202 เกี่ยวอะไรกับพวกคุณหรอ(2)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 202 เกี่ยวอะไรกับพวกคุณหรอ(2)

เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพร้อมกับพูดว่า: “ขอแค่พวกเขาไม่หาเรื่อง ผมจะไม่ขัดแย้งกับพวกเขาในวันมงคลนี้อย่างแน่นอน”

เซียวชูหรันพยักหน้าด้วยความกังวลเล็กน้อย

ตามด้วย เห็นนายหญิงใหญ่เซียวถือไม้เท้า พาเซียวฉางเฉียน เซียวไห่หลง เซียวเวยเวยสามคน เดินเข้ามาจากด้านนอก

เซี่ยวไห่หลงที่ก่อนหน้านี้ทะเลาะวิวาท ถูกจับไปสถานีตำรวจ เพิ่งจะถูกนายหญิงใหญ่ใช้เงินประกันตัวออกมา ดังนั้นครั้งนี้เซียวไห่หลงเห็นเย่เฉินแล้ว ท่าทางที่มีต่อเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

แต่ว่าเย่เฉินก็ขี้เกียจจะไปสนใจเขา

วันนี้วันมงคลเปิดกิจการ ตัวเองก็ไม่อยากปะทะกับพวกเขา ดังนั้นขอเพียงคนกลุ่มนี้ไม่ทำอะไรเกินไป เขาก็ไม่ริเริ่มที่จะหาเรื่องพวกเขา

เซียวเวยเวยเดินมาถึงตรงหน้า ยิ้มเยาะ แล้วพูดว่า: “เซียวชูหรัน เห็นคุณย่าแล้วแม้แต่ทักทายสักคำก็ไม่มี แกนี่มันอกตัญญูจริงๆ?”

เซียวชูหรันยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า: “พวกคุณได้ไล่ฉันออกมาจากตระกูลเซียวแล้ว พูดตามหลักแล้ว พวกเราไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว!”

“บัดซบ!”ไม้เท้าของนายหญิงใหญ่เซียวกระแทกลงกับพื้น พูดด้วยความโมโหว่า: “ในร่างกายของแกก็มีเลือดของตระกูลเซียวอยู่ ดังนั้นแกเกิดมาก็เป็นคนของตระกูลเซียว ตายไป ก็เป็นผีของตระกูลเซียว!”

เวลานี้เย่เฉินได้พูดอย่างเย็นชาว่า: “ใครบางคนก็พูดจาสองมาตรฐานเกินไป ก่อนหน้านี้พูดว่าถูกคนขับออกจากตระกูลแล้ว จะไม่ยอมรับคนอื่นว่าเป็นคนของตระกูลเซียวอีกต่อไป ตอนนี้ยังพูดอีกว่าคนอื่นไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็เป็นคนของตระกูลเซียว นี่ไม่ขัดแย้งกันไปหน่อยเหรอ?”

เซียวไห่หลงกัดฟันพูดว่า: “เวลาที่คุณย่าของฉันพูด ไม่ใช่สวะอย่างแกจะสามารถพูดแทรกขึ้นมาได้!”

เย่เฉินมองดูเขา ถามกลับว่า: “ครั้งที่แล้วนายถูกตีไม่พอเหรอ? ต้องการให้ฉันยืดเส้นยืดสายให้นายหรือเปล่า?!”

เซียวไห่หลงหดคอลง ปอดแหกขึ้นมาทันที

ครั้งที่แล้วตอนที่แย่งคฤหาสน์นั้น เขาก็ได้เห็นความสามารถของเย่เฉินแล้ว อย่าว่าแต่ตัวเองคนเดียวเลย แม้ว่าจะมีตัวเองอีกสักสิบคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นรีบอยู่เฉยๆจะดีกว่า

เวลานี้ เซียวชูหรันเม้มปาก หันไปทางนายหญิงใหญ่เซียว พูดว่า: “ขอโทษด้วยค่ะ งานเปิดกิจการของพวกเราในวันนี้ไม่ได้เชิญพวกคุณ ขอเชิญพวกคุณไปจากที่นี่ด้วย”

“งานเปิดกิจการ?” นายหญิงใหญ่เซียวพูดอย่างดูถูกว่า: “ชูหรันเอ่ย แกคงไม่ได้คิดว่า เวิร์กชอปเล็กๆของแกนี้ จะมีแขกมาร่วมกันจริงๆหรอกนะ?”

