ตอนที่ 316 เสียสละตัวเอง / ตอนที่ 317 มีไข้แล้ว

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 316 เสียสละตัวเอง 

 

 

           “แต่ว่าตอนนี้ผมเปลี่ยนความคิดแล้ว ผมจะส่งเส้นทางไปยังที่กักขังของเจียงมู่เฉินให้ทีมของอาจารย์ หลังจากนั้นก็ช่วยเจียงมู่เฉินออกมา แล้วจงใจเปิดเผยตัวว่าทีมของอาจารย์เป็นคนของคนคนนั้นครับ” 

 

 

           ท่านเชนเข้าใจความหมายของซือเหยี่ยนแล้ว คิดไตร่ตรองสักพักถึงได้พยักหน้ารับ “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน” 

 

 

           “ถึงตอนนั้นฉันจะพาตัวคนออกมา แล้วทำตามที่นายว่าเปิดเผยตัว จากนั้นส่งตัวเขาให้เพื่อนของเขาไป แบบนี้ก็จะไม่สงสัยมาถึงตัวนายได้” 

 

 

           ซือเหยี่ยนพยักหน้า “แต่ว่าตอนที่ทีมของอาจารย์ลงมือ ซูเตอร์เองก็จะได้รับข่าวมาด้วย ถึงตอนนั้นต้องเพิ่มการคุ้มกันแน่นอนครับ” 

 

 

           เขาหยุดสักพัก มองมายังท่านเชน “ถึงเวลานั้น ยิงปืนมาใส่ผม ถ้าผมบาดเจ็บ ซูเตอร์ต้องไม่มีความคิดจะตามคนไปแน่นอนครับ” 

 

 

           สีหน้าท่านเช่นเปลี่ยนทันควัน “ไม่ได้ ฉันจะยิงปืนใส่นายได้ยังไง” 

 

 

           “ยิงไม่โดนจุดสำคัญ เอาแค่บาดเจ็บที่ผิวหนัง พักสองวันก็หายดีแล้วครับ” 

 

 

           เขาหยุดเล็กน้อย “ยิ่งกว่านั้น แบบนี้ถึงจะทำให้ซูเตอร์จะยิ่งไม่สงสัยในตัวผมได้” 

 

 

           ท่านเชนครุ่นคิด เขารู้ว่าซือเหยี่ยนพูดมาก็ค่อนข้างมีเหตุผล แต่ว่าเอาตัวเองไปแลกเจียงมู่เฉินแบบนั้นคุ้มค่าเหรอ 

 

 

           เขาสงบใจ ลังเลอยู่สักพัก “ต้องการจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอ”  

 

 

ซือเหยี่ยนเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ “มีแค่วิธีนี้ ทีมของอาจารย์ถึงจะถอนกำลังออกได้หมด” 

 

 

ท่านเชนทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น ทำได้เพียงยอมตกลงรับปาก 

 

 

“ได้ ฉันรู้แล้ว” 

 

 

ซือเหยี่ยนเห็นท่านเชนรับปากแล้ว ถึงได้โล่งอกไปที เขาบอกท่านเชนถึงสถานที่กักขังเจียงมู่เฉิน รวมทั้งภาพตำแหน่งทั้งหมดส่งให้ท่านเชน 

 

 

หลังจากบอกแผนการที่เตรียมไว้กับซังจิ่งทั้งหมดกับท่านเชนแล้ว รอทุกอย่างจัดแจงเข้าที่เข้าทาง ถึงได้โล่งอกไปอีกครั้ง 

 

 

“อาจารย์ครับ พรุ่งนี้รบกวนอาจารย์ด้วยนะครับ” 

 

 

ท่านเชนถอนหายใจ ใช้มือตบที่ตัวเขาเบาๆ “นายนี่นะ รักพี่เสียดายน้อง ฉันยังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ”  

 

 

ไม่มีทางเลี่ยงจริงๆ ได้เพียงทำเช่นนี้ 

 

 

ซือเหยี่ยนหัวเราะเบาๆ มองท่านเชน “ใช่แล้วครับ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องบอกเฉินเฉินนะครับ” 

 

 

ถ้าเจียงมู่เฉินรู้เรื่องทั้งหมดนี้ ต้องไม่ทำตามแผนที่เขาวางไว้แน่นอน 

 

 

คนที่ทะนงตัวขนาดนั้นอย่างเจียงมู่เฉิน ถ้ารู้ว่าเขาทำเรื่องพวกนี้เพื่อให้ตัวเองหนีไปได้ ต้องพุ่งตัวกลับมาพาตัวเขาไปแน่นอน 

 

 

ถึงตอนนั้น ทุกอย่างก็จบเห่ 

 

 

ท่านเชนถอนหายใจ “ทราบแล้ว นายวางใจเถอะ” 

 

 

ซือเหยี่ยนพยักหน้า ผ่อนลมหายใจไปที 

 

 

