บทที่ 343 ตั๊กแตนล่าเหยื่อ นกอยู่เบื้องหลัง(ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์คับแคบ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“นั่นมันเป็นยาพิษที่ฉันปรุงเองกับมือ ถ้าไม่กินยาถอนพิษทุกเดือน แม้จะฝึกจนอยู่ถึงระดับดินแล้ว ก็ต้องท้องไส้ปั่นป่วนจนตาย!”

เรื่องที่ทำให้คนอื่นตกใจแบบนี้นั้นเย่เทียนไม่ได้เพิ่งทำเป็นครั้งแรก เขาเลยไม่มีพิรุธอะไร

“คุณเป็นอาจารย์นักปรุงยางั้นเหรอ?”

ลูกเด็กบรรจุศพจับใจความของเย่เทียนได้ในทันที

ถ้าเย่เทียนเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งระดับดินอย่างเดียว เพียงเท่านั้นก็ยากที่จะทำให้เขายอมรับอย่างจริงใจ

ถึงอย่างไร ในวันนี้เขาเองก็เป็นระดับดำสูงสุด แถมยังสามารถโชว์พลังที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งระดับดินได้อีกด้วย เท่านี้ก็ห่างจากระดับดินไม่เท่าไหร่แล้ว

แต่ทว่า ถ้าเกิดเย่เทียนนั้นเป็นปรมาจารย์นักปรุงยา ทุกอย่างมันจะไม่ใช่แบบนี้แล้ว

ในสังคมทุกวันนี้ ปรมาจารย์นักปรุงยานั้นอยู่อย่างล้ำค่า ต้องเป็นเหตุการณ์ใหญ่ๆเท่านั้นถึงจะปรากฏตัวขึ้น

“ไม่ผิดเลย!ฉันคือปรมาจารย์นักปรุงยานั่นเอง!”

เย่เทียนมองไปทางลูกเด็กบรรจุศพอย่างมีนัย เขาไม่ได้คิดจะซ่อนมันเอาไว้

ความนอบน้อมนั้นเป็นคุณธรรมอันดีงาน แต่บางที การถ่อมตนเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเหมือนกัน

“นั่นมันคือยาเพิ่มพลัง สามารถเพิ่มชี่ทิพย์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว”

เมื่อเห็นลูกเด็กบรรจุศพเงียบไป เย่เทียนก็โยนยาจากตัวเองให้อีกสองเม็ด

เมื่อมีครั้งแรกแล้ว ครั้งที่สองก็ไม่ยากแล้วล่ะ

ลูกเด็กบรรจุศพรับยาไป ก่อนจะยัดเข้าปากอย่างเงียบๆ พลางรู้สึกได้ว่าชี่ทิพย์ค่อยๆกลับขึ้นมาอย่างช้าๆ

“ในเมื่อคุณมาเพื่อหาเรื่องกับงูพิษม่วง ฉันเชื่อว่าคุณน่าจะรู้ว่าบนตัวมันนั้นมีดีอะไร ศพนี้ฉันให้คุณเป็นคนจัดการก็แล้วกัน”

“จริงสิ ยังมีต้นวิสทีเรีย ก็เก็บกวาดไปพร้อมๆกันเลย ทำเสร็จแล้วค่อยมาหาฉันนะ”

ยังไม่ทันรอให้ลูกเด็กบรรจุศพตอบอะไร เย่เทียนก็กำชับอีก “อย่าลืมเอาของที่ไม่มีประโยชน์เก็บกวาดให้เรียบร้อย ฉันไม่ได้อยากให้ทั้งโลกต้องตื่นตูมขึ้นมาหรอก”

เมื่อพูดจบ เย่เทียนก็ดึงจี้เยียนหรันที่งงงวยอยู่ ก่อนจะหันตัวเดินออกจากซานกู่ไป

ลูกเด็กบรรจุศพตะลึงไป ก่อนจะมองเงาด้านหลังของเย่เทียนด้วยความดึงสติกลับมาไม่ค่อยได้

เขาจะไปแบบนี้เลยเหรอ?แล้ววางใจให้ตัวเองเก็บกวาดสถานการณ์นี้งั้นเหรอ?กลัวตัวเองจะพาลูกหนีไปงั้นเหรอ?

