บทที่ 308 ดอกไม้ของเปปเปอร

รักหวานอมเปรี้ยว

ราเม็งยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ ก็แค่จะมาแสดงความยินดีกับพี่ ในที่สุดก็ชะล้างสิ่งปฏิกูลออกจาก ร่างกายได้เสียที!”

“ขอบคุณค่ะ” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมายมิ้นท์

นั่นสิ ในที่สุดเธอก็ชะล้างข้อกล่าวหาเหล่านั้นไปได้ ตอนนี้เธอรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่างกาย

“เพราะการันต์เลยทีเดียว ต้องขอบคุณจริงๆ” มายมิ้นท์พูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าไม่ใช่เพราะเขาถ่ายวิดีโอทั้งสองคลิปนั้นเอาไว้ เรื่องนี้คงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วแบบนี้”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ราเม็งก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนความโศกเศร้าในดวงตาของเขา

เป็นเพราะการันต์เหรอ?

เขาต่างหากที่ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอทั้งสองนั้นออกไป

“ติ๊งต่อง!” เสียงกริ่งประตูดังขึ้น

มายมิ้นท์รีบลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “เอาล่ะราเม็งแค่นี้ก่อนนะ มีคนมา”

“ใครกันครับ?” ราเม็งเอ่ยถาม

“ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะไปดูก่อน” มายมิ้นท์เดินไปที่ปากประตู

“ครับพี่ แต่ก่อนเปิดประตูพี่ต้องดูให้แน่ชัดก่อนว่าคนข้างนอกเป็นใคร อย่าลืมป้องกันตัวเองด้วย” ราเม็งเอ่ยเตือน

มายมิ้นท์พยักหน้า “วางใจเถอะนะ ฉันเข้าใจแล้ว”

หลังจากวางสายเธอก็วางโทรศัพท์มือถือลงแล้วมองไปที่ตาแมว เธอต้องการจะดูว่าใครกันอยู่ข้างนอก

เมื่อพบว่าข้างนอกเป็นคนสวมชุดเดลิเวอรี่ เธอจึงได้เปิดประตูออก

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณมายมิ้นท์ใช่ไหม?” คนส่งของเอ่ยถามมายมิ้นท์

มายมิ้นท์ตอบรับแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

“ดอกไม้ของคุณครับ กรุณาเซ็นชื่อรับด้วย” เมื่อพูดจบ คนส่งของก็ย่อตัวลงไปอุ้มช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ส่งให้

กุหลาบช่อนั้นน่าจะเพิ่งตัดมา เนื่องจากที่กลีบดอกไม้ยังมีน้ำค้างอยู่ มันงดงามมาก

มายมิ้นท์ไม่ได้เอื้อมมือไปรับดอกไม้ช่อนั้นมา เธอมองไปที่พนักงานส่งของอย่างสงสัย “ขอโทษนะคะ คุณส่งผิดหรือเปล่า ฉันไม่ได้สั่งดอกไม้?”

“มีคนสั่งมาให้คุณครับ” คนส่งดอกไม้ตอบด้วยรอยยิ้ม

ทำให้มายมิ้นท์รู้สึกสงสัยเข้าไปใหญ่ “ใครกันคะ?”

“อันนี้ผมไม่แน่ใจครับ ผมมีหน้าที่เพียงนำดอกไม้มาส่งเท่านั้น” พนักงานส่งของส่ายหน้าแล้วตอบกลับ

แต่วินาทีต่อมาดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงพูดว่า “ข้างในมีการ์ดอยู่นะครับ คุณน่าจะหาคำตอบได้บนนั้น”

เมื่อได้ยินดังนี้มายมิ้นท์ก็เหลือบตามองไปที่ช่อกุหลาบและเห็นการ์ดใบหนึ่ง

เธอจึงได้เอื้อมมือไปรับดอกกุหลาบเอาไว้ “ขอบคุณมากนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ” พนักงานส่งดอกไม้พยักหน้าแล้วเดินจากไป

มายมิ้นท์ปิดประตูลงแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น พลางเปิดการ์ดใบนั้นออกดูพบตัวอักษรอันมีเอกลักษณ์เขียนเอาไว้ว่า “ยินดีด้วยที่หักล้างข้อกล่าวหาสำเร็จ”

“เป็นเขา!” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วแล้วพึมพำออกมา

แม้ว่าบนการ์ดนั้นจะไม่ได้ลงนามเอาไว้ แต่ลายมือนี้เธอคุ้นเคยมาก เป็นเปปเปอร์!

