บทที่ 341 ยึดฉันเป็นหลัก

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ดวงตาสีเหลืองหม่นของงูพิษม่วงกวาดตามองลูกเด็กบรรจุศพที่อยู่ใกล้ที่สุด ก่อนจะอ้าปากขู่ฟ่อๆ พลางพ่นลมที่คาวไปทั้งปากใส่ลูกเด็กบรรจุศพ

ลูกเด็กบรรจุศพมีสีหน้าเปลี่ยนไป แต่คนอย่าเขาที่ผ่านอะไรมามากมายนั้น ไม่เพียงแค่ตกใจอึ้งไป แต่ยังโจมตีกลับด้วย

ชี่ทิพย์ในตัวเขาวิ่งวุ่น ก่อนจะปล่อยพลังของระดับดำสูงสุดออกมาสุดพลัง หลังจากที่หลบการโจมตีจากปากงูได้แล้ว ก็ก้าวเท้าเหยียบขึ้นไปบนสันเขา แล้วก็ใช้พลังของแรงสั่นสะเทือนในการเข้าใกล้งูพิษม่วง แล้วใช้มีดปักเข้าไปเต็มแรง

ปึก!

กริชที่เต็มไปด้วยชี่ทิพย์อย่างไม่มีวันสูญสิ้นปักเข้าไปในเรือนร่างของงูพิษม่วง จนทำให้งูพิษม่วงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดแสน

แต่ ลูกเด็กบรรจุศพกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่ากริชนี้มันแทงเข้าไปได้ถึงสามนิ้วโดยประมาณ!

สำหรับร่างกายที่ยาวราวยี่สิบกว่าเมตรนั้น งูพิษม่วงที่ตัวใหญ่ยักษ์เหมือนถังน้ำ มันไม่มีทางทำให้มันบาดเจ็บอะไรได้เลย แถมยังไม่รู้สึกเจ็บคันเลยด้วยซ้ำ

“นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?การป้องกันของงูพิษม่วงมันแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“การออกแรงทั้งหมดของฉันมันสามารถทะลุเหล็กได้เลยด้วยซ้ำ ทำไมวันนี้มันทะลุได้เพียงเกล็ดของงูพิษม่วงเท่านั้นล่ะ?”

ลูกเด็กบรรจุศพตะลึงอยู่ตรงนั้น ก่อนจะมองสัตว์ตัวยักษ์ด้านหน้า พลางอดไม่ได้ที่จะกลัวในใจ

แต่ทว่า เมื่อรู้ได้ถึงงูพิษม่วงที่เจ็บปวดแต่ไม่ว่าเขากำลังคิดอย่างไร เมื่อสะบัดหาง ก่อนจะกวาดมาทางลูกเด็กบรรจุศพ

ลูกเด็กบรรจุศพรีบหลบ แต่กลับไม่ได้โจมตีกลับ เพราะไม่อยากจะเสียแรงเสียเวลาเพื่อทำอะไรที่มันไม่เกิดประโยชน์

เขามีชีวิตมาถึงตอนนี้ ไม่ใช่เพราะโชคเล็กน้อย นอกจากความสามารถแล้ว สมองเองก็สำคัญไม่แพ้กัน

โจมตีการป้องกันของอีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะมาพูดถึงอะไรได้อีก?

ยิ่งไปกว่ายั้ย ถ้าไม่ใช่ว่างูพิษม่วงกัดเขาไม่ปล่อย มันทำให้เขาไม่สามารถหาโอกาสในการหนีได้เลย ไม่อย่างนั้นคงจะหนีไปนานแล้ว

“โอ้ย!”

ท่ามกลางความน่าตกใจที่งูพิษม่วงออกมากันไม่หยุด จี้เยียนหรันที่สลบไปนั้นถูกปลุกขึ้นมา ก่อนจะเห็นสัตว์ตัวใหญ่ด้วยความเบลอ ก่อนจะร้องเสียงหลงออกมา

เมื่อเทียบกับงูพิษม่วงที่ตัวยาวราวยี่สิบเมตร จี้เยียนหรันนั้นตัวเล็กเป็นอย่างมาก ในใจก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความกลัวขึ้นมาเป็นอย่างมาก

“เบาเสียงหน่อย!หูฉันจะแตกอยู่แล้ว……”

ท่ามกลางการป้องกันที่ไม่ทันท่วงทีนั้น เย่เทียนเองก็ตกใจเป็นอย่างมาก จนส่ายหัวอย่างหัวเสีย

“เย่ เย่เทียน นี่……ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”

จี้เยียนหรันมองเย่เทียนอย่างงงๆ ก่อนจะยื่นหยกเขียวชี้ไปทางงูพิษม่วงที่โจมตีลูกเด็กบรรจุศพไม่หยุด ก่อนจะมีสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ

“คุณว่าอย่างไรล่ะ?”

