บทที่ 1382 ความโกรธและความเกลียดชังของวูหยง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ที่สนามรบอาณาจักรแห่งความฝัน นิกายเงาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ขณะที่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้พบความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นกัน

 

พวกเขาสูญเสียค่ายกลวิญญาณและวิญญาณอมตะทั้งหมด

 

พวกเขาลงทุนกับเรื่องนี้ไปมากแต่กลับไม่ได้รับกำไร ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสูญเสียผู้อมตะไปหลายคนในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในครั้งนี้คือฟางหยวนและวังสวรรค์

 

วังสวรรค์สามารถจับเทพปีศาจจิตวิญญาณและยังสามารถฉกชิงค่ายกลวิญญาณของภาคใต้รวมถึงวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดของฟางหยวน

 

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไม่พอใจกับพฤติกรรมดังกล่าวและต้องการคำอธิบายจากวังสวรรค์

 

ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นฝ่ายธรรมะเช่นเดียวกัน การกระทำของวังสวรรค์ถือว่าไร้เหตุผลเกินไป

 

ระหว่างการไล่ล่ากลุ่มของฟางหยวน วูหยงและผู้อมตะคนอื่นๆพยายามติดต่อวังสวรรค์แต่ไม่สามารถทำได้

 

‘เทพธิดาจื่อเว่ย…’ วูหยงคิดขณะพิจารณาวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

 

เขาไม่คาดหวังว่าผู้อมตะของวังสวรรค์จะติดต่อเขาโดยตรง

 

เนื้อหาที่อยู่ภายในเกี่ยวกับฟางหยวนและคนอื่นๆ

 

วังสวรรค์มีข้อมูลเกี่ยวกับอิงอู๋เซี่ย ราชันภูเขาม่วง ไป่หนิงปิง ฟางหยวน และคนอื่นๆทั้งหมด

 

นั่นยังรวมไปถึงข้อมูลที่พวกเขาครอบครองค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเอาไว้

 

ข้อมูลที่น่าตกใจที่สุดคือวูอี้ไห่ตัวจริงตายไปนานแล้ว คนที่เข้าสู่ตระกูลวูในฐานะวูอี้ไห่คือปีศาจต่างโลกฟางหยวน!

 

‘มันเป็นเช่นนี้! ฟางหยวนคือวูอี้ไห่ วูอี้ไห่คือฟางยวน?’ วูหยงพบว่าน้องชายที่เขากำลังมาช่วยกลายเป็นศัตรูที่ปลอมตัวมา

 

วูหยงรู้สึกตกใจกับข้อมูลนี้เป็นอย่างมาก มันเกินกว่าความคาดหมายของเขา

 

หลังจากตกใจ เขารู้สึกโกรธ

 

เขาโกรธฟางหยวน

 

นี่คืออาชญากรที่สังหารวูอี้ไห่และยังกล้าปลอมตัวเป็นเหยื่อเพื่อแทรกซึมเข้าสู่ตระกูลวู

 

มันเป็นการตบหน้าสมาชิกตระกูลวูทั้งหมดรวมถึงวูหยง

 

สิ่งสำคัญที่สุดฟางหยวนยังประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ

 

นี่คือความอัปยศ!

 

ฟางหยวนไม่เพียงดูถูกตระกูลวูที่ยิ่งใหญ่แต่เขายังวิ่งเข้ามาหาตระกูลวูและตบหน้าพวกเขาอย่างรุนแรง

 

ตระกูลวูคือผู้ใด?

 

พวกเขาเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งของภาคใต้ที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน!

 

แล้ววูหยงคือผู้ใด?

 

วูหยงเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลวู ผู้อมตะระดับแปดที่ครอบครองวิญญาณอมตะระดับแปดรวมถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด!

 

แต่ฟางหยวนกลับทำเหมือนพวกเขาเป็นตัวตลก

 

อย่างไรก็ตามนอกจากความโกรธที่มีต่อฟางหยวน วูหยงยังโกรธวังสวรรค์

 

วังสวรรค์นำวิญญาณอมตะของตระกูลวูไปจากค่ายกลวิญญาณ นี่เป็นเหตุผลประการแรก

 

ประการที่สองคือวังสวรรค์ส่งข้อมูลนี้มาให้เขา

 

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร

 

พวกเขากำลังบอกวูหยงโดยไร้เสียงว่า เรามีข้อมูลที่สามารถทำลายชื่อเสียงของตระกูลวู หากเจ้าไม่ทำตามความต้องการของเรา เจ้าจะมีปัญหา

 

มันคือการคุกคามและข่มขู่!

 

เหตุใดข้อมูลที่ฟางหยวนปลอมตัวเป็นวูอี้ไห่จึงเป็นภัยคุกคามต่อวูหยง?

