ตอนที่ 314 รู้ความจริง / ตอนที่ 315 หารือ

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 314 รู้ความจริง 

 

 

           เจียงมู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย หรือว่าครั้งนี้ซูเตอร์จะคิดเล่นลูกไม้อะไรอีก 

 

 

           เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาค่อยๆ จากประตูไปอย่างช้าๆ เพียงครู่เดียวก็หายไปจากห้องชั้นใต้ดิน 

 

 

           ยาออกฤทธิ์แล้ว คิ้วที่ขมวดหากันของเจียงมู่เฉินผ่อนคลายลงเล็กน้อย ร่างกายที่แข็งเกร็ง 

 

 

           ความรู้สึกเจ็บไม่รุนแรงเท่าก่อนหน้านี้แล้ว 

 

 

           ไม่รู้ว่าเพราะบาดแผลอาการดีขึ้นหรือเปล่า เขาจึงค่อยๆ รู้สึกง่วงขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

           เจียงมู่เฉินเอนซบผนัง นอนหลับลงไปอย่างช้าๆ 

 

 

           ซือเหยี่ยนกลับมาถึงห้องหนังสือ ทั้งร่างกายเกร็งแน่นราวกับเสือชีตาร์ตัวหนึ่งที่กำลังเตรียมโจมตี 

 

 

           หมัดซ้ายเขาต่อยเข้าที่ผนังห้องด้วยแรงมหาศาล เกิดเสียงกระทบดังลั่น เลือดสีแดงสดไหลนองออกมาในทันใด 

 

 

            ซือเหยี่ยนมองเลือดในมือ พลางคิดถึงแผลบนตัวของเจียงมู่เฉิน ก็ทนไม่ไหวหัวใจบีบรัดตัวแน่น 

 

 

           เจียงมู่เฉินที่เขาเก็บไว้ในใจ คนที่ปกติคำพูดล่วงเกินสักคำก็ไม่กล้าพูด คิดไม่ถึงว่าจะถูกซูเตอร์ทำร้ายจนกลายเป็นสภาพแบบนั้น 

 

 

           ดวงตาคู่นี้ของซือเหยี่ยนแดงก่ำ ข้างในล้วนแต่เป็นเส้นเลือดฝอย 

 

 

           เขากำมืออย่างหนักหน่วง บาดแผลที่เลือดเพิ่งจะหยุดไหลปริแยกกันอีกครั้ง เลือดสีแดงสดไหลออกมาอีกจนได้ 

 

 

           ถ้าไม่ใช่เพราะยังพอมีสติควบคุมตัวเองเพียงนิดอยู่บ้าง เขาเกรงว่าตัวเองจะพุ่งเข้าไปกอดเจียงมู่เฉินไว้ทันที 

 

 

           เขาจงใจพูดกับซูเตอร์แบบนั้น ให้เขาเสียขวัญไปเอง แล้วตัวเองค่อยตามหลังซูเตอร์ไปจนหาตำแหน่งที่กักขังเจียงมู่เฉินเจอ 

 

 

           หลังจากเขาหาเจอ ก็ฉวยโอกาสยามที่ซูเตอร์ออกไป หาคนมาล่อคนที่หน้าประตูพวกนั้นออกไป เช่นนี้ถึงไปดูเจียงมู่เฉินแวบหนึ่งได้ 

 

 

           บาดแผลบนตัวเจียงมู่เฉินดูไปแล้วน่าจะเป็นบาดแผลที่เพิ่งจะได้มาเมื่อวาน 

 

 

           ในวันนี้ซูเตอร์คงจะไม่ลงมือกับเจียงมู่เฉินได้อีก เขาทำได้เพียงรออีกวันเดียว จะต้องพาตัวเจียงมู่เฉินออกมาให้ได้ 

 

 

           รออีกวัน เขาก็ทนไม่ไหวแล้ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนเองไม่ได้สนใจมือที่บาดเจ็บ เขาถือมือถือออกไปข้างนอกทั้งอย่างนั้น 

