ตอนที่ 466 ฉันไม่ได้มีอะไรกับเขา / ตอนที่ 467 ความผิดปกติของถังถัง

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 466 ฉันไม่ได้มีอะไรกับเขา 

 

 

           “ฉันไม่ได้มีอะไรกับเขา เธอวางใจเถอะ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับกงจวิ้นฉือ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก หลังจากพูดกับถังถังแล้ว ก็ปล่อยมือที่กุมปากของเธอไว้ 

 

 

           เมื่อถังถังได้ยินก็ร้อนใจขึ้นมาทันที เดินไปข้างๆ ฉู่เจียเสวียน แล้วพูดกับเธอ “เรื่องนี้เธอห้ามบอกกงจวิ้นฉือเด็ดขาด” 

 

 

           เงยหน้าขึ้น ฉู่เจียเสวียนมองถังถังอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะ ฉันไม่อยากปิดบังเขา อีกหน่อยถ้าเขารู้แล้วเข้าใจผิดจะทำยังไง”  

 

 

           “อัยยา เธอโง่หรือเปล่าเนี่ย มีผู้ชายคนไหนรับได้บ้างเวลาที่ได้ยินว่าแฟนของตัวเองไปค้างบ้านผู้ชายคนอื่น ต่อให้เธอกับเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้มีอะไรกัน แต่ว่าเธอจะกล้ารับประกันไหมว่าเขาจะไม่คิดมาก” ถังถังกล่าว มองฉู่เจียเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง 

 

 

           เธอเชื่อว่าฉู่เจียเสวียนไม่ได้มีอะไรกับเผยหนานเจวี๋ย แต่คนอื่นล่ะ? คนอื่นจะเชื่อเหรอ ก็ต้องไม่เชื่ออยู่แล้วล่ะ 

 

 

           อีกอย่าง ถ้าปล่อยให้กงจวิ้นฉือรู้แล้วเขาจะเสียใจมากแค่ไหน ตามที่เธอรู้จักกงจวิ้นฉือ เขาจะต้องไม่ถามอะไรแน่นอน แต่กลับหยุดความคิดฟุ้งซ่านในใจไม่ได้ 

 

 

           “แต่ว่า…” ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว มองถังถังด้วยสีหน้าลำบากใจ 

 

 

           เธอไม่อยากปิดบังกงจวิ้นฉือ 

 

 

           “ไม่ต้องแต่แล้ว ฟังฉันนะ ผู้ชายน่ะ ปากบอกว่าไม่ถือสา ที่จริงในใจน่ะแคร์มาก ฉะนั้นเธอน่ะ ห้ามให้เขารู้เรื่องนี้ รู้หรือเปล่า” 

 

 

           “ฉันหวังดีกับเธอนะ” ถังถังกุมมือของฉู่เจียเสวียนพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ 

 

 

           หลังจากที่ฉู่เจียเสวียนครุ่นคิดแล้ว ในที่สุดก็พยักหน้า ในเมื่อถังถังพูดแบบนี้แล้ว งั้นก็อย่าบอกกงจวิ้นฉือเรื่องนี้เลย ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้ทำผิดอะไรต่อเขา 

 

 

           ทางนี้ หลังจากเผยหนานเจวี๋ยกลับมาถึงบริษัทแล้วก็หงุดหงิดมากยิ่งขึ้น ในใจของเขาคิดถึงฉู่เจียเสวียนผู้หญิงคนนั้นตลอดเวลา แต่ผู้หญิงคนนั้นคงจะกำลังทำงานอย่างไร้หัวใจสินะ? 

