ตอนที่ 352 ข้าชอบเฉินหรงคนเดียว / ตอนที่ 353 พนันกัน

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 352 ข้าชอบเฉินหรงคนเดียว

 

 

 

 

“เจ้าคิดจะกักข้านานเท่าไร?”

 

 

แม้ซูจิ่วซือจะเริ่มหิว แต่ก็ไม่อยากกินแม้แต่น้อย

 

 

“อยู่ที่นี่ไม่ดีหรือ? มีอาหารมีบ้านมีคนรับใช้”

 

 

จงโม่เจียงถามอย่างไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนี้ใจแข็งจริงๆ ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรก็ไม่แสดงความรู้สึกออกมา ไม่ว่าเห็นอะไรก็สงบ ราวกับว่าไม่มีอะไรทำให้นางสนใจได้

 

 

“ข้าอยู่ที่ไหนก็ใช้ชีวิตอย่างนี้ ไม่ต้องการของเจ้า”

 

 

ซูจิ่วซือตอบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

 

 

“ที่นี่ไม่มีอันตราย”

 

 

จงโม่เจียงยังคงพูดหว่านล้อม

 

 

“ข้าชอบสถานที่ที่มีอันตราย”

 

 

จงโม่เจียงถูกซูจิ่วซือขัดคอจนไม่รู้จะพูดต่ออย่างไร เขาไม่เชื่อว่าเจ้าสำนักวิหคเขียวผู้ยิ่งใหญ่จะพิชิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ ถึงจะเก่งกาจอย่างไรก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงอายุสิบกว่า นางมาจากตระกูลสูงฐานะดีจึงเห็นของเหล่านี้จนชิน ถ้าเช่นนั้นเขาจะเปลี่ยนวิธีใหม่

 

 

“แม่หนู เจ้าชอบผู้ชายแบบไหน?”

 

 

จงโม่เจียงถามต่อ เขามีเวลามากมาย ถือว่าเป็นวาสนาระหว่างเขากับซูจิ่วซือ คงเป็นลิขิตสวรรค์ ไม่เช่นนั้นเขาจะบังเอิญพบซูจิ่วซือได้อย่างไร ที่ข้อมือนางยังมีกำไลที่เขาตามหามาตลอด

 

 

ซูจิ่วซือไม่หันมามอง ตอบอย่างราบเรียบ “ข้าชอบเฉินหรงคนเดียว”

 

 

จงโม่เจียงสีหน้าไม่พอใจ “เขามีอะไรดีหรือ”

 

 

“อะไรก็ดีหมด”

 

 

เป็นอีกครั้งที่จงโม่เจียงถูกซูจิ่วซือขัดคอจนไม่รู้จะพูดต่ออย่างไร เวลานี้ฟู่เฉินหรงนอกจากฐานะสูงกว่าเขาแล้ว ยังจะมีอะไรดีกว่าเขาหรือ ซูจิ่วซือถึงจำได้ไม่ลืม

 

 

“ผู้ชายดีอย่างข้าเจ้าไม่มองหรือ รักแต่ลูกชายเสิ่นไห่ถังคนเดียว

 

 

วันหลังเขาเป็นฮ่องเต้มีวังมีตำหนักมากมาย เจ้าไม่ใช่คนสวยเด่น ไม่กลัวถูกทิ้งหรือ? พอถึงตอนนั้นก็ถูกขังในกำแพงวัง เจ้าจะอยู่อย่างนั้นตลอดชีวิตหรือ”

 

 

“ข้าบอกไว้แล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องให้เจ้าสำนักถาม เป็นเรื่องระหว่างข้ากับฟู่เฉินหรง” ซูจิ่วซือสีหน้าไร้ความรู้สึก แต่ก็ไม่ปล่อยให้ท้องหิว ยกชามขึ้น ก้มหน้าเคี้ยวช้าๆ

 

 

