก็เท่านั้น
“ฆ่าพวกเขาซะ!”
ลูกเด็กบรรจุศพที่เป็นคนนำนั้นสั่งการอย่างเหี้ยมโหด
ช่า!
แทบจะเป็นตอนที่เขาพูดจบ บรรยากาศรอบๆตัวเขาก็พัดขึ้นเป็นระลอกเหมือนกับคลื่นน้ำอย่างประหลาด คนทำให้ตัวทั้งตัวนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หยูเสี่ยวหรงเลยก้าวเท้าไป ก่อนจะปรี่เข้าไปหาเย่เทียนด้วยความเร็วราวสายฟ้า
กระบองจอมใจในมือนั้นเหมือนจะเอาไว้แหวกอากาศได้ มันเกิดเสียงที่ทำให้เกิดความกลัวขึ้นมาได้ เมื่อเห็นท่าทางนี้ ถ้าเกิดว่าถ้าไม่ตายก็เจ็บหนัก!
ฟู่ๆ!
เว่ยเฉินหยู่นั้นกลับเปล่าขลุ่ยหยก เสียงขลุ่ยนั้นมันน่าโศกเศร้าเย็นยะเยือกเป็นอย่างมาก มันเหมือนเสียงวิญญาณร้องโหยหวน เสียงบาดหูเป็นอย่างมาก
เย่เทียนเองกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่แววตานั้นกลับเหลือบไปเห็นจี้เยียนหรันที่ง่วงเหงาหาวนอน เดินโซเซ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาหูตาไวรับเอาไว้ได้ เกรงว่าจะล้มลงไปบนพื้นแล้วล่ะ
มันทำให้เย่เทียนมองเว่ยเฉินหยู่อย่างลึกซึ้ง จะไปกล้าดูแคลนเขาได้อย่างไร
สามคนนั้นเป็นลูกทีมของทีมนักฆ่าจัดศพ เพราะอยู่ด้วยกันมาหลายปีเลยฝึกจนเข้ากันมากแล้ว
แม้จะมีคนที่สามารถฝืนเสียงขลุ่ยที่เร้าอารมณ์ด้านลบของเว่ยเฉินหยู่ได้ แต่เมื่อได้เจอการโจมตีได้อย่างซึ่งหน้าของหยูเสี่ยวหรงแล้ว การซุ่มแทรกแซงของลูกเด็กบรรจุศพ เกรงว่าอาจจะมีโอกาสรอดได้ไม่ถึงครึ่งเท่านั้น
ถ้าเกิดบวกกับเวทมนตร์พิษของคุณยายกระดาษไหว้เจ้าอย่างลี่ชุ่ยฮวา แรงโจมตีของผู้ประมาทส่งโลงศพอย่างทังหยูหลงแล้วล่ะก็ ทั้งห้าคนรวมพลังกัน ก็สามารถฆ่าคนของแดนระดับดำทั้งหมดได้ รวมไปถึงผู้แข็งแกร่งระดับดินอีกด้วย!
แต่น่าเสียดาย ที่ลี่ชุ่ยฮวากับทังหยูหลงนั้นขึ้นไปที่ถนนหวางเฉวียนก่อน เลยเหลือเพียงสามคนซึ่งมันไม่มีทางทำอะไรเย่เทียนได้มากอยู่แล้ว!
ถึงอย่างไร เย่เทียนในวันนี้ก็เป็นผู้แข็งแกร่งฝึกพลังชั้นห้าสูงสุดได้แล้ว!นี่มันสามารถใช้แรงเดียวในการฆ่าสุดยอดผู้แข็งแกร่งระดับดำและระดับต่ำลงมาได้!
“คนหนึ่งเป็นระดับดำสูงสุด อีกสองคนเป็นระดับดำชั้นต่ำ”
แต่มันไม่เหมือนกับเมื่อครู่ ลูกเด็กบรรจุศพสามคนในตอนนี้นั้นลงมือด้วยความโกรธ จนทำให้เย่เทียนรู้ถึงกำลังที่แท้จริงของพวกเขา
“ไม่พูดไม่ได้เลยล่ะ ว่าพวกคุณนั้นพอจะมีกำลังอยู่บ้าง ถ้าเกิดเป็นคนอื่นไม่แน่ว่าอาจจะตายในกำมือพวกคุณ แต่น่าเสียดาย……”
“พวกคุณโชคไม่ดี เลยได้มาเจอฉัน!”
หยูเสี่ยวหรงที่เห็นแววตาแรงอาฆาตตรงหน้า เย่เทียนก็พึมพำเสียงเย็นชาอย่างไม่แยแส ก่อนจะปิดหูแทนจี้เยียนหรันอย่างเอาใจใส่ พลางหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง
ผ่าง!
เพราะความต่อเนื่องของชี่ทิพย์นั้น ทำให้เสียงของเย่เทียนกลายเป็นคลื่น ก่อนจะกระจายม้วนไปทั้งสี่ทิศอย่างจับต้องไม่ได้แล้วก็เปิดออก……