ตอนที่ 379 ผู้ชายดีๆ เช่นนี้หายากยิ่งนัก / ตอนที่ 380 อย่างน้อยเจ้าก็เป็นนายหญิง

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 379 ผู้ชายดีๆ เช่นนี้หายากยิ่งนัก

 

 

 

 

น่าอวี้เพียงเล่าเรื่องของตัวเองให้เฝิงเยี่ยไป๋ฟัง เรื่องน้องชายของนางก็มีเพียงเขาที่รู้ เฉินยางเห็นนางมีสีหน้าลำบากใจ จึงเริ่มหาวอย่างรู้สึกตัว ให้ซั่งเหมยซั่งเซียงปรนนิบัตินางไปนอน

 

 

ซั่งเหมยบอกว่านางใจใหญ่ “ท่านก็ไม่อยากรู้หรือว่าพวกเขามีเรื่องอะไรต้องคุยกันเอง”

 

 

เฉินยางกลับใจกว้าง “อย่างไรเสียก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร หากเป็นเรื่องไม่ดีอะไร ไม่จำเป็นต้องพูดต่อหน้าที่นี่ อีกอย่าง เป็นข้าที่จะไปเอง นางไม่ได้บอกให้ข้าไปเสียหน่อย”

 

 

“ท่านอ๋องได้แต่งงานกับท่าน ช่างโชคดีเสียเหลือเกิน หากเป็นภรรยาของคนอื่น แทบอายก็จะยืนฟังอยู่ข้างๆ ในมือถือไม้เอาไว้ ประโยคใดไม่ถูกใจก็ฟาดลงไป ท่านเทียบกับพวกนางแล้ว ช่างดีงามเหลือเกิน”

 

 

ซั่งเซียงอุ้มผ้าห่มมาผืนหนึ่งเข้ามา แล้วปูเตียงให้ทั้งเรียบทั้งนุ่ม

 

 

เฉินยางชำระล้างเสร็จ ก็ถอนหายใจใส่เตียง “ตอนนี้เป็นฤดูร้อน พวกเจ้าคิดว่านี่มันฤดูหนาวหรือไร ปูเสียหนาเช่นนี้ ยังไม่ทันได้นอนลงไปข้าก็เหงื่อออกท่วมตัวแล้ว”

 

 

“ท่านอ๋องกำชับเช่นนี้ บอกว่าให้ท่านนอนอย่างสบาย บ่นว่าก่อนหน้านี้ปูบางเกินไป กลัวจะทำให้ท่านปวด” ซั่งเหมยจุ๊ปากพูดว่า “ท่านดู ท่านอ๋องรักท่านเพียงใด ผู้ชายที่ดีเช่นนี้ ใต้ฟ้านี้ไปหาที่ใดได้อีก”

 

 

“หลับไปคืนหนึ่งตื่นขึ้นมาเป็นผื่นจะทำอย่างไร” นางกลัวร้อนและกลัวหนาว ปูเสียหนาเช่นนี้ ช่างทำเอาไม่สบายตัวจริงๆ “ดึงออกผืนหนึ่งเถิด เขาก็กังวลเกินไป เตียงหยาบข้าก็เคยนอนมาแล้ว ขาดผ้าห่มไปผืนเดียวก็ทำให้ข้าปวดได้แล้ว? กังวลเช่นนี้กลับทำเอาข้าไม่สบายใจเสียแล้ว แพร่ออกไปคนก็จะบอกอีกว่าข้าวางมาด นิสัยเสีย”

 

 

ซั่งเซียงบ่นไปดึงผ้าห่มไป “ท่านเป็นพระชายา ตอนแรกก็ควรจะถูกปรนนิบัติอย่างดีอยู่แล้ว ที่พูดลับหลังนั้น ล้วนเป็นคนที่ไม่มีวาสนาอิจฉาตาร้อน”

 

 

เฉินยางนั่งอยู่ขอบเตียงฟังเสียงจักจั่นร้องกบร้องอยู่นาน กลางคืนลมเย็น ไม่เหมือนดั่งกลางวันร้อนยิ่งนัก ลมก็ยังเป็นลมร้อน ตอนนี้ถึงได้สบายเสียหน่อย นึกถึงหลังจากนี้ต้องไปที่เมืองเหมิง จึงหันไปถามซั่งเหมยซั่งเซียงว่า “ของที่เตรียมไว้จะไปเมืองเหมิงเรียบร้อยหรือไม่ เอาชุดเปลี่ยนสองชุดเป็นพอ สิ่งอื่นนั้น หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอา เอาไปเยอะแล้วก็วุ่นวาย”

 

 

