ตอนที่ 983 ให้ท้ายลูกตัวเอง

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 983 ให้ท้ายลูกตัวเอง

 

หยางโปมองไปในห้อง คนที่นั่งอยู่ในห้อง สามารถพูดได้ว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศได้เลย พวกเขานั่งอยู่ที่นี่ ไม่ได้นั่งสงบเสงี่ยมเหมือนอย่างในรายการโทรทัศน์ พวกเขามองสำรวจดูหยางโป ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าที่มีความหมายลึกซึ้ง

 

ท่านผู้นำที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมีสีหน้ายิ้มแย้ม รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหุบลงเล็กน้อย “ เสี่ยวโป

 

ฉันเรียกชื่อนายแบบนี้ นายคงไม่ถือสานะ ”

 

หยางโปส่ายหน้า “ ท่านผู้นำเกรงใจไปแล้ว ”

 

ท่านผู้นำยิ้มจางๆ “ พูดกันถึงตำแหน่งงานราชการ นายคือเจ้าหน้าที่ระดับสูงในลำดับชั้นหน่วยงานของเรา ถือได้ว่าเป็นกำลังหลัก ขาดไปแค่ก้าวเดียว ก็สามารถเข้าสู่ตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานระดับกลางและระดับสูงได้แล้ว นายยังอายุน้อย อนาคตในภายภาคหน้ายังอีกไกล ! ”

 

หยางโปยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน ถูกทุกคนมองดูอย่างพินิจพิเคราะห์ แต่กลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

 

แต่เมื่อได้รับคำชมแบบนี้จากท่านผู้นำ มันทำให้เขาหน้าแดงและมีเหงื่อซึมออกมาตรงบริเวณหน้าผาก ตัวเขาเองรู้ดีว่าตัวเองได้รับตำแหน่งของทางการนี้มาได้ยังไง “ ท่านผู้นำ ท่านชมเกินไปแล้ว ท่านพูดมาตามตรงเลยดีกว่า ว่าเป็นเรื่องอะไรกัน ถ้าท่านไม่พูด ผมรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ ”

 

เมื่อเห็นหยางโปเป็นแบบนี้ ท่านผู้นำก็หัวเราะลั่น “ ดีงั้นฉันก็ขอพูดตามตรงเลยก็แล้วกัน ”

 

“ หยางโป นายรู้จักอวี้เหวินไหม นายน่าจะรู้ว่ามีบางสิ่งในโลกนี้ที่อธิบายไม่ได้ และถึงกับมีพลังที่ลึกลับบางอย่างที่มนุษย์เราควบคุมไว้ไม่ได้ รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรมากในเรื่องนี้ จนถึงตอนนี้พวกเราก็ยังไม่มีวิธีที่จะรู้ที่มาที่ไปของพลังลึกลับนี้ได้ ”

 

ในขณะที่พูด ท่านผู้นำก็จ้องไปที่หยางโป เขาสังเกตเห็นว่าสีหน้าท่าทางของหยางโปไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ก็อดที่จะถอนหายใจเบาๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดต่อว่า ” หลังจากเกิดเหตุการณ์ลึกลับมากมายเกิดขึ้น รัฐบาลก็มักจะปิดกั้นข่าวสารดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจากโลกภายนอก แต่เมื่อเร็วๆนี้ที่เขตพื้นที่ เสฉวน – กุ้ยโจว มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นติดต่อกัน ถึงขั้นมีข่าวลือมากมายเกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต สิ่งนี้ทำให้เรามีความคิดริเริ่มในการทำงาน ”

 

“ ดังนั้น พวกเราจึงเชิญนายมา เพื่ออยากจะสอบถามนายว่า นายรู้ไหมว่าอวี้เหวินอยู่ที่ไหน ?

 

นายสามารถเชิญเขาไปที่เขตเสฉวน-กุ้ยโจวเพื่อค้นหาและตรวจสอบรายละเอียดของสถานการณ์ได้ไหม ? ”

 

หยางโปชะงักไปครู่หนึ่ง จากที่เขาได้ฟังท่านผู้นำพูดมาตั้งมากมาย คิดว่าอีกฝ่ายคงจะรู้สถานการณ์ของเขาดี คงคิดที่จะให้เขาออกหน้า หลังจากคุยกันมาครึ่งค่อนวัน ก็ยังต้องไปขอความช่วยเหลือจากอวี้เหวิน เขาเงยหน้าขึ้นและเอ่ยออกมาว่า ” ท่านผู้นำ เมื่อช่วงก่อนนี้สักระยะอวี้เหวินไปอเมริกาแล้ว อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่นั่น เกรงว่าอีกสักระยะหนึ่งกว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ ”

 

ได้ยินแบบนั้นท่านผู้นำก็ตกใจมากทีเดียว “ เขาบาดเจ็บได้ด้วยเหรอ ? ใครกันที่สามารถทำร้ายเขาได้ ? ”

 

คนอื่นๆในห้องต่างก็หันมามองหน้ากันด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว

 

หยางโปก็แปลกใจเช่นเดียวกัน เขาคิดมาตลอดว่าอวี้เหวินน่าจะเป็นนักพรตที่ไม่ยุ่งกับทางโลก และไม่รับรู้เรื่องทางโลก แต่ตอนนี้ดูจากสถานการณ์แล้ว เกรงว่าหลายคนในห้องคงจะรู้จักเขา !