จงโม่เจียงเห็นกิริยาท่าทางของนางงามสง่า จึงจ้องอย่างไม่วางตา สมเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่จริงๆ แม้แต่เวลากินก็น่าดู ไม่แหมือนคนหยาบกระด้างอย่างพวกเขา กินมูมมาม

 

 

ซูจิ่วซือถูกจงโม่เจียงจ้องก็รู้สึกอึดอัด แต่ไม่พูดอะไร สีหน้าไม่เปลี่ยนแต่อย่างใด ยังคงก้มหน้ากินต่อไป ถือว่าไม่มีจงโม่เจียงอยู่

 

 

ตอนแรกนางวิตกว่าจงโม่เจียงเป็นคนเลว แต่เวลานี้กลับวางใจได้แล้ว แม้จงโม่เจียงจะเป็นปีศาจมือสังหาร แต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้ดี ไม่ได้ทำอะไรเสียมารยาทต่อนาง ไม่เช่นนั้นนางคงไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนที่มีวรยุทธสูงส่งอย่างจงโม่เจียง

 

 

เวลานี้เขาไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะปล่อยนาง นางต้องให้เขาตายใจ จึงจะมีโอกาสหลบหนี เวลานี้นางมีแผนในใจแล้ว จากการสัมผัสสองวัน นางรู้สึกว่าจงโม่เจียงเป็นคนหลงตัวเอง จุดนี้น่าจะใช้ประโยชน์ได้

 

 

พอกินข้าวชามหนึ่งจนเกือบหมดแล้ว ซูจิ่วซือวางชามในมือลง จงโม่เจียงยังไม่มีทีท่าว่าจะไป

 

 

จู่ๆ ซูจิ่วซือก็เงยหน้าขึ้น ยิ้มน้อยๆ ให้จงโม่เจียง “เจ้าสำนักจง ถ้าทำอย่างนี้ต่อไปไม่เกิดประโยชน์ต่อเราทั้งสองคน ถ้าเจ้าได้ผู้หญิงที่ไม่มีใจให้ ชีวิตวันข้างหน้าคงไม่มีความสุข ก็อย่างที่เจ้าว่า ข้าไม่ใช่คนสวยเด่น และไม่รู้จักเอาใจผู้ชาย ถ้าให้ข้าอยู่กับเจ้า มีแต่จะทำให้เจ้าไม่พอใจ”

 

 

 

 

——

 

 

ตอนที่ 353 พนันกัน

 

 

 

 

จงมั่วเจียงมองซูจิ่วซือ มุมปากเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ “ข้าชอบผู้หญิงที่น่าท้าทาย ได้ผู้หญิงมาง่ายๆ มีความหมายอะไร”

 

 

“งั้นเรามาพนันกัน ถ้าเจ้าสำนักชนะข้าได้ ข้ายินดีอยู่กับเจ้าสำนัก ถ้าไม่ เจ้าสำนักก็ปล่อยข้าไป”

 

 

“แม่หนู เจ้าจะพนันอะไร”

 

 

จงมั่วเจียงสนใจข้อเสนอของซูจิ่วซือเป็นพิเศษ รีบซักถามทันที เขาอยากเอาชนะผู้หญิงคนนี้จริงๆ  ให้นางยินดีอยู่กับเขา ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ  ซึ่งไม่ต่างจากการได้หุ่นมาครอบครอง

 

 

เขาไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิง แต่ขาดผู้หญิงที่เร้าใจ

 

 

ซูจิ่วซือดึงดูดใจเขาไม่ใช่ด้วยหน้าตา มีผู้หญิงสวยกว่าซูจิ่วซือมากมาย เขาเคยผ่านมาแล้วไม่น้อย

 

 

สิ่งที่เขาชอบจริงๆ  ก็คือความหนักแน่นมั่นคงในตัวซูจิ่วซือ

 

 

หญิงสาวแบบนี้เขาเพิ่งเจอเป็นคนแรก นางถือกำเนิดในตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง มาอยู่ป่าเขาห่างไกลก็ไม่หวาดหวั่น ถูกล้อมอย่างแน่นหนาก็ยังกล้าสบตากับเขาตรงๆ  ราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนผ่านทางที่ทักผิด ไม่เห็นนางแสดงความหวาดหวั่น

