ตอนที่ 1658 ยืมใช้ (1)
“ทนอีกหน่อยไม่รู้ว่าวิหารจิงหงจะเตรียมที่พักให้เราดีรึเปล่า ถ้าไม่มีใครมาดูแลพวกเราตอนไปถึงที่นั่น มันคงน่าหงุดหงิดจริงๆ” ผู้เยาว์อีกคนอดบ่นออกมาไม่ได้
วิหารเงาจันทรากับวิหารจิงหงอยู่ไม่ไกลกันนักแต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ค่อยดี การที่สองวิหารอยู่ใกล้กันทำให้เกิดการปะทะกันบ่อยครั้งในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจ อาจกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองตึงเครียดมาก งานเฉลิมฉลองวันเกิดของประมุขวิหารจิงหงครั้งนี้ แม้ว่าคำเชิญจะถูกส่งไปที่วิหารเงาจันทราแล้ว แต่วิหารเงาจันทราก็จงใจถ่วงเวลาไปจนถึงนาทีสุดท้ายกว่าจะส่งกลุ่มผู้เยาว์ที่เพิ่งเข้าร่วมวิหารเงาจันทราไปร่วมอวยพรวันเกิดได้
ความหมายก็คือทำแบบขอไปทีนั่นแหละ
ในบรรดากลุ่มคนจากวิหารเงาจันทราคนเดียวที่พอจะถือได้ว่าเหมาะสมก็คือผู้เยาว์ที่นั่งหลังตรง มีข่าวลือว่าผู้เยาว์คนนี้คือหลานชายบุญธรรมของผู้อาวุโสคนหนึ่งแห่งวิหารเงาจันทรา เขาเติบโตขึ้นมาในวิหารเงาจันทราตั้งแต่เล็ก ในวิหารเงาจันทรา เขาได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถโดดเด่น แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ผู้เยาว์คนอื่นๆไม่ชอบ
นั่นก็คือความหัวแข็งของเขา
เด็กหนุ่มคนนี้ไม่พูดมากและมีพลังที่แข็งแกร่งตามเหตุผลแล้วเขาควรเป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มในรุ่นเดียวกับเขา แต่คนผู้นี้กลับเลือกที่จะฟังแต่ผู้อาวุโสคนนั้นเท่านั้น ไม่ฟังคนอื่นเลย และยังไม่ชอบพูดคุยกับคนอื่นด้วย แม้ว่าผู้เยาว์คนอื่นๆจะเป็นมิตรกับเขา เขาก็จะปฏิเสธด้วยคำพูดที่เย็นชาและไม่เป็นมิตร
เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ห่างเหินจากผู้เยาว์คนอื่นๆ และคนในวิหารเงาจันทราก็ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวไป
ในการเดินทางครั้งนี้ผู้เยาว์คนอื่นๆพูดคุยหยอกเย้ากัน เขาเป็นคนเดียวที่ถูกคว่ำบาตร แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจแม้แต่น้อย เขานั่งอยู่เงียบๆ ตามองจมูก จมูกมองใจ เงียบราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น
“ใครจะรู้”กลุ่มผู้เยาว์ต่างบ่นออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
ทันใดนั้นรถม้าที่กำลังเคลื่อนที่ก็กระแทกอย่างรุนแรง ทำให้พวกผู้เยาว์ที่อยู่ข้างในรถม้าเซถลาไปข้างหน้า พวกเขากระแทกเข้าด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ดูน่าสมเพชมาก
รถม้าหยุดกะทันหัน!
ในที่สุดพวกผู้เยาว์ที่อยู่ข้างในรถม้าก็ยันตัวเองขึ้นมาได้ความหงุดหงิดจากการเดินทางอยู่แล้วทำให้พวกเขายิ่งโกรธมากขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น?ขับรถม้าไม่เป็นรึไง!! ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเรอะ?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งกระโจนลงจากรถม้าด้วยความโกรธ เตรียมจะสั่งสอนบทเรียนให้กับคนขับรถม้า
แต่ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีเสียงดังมาจากนอกรถ
พวกผู้เยาว์ที่อยู่ในรถม้าเริ่มรู้สึกแปลกๆ
ทันใดนั้นกลิ่นเลือดจางๆก็ลอยเข้ามาจากด้านนอกรถม้า
“เจ้านั่นคงไม่ได้พลั้งมือฆ่าคนขับรถม้าไปแล้วใช่ไหม?ไม่งั้นใครจะขับรถม้า!?” ผู้เยาว์คนหนึ่งสูดกลิ่นเลือดแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยสีหน้ากังวล แต่คำพูดของเขาทำให้คนรู้สึกผิดหวังจริงๆ สิ่งที่เขาห่วงไม่ใช่เรื่องที่เพื่อนของเขาฆ่าคนบริสุทธิ์ แต่ห่วงว่าจะไม่มีใครขับรถม้าให้พวกเขาต่างหาก
ปฏิกิริยาของผู้เยาว์คนอื่นๆก็เหมือนกันหมดพวกเขาก้าวออกจากรถม้ากันทีละคน ตั้งใจจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ทันทีที่ก้าวออกจากรถม้าใบหน้าของผู้เยาว์พวกนั้นก็ซีดเผือดทันที!
ถนนกว้างตรงหน้าพวกเขาเปื้อนเลือดสีแดงฉานเด็กหนุ่มคนที่กระโดดออกจากรถม้าเมื่อครู่ถูกตัดหัวขาด ร่างที่ไร้หัวของเขานอนจมกองเลือดของตัวเอง ในสายตาของผู้เยาว์ทุกคนที่นั่นมีแต่สีแดงน่าสยดสยอง!
ท่ามกลางฉากนองเลือดอันน่ากลัวนั้นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าม้า มือของเขายกขึ้นปลอบโยนเจ้าม้าที่กำลังตกใจกลัว
“จวิน……จวินอู๋……”ผู้เยาว์คนหนึ่งจำคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาได้ทันที!