เย่เทียนยักไหล่เบาๆ

ปัง!

แทบจะเกิดขึ้นตอนที่เย่เทียนพูดจบ งูพิษม่วงก็จะเข้ามากัดลูกเด็กบรรจุศพอีก แต่ลูกเด็กบรรจุศพกลับหลบได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ชนเข้ากับสันเขาหนา ชนจนทำให้ซานกู่นั้นสั่นไปตามๆกัน

ไม่เพียงเท่านั้น หินก้อนใหญ่บนหินผาก้อนหนึ่ง ก็ร่วงลงมากระแทกกับหัวของงูพิษม่วง

แต่ที่น่าเสียดายก็คือ งูพิษม่วงนั้นเพียงแค่ส่ายหัวด้วยความมึน ก่อนจะเข้ามาฆ่าลูกเด็กบรรจุศพในทันที โดยที่ไม่มีท่าทีกระทบกระเทือนอะไรเลย

ความน่าสะพรึงติดๆกันแบบนี้ มันเป็นเครื่องยืนยันความแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย จี้เยียนหรันอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึก สีหน้าก็ซีดลง ขาทั้งสองข้างก็ชาขึ้นมา ถ้าไม่ใช่ว่าเย่เทียนใช้มือประคองเธอ เกรงว่าคงจะล้มลงบนพื้นไปนานแล้ว

“ถือว่ายังพอมีสมองอยู่บ้าง”

เย่เทียนในตอนนั้นไม่มีอารมณ์จะดูแลจี้เยียนหรันแล้ว พลางมองลูกเด็กบรรจุศพที่สู้กับงูพิษม่วงแล้วพยักหน้าด้วยความพอใจ ท่าทีนี้เหมือนเห็นหมาป่าของหนูน้อยหมวกแดงก็มิปาน

ก่อนจะมาที่จ๊กกลาง เย่เทียนเคยคิดถึงปัญหานี้แล้ว

แก๊งกะโหลกสักลายที่ลึกลับนั้นยังหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย แต่เขานั้นอยู่เคียงข้างเฉินหวั่นชิงมาตลอดเวลาอย่างยากลำบาก มันเลยต้องการคนที่สามารถปกป้องเฉินหวั่นชิงแทนเขาได้

แม้จะบอกว่าตัวตนของเขาในวันนี้มีพันธมิตรที่สูงส่งไม่น้อยเลย แต่คนมากฝีมือนั้นกลับไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว

เมื่อครู่เขาสังเกตอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถกำลังหรือสมองของลูกเด็กบรรจุศพนั้นถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว เขาสามารถรับหน้าที่แทนตัวเองเวลาที่ไม่อยู่ได้เลยล่ะ!

พูดให้เข้าใจง่ายหน่อย ก็คือถ้าลูกเด็กบรรจุศพไม่รังเกียจ เย่เทียนก็อยากจะรับไว้เป็นลูกน้อง

โจมตีลูกเด็กบรรจุศพไม่ได้สักที งูพิษม่วงนั้นเริ่มรำคาญจนโกรธขึ้นมา ก่อนจะอ้าปากกว้าง แล้วปล่อยหมึกของเหลวสีเขียวออกมา

ลูกเด็กบรรจุศพรู้สึกแปลกใจ โดยที่ไม่กล้าจะสู้และกำบังซึ่งๆหน้า ก่อนจะทักษะอันน่าทึ่ง อย่างไม่มีเวลาจะมาโซเซ แล้วหลบได้อย่างหวุดหวิด

ฟ่อๆ!

น่าเสียดาย ที่แม้ลูกเด็กบรรจุศพจะไม่ได้โต้ตอบช้านัก แต่ท่ามกลางการโจมตีที่มีรัศมีกว้างไกลนั้น ด้านหลังเลยโดยสารเหนียวนั้นเล็กน้อย มันเน่าไปด้วยความรวดเร็ว

ไม่เพียงเท่านั้น หมึกสีเขียวเข้มนั้นมันติดไปกับที่ที่ลูกเด็กบรรจุศพยืนเมื่อครู่ ดินตรงพื้นนั้นยุบลงไป ก่อนจะมีควันขาวพุ่งขึ้นมา จนเกิดกลิ่นเหม็นแสบจมูก

ชิ่ว!