 

 

           เมื่อเข้าไปนั่งในรถ เขาก็โทรหาไมเคิลทันที “ตอนนี้ฉันจะไปหานายที่เดิม ช่วยฉันติดต่ออาจารย์ที ฉันมีธุระหาท่าน” 

 

 

           “รีบร้อนขนาดนี้เชียวเหรอ” 

 

 

           “ฉันมีเรื่องด่วน ฉันกำลังเดินทางเข้าไปแล้ว” 

 

 

           พอไมเคิลได้ฟังน้ำเสียงของเขาก็เข้าใจได้ในทันที เขาพยักหน้าเอ่ย “ได้ ฉันจะไปบอกอาจารย์ของนายเดี๋ยวนี้” 

 

 

           ซือเหยี่ยนวางสายลงแล้วก็รีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่เดิม เดิมทีเขายังคิดหาหลักฐานที่สำคัญยิ่งกว่านี้อีก แต่ตอนนี้เพราะสาเหตุเรื่องเจียงมู่เฉิน เขาไม่มีทางเลือกอื่น 

 

 

           แผนการล่วงหน้า พรุ่งนี้ตอนเที่ยงเมื่อซังจิ่งเข้ามา เขาต้องการขุดรากถอนโคนแก๊งมังกรครามไปด้วยกันทีเดียวเลย 

 

 

           ไมเคิลโทรหาท่านเชน ชี้แจงถึงสถานการณ์ ให้ท่านเชนเข้ามาหาโดยด่วน 

 

 

           ทันทีที่ได้ยินว่าซือเหยี่ยนมีธุระหาเขา ท่านเชนเองก็ไม่ล่าช้า รีบตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนจอดรถที่ประตูหลัง แล้วเข้าไปขึ้นบนชั้นสองทันที 

 

 

           ท่านเชนยังมาไม่ถึง เมื่อไมเคิลเห็นซือเหยี่ยนก็รีบถาม “จู่ๆ ทำไมนายถึงรีบร้อนขนาดนี้ ให้อาจารย์ของนายมาหา มีเรื่องอะไรเหรอ” 

 

 

           “เจียงมู่เฉินโดนซูเตอร์จับตัวไปแล้ว” ซือเหยี่ยนเอ่ยอย่างเจ็บใจ 

 

 

           ไมเคิลได้ยินก็เอ่ยด้วยความตกตะลึงในทันใด “มันเรื่องอะไร ทำไมเจียงมู่เฉินถึงโดนซูเตอร์จับตัวไปแล้ว” 

 

 

           “รายละเอียดฉันเองก็ไม่ค่อยชัดเจน ฉันก็เพิ่งได้ข่าวเมื่อเช้านี้เอง เจียงมู่เฉินถูกซูเตอร์พาตัวมาที่แก๊งมังกรครามเมื่อวานนี้” 

 

 

           “สถานการณ์ของเขาตอนนี้ไม่ค่อยดี?” 

 

 

           ซือเหยี่ยนพยักหน้า “โดนทำร้ายค่อนข้างสาหัส ยังถูกกักขังอยู่ที่ห้องใต้ดินด้วย ฉันไม่กล้าแหวกหญ้าให้งูตื่น ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไงบ้าง” 

 

 

           ไมเคิลสีหน้าเคร่งขรึม จากคำพูดแค่ไม่กี่คำของซือเหยี่ยน ก็รู้ได้ว่าสภาพของเจียงมู่เฉินในตอนนี้ไม่ค่อยดีแน่นอน 

 

 

           ถ้าไม่อย่างนั้นซือเหยี่ยนก็ไม่มีทางจะรีบร้อนติดต่อท่านเชนขนาดนี้ได้ 

 

 