 

นี่คือความแตกต่างระหว่างฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจ

 

ฝ่ายธรรมะมีกฎเกณฑ์ของตนเอง

 

พวกเขาให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและใบหน้า แม้พวกเขาจะใช้กำลังเช่นกัน แต่พวกเขาก็ต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล พวกเขาต้องยืนอยู่เคียงข้างความยุติธรรม

 

ก่อนหน้านี้หลายกองกำลังพยายามสร้างปัญหาให้ตระกูลวูและยึดครองแหล่งทรัพยากรของพวกเขา

 

ตระกูลฮั่วทำอย่างไร?

 

พวกเขาส่งผู้อมตะออกไปและแสร้งแสดงตัวเป็นปีศาจขณะที่ให้ผู้อมตะอีกคนแสร้งไล่ล่า ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงสามารถใช้กำลังบุกยึดครองแหล่งทรัพยากรของตระกูลวู

 

ตระกูลหยางทำอย่างไร?

 

พวกเขาวางแผนและเตรียมความพร้อมมานานแล้ว แรกเริ่มพวกเขาส่งมนุษย์เข้าไปตั้งหมู่บ้านใกล้กับหมู่บ้านของตระกูลวูและสร้างความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ก่อนจะใช้ข้ออ้างที่ชอบธรรมยึดครองแหล่งทรัพยากร

 

วูหยงมีความแข็งแกร่งและครอบครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม่ไผ่สายลม แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้เขาถึงเฉยเมยต่อปัญหาต่างๆ?

 

ฮ่าฮ่า

 

นี่คือแผนการของวูหยง

 

เขารู้ว่าตระกูลวูมีอาณาเขตกว้างใหญ่ หากเขาแสดงความแข็งแกร่งออกมาตั้งแต่แรก กองกำลังอื่นๆจะระวังตัวมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตามตระกูลวูมีผู้อมตะระดับแปดเพียงผู้เดียว

 

หากเขาปล่อยให้กองกำลังอื่นกลั่นแกล้ง วูหยงจะมีข้ออ้างที่สมเหตุสมผลที่จะจัดการกองกำลังอื่นได้อย่างสมบูรณ์

 

ด้วยวิธีนี้กองกำลังเหล่านั้นจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่และไม่กล้าต่อต้านตระกูลวูไปอีกหลายทศวรรษ

 

นี่คือแผนการของวูหยงที่แม้แต่วูฝาผู้ช่วยคนสนิทของเขาก็ยังไม่รู้

 

แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้ทุกอย่างค่อยๆดำเนินไปตามแผนการของวูหยง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดกลับรบกวนแผนการนี้ นั่นคือนิกายเงา

 

ฟางหยวนแทรกซึมเข้าสู่ตระกูลวู กระทั่งวูหยงก็ปฏิบัติต่อฟางหยวนราวกับฟางหยวนเป็นน้องชายที่แท้จริงของเขา

 

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้วูหยงแสดงความห่วงใยอย่างมากต่อวูอี้ไห่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง

 

หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชื่อเสียงของตระกูลวูจะตกต่ำลง ตระกูลอื่นจะวางแผนต่อต้านพวกเขาอีกครั้ง

 

ตระกูลวูเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งของภาคใต้แต่กลับถูกปีศาจปั่นหัว

 

แล้วพวกเจ้าจะเป็นผู้นำฝ่ายธรรมะได้อย่างไร?

 

ตระกูลวูมีคุณสมบัติที่จะครอบครองทรัพยากรเหล่านี้งั้นหรือ?

 

พวกเจ้าจะเก็บทรัพยากรเหล่านี้ไว้ให้ปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลของพวกเจ้าใช่หรือไม่?

 

ชื่อเสียงอาจมองไม่เห็นและไม่สามารถจับต้อง แต่แท้จริงแล้วมันคือความแข็งแกร่งชนิดหนึ่งที่จะส่งอิทธิพลในทุกด้าน

 

ในความเป็นจริงแหล่งทรัพยากรเหล่านั้นไม่ถือเป็นสิ่งใดสำหรับวูหยง

 

แต่เขาต้องการสร้างชื่อเสียงใหักับตนเองเพื่อฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ของภาคใต้

 

อย่างไรก็ตามแผนการของเขากลับถูกทำลายโดยฟางหยวน

 

เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย มันจะเป็นระเบิดครั้งใหญ่สำหรับตระกูลวู

 

ชื่อเสียงที่พวกเขาสะสมมาอย่างยาวนานจะพังทลายลง

 

ตระกูลวูจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้อีกเป็นเวลานาน

 

‘วายร้ายฟางหยวน!’

 

วูหยงกัดฟันแน่น

 

เขาไม่เคยเกลียดชังผู้ใดมากเท่านี้มาก่อน

 

แต่แท้จริงแล้วเขาต้องโทษตัวเองที่ใช้วูอี้ไห่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้วยการแสดงความรักและความเมตตาอย่างสุดซึ้ง

 

แต่ผลลัพธ์?