แต่ลูกเด็กบรรจุศพจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าเย่เทียนนั้นตัดสินไปตั้งแต่การตอบรับบนใบหน้าของเขานานแล้ว ว่าที่หลอกเรื่องยาพิษไปนั้นมันจับเขาไว้ได้สำเร็จ

เมื่อชีวิตน้อยๆถูกข่มขู่แบบนี้ เย่เทียนก็ไม่กังวลเลยว่าลูกเด็กบรรจุศพจะไม่มาหาเขา

แน่นอน ถ้าเขากล้าพาลูกหนีไปด้วยจริงๆล่ะก็ เย่เทียนเองก็ยินดีที่จะตามฆ่า

ยังดีที่ชาติก่อนเขาเองก็เป็นนักฆ่ามือฉมัง การหาใครสักคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากเลย

ตึงตัง!

เพียงแต่ว่า เย่เทียนดึงจี้เยียนหรันไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีเงาเดากลุ่มหนึ่งรีบเข้ามาหาอีก

“ให้ตายเถอะ!จะมาก็ไม่มาตั้งแต่แรก กลับมาในตอนที่ฉันจะไปแล้ว”

เย่เทียนพูดออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์ และเห็นคนพวกนี้เป็นเพียงเหล่าทหารเดิมของซานกู่เท่านั้น

เมื่อครู่ที่เกิดเรื่องคึกโครมขึ้น ถ้าพวกเขาไม่ใช่พวกหูหนวก ก็ไม่มีใครไม่ได้ยินอย่างแน่นอน

ตอนแรกเย่เทียนยังคิดว่าคนเหล่านั้นตกใจจนวิ่งหนีไปเพราะงูพิษม่วง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะเล่นเกมตั๊กแตนล่าเหยื่อ นกอยู่เบื้องหลัง

“เอ๋?!”

แต่ทว่า เมื่อพวกเขาเข้าใกล้จนห่างกันเพียงสิบเมตรแล้ว เย่เทียนก็เห็นสิ่งที่ไม่ปกติเท่าไหร่

กลุ่มคนที่รีบมาเหล่านี้ไม่ได้มีปืนเลยแม้แต่กระบอกเดียวในมือ แต่กลับเป็นดาบโบราณ!

“เย่เทียน คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะได้มาเจอกันอีกใช่ไหมล่ะ?!”

คนที่วิ่งเข้ามาเป็นแถวนั้นหยุดลงเมื่อห่างกันเพียงห้าเมตร ก่อนจะส่งเสียงแหลมคมออกมา มันทำให้เย่เทียนแอบรู้สึกถึงความคุ้นเคยนี้

มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์นี้ แถมยัง่สามารถมาปรากฏตัวในป่าลึกได้ยามดึกดื่นอีก นอกจากหลิวจื่อหยังที่เย่เทียนฆ่าตายไปแล้วจะเป็นใครได้อีก?!

ตั้งแต่รู้ว่าเย่เทียนมาที่จ๊กกลาง แล้วมาอยู่ที่ตระกูลซู เขาก็จัดให้คนจับตามองตลอดทั้งวัน แล้วดูความเคลื่อนไหวของเย่เทียน

จนกระทั่งก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที ลูกศิษย์ของสำนักหวู่หันนั้นมาถึงที่จ๊กกลาง เขาถึงกับไม่รอให้สว่าง ก็รีบพาคนมาที่นี่แล้ว

สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือ อาจารย์ของหลิวจื่อหยังนั้นอายุมากแล้ว ร่างกายเลยไม่ได้แข็งขันเหมือนคนหนุ่มสาว เลยทำได้เพียงพักผ่อนภายในที่พัก ไม่ได้ตามมาด้วย

แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หลิวจื่อหยัง หรือตัวหลิวจื่อหยังเอง ก็จะไม่มีทางพลาดในครั้งนี้ได้!

หลิวจื่อหยังนั้นพายอดฝีมือระดับดำทั้งหมดของสำนักหวู่หันมา รวมตัวเขาเองด้วยก็สิบแปดคนได้!

“โอ๊ย!เหมือนกับว่าคุณคือ……ชื่ออะไรนะ……หลิวจื่อเฉียงหรือเปล่า?”

แม้จะบอกว่านี่เป็นเวลากลางดึก แต่ด้วยแสงจันทร์อ่อนๆ มันก็พอจะทำให้เย่เทียนเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ชัดเจน เลยอดไม่ได้ที่จะลูบคางพลางหวนคิด

สีหน้าของจี้เยียนหรันนั้นหนักอึ้งพลางเตือนออกมา “นี่มันหลิวจื่อหยัง!”

