“เย่เทียน!วันนี้ในปีหน้าจะต้องเป็นวันระลึกศพของคุณ!”
สำหรับความปากดีของเย่เทียนนั้น หลิวจื่อหยังรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ ก่อนจะโบกมือด้วยแววตาเคร่งเครียด
“ได้!ดูทางให้ดี!”
เพราะเสียงของหลิวจื่อหยังนั้น ทำให้ยอดฝีมือระดับดำของสำนักหวู่หันที่ยืนอยู่ด้านหลังเขานั้นทยอยยกอาวุธขึ้น พลางมองเย่เทียนด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
“เดี๋ยวก่อน!”
เพียงแต่ว่า ยังไม่ทันรอให้พวกเขาก้าวขาออกไป ก็มีเสียงโน้มน้าวของเย่เทียนดังเข้ามาในหู
“เป็นอะไร?พอรู้แล้วว่าฉันไม่ได้ล้อเล่นด้วย ตอนนี้เริ่มรู้สึกกลัวแล้วใช่ไหมล่ะ?!”
หลิวจื่อหยังยิ้มขึ้นด้วยรอยยิ้มเสียดสี ก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อหยุดพวกลูกน้องไม่ให้ทำอะไรโง่ๆ
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่สงสัยนิดหน่อย”
เย่เทียนส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะพูดหยอกล้อ “คุณว่าการเปลี่ยนแปลงของคุณในตอนนี้ มันน่าจะเรียกได้ว่าเป็นของหายากเลยใช่ไหมน่ะ?”
“ทำไมประเทศไม่เอาคุณเป็นสัตว์คุ้มครองอันดับหนึ่งล่ะ แล้วเอาไปปล่อยในสวนสัตว์ ให้คุณได้เดินเล่นไปมาทั้งวัน ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา มันจะน่าเสียดายขนาดไหนกันนะ?”
มุมปากของหลิวจื่อหยังที่เพิ่งยิ้มขึ้นอย่างภาคภูมินั้นก็ต้องหุบลง ก่อนจะมีสีหน้าดูไม่ดีเท่าไหร่ พลางมองเย่เทียนด้วยความเคืองแค้น
ถ้าเกิดแววตาสามารถฆ่าคนได้ ไม่แน่ว่าเย่เทียนอาจจะถูกดาบหลายเล่มแทงตายในทุกๆ จุดเลยล่ะ
ไม่เพียงแค่เขา ขนาดยอดฝีมือระดับดำสิบกว่าคนก็อดไม่ได้ที่จะที่อยากจะหัวเราะขึ้นมา
แต่ทว่า ด้วยตัวตนของหลิวจื่อหยัง พวกเขาไม่มีทางกล้าส่งเสียงออกมา
แต่ทว่า ดูจากไหล่ของพวกเขาที่ขยับนั้น มันเห็นได้ชัดว่าลำบากเป็นอย่างมาก
แม้จะบอกว่ามีอาจารย์คอยช่วยอยู่ หลิวจื่อหยังก็แย่งตำแหน่งสูงสุดของสำนักหวู่หันมาได้ แต่นี่มันก็ไม่ได้หมายความว่าลูกน้องจะเคารพเขา
มีคนน้อยนิดที่ซื่อสัตย์จริงใจ แต่มีคนมากมายที่ไม่ได้เคารพอย่างจริงใจ พวกเขาจะเคารพหลิวจื่อหยังหมดทั้งใจกันถ้วนหน้าได้อย่างไรล่ะ?
เย่เทียนสังเกตคนที่ไหล่กำลังขยับเหล่านั้น มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นอย่างร้ายกาจ
ก่อนจะตั้งใจพูดยั่วยุหลิวจื่อหยัง มันเป็นเหมือนแสงสว่างวาบของเย่เทียน
คำเรียกของยอดฝีมือระดับดำที่มีต่อหลิวจื่อหยังนั้น ด้วยสมองของเย่เทียนนั้นทำให้เดาได้ไม่ยากว่าหลิวจื่อหยังนั้นฟื้นกลับมาใหม่ แล้วเป็นผู้นำ แถมยังเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นสำนักหวู่หันด้วย!