 

 

           จู่ๆ โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เผยหนานเจวี๋เอื้อมมือรับสายด้วยความหงุดหงิด นี่เป็นสายจากเมืองนอก เผยหนานเจวี๋ยฟังแล้วบางทีก็ขมวดคิ้วบางทีก็เม้มปาก 

 

 

           เขาฟังรายงานจากคนที่อยู่ปลายสายเงียบๆ 

 

 

           หลังจากคนนั้นรายงานจบแล้ว เผยหนานเจวี๋ยสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาดังปกติ “อย่าเคลื่อนไหวมากนัก จำไว้ว่าอย่าให้เขาสืบได้ มีคนไม่กี่คนในอเมริกันที่เข้ากับเขาไม่ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาแพะไม่ได้ ห้ามให้คนรู้ที่อยู่ของนาย” 

 

 

           คนที่ปลายสายฟังแล้วพยักหน้าหงึกหงัก แม้จะมีโทรศัพท์กั้นกลาง เขายังคงรู้สึกได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           มุมปากของเผยหนานเจวี๋ยเผยรอยยิ้มอันตราย แผนของเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เขาจะต้องได้ฉู่เจียเสวียนมา สามปีก่อนเขาผิดที่โทษเธอ ดังนั้นจึงเสียโอกาสไปตั้งหลายครั้ง ครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยไปอีกแน่นอน 

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะหนีผมไปได้อีกเลย” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ประกายแห่งชัยชนะวูบผ่านในดวงตา 

 

 

           สุดสัปดาห์ อากาศแจ่มใส ฉู่เจียเสวียนกับซูซานตั้งใจอ่านนิตยสารอยู่บนโซฟา แต่งตัวตามสบาย 

 

 

           “แม่คะ เสื้อตัวนี้เป็นไงบ้าง นี่เป็นฝีมือของนักออกแบบชื่อดังจากฝรั่งเศสเลยนะคะ” ฉู่เจียเสวียนชี้เสื้อบนนิตยสารพร้อมพูดกับซูซาน 

 

 

           ซูซานได้ยินแล้วก็พยักหน้า ที่จริงแล้วเธอเข้าใจที่ไหนกัน แต่เมื่อเห็นลูกสาวมีความสุขขนาดนั้น เธอก็เออออตามไปด้วย 

 

 

           ที่จริงแล้วเมื่อฉู่เจียเสวียนอยู่บ้าน ตราบใดที่เธอมีเวลาเธอจะบอกซูซานว่าใครเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าในนิตยสาร ฉู่เจียเสวียนพูดกับซูซานมากมายแต่เธอก็เข้าใจเพียงเล็กน้อย เธอเป็นเพียงมือสมัครเล่นเท่านั้น 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 467 ความผิดปกติของถังถัง 

 

 

           ทันใดนั้นบรรยากาศที่กลมกลืนระหว่างคนทั้งสองก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงโทรศัพท์ เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พบว่าถังถังเป็นคนโทรมา 

 

 

           เพิ่งจะรับสาย ก็ได้ยินเสียงที่สดใสของถังถัง “ฮัลโหล ที่รัก พวกเราออกมาเจอกันเถอะ อยู่บ้านเบื่อจะตายอยู่แล้ว” 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนคิดว่าเธอมักจะไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับซูซาน แต่ตอนนี้เธอมีเวลาพักผ่อนได้อย่างยากลำบาก เธอไม่อยากออกไปไหนเลย 

 

 

           “เธอมาบ้านฉันเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้แม่ทำของอร่อยให้เธอกิน” 

 

 

           “บ้านเธอไกลขนาดนั้น ฉันไม่อยากไปเลย กว่าจะได้หยุดเธอก็ออกมาเที่ยวหน่อยเถอะ เอางี้ พวกเราเจอกันที่ร้านชานมชั้นหนึ่งของห้างซื่อจี้เถอะ” 

 

 

           ร้านชานม ฉู่เจียเสวียนคิดถึงที่ตั้งอยู่ในหัว ครุ่นคิดสักพักกลับนึกไม่ออกว่าอยู่ที่ไหน เธอพบว่าเธอไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน 

 

 

           หลังจากพิจารณาครู่หนึ่ง ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้น “งั้นเธอรอฉันแป๊บนึงนะ ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะออกไป” 

 

 

           พูดจบก็วางสายแล้ว 

 

 

           “แม่คะ…” ฉู่เจียเสวียนมองซูซาน น้ำเสียงจนใจเล็กน้อย เธอไม่อยากออกไป เดิมทีต้องการใช้เวลาอยู่กับเธอมากหน่อย แต่ว่าเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนสนิทแล้วราวกับว่าอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร 

 

 

