ตอนที่ 464 กลางดึก / ตอนที่ 465 ผู้หญิงคนนี้ร้ายจริงๆ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 464 กลางดึก 

 

 

           กลางดึก ฉู่เจียเสวียนนอนอยู่บนเตียง มองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่คุ้นเคยภายในห้อง หัวใจของเธอราวกับว่างเปล่าทำอย่างไรก็เติมไม่เต็ม ภายใต้แสงจันทร์ที่สะอาดนี้ ความทรงจำในอดีตผุดเข้ามาในหัวนับครั้งไม่ถ้วน แม้แต่ชัดเจนขึ้นทุกที 

 

 

           เธอไม่เคยคิดเลยว่าสักวันเธอจะกลับมาที่นี่ คืนนี้ถ้าไม่ใข่เพราะเธอกังวลเกี่ยวกับการบาดเจ็บของเผยหนานเจวี๋ย เธอจะได้กลับมาไหม 

 

 

           เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า มันเป็นเวลาเข้านอนพอดี แต่ว่ามีบางคนที่หลับสนิท มีบางคนที่ยิ่งตื่นตัว 

 

 

           ถอนหายใจแผ่วเบา ฉู่เจียเสวียนเปิดผ้าห่มลงมาจากตเยง เปิดประตูห้องออกอย่างเบามือ เดินออกไปข้างนอก 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเดินไปยังห้องหนังสือ ตอนที่ออกมาไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือมาด้วย มือถืออยู่บนตู้วางของ ตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ง รู้เพียงว่าน่าจะประมาณตีสองแล้วล่ะมั้ง 

 

 

           ประตูห้องหนังสือปิดอยู่ 

 

 

           นึกถึงก่อนหน้านี้เผยหนานเจวี๋ยมักจะทำงานในห้องหนังสือจนกว่าเขาจะนอนในตอนกลางคืน บางครั้งก็ไม่กลับบ้านตอนกลางคืน ในเวลานั้นเธอจะอยู่คนเดียวทุกคืน ทุกคืนเมื่อเธอนอนไม่หลับเธอชอบนั่งในห้องอ่านหนังสือเพราะเธอรู้สึกว่ามีเงาของเขาอยู่ที่นั่น 

 

 

           ห้องหนังสือเป็นสถานที่ที่เผยหนานเจวี๋ยอยู่มากที่สุด 

 

 

           เปิดประตูห้องหนังสือเบาๆ ห้องหนังสือมีขนาดใหญ่มาก ภายในมืดมิด ผ้าม่านปิดเอาไว้ไม่อนุญาตให้แสงจันทร์เข้ามา มือของฉู่เจียเสวียนเพิ่งจะแตะสวิตช์บนผนัง ต้องการจะเปิดไฟ ทันใดนั้นเธอก็ถูกผลักอยู่บนประตูอย่างรวดเร็ว 

 

 

           “อ๊า…” เสียงกรีดร้องดังมาจากปากของเธอ เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงหวาดกลัวกะทันหัน ทั้งๆ ที่เธอเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว ทำไมเธอถึงไม่รู้ว่ามีใครบางคนโผล่มากระทันหัน 

 

 

           ถูกโจมตีในกลางดึก เป็นใครก็ต้องตกใจสินะ? 

 

 

           “ดึกป่านนี้แล้ว คุณมาที่นี่ทำไม” เสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ดังขึ้น มันดังชัดเจนมากในเวลากลางคืน 

 

 

           เสียงของเขาดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนที่ตื่นตระหนกในตอนแรกก็ผ่อนคลายลง เธอคุ้นเคยกับคนคนนี้เป็นอย่างมาก 

 

 

           เขานั่งเอง ไม่ใช่ขโมย 

 

 

           “เผย…เผยหนานเจวี๋ย” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก เรียกชื่อติดๆ ขัดๆ ด้วยความประหลาดใจ 

 

 

           “ไม่ใช่ผม แล้วคุณนึกว่าเป็นใครล่ะ” ฉู่เจียเสวียนมองไม่เห็นอารมณ์ของเผยหนานเจวี๋ยในความมืด แต่ฟังออกว่าเขาอารมณ์เสียเล็กน้อยจากน้ำเสียงของเขา 

 

 

           ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นเหล้าบนตัวเขา เธอขมวดคิ้ว เขาดื่มเหรอ 

 

 

           “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่” ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ต้องการจะรักษาระยะห่างระหว่างสองคน แต่กลับพบว่าพวกเขาอยู่ใกล้กันมากในเวลานี้ 

 

 

           “นี่มันบ้านของผม ผมจะไปที่ไหนก็ได้” เผยหนานเจวี๋ยพูด แววตาเผยความคลุมเครือ 

 

 

           “แล้วคุณล่ะ ดึกป่านนี้คุณมาทำอะไรที่นี่ นึกว่าตัวเองเป็นคุณนายของบ้านนี้หรือไง ใส่ชุดนอนวิ่งไปทั่ว อยากจะยั่วใครเหรอ” พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็เข้าใกล้ฉู่เจียเสวียน วางมืออยู่บนเอวของเธอ 

 

 

           ทันใดนั้นก็ตกใจกับการกระทำของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนต้องการจะเตะกลับ แต่เผยหนานเจวี๋ยเหมือนกับรู้อยู่แล้ว จึงหลบการโจมตีของเธอทัน 

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย!” ฉู่เจียเสวียนร้องอุทานตกใจ หลังจากความเร่งรีบก็เอื้อมมือออกแรงผลักเผยหนานเจวี๋ยออกไป เอื้อมมือคลำสุ่มที่กำแพง กดสวิตช์อย่างรวดเร็ว ห้องหนังสือสว่างไสวขึ้นมาทันใด 

 

 

           ในที่สุดดวงตาก็สามารถมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้ว หัวใจของเธอมักจะเต้นแรงเสมอในความมืดมิด 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองเผยหนานเจวี๋ย พบว่าเขายังคงสวมสูทของวันนี้ ตั้งแต่ที่เขากลับบ้านก็ไปที่ห้องหนังสือโดยตรงเลยเหรอ 

 

 

           ในห้องหนังสือมิดสนิท ผ้าม่านก็ไม่เปิด เขาอยู่ที่นี่อยากทำให้ใครตกใจกัน? 

 

 

           ไฟในห้องสว่างขึ้น เผยหนานเจวี๋ยเข้าไปใกล้กับฉู่เจียเสวียนโดยอัตโนมัติ 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 465 ผู้หญิงคนนี้ร้ายจริงๆ 

 

 

           มองไปที่ดวงตาชัดเจนคู่นั้นของฉู่เจียเสวียน มันส่องแสงเป็นประกาย 

 

 

           เปิดไฟแล้ว ฉู่เจียเสวียนไม่พูดมากอีก หันหลังเปิดประตูจากไป วินาทีที่เข้าห้องหนังสือแล้วโดนเผยหนานเจวี๋ยกดไว้ที่ประตูนั้น เธอก็ตระหนักได้ว่าการเดินไปรอบๆ บ้านของคนอื่นในยามวิกาลมันงี่เง่าแค่ไหน 

 

 

           “ไหนๆ ก็มาแล้ว จะไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ” เผยหนานเจวี๋ยคว้ามือของฉู่เจียเสวียนไว้ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนถูกจับมือไว้ หันกลับมามอง ใครจะรู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะออกแรง ฉู่เจียเสวียนไม่ทันระวังตัวก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยโอบไว้ในอ้อมแขนแล้ว 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยไม่สามารถซ่อนเสียงถอนหายใจที่พึงพอใจได้ ฉู่เจียเสวียนทั้งตกใจทั้งโมโห 

 

 

           “คุณอะไรน่ะ อะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ!” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยเย็นชาพร้อมกับดิ้นรน 

 

 

           แต่ว่าพละกำลังอันน้อยนิดของเธอจะไปทำให้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าสั่นไหวได้อย่างไร เขาพยายามข่มตัวเองอย่างสุดกำลังแล้ว ตอนนี้เจอกันอีกครั้งเขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆ แบบนั้นได้อย่างไร 

 

 

           “คุณมาที่นี่ดึกๆ ดื่นๆ ไม่ใช่เพราะมาหาผมหรอกเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยหัวเราะเสียงต่ำ สายตาที่มองฉู่เจียเสวียนไม่มีรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อย 

 

 

           เขาไม่สามารถคิดถึงมันได้ ตอนที่เขารู้ความจริงทั้งหมด เขาก็รู้สึกเสียใจแล้ว 

 

 

           เธอมาหาเขา? เขาใช้ตาดวงไหนมองว่าเธอมาหาเขา? 