           ขณะที่ทั้งสองคนเงียบไม่พูดจา ท่านเชนก็มาถึง เขาเห็นซือเหยี่ยนก็เอ่ยถาม “เรียกหาให้ฉันเข้ามาด่วนขนาดนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเอ่ยด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง “ผมอยากตกเบ็ดล่วงหน้าครับ” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 315 หารือ 

 

 

           ท่านเชนขมวดคิ้วหากันเป็นปมอย่างหนัก “หมายความว่าไง” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเงียบสักพัก ก่อนเอ่ยต่อ “เจียงมู่เฉินตกอยู่ในกำมือของซูเตอร์ ผมรอนานเกินไปไม่ไหวครับ” 

 

 

           เขาทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเจียงมู่เฉิน ถ้าเจียงมู่เฉินเป็นอะไรไป สิ่งที่เขาทำมาทุกอย่างก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย 

 

 

           ต่อให้เขาต้องสละทุกอย่าง ก็ต้องปกป้องเจียงมู่เฉินให้ปลอดภัยดีทุกอย่าง 

 

 

           ท่านเชนขมวดคิ้ว ถ้าว่าเจียงมู่เฉินตกอยู่ในกำมือของซูเตอร์ เช่นนั้นก็จัดการยากแล้วจริงๆ 

 

 

           แต่ว่า… 

 

 

           ท่านเชนคิดหนัก “ซือเหยี่ยน ฉันรู้ว่าเจียงมู่เฉินสำคัญกับนาย เขาเองก็เป็นลูกศิษย์ของฉัน เขาก็สำคัญกับฉันมากเหมือนกัน… 

 

 

           …แต่ว่า หลักฐานที่พวกเรายึดกุมได้ในตอนนี้ ยังไม่เพียงพอจะงัดข้อให้แก๊งมังกรครามล้มได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” 

 

 

           ทำมาตั้งมากมายขนาดนี้ ถ้าตอนนี้มาใจร้อน ทุกอย่างทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็จะล่มกลางคันได้ 

 

 

           ซือเหยี่ยนก็รู้หลักการนี้ดี แต่สถานการณ์ตอนนี้หลุดจากการควบคุมเดิมของเขาไปแล้ว 

 

 

           เดิมทีเขาคิดว่ารอเจียงมู่เฉินกลับไปแล้ว หลังจากนั้นก็จะลุยหาหลักฐานของแก๊งมังกรครามอย่างจริงๆ จังๆ 

 

 

           แต่ตอนนี้เขารอนานขนาดนั้นไม่ได้แล้ว 

 

 

           “แต่เจียงมู่เฉิน…” ซือเหยี่ยนพูดต่อไม่ออกแล้ว คำหลังจากนั้นพวกเราต่างก็รู้แก่ใจดี 

 

 

           ท่านเชนขมวดคิ้ว แบบนี้ช่างจัดการยากมากๆ จริงๆ 

 

 

           ถ้ากดเรื่องนี้เก็บลงไปไม่สนใจ เจียงมู่เฉินทางนั้นก็จัดการยากมากเช่นกัน 

 

 

           ถึงอย่างไรนิสัยโหดร้ายป่าเถื่อนขนาดนี้ของซูเตอร์ ยากจะรับประกันได้ว่าจะไม่ลงมือทำอะไรอย่างอื่นกับเจียงมู่เฉิน 

 

 

           อีกอย่าง ซือเหยี่ยนยอมแปดเปื้อนเช่นนี้ ว่ากันถึงสาเหตุก็เพื่อเจียงมู่เฉิน 

 

 

           เขาต้องเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกในขณะนี้ของซือเหยี่ยนได้เป็นธรรมดา 

 

 

           “งั้นตอนนี้จะทำยังไงเหรอ” ไมเคิลมองไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่แล้ว 

 

 

           ‘คนหนึ่งไม่ให้ คนหนึ่งต้องทำ นี่ตกลงแล้วต้องฟังใคร’ 

 

 