ดังนั้นดอกไม้นี้ถูกส่งมาโดยเปปเปอร์ ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นทามทอยเสียอีก

เพราะว่าทามทอยมักจะมีดอกไม้และของขวัญเล็กน้อยมอบให้เธอทุกครั้งที่พบหน้ากัน

คิดไม่ถึงว่าในวันนี้เธอจะเดาผิดไป

มายมิ้นท์ก้มมองดูดอกไม้ในอ้อมแขน แววตาของเธอดูค่อนข้างซับซ้อน

เพราะการที่เขามอบดอกไม้มาให้เธอ มันทำให้เธอตกตะลึงไม่คาดคิด

และที่สำคัญที่สุดก็คือ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับดอกไม้นี้ดี ควรจะทิ้งมันไปหรือส่งคืนไปให้เขา?

ในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้นโทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นอีกครั้ง

มายมิ้นท์ได้สติกลับคืนมาแล้วก้มลงมอง พบว่าเป็นข้อความส่งมาจากเปปเปอร์ “ได้รับดอกไม้หรือยัง?”

แววตาของมายมิ้นท์เป็นประกาย เธอวางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะน้ำชาแล้วตอบกลับไปว่า “อืม”

จากคอนโดพราวฟ้าไปที่คฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์ห่างกันประมาณยี่สิบกว่ากิโลเมตร เปปเปอร์สวมเสื้อคลุมอาบน้ำ แล้วนั่งอยู่ที่อ่างอาบน้ำ ชุดคลุมอาบน้ำของเขาเปิดออกครึ่งหนึ่งเผยให้เห็นอกอันแข็งแกร่ง

ผมเผ้าของเขาเปียกปอนยังไม่ทันเช็ดให้แห้ง มีหยดน้ำหยดลงมาไม่ขาดสาย ไล่ตั้งแต่ใบหน้าลงไปจนถึงไหปลาร้าและ สุดท้ายสิ้นสุดตรงอก มองไปช่างเย้ายวนใจมาก

ขณะนี้ในมือของเขากำลังถือผ้าเช็ดตัวอยู่แล้วกำลังจะเช็ดผมให้แห้ง

แต่จู่ๆ โทรศัพท์มือถือที่เขาวางไว้ข้างๆ ก็หน้าจอสว่างขึ้น ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีแล้วเอาผ้าขนหนูพาดคอไว้ ตอนนี้เขาไม่สนใจจะเช็ดผม แต่รีบคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาปลดล็อก

เมื่อเห็นว่าเป็นข้อความของมายมิ้นท์เขาก็รู้สึกตื่นเต้น

แต่วินาทีต่อมา เขาเห็นคำตอบของมายมิ้นท์เพียงคำสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “อืม” ก็ทำให้ความสุขในหัวใจของเขาจางหายไปอย่างมาก

เพราะคำว่าอืมนี้ทำให้เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าความรู้สึกตอนที่เธอได้รับดอกไม้เป็นอย่างไร

เขาเอามือขึ้นลูบหัวคิ้วก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถามเธอออกไปว่า “คุณชอบไหม?”

มายมิ้นท์เลิกคิ้วขึ้น

เขาต้องการจะถามเธอว่าเธอชอบดอกไม้ช่อนี้ไหม หรือต้องการถามเธอว่าชอบที่เขาส่งดอกไม้ให้หรือไม่กันแน่?

เมื่อเดาไม่ออก และมายมิ้นท์ก็ไม่อยากจะไปคาดเดา เธอจึงตอบกลับไปอย่างคลุมเครือว่า “ก็โอเคค่ะ แต่ต่อจากนี้ประธานเปปเปอร์ไม่ต้องส่งมันมาอีกนะคะ จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้”

เปปเปอร์ขมวดคิ้วขึ้น

เข้าใจผิดงั้นเหรอ?

เดิมทีเขาคิดว่าจากเหตุการณ์ในวันนี้ ทัศนคติของเธอที่มีต่อเขาจะดีขึ้นมากกว่าเดิม ต่อให้ยังไม่อาจยอมรับเขาได้ในตอนนี้ อย่างน้อยก็คงไม่ต่อต้านเขาเท่าไรนัก

ตอนนี้เขาเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้วว่าทุกสิ่งอย่างเป็นเพราะเขาคิดมากไปเอง

เปปเปอร์ถอนหายใจออกมาแล้วตอบว่า “ไม่มีใครเข้าใจผิดหรอกครับ เพราะไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นคนส่งดอกไม้ให้คุณ”

มายมิ้นท์ “เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็ดี พรุ่งนี้ฉันจะให้คนนำดอกไม้ส่งกลับไปให้คุณ”

เมื่อเห็นประโยคนี้ของเธอเปปเปอร์ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันจนหัวคิ้วแทบจะติดกัน ในใจของเขาเกิดเป็นความโมโหขึ้นมา

แม้แต่ช่อดอกไม้เธอก็คิดจะต้องคืนให้เขา!

นี่เธอต้องการจะขีดเส้นชัดเจนกับเขาเลยใช่ไหม?