ซั่งเหมยพูดว่า “เป็นเช่นนั้นไม่ได้ ไปครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก เอาชุดเพียงเล็กน้อยจะพอได้อย่างไร ยังมียาที่ท่านกินเป็นปกตินั่น หากจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดของที่ต้องนำไปมีมากเสีย วันนี้เก็บไม่หมดแล้ว พรุ่งนี้อีกวันน่าจะได้”

 

 

“ไม่ใช่ว่าเรียบง่ายเข้าไว้หรือ” นางรอบคอบนัก “ที่นั่นล้วนเป็นคนเร่ร่อน หากเดินอย่างเปิดเผยต่อหน้าพวกเขาไม่ใช่ว่าจะถูกแค้นเอาได้หรือ ตอนแรกที่ไปครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรอยู่แล้ว ถูกด่าแต่เดิม จะให้ตัวเองถูกว่าอีกไม่ได้ บอกว่าคนทำราชโองการของฮ่องเต้ไม่ดีเสียเช่นนั้นเช่นนี้ จะให้ดีที่สุดครั้งนี้ผ้าไหมก็ไม่ต้องเอาไปเลย ล้วนเปลี่ยนเป็นผ้าป่านเถิด!”

 

 

นางสงสารเฝิงเยี่ยไป๋ รับงานที่ไม่ได้ดีเช่นนี้มา พาตัวเองไปด้วยก็เป็นภาระตั้งแต่เดิมอยู่แล้ว นางจะสร้างปัญหาให้เขาไม่ได้อีก นางไม่อยากเป็นคนที่ไร้ประโยชน์รอเพียงเขามารักเท่านั้น ต่างเสียสละซึ่งกันและกันถึงจะอยู่ได้ยาว จะให้เขาแสดงความภักดีฝ่ายเดียว ตัวเองนี้ไม่ตอบสนองก็ไม่ใช่เหตุ

 

 

เพียงแต่เรื่องนี้ซั่งเหมยซั่งเซียงตัดสินใจเองไม่ได้ พวกนางทำหน้ามุ่ยกล่อมนางว่า “ความยิ่งใหญ่ที่ควรจะมีก็ยังต้องมี ไม่เช่นนั้นฐานะของท่านกับท่านอ๋องจะไว้ที่ใด”

 

 

รอยยิ้มบนหน้าเฉินยางค่อยๆ จางลง “ไม่ได้ไปอวดเสียหน่อย เอาความยิ่งใหญ่ไปใช้อะไร ความยิ่งใหญ่ใช้ได้หรือ เชื่อข้า เอาไปสองชุดพอ!”

 

 

 

 

——

 

 

ตอนที่ 380 อย่างน้อยเจ้าก็เป็นนายหญิง

 

 

 

 

เรื่องที่น่าอวี้ขอร้องเฝิงเยี่ยไป๋ก็ไม่ใช่เรื่องอื่น ก็เพื่อน้องชายของนาง เจี่ยงเหว่ยบอกว่าน่ายงอยู่ในมือพั่งไห่ คำพูดนี้ตอนแรกนางก็เชื่อ เพียงแต่ตอนหลังมาคิดอย่างละเอียดอีกที ก็ไม่ถูกต้อง อยู่ในมือใครไม่เหมือนกันหรือ เจี่ยงเหว่ยเป็นคนใจเสาะ เบื้องบนสั่งลงมาแล้ว เขาไม่กล้าขัด มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเปลี่ยนที่ซ่อนของน่ายงอีก

 

 

“น่าอวี้บังอาจ ขอร้องท่านอ๋องช่วยหาน้องชาย”

 

 

ก็บังอาจจริงๆ หากจะนับดีๆ แล้ว นางกับเขา ที่จริงแล้วก็ไม่ถือว่ามีความผูกพันธือะไร แม้ว่าตอนนี้จะแต่งงานกับเขาแล้ว แต่ก็ไม่ถึงว่าสนิทเพียงใดนางให้เขาช่วย ก็เกินเลยอยู่จริง หน้าของนางใช้ที่เขานี้ไม่ได้ เพียงแต่ที่เฉินยางนั่นก็ใช้ได้อยู่ นางไม่ได้ไปพูดกับเฉินยางกลับมาขอร้องเขาตรงๆ จุดนี้ก็ซื่อตรงดี

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ประคองนางขึ้นมา “ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้ข้าจะให้คนทำให้”

 

 

เขาตอบตกลงอย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าเมื่อครู่ที่นางพูดกับเฉินยางนั้นเขาก็ได้ยินแล้ว ได้ยินก็ดี จะได้ทำให้เขาหายสงสัยในคราวเดียว และไม่แสดงถึงว่านางจงใจ

 

 

น่าอวี้เงยหน้าขึ้นมา มองเขาด้วยสีหน้างุนงง “ท่านอ๋อง… ท่านตกลงแล้ว?”