           ซือเหยี่ยนกับท่านเชนต่างก็เงียบไม่พูดจากันทั้งคู่ ไม่มีสักคนเริ่มเอ่ยปากก่อน 

 

 

           ไมเคิลกระวนกระวาย พวกเขาสองคนยังจะพูดพร้อมกันอีก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ 

 

 

           “คือว่า ซือเหยี่ยนกับท่านเชนตกลงว่าคิดยังไงกัน ตกลงวางแผนจะจัดการกันยังไงเหรอ” 

 

 

           ท่านเชนสีหน้าคร่ำเคร่ง อารมณ์บนใบหน้าจริงจังอยู่ไม่น้อย 

 

 

           ผ่านไปครู่ใหญ่ ซือเหยี่ยนจึงเอ่ยถาม “อาจารย์ครับ อาจารย์มีวิธีอะไรอย่างอื่นไหมครับ” 

 

 

           ครั้งก่อนก็เพราะเหตุผลของตัวเอง ถึงได้หยุดทุกอย่างกลางคัน 

 

 

           ตอนนี้ในครั้งนี้ เขาไม่อยากให้เป็นเพราะเรื่องนี้ เพราะตัวเองทำให้ทีมของอาจารย์ต้องเสียกำลังกายกำลังสมองอีกครั้ง 

 

 

           ท่านเชนคิดอยู่นานมาก สุดท้ายจึงเอ่ยเสียงต่ำออกมา “ถ้าพวกเราหาสาเหตุตรวจสอบพวกเขาล่ะ ให้เวลานายช่วยชีวิต… 

 

 

           …แต่ถ้าแบบนั้น ฐานะของนายอาจจะถูกเปิดเผย…” ท่านเชนเพิ่งจะพูดจบ ตัวเองก็ปฏิเสธเองแล้ว 

 

 

           แบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่ดีอะไร 

 

 

           “หรืออาจจะ ผมมีวิธีหนึ่ง” ซือเหยี่ยนประกายความคิด 

 

 

           ท่านเชนกับไมเคิลรีบมองตามไปทันที 

 

 

           “ถ้าก่อความสับสนวุ่นวายพวกเขา แล้วผมให้คนอื่นมาช่วยล่ะครับ” 

 

 

           “ได้ก็ได้อยู่ แต่ว่า ถึงยังไงนายก็เป็นคนนอก ถ้าถูกช่วยออกไปได้จริงๆ ก็ยากจะรับประกันว่าพวกนั้นจะไม่สงสารนายได้” 

 

 

           “อาจารย์ครับ อาจารย์วางใจได้ คนที่ผมหามา ซูเตอร์ไม่มีทางจะคิดโยงถึงผมเด็ดขาด” 

 

 

           ซังจิ่งกับเขาไม่ใช่คนที่มาต่อติดกันได้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าเจียงมู่เฉินถูกซังจิ่งช่วยออกไป ซูเตอร์ก็ไม่มีทางจะสงสัยมาถึงตัวเขาได้ 

 

 

           อีกอย่าง ทีมของอาจารย์เป็นคนออกหน้า ก็ไม่มีทางจะคิดโยงถึงตัวเองได้ 

 

 

           แบบนี้เขาไม่ต้องออกหน้า เจียงมู่เฉินก็ถูกช่วยออกไปได้ 

 

 

           ซือเหยี่ยนคิดไปคิดมา ก็มีเพียงแค่วิธีนี้เท่านั้นที่ค่อนข้างเหมาะสม 

 

 

           “หมายความว่าไง” ท่านเชนเอ่ยถาม 

 

 

           ซือเหยี่ยนหยุดลงสักพัก “เจียงมู่เฉินมีเพื่อนคนหนึ่ง วันนี้ตอนเช้าเขามาหาผมพอดี ผมให้เขาไปก่อความวุ่นวายอึกทึกพรุ่งนี้ตอนเที่ยง เดิมผมคิดจะฉวยโอกาสนี้ช่วยเจียงมู่เฉินออกมาครับ”