ตอนที่ 1657 ร่วมอวยพรวันเกิด (5)
นั่นไม่ใช่ลางดีเลยสักนิด……
เย่ฉาพูดไม่ออกเล็กน้อยคุณหนูมีบุคลิกเย็นชา แต่ความเอาใจใส่และความอ่อนหวานโดยไม่ได้ตั้งใจของนางทำให้พวกเด็กสาวๆหลงหัวปักหัวปำได้จริงๆ
ความจริงคือท่าทาง “เอาใจใส่” เล็กๆน้อยๆพวกนี้ จวินอู๋เสียแค่เลียนแบบคนอื่นโดยที่นางไม่ได้เข้าใจอะไรพวกนี้เลยสักนิด นางไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรกับหัวใจของเด็กสาวได้บ้างเวลาที่นางปฏิบัติกับสาวๆด้วยท่าทางเช่นนี้ขณะที่แต่งตัวเป็นผู้ชาย
เย่ฉาถอนหายใจอยู่ในใจและแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นเขาภาวนาอยู่ในใจว่าตอนที่นายท่านเจว๋กลับมาแล้วรู้เรื่องพวกนี้เข้า นายท่านของเขาจะไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
พวกเขาเดินลงภูเขาฝูเหยาที่เชิงเขาไม่ค่อยมีร่องรอยของผู้คน จื่อจินก้าวไปบนถนน นางสวมเสื้อคลุมและห่อตัวเองไว้ข้างในอย่างอบอุ่น เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองไปที่ด้านหลังของจวินอู๋เสียอยู่เป็นระยะ
หลังจากเดินอยู่นานในที่สุดจื่อจินก็ไม่สามารถทนกับความเงียบได้อีกต่อไป นางเอ่ยปากถามว่า “เราจะไปที่วิหารจิงหงกันทั้งอย่างนี้หรือ?”
จวินอู๋เสียชะงักเท้านางหันกลับมามองจื่อจินด้วยสายตาสงสัย
ใบหน้าของจื่อจินแดงระเรื่อทันทีนางแสร้งทำเป็นใจกล้าและพูดว่า “ตอนอยู่ที่ภูเขาฝูเหยามีคนเห็นหน้าของข้าหลายคน พวกเขารู้แล้วว่าข้าเป็นคนของวิหารหยกวิญญาณ เจ้าคิดจะไปที่นั่นแบบนี้จริงๆหรือ?”
จวินอู๋เสียส่ายหน้า“เราจะยังไม่ไปที่วิหารจิงหง”
“หือ?”จื่อจินชะงักไปเล็กน้อย
จวินอู๋เสียกล่าวว่า“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการทุกอย่างเอง” พูดจบก็หันกลับไปเดินหน้าต่อ
[เจ้าไม่ต้องกังวลข้าจะจัดการทุกอย่างเอง]
คำพูดง่ายๆไม่กี่คำนั้นเมื่อมันเข้าไปอยู่ในใจของจื่อจิน ก็ก่อให้เกิดระลอกคลื่นขึ้นในทะเลสาบที่เงียบสงบแห่งนั้น
จวินอู๋เสียไม่คิดที่จะไปวิหารจิงหงทั้งๆแบบนี้อยู่แล้วไม่ต้องพูดถึงจื่อจินที่เคยก่อความวุ่นวายขึ้นบนภูเขาฝูเหยา แค่ใบหน้าของจวินอู๋เสียเองก็จะให้ปรากฏต่อหน้าสิบสองวิหารไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น ถึงจื่อจินจะไม่ปรากฏตัว ทุกคนก็รู้ว่ามีคนจากวิหารหยกวิญญาณมา
จวินอู๋เสียไม่ได้รีบร้อนตรงไปที่วิหารจิงหงแต่กลับพาจื่อจินและคนอื่นมาที่ทางสัญจรหลัก พวกเขาหยุดพักเมื่อไปถึงที่นั่น จวินอู๋เสียไม่ได้บอกว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ ทำให้ในใจของจื่อจินเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
แต่เย่ฉาและเย่กูไม่เคยตั้งคำถามอะไรมากนักจื่อจินจึงไม่กล้าพูดมากเกินไป ดังนั้นนางจึงอยู่นั่นกับพวกเขาอย่างเงียบๆ
หลังจากผ่านไปครึ่งวันบนถนนกว้างแห่งนั้นก็มีรถม้าสองคันแล่นมาจากระยะไกล รถม้าสองคันถูกสร้างอย่างประณีต สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากที่สุดคือธงที่โบกสะบัดอยู่เหนือรถม้า บนธงสีขาวเงินปักตราพระจันทร์เสี้ยวสีทองเข้ม
ทุกคนทั่วทั้งอาณาจักรกลางต่างรู้จักตรานี้กันทั้งนั้นมันเป็นตราของหนึ่งในสิบสองวิหาร ตราของวิหารเงาจันทรา!
ถนนที่พวกของจวินอู๋เสียรออยู่นี้คือถนนที่วิหารเงาจันทราต้องใช้เพื่อไปยังวิหารจิงหง!
ภายในรถม้าที่กำลังกระแทกกระเทือนมีผู้เยาว์หลายคนนั่งรวมกันอยู่ในรถม้าคันแรกล้อหมุนไปตามเส้นทาง และพวกผู้เยาว์ข้างในก็นั่งกระเทือนอยู่ในรถม้ามา 5 วันแล้ว พวกเขาเริ่มขี้เกียจเล็กน้อย ร่างเอนพิงด้านข้างของรถม้าราวกับหมดเรี่ยวแรง
มีเพียงคนเดียวที่นั่งตัวตรงเป็นคนที่ผู้เยาว์คนอื่นๆนั่งห่างออกไปโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าคนอื่นๆจะค่อนข้างเบียดเสียดกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่รอบตัวเด็กหนุ่มคนนั้น
“อีกนานแค่ไหนกว่าเราจะไปถึงวิหารจิงหง?ร่างข้าใกล้จะแหลกอยู่แล้ว” ผู้เยาว์คนหนึ่งโอดครวญขณะเหยียดแขน ใบหน้าบิดเบี้ยวดูทุกข์ทรมาน
การไปร่วมอวยพรวันเกิดนั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่สิบสองวิหารต่างแอบวางแผนร้ายต่อกันอยู่นั้น ก็ไม่อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ดีได้เลย ทุกคนต่างรู้แก่ใจดีว่านอกจากคนของพวกเขาเองแล้ว เมื่อพวกเขาไปถึงวิหารจิงหง สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญก็มีเพียงฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ถูกกัน