           “ไปเถอะ ไปเถอะ” ซูซานหัวเราะเอ่ย รอยยิ้มบนใบหน้าสดใส 

 

 

           วันสุดสัปดาห์แล้วก็ควรออกไปเดินเล่นสักหน่อย ทำงานเหนื่อยขนาดนั้น ก็ควรจะผ่อนคลาย 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็จูบที่แก้มของซูซาน จากนั้นก็หันหลังขึ้นชั้นบน หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ถังถังบอก 

 

 

           ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็มาถึงร้านชานมตรงเวลา 

 

 

           โดยปกติแล้ว ถังถังจะนัดเจอที่ร้านกาแฟ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเห็นโฆษณาชานมในโทรทัศน์ที่บ้าน จู่ๆ ก็นึกอยากดื่มขึ้นมา และยังคงคิดอย่างบ้าคลั่งดังนั้นจึงโทรหาฉู่เจียเสวียนแล้ว 

 

 

           ร้านน้ำชานมชั้นล่างที่ห้างซื่อจี้แห่งนี้แตกต่างจากชานมชนิดอื่นๆ แขวนป้ายสไตล์วินเทจ การตกแต่งของร้านนี้ก็มีเอกลักษณ์ แต่รสชาติของชานมกลับธรรมดา 

 

 

           ไม่รู้เป็นเพราะรสชาติไม่ถูกปาก หรือเป็นเพราะอารมณ์ ถึงอย่างไร ฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกว่าชานมในร้านชานมแห่งนี้ไม่อร่อยอย่างที่คาดหวังไว้ มันหวานเกินไปแล้ว และเธอรู้สึกไม่ชอบกลิ่นหอมที่หนักหน่วงนั้น 

 

 

           ถังถังดูดชานมไปคำหนึ่ง แล้ววางแก้วชานมลงทันที ถอนหายใจ เงยหน้ามองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ย “ไม่รู้ว่าทำไม ใจของฉันมักจะรู้สึกเหมือนมีหินหนักๆ มาทับไว้ รู้สึกอึดอัดมาก” 

 

 

           ช่วงนี้เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร มักจะรู้สึกเบื่อหน่าย เธอไม่มีความรู้สึกแบบนี้นานแล้ว 

 

 

           “เป็นอะไรไป” ฉู่เจียเสวียนถามพร้อมกับมองเธอ ดูแล้วเธอก็ไม่มีเรื่องกวนใจอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นอะไรไป ตอนที่ทำงานก็มักจะใจลอย 

 

 

           ถ้าเธอไม่พูดถึงเรื่องนี้ เธอก็เกือบลืมท่าทางที่ผิดแปลกของเธอในระยะหลังนี้แล้ว 

 

 

           เมื่อก่อนถังถังไม่มีท่าทางว้าวุ่นใจแบบนี้ แต่ว่าช่วงนี้เธอพบว่าเธอดูเหมือนเปลี่ยนไป หรือว่าเธอกำลังคบใครอยู่? 

 

 

           คิดเช่นนี้ในใจ ฉู่เจียเสวียนก็เอ่ยถาม “ถังถัง เธอกำลังคบใครอยู่ใช่ไหม” 

 

 

           “เปล่านะ ถ้าฉันคบใครอยู่ทำไมเธอจะไม่รู้?” ตอบทันทีโดยไม่คิด ถังถังมองเธอตาไม่กระพริบ 

 

 

           “งั้นเธอมีคนที่ชอบแล้วใช่ไหม” เอ่ยถามอีกครั้ง ดวงตาที่งดงามจ้องเธอไม่กระพริบ ถ้าเธอไม่ได้คบใคร งั้นเพราะอะไรล่ะ? 

 

 

           ตอนนี้เมื่อนึกถึงท่าทีที่ผิดปกติของเธอช่วงนี้ ราวกับเป็นไข้ใจอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           “เปล่า จะเป็นไปได้ยังไง” เมื่อถังถังได้ยินดวงตาก็เป็นประกาย ดูเหมือนเขินอาย 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองท่าทีที่เขินอายของเธอแล้วหัวเราะ เธอกำลังโกหก เธอจะต้องมีคนที่ชอบแล้วแน่นอน