           ยามท่านเชนกำลังจะออกไป ใช้มือตบที่ตัวซือเหยี่ยนเบาๆ “บอกตามตรง นายทำแบบนี้คุ้มค่าเหรอ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้ม “ไม่มีอะไรคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่าหรอกครับ” 

 

 

           ขอเพียงแต่เขาอยู่ดีๆ ได้ อะไรก็คุ้มค่าทั้งนั้น 

 

 

           หลังจากท่านเชนไปแล้ว ซือเหยี่ยนนั่งลงข้างๆ ไมเคิล 

 

 

           ไมเคิลจ้องเขาด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง ซือเหยี่ยนรู้ว่าไมเคิลอยากพูดอะไร เขายกมุมปากขึ้น หัวเราะเสียงต่ำ “สูบบุหรี่สักมวนสิ” 

 

 

           ไมเคิลมองเขาแวบหนึ่งอย่างสับสน สุดท้ายก็ยังหยิบบุหรี่มวนหนึ่งให้เขาอยู่ดี 

 

 

           ซือเหยี่ยนคีบบุหรี่อยู่ในมือ จุดบุหรี่จากไฟแช็กที่หยิบออกมาจากมือของไมเคิล 

 

 

           ควันบุหรี่จางๆ ล่องลอยอยู่ในอากาศ ซือเหยี่ยนสูบเข้าเบาๆ รสของใบยาสูบตลบอบอวนอยู่ในลำคอ 

 

 

           จู่ๆ ซือเหยี่ยนก็นึกถึงคืนนั้นขึ้นมาได้ คืนที่อยู่บนระเบียงห้องกับเจียงมู่เฉินที่เพิ่งกลับจากโรงพยาบาล 

 

 

           เขายิ้มหัวเราะ รู้สึกว่าไม่ได้กอดกันมานานขนาดนี้ เขาคิดถึงอยู่ไม่น้อยจริงๆ 

 

 

           เขาสูบเข้าไปอย่างหนักหน่วงอีก แทบอยากจะกกกอดเจ้าตัวไว้อยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น 

 

 

           แบบนี้เขาจะได้ไม่อกสั่นขวัญแขวนอยู่ได้ทั้งวัน 

 

 

           ถึงอย่างไรแฟนของตัวเอง ยิ่งก่อเรื่องเก่งถึงขั้นสุดอยู่ด้วย 

 

 

           ไม่เห็นวันเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง 

 

 

           ซือเหยี่ยนยกมุมปากขึ้น ช่วงวันเวลานี้ เขาคิดถึงเจียงมู่เฉินมากจริงๆ 

 

 

           เขาสูบหรี่จนหมดมวนอย่างเงียบๆ เขาปล่อยควันบุหรี่ออกไป เอียงหัวยิ้มให้ไมเคิล “วางใจเถอะ ฉันมีแผนของตัวเอง” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 317 มีไข้แล้ว 

 

 

           ไมเคิลเห็นเขาแบบนั้น ในใจก็ไม่วางใจเลยสักนิด เมื่อเจอเจียงมู่เฉิน ซือเหยี่ยนเจ้าหมอนี่ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นกว่าใครไหนๆ 

 

 

           ช่วงเวลาสำคัญ แม้แต่ชีวิตก็ไม่ต้องการ แบบนี้ยังจะให้ตัวเองวางใจได้ 

 

 

           นอกจากเขาจะโง่เท่านั้นเอง ถึงจะคิดอย่างนี้ได้ 

 

 

           ไมเคิลจ้องมองเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ทำไมนายถึงไม่บอกเรื่องทุกอย่างนี้กับเจียงมู่เฉิน ถ้าเขารู้ อย่างน้อย…จะได้ไม่เข้าใจผิดนาย” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเงียบสักพัก ขยับร่างกายที่ค่อนข้างแข็งทื่อ 

 

 

           เขาใช้มือจัดแจงเสื้อผ้าบริเวณที่มีรอยยับ ไม่พูดจาสักคำ ลุกยืนขึ้นมาทั้งอย่างนี้ 

 

 

           ไมเคิลถอนหายใจ รู้ว่าซือเหยี่ยนไม่อยากพูด 

 

 

           ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่มีอะไรจะถามต่อไปได้ 

 

 

           “ทำอะไรก็ระวังตัวด้วย” 

 

 

           “อืม” ซือเหยี่ยนเดินถึงประตู พยักหน้าขานรับคำหนึ่ง เวลานี้ถึงได้ออกไป 

 

 

           เขาออกพ้นประตูไป ก็เข้าไปนั่งในรถที่จอดอยู่ข้างๆ ซือเหยี่ยนพิงพนักเก้าอี้ หลับตาลงเล็กน้อย 

 

 

           ในรถเงียบเกินบรรยาย แม้กระทั่งเสียงหัวใจเต้นของซือเหยี่ยนก็ยังได้ยินได้อย่างชัดเจน 

 

 

           ผ่านไปหลายนาที เขาโทรหาซังจิ่ง ชี้แจงถึงแผนการพรุ่งนี้ หลังจากแน่ใจว่าแผนการทุกอย่างของตัวเองไม่มีปัญหาใดใดแล้ว ซือเหยี่ยนถึงได้วางใจลง 