 

ความรักครอบครัวกลายเป็นความไร้ความสามารถของวูหยงที่ถูกฟางหยวนปั่นหัว

 

นี่คือความอัปยศตลอดชีวิตของวูหยง

 

‘นางสารเลวจื่อเว่ย!’

 

วูหยงเกลียดชังผู้อมตะหญิงบนเส้นทางแห่งปัญญาของวังสวรรค์ผู้นี้เช่นกัน

 

ความตั้งใจของนางชัดเจนมาก นางกำลังเตือนวูหยงและต้องการใช้วูหยงเป็นเครื่องมือในการกำจัดฟางหยวนและคนอื่นๆ

 

วูหยงต้องการฆ่าฟางหยวน

 

ตราบเท่าที่เขาลอบสังหารฟางหยวนอย่างลับๆ ความตายของวูอี้ไห่จะเป็นความผิดของนิกายเงา

 

เมื่อเวลานั้นมาถึงแม้วังสวรรค์จะเปิดเผยความจริง วูหยงก็ไม่ต้องกลัวสิ่งใด มันจะไม่ทำให้เขาสูญเสียใบหน้า

 

“เทพธิดาจื่อเว่ย…” วูหยงพึมพำชื่อนี้

 

เขารู้อย่างชัดเจนว่าเทพธิดาจื่อเว่ยต้องการให้เขาฆ่าฟางหยวนและคนอื่นๆ นางใช้เขาเป็นเครื่องมืออย่างเปิดเผย แต่ถึงกระนั้นวูหยงก็ไม่มีทางเลือกอื่น

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือจดหมายของเทพธิดาจื่อเว่ยมีเพียงข้อมูลของฟางหยวนและคนอื่นๆ มันไม่มีการเจรจาหรือถ้อยคำคุกคามใด

 

“ท่านวูหยง เกิดสิ่งใดขึ้น?” เฉียวจื่อไคถามด้วยความกังวลเมื่อเห็นการแสดงออกของวูหยง

 

วูหยงชำเลืองมองเฉียวจื่อไคและรู้สึกเกลียดชังคนผู้นี้เช่นกัน

 

‘มันเป็นเพราะตาแก่ผู้นี้!’

 

‘เขาต้องการปีนเกลียวตระกูลวูของข้า!’

 

‘หากไม่มีเขา ฟางหยวนจะเข้าสู่ตระกูลวูได้อย่างไร?’

 

แม้จะคิดเช่นนี้แต่ภายนอกวูหยงยังเผยรอยยิ้มอบอุ่น “ไม่มีสิ่งใด ข้าเพียงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของน้องชายเท่านั้น ผู้ใดจะรู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อเขาตกอยู่ในมือของนิกายเงา?”

 

เฉียวจื่อไครู้สึกประหลาดใจ ไม่มีคนนอกอยู่ที่นี่ แต่เหตุใดวูหยงยังกังวลเกี่ยวกับวูอี้ไห่? เหตุใดเขาถึงทำตัวเช่นนี้?

 

ก่อนหน้านี้ความกังวลของวูหยงที่มีต่อวูอี้ไห่เป็นเพียงการแสดง แต่ครั้งนี้มันดูราวกับเป็นเรื่องจริง

 

ความกังวลที่เขามีต่อฟางหยวนก็คือความปรารถนาที่จะฆ่าเขาทันที!

 

“พวกเจ้ายังติดต่อวูอี้ไห่ไม่ได้อีกงั้นหรือ?” วูหยงลอบติดต่อกลับตระกูลวู

 

กลุ่มผู้อมตะตระกูลวูเงียบกริบ

 

ท่ามกลางพวกเขา มีบางคนกล่าว “ครั้งสุดท้ายที่เราสื่อสารกับท่านวูอี้ไห่คือตอนที่เขายืมวิญญาณอมตะจากตระกูล”

 

อีกคนกล่าวเสริม “ท่านวูอี้ไห่มีวิญญาณอมตะหกดวงที่ยืมไปจากตระกูล จะเกิดเหตุร้ายกับท่านไม่ได้!”

 

ความโกรธของวูหยงปะทุขึ้นอีกมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้

 

เขาเป็นผู้อนุมัติคำขอของฟางหยวนด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีหินวิญญาณอมตะอีกหนึ่งแสนก้อน

 

ตอนนี้วูหยงรู้สึกอยากตบหน้าตัวเองเป็นอย่างมาก

 

ในเวลาเดียวกันความเกลียดชังของเขาที่มีต่อฟางหยวนก็เพิ่มมากขึ้นไปอีก

 

ชายผู้นี้!

 

เขาทำมันจริงๆ!

 

แม้ความจริงกำลังจะถูกเปิดเผย เขาก็ยังไม่ลืมที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์มาก!

 

ข้าวูหยงผู้ยิ่งใหญ่กลับถูกชายไร้ยางอายผู้นี้หลอกลวง!