แม้จะบอกว่ายังไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีไหนกันแน่ ก็ไม่ได้หมายความว่า เย่เทียนจะเล่นแง่
แน่นอน ว่าไม่ใช่ว่าเย่เทียนกลัวหลิวจื่อหยัง หรือกลัวคนเหล่านั้น
บางทีคนเหล่านั้นถ้าอยู่ด้านนอกก็เป็นคนดูแลประตูกันทั้งนั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฝึกพลังชั้นห้า ก็ต่างเป็นเสือกระดาษฝูงหนึ่ง ที่สามารถนอนได้ตลอดเวลา
เย่เทียนต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ให้มาก
การจัดการกับคนเหล่านี้ให้หมดมันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เท่านั้น แต่เขานั้นไม่แน่ใจสถานการณ์ของสำนักหวู่หันสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าในสำนักหวู่หันยังมีผู้มากฝีมืออีกหรือเปล่า ภายในเวลาอันสั้นนี้ยิ่งไม่สามารถเข้าไปก่อเรื่องในโลกยุทธภพได้เสียด้วย
หวางซานนำมาก่อน จากนั้นก็เป็นหวางลี่ จากนั้นก็เป็นผู้อาวุโสใหญ่สามคนของสำนักหวู่หัน คนหลายคนเหล่านี้ทำให้เย่เทียนเริ่มลำบากเข้าแล้วล่ะ
แม้จะบอกว่าสำหรับเขาแล้ว การฆ่าคนเหล่านี้ตรงนี้มันเป็นเรื่องเล็กๆ เท่านั้น แต่ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่จัดให้มีใครมาอีกได้ล่ะ?!
เย่เทียนนั้นเคยตอบรับถังเหวินหลงแล้วว่าจะไปเมืองจินเพื่อร่วมการคัดเลือกทีมสายฟ้า แม้จะได้ลูกเด็กบรรจุศพมาเป็นลูกน้องเพื่อดูแลเฉินหวั่นชิงแทนเขาแล้วก็ตาม
แต่ทว่า ก่อนที่จะมั่นใจว่าลูกเด็กบรรจุศพนั้นซื่อสัตย์อย่างจริงใจหรือเปล่า เย่เทียนไม่กล้าที่จะมั่นใจได้ว่าเขาจะทำเรื่องเลวร้ายผิดคำไปหรือเปล่า
ว่ากันว่ามีแต่ไม่มีการป้องกันระยะยาว!
เทียบกับจากนี้จะถูกก่อกวนตลอดไป ยอมให้พวกเขาสู้กันภายในยังจะดีกว่า แม้สุดท้ายพวกเขาจะเห็นด้วยเหมือนกัน แต่อย่างน้อยมันก็สามารถให้เขาได้มีเวลาว่างไม่ใช่เหรอ?
แน่นอน ว่าในนั้นจะต้องมีเหตุผลหลายประการของการมีอยู่ของจี้เยียนหรัน
ถึงอย่างไรเธอก็เป็นตำรวจหญิงที่มีคุณธรรม เรื่องบางเรื่อง เย่เทียนยังไม่ได้อยากจะมาเปิดเผยต่อหน้าเธอ
“เย่เทียน คุณหมายความว่าอะไร?”
จี้เยียนหรันไม่รู้ว่าเย่เทียนนั้นคิดอะไรอยู่ แต่กลับรู้สึกไม่เข้าใจสักเท่าไหร่กับคำพูดของเขาคำนั้น และไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันมีความหมายอะไรซ่อนอยู่
“แค่นี้คุณก็ไม่เข้าใจเหรอ?” เย่เทียนมองจี้เยียนหรันด้วยแววตาประหลาด ก่อนจะเห็นเรือนร่างสวยงามของเด็กสาว ก็อดถอนหายใจในใจเบาๆ ไม่ได้
“ผู้หญิงสวยมักไม่มีสมองจริงๆ ด้วย คำโบราณนั้นไม่เคยโกหกฉัน!”
แม้จะพูดแบบนี้ เย่เทียนก็ยื่นมือออกไปชี้หลิวจื่อหยัง พลางอธิบายด้วยความหยอกล้อ
“เมื่อครู่คุณได้ยินเขาพูดเหรอ?ความเป็นชายของเขาถูกฉันเหยียบเละไปแล้ว เขาในตอนนี้ เป็นขันทีคนสุดท้ายของจีนแล้วล่ะ หายากไม่ใช่หรือไง?”
“รนหาที่ตาย!”