 

 

           ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร แผนการพรุ่งนี้จะเกิดปัญหาอะไรไม่ได้ 

 

 

           …… 

 

 

           หลังจากทายาที่บาดแผลแล้ว ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนดีกว่าก่อนหน้านี้ขึ้นมาก 

 

 

           เจียงมู่เฉินเอนซบผนัง ร้อนรุ่มไปทั้งร่าง ยิ้มเจื่อนๆ อย่างช่วยไม่ได้ 

 

 

           บาดแผลติดเชื้อจนทำให้ไข้ขึ้น เจียงมู่เฉินกดหน้าผากไว้ อยากให้ตัวเองรู้สึกตัวตื่นอยู่บ้าง 

 

 

           ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเปลี่ยนไปอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้ 

 

 

           เพียงแค่โดนแส้ฟาดสามทีเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะไข้ขึ้นได้ 

 

 

           ทั้งร่างกายราวกับถูกโยนเข้าไปในเตาไฟอย่างไรอย่างนั้น เจียงมู่เฉินกัดฟันอย่างหนัก ความทุกข์ทรมานนี้เทียบกับการถูกเฆี่ยนแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไร 

 

 

           เขางอตัวเล็กน้อยพิงอยู่ตรงนั้น 

 

 

           เจียงมู่เฉินหลับตาลง คิดไม่ถึงว่าในหัวจะฉายภาพใบหน้าของซือเหยี่ยนขึ้นมา 

 

 

           เขายกมุมปากขึ้นอย่างจนใจ เขาอาจจะผูกติดกับซือเหยี่ยนไปแล้วจริงๆ เจ้าหมอนั่นทำกับเขาแบบนี้ 

 

 

           ‘แต่กลับยังตัดใจโทษเขาไม่ได้… 

 

 

           …จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังอดจะคิดถึงเขาไม่ได้’ 

 

 

           เจียงมู่เฉินแอบก่นด่าตัวเองช่างไม่รู้ประสา ทำตัวเหมือนผู้หญิงไม่มีผิด ปากไม่ตรงกับใจเลยสักนิด 

 

 

           ไม่รู้ว่าตัวเองจะออกจากที่นี่ได้เมื่อไหร่ ตอนนี้เขาถูกกักตัวอยู่ที่นี่ ตัดขาดจากโลกภายนอกไปเรียบร้อย 

 

 

           สถานการณ์ของที่นี่เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้แต่เดิมทีเดียว 

 

 

           ถึงแม้จะทำการเตรียมตัวจะเข้าถ้ำเสือลึก แต่ว่าเจียงมู่เฉินก็ไม่คิดถึงว่าตัวเองจะโดนกระทำถึงขั้นนี้ได้ 

 

 

           จากการสังเกตการณ์ของเขาในสองวันนี้ นอกจากคนมาส่งข้าวแล้ว ข้างนอกยังมีคนเฝ้าเขาอีกสองคน 

 

 

           ถ้าเขาอยากวิ่งหนี ต้องใช้ช่วงเวลาส่งข้าว โจมตีให้พวกเขาล้มทั้งหมด ถึงจะฉวยโอกาสหนีออกไปได้ 

 

 

           อีกอย่าง ตามการคาดคะเนของเขา ซูเตอร์กักตัวเขาไว้ที่นี่อย่างลับๆ ต้องไม่ให้คนรู้มากแน่นอน 

 

 

           มีคนรู้มากแล้ว ก็จะปากต่อปากกันเป็นธรรมดา 

 

 

           ถึงตอนนั้น เรื่องที่เขาตกอยู่ในมือของซูเตอร์ก็จะรั่วไหลออกไปได้ง่ายมาก 

 

 

           แต่ว่าแบบนี้ก็ดี เพราะคนที่รู้มีน้อย ต้องช่วยเรื่องการหนีของเขาได้แน่ 

 

 

           เจียงมู่เฉินเตรียมตัวรอเวลามาส่งข้าวพรุ่งนี้ตอนเที่ยง เตรียมการหนี 

 

 

           ตามที่เขาเข้าใจ การคุ้มกันจะอ่อนแอที่สุด ถึงตอนนั้นเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะหนีได้สำเร็จ ถึงจะเพิ่มมากขึ้นได้ 

 

 

           ถ้าครั้งนี้หนีออกไปไม่ได้ เช่นนั้นก็ชัดเจนว่าถ้าเขาอยากหนีอีกก็ยากขึ้นแล้ว 

 

 

           แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ เขาทำได้เพียงลองเสี่ยงพนันดู 

 

 

           เพียงแต่ว่าสภาพร่างกายของเขาตอนนี้ อยากจะหนีออกไปอย่างราบรื่น ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ง่ายดาย 

 

 

           ภารกิจเร่งด่วนคือรีบฟื้นคืนเรี่ยวแรงกลับมา