ถึงอย่างไรเธอก็เป็นข้าราชการ เรื่องของตระกูลหลิวนั้นเธอรู้ดีว่าเชิ่งหู่เป็นคนใช้ให้คนไปจัดการ เพียงแค่ปากนายนั่นมันแข็งเกินไป ต่อให้ตายก็ไม่ยอมรับ เชิ่งหู่เลยไม่ถูกจับไปขัง

จากนั้นเย่เทียนก็ออกหน้ามาช่วยเชิ่งหู่กับหลิวชิงเพื่อเอาแก๊งมังกรลงให้ได้ มันทำให้จี้เยียนหรันที่ไม่ได้โง่นั้นรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย แล้วจะเดาไม่ออกได้อย่างไรว่าเรื่องของตระกูลหลิวนั้นเย่เทียนเองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง

เมื่อหลิวจื่อหยังได้ฟังดังนั้น ก็เกือบจะโกรธจนทนไม่ไหว

ตั้งแต่ไอ้จ้อนถูกทำลายไป ตระกูลหลิวล่มสลาย เขาก็คิดแค้นเย่เทียนในใจมาตลอด แต่ใครจะไปคาดคิด ว่าเย่เทียนลืมชื่อเขาไปแล้วด้วยซ้ำ นี่มันดูถูกกันเป็นอย่างมากเลยล่ะ!

แต่หลิวจื่อหยังจะรู้ดีมากแค่ไหน ในสายตาของเย่เทียน ตั้งแต่แรกจนตอนนี้ก็เป็นแค่มดที่สามารถบี้ให้ตายได้เลยทีเดียว แล้วจะมาสนใจอะไรมากมาย?

ถึงอย่างไร ช้างมันไม่มีทางกลัวมดอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?

“ใช่ๆ!คุณน่าจะชื่อหลิวจื่อหยัง”

เพราะการเตือนของจี้เยียนหรัน เย่เทียนเลยพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะมองอีกฝ่ายอย่างยิ้มเบาๆ

“เอาอย่างไร?คุณชายหลิวเองก็มาดูพระจันทร์ในที่กันดารแบบนี้เหมือนกันเหรอ?”

“เย่เทียน!มาแสร้งทำเป็นเก่งต่อหน้าฉันให้มันน้อยๆหน่อย!”

หลิวจื่อหยังตะโกนออกไป ก่อนจะมองเย่เทียนด้วยความไม่พอใจ พลางกัดฟันพูด “คุณทำให้ตระกูลหลิวลำบาก ฆ่าพ่อของฉัน ทำลายบริษัทแซ่หลิว เกิดเป็นคนแค้นนี้ต้องชำระ!”

“อ๋อ?คุณเป็นคนเหรอ?”

เย่เทียนส่ายหัว พลางถามด้วยความแสร้งทำเป็นตกใจ “ขอโทษที ฉันคิดว่าคุณเป็นสัตว์เดรัจฉานมาโดยตลอด”

จี้เยียนหรันขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะมองเย่เทียนที่อยู่ข้างกายอย่างประหลาดใจ

หลิวจื่อหยังดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้หวังดี การยั่วอีกฝ่ายนั้นมันดีจริงๆเหรอ?

แต่จี้เยียนหรันจะรู้ได้อย่างไร เย่เทียนยากลำบากในวันนี้ ตามเซนส์ของเขาที่มี จะไปไม่รู้ได้อย่างไรว่าคนที่หลิวจื่อหยังพามานั้นไม่ใช่คนธรรมดาเลยแม้แต่คนเดียว

เมื่อครู่ที่ฆ่างูพิษม่วงไปนั้นเขาได้ใช้พลังไปกว่าครึ่งแล้ว แม้จะกินยาเพิ่มพลังไปแล้ว แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูไม่ใช่หรือไง?

บวกกับ ด้านหลังเขายังมีลูกน้องที่เพิ่งรับมาอย่างลูกเด็กบรรจุศพดูอยู่ด้วย ถ้าเกิดมาพลาดในเวลาสำคัญแบบนี้ แล้วจากนี้จะทำให้เขาเคารพอย่างเต็มใจได้อย่างไร?

ด้วยเหตุนี้ เขาเลยเถียงกับหลิวจื่อหยังไม่หยุด เพื่อใช้เวลานี้ฟื้นฟูชี่ทิพย์สักหน่อย

สิ่งที่ทำให้หลิวจื่อหยังโกรธเป็นอย่างมาก ก็คือคิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนใกล้จะต้องตายแล้วยังปากดีแบบนี้อีก เขาไม่อยากเถียงอะไรกับเย่เทียนแล้ว เลยโบกมือ เพื่อตัดบทให้จบลง

“เย่เทียน!วันนี้ของปีหน้าจะเป็นวันระลึกศพของคุณ!