ยังไม่ทันรอให้จี้เยียนหรันตอบกลับมา คำว่า ‘ขันที’ ที่ทิ่มแทงใจนั้น หลิวจื่อหยังทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เลยคำรามออกมาเสียงดัง ก่อนจะปรี่เข้ามาหาเย่เทียนทันที
“วิชาฆ่าวิญญาณ ดูดมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ท่ามกลางความโกรธและเคือง หลิวจื่อหยังก็ยังไม่ได้เสียสติไปจนสิ้น รู้ว่าเย่เทียนนั้นต่อกรด้วยยาก เลยเข้ามาหาด้วยกระบวนท่าที่ไร้ที่ติที่สุด!
ฝ่ามือกรงเล็บของหลิวจื่อหยังนั้นเล็งไปทางเย่เทียน ชี่ทิพย์ภายในนั้นวิ่งแล่นไม่หยุด กรงเล็บนั้นเริ่มมองไม่ชัดมากขึ้น ราวกับว่าเป็นสมบัติที่งดงามที่สุด จนทำให้ละสายตาไปไม่ได้
แววตาของเย่เทียนกับจี้เยียนหรันนั้นอึ้งไปตามๆ กัน ราวกับว่าขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้ว ก่อนจะเดินไปทางหลิวจื่อหยังอย่างโลเล
ไม่เพียงเท่านั้น ชี่ทิพย์ในตัวเย่เทียนเริ่มควบคุมไม่ได้ ราวกับว่ามันทะลุผ่านร่างกายไปแล้ว!
“เย่เทียน ฉันก็คิดว่าคุณเก่งอะไรนักหนา!ที่แท้ก็ได้เท่านี้เอง!”
“คุณวางใจเถอะ ฉันจะไม่มีทางให้คุณตายไปง่ายๆ หรอก!”
“รอฉันดูดจนคุณกลายเป็นเศษสวะก่อนเถอะ จะตัดแขนขาของคุณ ควักลูกตาคุณทั้งสองออกมา แล้วให้หูทั้งสองข้างหนวก ก่อนจะตัดลิ้นให้หมด!”
“ทำให้คุณกลายเป็นคนแขนกุดคนสุดท้ายของโลก แล้วชาตินี้ก็ต้องอยู่อย่างหมา จะฆ่าตัวตายยังทำไม่ได้เลย!”
เมื่อมองเย่เทียนที่ค่อยๆ เดินเข้ามา หลิวจื่อหยังก็ยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความร้ายกาจ แววตาดุร้ายอย่างสุดแสน
การหาพรรคพวกอย่างร้ายกาจ ทำให้ยอดฝีมือระดับดำของสำนักหวู่หันเหล่านั้นมีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะเห็นแววตาของหลิวจื่อหยังที่เริ่มมีความกลัวขึ้นมา
ว่ากันว่าทำอะไรต้องเหลือที่เอาไว้บ้าง
หลิวจื่อหยังหาพรรคพวกอย่างร้ายกาจ มันขมขื่นกว่าการฆ่าเย่เทียนให้ตายเสียอีก!
พวกเขาจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าความเกลียดที่หลิวจื่อหยังมีต่อเย่เทียนนั้นมันมากจนไม่รู้จะมากอย่างไรแล้ว
เรื่องที่จะไม่มีความเป็นชายทั้งชีวิตแล้ว หลิวจื่อหยังจะไปยอมให้เย่เทียนตายอย่างมีความสุขได้อย่างไร เขาจะทำให้เย่เทียนทุกข์ระทมไปตลอดชีวิต!
“ให้ตายเถอะ!นี่มันเวทมนตร์อะไรกันเนี่ย?!”
เย่เทียนที่เดิมทีดูสบายอารมณ์ ก็เริ่มสติแตกขึ้นมา
แม้ว่าเขาจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเรื่องประหลาดแบบนี้
เขาในตอนนี้ แม้จะสามารถมองเห็น ได้ยิน แต่ไม่มีทางควบคุมร่างกายตัวเองได้เลย!
แม้จะเป็นการทำเรื่องง่ายๆ อย่างการพูด ในวันนี้กลับทำไม่ได้เลย
ควบคุมร่างกายยังไม่ได้ ในสถานการณ์แบบนี้จะคุมชี่ทิพย์ได้อย่างไร?
สรุปแล้ว ไม่ว่าในใจของเย่เทียนจะร้อนใจ แล้วจะร้อนรนมากขนาดไหน เขาในตอนนี้ เหมือนกับเป็นผู้ชม ที่ได้แค่มองตัวเองเดินเข้าไปหาหลิวจื่อหยังอย่างช้าๆ ……