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากแล้วใช้นิ้วพิมพ์ข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณไม่เอาก็โยนทิ้งไปเถอะ”

หลังจากที่ส่งข้อความไปแล้วเขาก็โยนโทรศัพท์มือถือออกไปแล้วดึงผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้ตรงขอออกมา ให้มันคลุมไปที่ใบหน้าเพื่อไม่ให้ใครเห็นสีหน้าของเขาในตอนนี้

ณ คอนโดพราวฟ้า มายมิ้นท์พอจะเข้าใจถึงคำตอบที่เปปเปอร์ตอบกลับมา และรู้ว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีนัก

เธอพอจะรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดีเพราะอะไร คงจะเป็นเพราะการที่เธอเอาดอกไม้คืนเขาน่ะสิ

เธอได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปอย่างช่อดอกไม้ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะน้ำชา ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจล้มเลิกความคิดจะส่งดอกไม้คืนไปให้เปปเปอร์ เธอไม่ได้ตั้งใจจะโยนมันทิ้ง เอาวางไว้ตรงนี้ล่ะรอให้มันเหี่ยวเฉาไปเอง

……

วันต่อมา เมื่อมายมิ้นท์เดินทางมาถึงเทนเดอร์กรุ๊ป ก็ถูกนักข่าวกลุ่มหนึ่งรุมล้อมเอาไว้

“คุณมายมิ้นท์คะ ไม่ทราบว่าคุณจะฟ้องส้มเปรี้ยวหรือไม่?”

“คุณมายมิ้นท์ครับ คุณสามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแฮกเกอร์คนนั้นได้ไหม?”

“คุณกับแฮกเกอร์คนนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร?”

นักข่าวเหล่านี้ ต้องการจะรู้ทัศนคติของมายมิ้นท์ที่มีต่อส้มเปรี้ยวและราเม็ง

มายมิ้นท์รู้สึกรำคาญพวกเขามากเธอขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วพูดว่า “เงียบ! ฉันจะตอบทีละคน”

เมื่อได้ยินเธอพูดดังนั้นบรรดานักข่าวทั้งหลายจึงได้เงียบเสียงลง

มายมิ้นท์คลายคิ้วของเธอลงแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สำหรับคำถามที่ว่าฉันจะฟ้องส้มเปรี้ยวหรือไม่ คำตอบก็คือใช่ เนื่องจากส้มเปรี้ยวต้องการจะให้ชายทั้งหกคนนั้นมารังแกฉันก่อน จากนั้น ในเมื่อแผนการผิดพลาดเธอก็ต้องการโยนความผิดเหล่านั้นมาให้ฉันทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อหน้าสาธารณชน ดังนั้นฉันจึงต้องฟ้องเธอแน่ ให้เธอได้รับผลกรรมและชดใช้ ในสิ่งที่ฉันสูญเสียไปทั้งหมด”

ดวงตาของนักข่าวทุกคนเป็นประกาย แล้วรีบบันทึกคำพูดของเธอเอาไว้

มายมิ้นท์ชูนิ้วขึ้นสองนิ้วแล้วพูดต่อไปว่า “คำถามที่สอง เกี่ยวกับเรื่องแฮกเกอร์ ฉันต้องขอโทษด้วยฉันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร และไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องช่วยฉัน ฉันคิดว่าเขาคงเป็นเพียงคนที่ไม่อาจเห็นผู้บริสุทธิ์จะต้องถูกใส่ร้ายเท่านั้น จึงได้เข้ามาช่วย ดังนั้นต้องขออภัยที่ฉันไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เอาล่ะค่ะคำตอบของฉันมีเพียงเท่านี้ การที่พวกคุณเสียเวลามา ติดตามฉันแบบนี้ สู้เอาเวลาไปคอยจับจ้องส้มเปรี้ยวดีกว่า พอต่อจากนี้เธอจึงจะเป็นตัวละครหลัก”

สิ่งนี้เตือนใจนักข่าวได้เป็นอย่างดี

บรรดานักข่าวหันมามองหน้ากันแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ

เมื่อมายมิ้นท์เห็นพวกเขาขับรถออกไปแล้วจึงได้เดินเข้าไปที่เทนเดอร์กรุ๊ป

ในขณะเดียวกัน ณ สถานีตำรวจ ส้มเปรี้ยวถูกขังอยู่ในห้องสอบสวน มีตำรวจกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเธอและทำการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถูกถามว่า ทำไมเธอจึงต้องจัดการให้ชายหนุ่มหกคนนั้นไปทำร้ายมายมิ้นท์ ท่าทางของส้มเปรี้ยวก็เปลี่ยนเป็นร้อนรนขึ้นมาทันใด “ไม่ใช่ฉัน ผู้ชายทั้งหกคนนั้นฉันไม่ได้เป็นคนไปจัดหามาเป็นการันต์ต่างหาก การันต์เป็นคนทำ!”