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย คุณอย่าทำเกินไปนะ” ฉู่เจียเสวียนออกแรงผลักเขาออกไป 

 

 

           “เรื่องในอดีตมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ตอนนี้ฉันไม่ไปคิดแล้ว ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับคุณนานแล้ว แล้วก็ต่อไปอย่าให้ฉันได้ยินคำพูดแบบนี้อีก” ฉู่เจียเสวียนมองตรงไปที่เผยหนานเจวี๋ย สีหน้าแน่วแน่จนทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกทรมานจนอยากตาย 

 

 

           “ฟังนะ ฉันชอบคุณอีกไม่ได้!” พูดจบ ฉู่เจียเสวียนหันหลังจากไป ปิดประตูห้องหนังสือเสียงดัง ‘ปัง’ 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองประตูห้องที่ปิดสนิท อีกมือหนึ่งกำหมัดแน่น กระแทกไปที่ประตู เกิดเสียงดังมากเมื่อมือชนกับประตู 

 

 

           “ผู้หญิงคนนี้ร้ายจริงๆ” เผยหนานเจวี๋ยพูดจบ เขากระแทกมือเข้ากับประตูอย่างรุนแรงอีกครั้ง เสียงดูเหมือนชัดเจนเป็นพิเศษในคืนที่เงียบสงัดนี้ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนใช่ว่าไม่ได้ยิน หลังจากกลับมาถึงห้องและปิดประตูแล้ว เธอยังคงได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน แต่แล้วยังไงเหรอ 

 

 

           ยกมือขึ้นกุมบริเวณหัวใจ มีความรู้สึกสับสนที่อธิบายไม่ถูก แม้ว่าตอนนี้เขาจะเข้าใจทุกอย่างแล้วยังไงเหรอ 

 

 

           บางเรื่องผิดแล้วก็คือผิด ไม่มีทางจะเอามันคืนมาได้ เธอพลิกตัวอยู่บนเตียง ผล็อยหลับไปพร้อมกับจิตใจที่สับสน 

 

 

           เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่เจียเสวียนตื่นขึ้น ขณะที่ลงมาข้างล่างนั้นเผยหนานเจวี๋ยก็ออกไปแล้ว ฉู่เจียเสวียนถอนหายใจเบาๆ รู้สึกสบายตัวและสบายใจขึ้นมาก 

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนกินข้าวเช้าที่บ้านเผยแล้ว จึงให้คนขับรถส่งเธอกลับไปที่ร้านชุดแต่งงาน 

 

 

           เพิ่งจะเข้ามาในร้านชุดแต่งงาน ถังถังก็เดินเข้ามา เห็นว่าฉู่เจียเสวียนยังคงใส่ชุดของเมื่อวาน ดวงตาโตมีประกายความสงสัย 

 

 

           “เจียเสวียน เมื่อคืนเธอไม่ได้กลับบ้านเหรอ” มันไม่ใช่น้ำเสียงสงสัยแต่เป็นน้ำเสียงของความมั่นใจ ถังถังกล้ารับประกันได้ว่าฉู่เจียเสวียนไม่ได้กลับบ้านแน่นอน 

 

 

           ในฐานะดีไซเนอร์ อีกทั้งยังเป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง จะใส่ชุดเดิมติดต่อกันสองวันได้อย่างไร  

 

 

           ได้ยินน้ำเสียงมั่นใจของถังถัง ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า เธอไม่ต้องการปิดบังถังถัง และก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเผยหนานเจวี๋ย ดังนั้นจึงไม่กลัวที่จะเล่าให้เธอฟัง 

 

 

           ดังนั้นเธอจึงเล่าเรื่องที่ไปกินข้าวกับเผยหนานเจวี๋ยเมื่อคืนและไปค้างคืนที่บ้านเขาให้ถังถังฟัง 

 

 

           “ว่าไงนะ? เจียเสวียน เธอค้างที่บ้านเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ เหรอ งั้น…” ถังถังยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกฉู่เจียเสวียนปิดปากไว้ 

 

 

           บอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าตกใจ ทำไมเธอยังประหลาดใจอีกล่ะ