 

 

ทำให้เขาอยากรู้จักซูจิ่วซือ

 

 

“ถ้าไม่มีการทำร้ายหลียวน ภายในสามวันหากเจ้าสำนักสามารถทำให้ข้าขอร้องเจ้าสำนักเพียงครั้งเดียว ข้าจะยอมแพ้ แต่ถ้าไม่ ต้องปล่อยข้า”

 

 

จงมั่วเจียงตะลึง นึกไม่ถึงว่าซูจิ่วซือจะพนันกับเขาเขาหัวเราะขึ้นมาทันที “พนันอย่างนี้น่าสนใจ แม่นาง เจ้าไม่เชื่อมั่นในตัวเองเกินไปหรือ ถ้าเจ้ากล้าเชื่อ ข้าก็กล้ารับพนัน เจ้าแพ้แน่”

 

 

“ตกลงตามนี้ หวังว่าเจ้าสำนักจะรักษาสัญญา”

 

 

จงมั่วเจียงรับปากอย่างง่ายดาย “ข้าเป็นคนในวงการนักเลงการรักษาสัญญาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าเจ้kยืนหยัดได้ภายในสามวัน ข้าจะปล่อยเจ้า”

 

 

“ดี ครั้งนี้ข้าเชื่อเจ้าสำนัก”

 

 

ซูจิ่วซือพนักหน้ารับปาก แล้วพูดเสริม “ข้าอยากเจอหลียวน”

 

 

สองวันก่อนจงมั่วเจียงไม่ให้ซูจิ่วซือพบกู้หลียวน ครั้งนี้จงมั่วเจียงไม่ได้ปฏิเสธ เขาให้คนพาซูจิ่วซือไปยังเรือนเล็กที่กู้หลียวนพัก

 

 

เมื่อเทียบกับเรือนใหญ่หรูหราที่ซูจิ่วซือพัก ที่นี่ซอมซ่อมาก ตั้งอยู่ห่างไกล และมีข้าวของกองเกลื่อน บริเวณลานเต็มไปด้วยฟืนก่อเป็นกองสูง

 

 

กู้หลียวนสวมชุดผ้าหยาบ ถือขวาน กำลังก้มหน้าผ่าฟืน

 

 

พอเห็นกู้หลียวนผ่าฟืน ซูจิ่วซือตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ดูท่าทางเขา เหมือนกับผ่าฟืนเป็นแล้ว

 

 

ซูจิ่วซือก้าวยาวเข้าไปหา ร้องเรียกหลียวน

 

 

พอได้ยินเสียง กู้หลียวนก็เงยหน้าขึ้น ประสานกับสายตาห่วงใยของซูจิ่วซือ เขาวางขวานลง หน้าผากชุ่มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ  ผิวพรรณถูกแดดเผาคล้ำขึ้นมาก

 

 

ผมเผ้าที่เคยหวีเรียบแปล้ เวลานี้เริ่มรุงรัง ผมยุ่งปรกลงมา หนวดเคราเริ่มยาว ดูคล้ายกับคุณชายตกยาก

 

 

กู้หลียวนท่าทางขัดเขิน เขาไม่อยากให้ซูจิ่วซือมาเห็นสภาพของเขาเวลานี้ จึงรีบปัดผม “เจ้ามาได้อย่างไร”

 

 

“ฟืนทั้งหมดนี่เจ้าเป็นคนผ่าหรือ”

 

 

ซูจิ่วซือเห็นข้างหน้ากู้หลียวนมีฟืนกองสูง จึงถามขึ้น

 

 

“จงมั่วเจียงโหดจริงๆ  สองวันมานี้ข้ายังมีไข้ ก็ยังให้ข้าผ่าฟืนตลอดเวลา ยกเว้นเวลากินกับนอน บังคับให้ข้าหัดผ่าฟืน”