เซียวฉางเฉียนที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะเหอเหอ พูดว่า: “ได้ยินว่า พวกแกยังหน้าด้านส่งการ์ดเชิญให้กับตี้เหากรุ๊ปด้วยงั้นเหรอ? แกก็ไม่คิดดูหน่อยว่า เวิร์กชอปเล็กๆของพวกแก จะอยู่ในสายตาของตี้เหากรุ๊ปได้ยังไง”

“ใช่”นายหญิงใหญ่เซียวได้ตอบรับคำกลับมาอีก กล่าวด้วยคำปลอบใจว่า: “ชูหรันเอ่ย ครอบครัวเดียวกันจะไม่พูดอ้อมค้อม สามีภรรยาทะเลาะกัน ท้ายที่สุดแล้วก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม ยิ่งไปกว่านั้นแกเป็นหลานสาวฉัน ในร่างกายของแกมีเลือดของฉันอยู่ จะต่อสู้กับฉันไปทำไมกัน?”

พูดแล้ว นายหญิงใหญ่เซียวได้เข้าไปล้างสมองอีกขั้น: “แกดูแกสิ เพื่อทำงานในที่ทำงานซอมซ่อนี้คนเดียว ต้องการเงินก็ไม่มีเงิน ต้องการทรัพยากรก็ไม่มีทรัพยากร ทำไมถึงไม่กลับมาที่บริษัทเซียวซื่อล่ะ ย่ายังจะให้แกเป็นผู้อำนวยการเหมือนเดิม แกทำงานให้กับย่า อนาคตหุ้นของบริษัทเซียวซื่อ จะต้องให้เป็นค่าตอบแทนแกแน่นอน ตลอดจนให้แกรับช่วงต่อยังได้เลย แกว่าเป็นไง?”

ตระกูลเซียวช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์ลำบาก

ตี้เหากรุ๊ปตัดการร่วมมือกับพวกเขา แบล็กลิสต์พวกเขา ตระกูลหวังยังยกเลิกงานแต่งอีก เซียวไห่หลงก็แค่โคลนที่ไร้ประโยชน์

ในเวลานี้ความหวังเดียวของนายหญิงใหญ่เซียว ก็เห็นจะมีเพียงแค่ดึงตัวเซียวชูหรันกลับมาทำงานที่บริษัท ธุรกิจถึงจะสามารถก้าวหน้าได้

ไม่แน่ว่า เซียวชูหรันอาจจะสามารถเซ็นสัญญาใหม่กับตี้เหากรุ๊ปได้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ธุรกิจอื่นๆ อาจจะต่างพากันเข้ามาร่วมมือกับตัวเอง สถานการณ์สามารถกู้กลับคืนมาได้ทั้งหมดในครั้งเดียว

แต่ว่า นายหญิงใหญ่เซียวคิดไม่ถึงว่า เซียวชูหรันส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ พูดออกมาว่า: “ฉันไม่สนใจ ฉันคิดแค่ว่าทำเรื่องของตัวเองให้ดีก็พอ”

เซียวฉางเฉียนพูดอย่างเย็นชาว่า: “เซียวชูหรัน ฉันว่าแกเปิดความรู้ให้กว้างหน่อย แกดูงานเปิดกิจการวันนี้ของแก เงียบถึงขนาดไหนแล้ว? มีคนมาอวยพรให้แกไหม? แค่นี้แกยังอยากจะเปิดกิจการอีกเหรอ? ฉันว่า80%แกยังไม่ได้เปิดกิจการ ก็ปิดไปก่อนแล้วล่ะ!”

คำพูดของเย่เฉินเต็มไปด้วยความดูถูกและประชดว่า: “ที่นี่จะมีหรือไม่มีคนมาอวยพร เกี่ยวอะไรกับพวกคุณ? เพียงแค่ฉันต้องการ ผู้มีอำนาจทั่วทั้งจินหลิง ทั้งหมดจะมาอวยพรให้กับชูหรัน!”