แม้จะบอกว่าลูกเด็กบรรจุศพถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว แต่ด้านหลังนั้นก็ยังมีเนื้อที่ถูกกัดกินไปมาก เลือดเนื้อผสมปนเป จนยากจะทนมองต่อไปได้

เย่เทียนอึ้งไป ก่อนจะถอยเท้าไปอย่างทนไม่ไหว

เขายังอยากจะรับลูกเด็กบรรจุศพเป็นน้องชาย แล้วจะให้เขากลายมาเป็นอาหารในท้องของงูพิษม่วงได้อย่างไรกัน!

“เย่ เย่เทียน คุณจะทำอะไรน่ะ?!”

จี้เยียนหรันที่สังเกตเห็นท่าทีของเย่เทียนนั้นถึงกับตกใจชะงักไป ก่อนจะรีบเอามือดึงชายเสื้อของเขา

เมื่อพูดคำนี้ออกไป เด็กหญิงก็สั่นไปทั้งปาก

แม้จะบอกว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลจี้ แล้วก็เป็นข้าราชาการ ได้เจออะไรมามากกว่าคนปกติ แต่เธอเคยได้เจอเรื่องแบบในวันนี้เสียเมื่อไหร่ มันเหมือนการพลิกความคิดความเข้าใจของเธอไปเลย แล้วจะไม่รู้สึกกลัวได้อย่างไร?

“ฆ่ามันสิ!”

เย่เทียนหันกลับมายิ้มให้

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?!”

จี้เยียนหรันชะงักไป

“เชื่อฉัน ไม่เป็นไรหรอก!”

เย่เทียนเอาหยกทิพย์ที่เด็กสาวจับชายเสื้อดึงออก ก่อนจะเดินเข้าไปในสนามนั้น พลางปล่อยจี้เยียนหรันที่ที่มีใบหน้าไม่อยากเชื่อเอาไว้

ลูกเด็กบรรจุศพในตอนนี้ทำให้งูพิษม่วงต้องไปจนมุมแล้ว สีหน้าซีดเซียว มุมปากนั้นขมขื่นไม่เบา

แม้จะบอกว่ามันเป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่เขากลับใช้แรงไปจนหมด

เขาอยู่บนโลกใบนี้มาหลายปี ยังไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองต้องมาอยู่ในที่ที่กันดาร และยิ่งไม่เคยคิดเลยว่าจะมาตายในมือของไอ้เลวนี่!

เมื่อคิดได้แบบนี้ ลูกเด็กบรรจุศพคำรามใส่งูพิษม่วงอย่างไม่ยินยอม

“ให้ตายเถอะ!ถ้าให้ฉันมีพลังกลับมาจนถึงจุดสูงสุด แกจะมาเป็นคู่แข่งของฉันได้อย่างไรกัน!”

แต่น่าเสียดาย ที่งูพิษม่วงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง จากนั้นก็อ้าปากแล้วมีหมึกสีเขียวเข้มเหนียวพ่นออกมา

ลูกเด็กบรรจุศพนั้นใช้แรงจนหมดแล้ว จะไปมีแรงหลบหลีกอีกได้อย่างไร เขามีแรงเพียงพอที่จะต่อสู้อีกไม่นาน ก่อนจะดึงชี่ทิพย์มาใช้ แล้วถือโล่กังชี่ขึ้น

จี๊ดๆ!

แต่ทว่า โล่กังชี่ที่สามารถป้องกันได้แม้แต่กระสุน ในตอนนี้กลับอ่อนแอเป็นอย่างมาก เมื่อส่งเสียงการทำลายผุกร่อนออกมาแล้ว สารเหนียวนั้นมันทำลายโล่กังชี่ไปอย่างรวดเร็วโดยที่ยังเห็นได้ด้วยตา ก่อนจะเข้าใกล้ลูกเด็กมากขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันไม่ยอมนะ!”

ลูกเด็กบรรจุศพตะโกนออกไปด้วยความสิ้นหวัง แต่กลับไม่มีวิธีอื่นๆแล้ว

“ไม่ยินยอมงั้นเหรอ?เห็นฉันเป็นนายสิ ฉันช่วยคุณได้นะ!”

ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ กลับมีเสียงดังขึ้นเบาๆข้างหูของลูกเด็กบรรจุศพ……