 

 

“เจ้ารอข่าวอยู่ในจวนเถิด คนหาเจอแล้ว ข้าจะส่งมาให้เจ้าด้วยตัวเอง”

 

 

ไม่ต้องสนว่าตกลงเพราะเหตุใด อย่างไรเสียเรื่องนี้ถือว่าได้ทำแล้ว น่าอวี้เชื่อใจเขา เรื่องที่เขาตกลงแล้ว นางก็เชื่อว่าเขาทำได้ ช่างเป็นผู้ชายที่ดีเสียเหลือเกิน ติดตามเขา ในใจเต็มไปด้วยความปลอดภัย ในใจนางร้อนรุ่ม ก้มหน้าลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้น กลัวสบตาเขา ความรักที่ตัวเองพยายามควบคุมอยู่นั้นก็หลั่งไหลออกมา คำพูดที่ยืนยันก่อนหน้านี้ก็เสียเปล่าแล้ว

 

 

“ท่านอ๋อง…” นางบิดผ้าเอ่ยปาก “ครั้งนี้ที่ไปเมืองเหมิง ข้างกายพระชายามีคนปรนนิบัติหรือไม่”

 

 

เขาพยักหน้า “นางลำบากทางกาย ย่อมต้องมีคนปรนนิบัติ”

 

 

น่าอวี้เสนอตัวเอง “ไม่เช่นนั้นให้ข้าไปกับพระชายาเถิด ข้า… ท่านอ๋องช่วยข้าใหญ่หลวงเช่นนี้ ข้าไม่มีสิ่งใดตอบแทน จึงได้แต่เอาบุญคุณครั้งนี้ตอบแทนบนตัวพระชายา ถือเสียว่าติดตามอยู่ข้างกายพระชายา ก็จะได้ให้ข้ารู้สึกสบายใจเสียหน่อย”

 

 

แทนที่จะเอาความคิดที่ใช้ไม่ได้มาอยู่บนตัวเขา ไม่สู้มาเอาใจเว่ยเฉินยางดีเสียกว่า ปรนนิบัติเว่ยเฉินยางดีแล้ว มีประโยชน์ยิ่งกว่าพูดคำสวยหรูมากมายต่อหน้าเขาเป็นพันประโยค นี่คือชีวิตของเขา เป็นหัวใจของเขา สำคัญยิ่งกว่าตัวเขาเองเสียอีก

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋มองนางเล็กน้อย ความเย็นชาบนหน้าค่อยๆ คลายลง “เจ้าก็ถูกคนปรนนิบัติตั้งแต่เด็ก ไม่เคยปรนนิบัติคนอื่น ให้เจ้าตามนางไป เกรงว่าจะทำให้ลำบากทั้งสองคน เจ้ามีใจเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องไปนั้นก็ไม่จำเป็นแล้ว อยู่ในจวนเสียเถิด!”

 

 

ในคำพูดของเขานั้นมีความหมายที่คิดเผื่อนาง น่าอวี้ดีใจแทบตัวลอย เพียงแต่ความดีใจนั้นแสดงบนสีหน้าไม่ได้ ต้องซ่อนไว้ในใจ บนหน้านางเศร้าหมองเล็กน้อย พูดเสียงเบาว่า “ท่านอย่าได้ดูถูกข้า ยิ่งคนที่ถูกปรนนิบัติจนชินเช่นข้านั้นก็ยิ่งรู้ว่าต้องปรนนิบัติคนอย่างไรถึงจะสบาย ยามที่ท่านแม่ของข้าท้องน้องชายข้าอยู่นั้น ท่านพ่อของข้ากลัวว่าคนใช้ปรนนิบัติไม่รอบคอบ ล้วนให้ข้าปรนนิบัติอยู่ข้างๆ คนท้องกินอะไรดีต่อร่างกาย ของอะไรห้ามกิน เรื่องที่ต้องระวังระหว่างท้องอยู่นั้น ข้ารู้เรื่องหมด ปรนนิบัติพระชายานั้นข้าก็ยังพอมีความสามารถอยู่”

 

 

มุมปากเฝิงเยี่ยไป๋ซ่อนรอยยิ้มอยู่ ยังคงส่ายหน้า “คนที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายนางล้วนชินแล้ว หากเปลี่ยนคนกะทันหันกลัวนางจะไม่ชิน อีกอย่างเจ้าก็เป็นนายหญิง หากปรนนิบัติเสียเองวันหลังจะสร้างความน่ายำเกรงไม่ได้”