 

“ ท่านผู้นำ พวกคุณรู้จักอวี้เหวินได้ยังไง ? ” หยางโปยังคงเอ่ยปากถาม

 

ท่านผู้นำหันไปมองหยางโป ” เรื่องนี้มีคนรู้อยู่กันไม่มากนัก เมื่อหลายสิบปีก่อน เคยมีท่านผู้นำไปเยี่ยมเยียนอวี้เหวินและเชิญให้เขาไปที่แนวหน้าของเป่ยฉาวและทิ้งสูตรยาสำหรับการรักษาแผลไฟไหม้ไว้ ต่อมาก็มีการร้องขอความช่วยเหลือต่อคุณอวี้เหวินอยู่หลายครั้ง ขอให้เขากำจัดภัยพิบัติและแก้ไขปัญหาให้ ดังนั้นผู้นำระดับสูงเกือบทุกคน ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้ แต่ทุกคนไม่ได้แพร่งพรายออกไปก็เท่านั้น ”

 

“ แต่ แม้ว่าคุณอวี้เหวินจะมีบุญคุณกับเรา แต่กลับไม่มีช่องทางติดต่อของเขา ทุกครั้งมักจะเจอกันโดยบังเอิญ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมเพิ่งจะได้ยินผู้เฒ่าชุยเอ่ยถึงเรื่องที่คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา

 

คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะบังเอิญแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาดันไปที่อเมริกาจริงๆ ”

 

หยางโปสองจิตสิงใจ อ้าปากจะขานรับ แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น กลับเห็นชายชราถลึงตามองมาที่เขา ทันใดนั้น เขาก็รู้ทันทีว่าชายชราไม่ยอมให้เขาไปเสี่ยงอันตราย

 

ท่านผู้นำก็สังเกตเห็นอาการนี้เช่นกัน เขาแค่ยิ้มแต่กลับไม่พูดอะไรมาก ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงไม่อยากให้ลูกของตัวเองไปเสี่ยงเช่นกัน !

 

เมื่อซุนคุนหลินเห็นแบบนี้ ก็อดที่จะรู้สึกเหยียดหยามไม่ได้ จึงเอ่ยปากออกไปว่า “ ชุยอี้โปและคุณ

 

อวี้เหวินรู้จักกันมานาน น่าจะได้เรียนรู้ทักษะมาไม่น้อย ถ้าไปดูด้วยตาตัวเองได้น่าจะดีกว่า ”

 

ผู้เฒ่าชุยที่ไม่พูดอะไรมาตลอด เมื่อได้ยินที่ซุนคุนหลินพูด ก็นั่งนิ่งอยู่อีกไม่ได้แล้ว ” ซุนคุนหลิน นี่แกจะป่าวประกาศความแค้นกันใช่ไหม ! ”

 

ซุนคุนหลินหันกลับมองมา “ ผู้เฒ่าชุย จะพูดแบบนี้ไม่ได้ เหอจั๋วทำผิด เขาก็ได้รับโทษตามสมควรแล้ว มันคนละเรื่องกัน สหายชุยอี้โปในฐานะสมาชิกพรรคที่ดี ในสถานการณ์ที่เหนือบ่ากว่าแรงให้ไปทำเรื่องบางอย่าง มันก็ปกติไม่ใช่หรือไง ? ”

 

“ นี่เป็นเรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงไหม ? ” ผู้เฒ่าชุยตอบโต้กลับ

 

หยางโปยืนอยู่กลางห้องโถง เมื่อเห็นฉากแบบนี้ มันก็พอที่จะนึกภาพออก ถึงเหตุการณ์ที่พวกเขาโต้เถียงกันระหว่างการประชุมเมื่อสักครู่ เกรงว่าเมื่อตะกี้ซุนคุนหลินคงถูกทุกคนรุมโจมตี !

 

ซุนคุนหลินส่ายหน้า “ ผมไม่ได้พูดอะไร ผมแค่คิดว่าจะให้เขาไปตรวจสอบดูสักหน่อย มันก็ไม่ได้มีอันตรายอะไรมากนัก ผู้เฒ่าชุย ผมก็ทำงานมานานหลายปี โปรดเชื่อมั่นจิตวิญญาณในพรรคของผม ! ”

 

ผู้เฒ่าชุยฮึดฮัดพูดเสียงเย็นชา “ คนอย่างแก ถ้าอยู่ในช่วงสงคราม คงถูกลากออกมายิงทิ้งเป็นร้อยครั้งแล้ว ! ”

 

“ คุณ ! ” ซุนคุนหลินโกรธจนพูดไม่ออก

 

มีเสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นในห้อง ทุกคนต่างก็รู้จักกันดี และรู้ความคับแค้นใจและบุญคุณระหว่างทั้งสองดี มันเริ่มต้นมาจากตราหยกแผ่น ความขัดแย้งแบบนี้ มันไม่สามารถแก้ไขในหนึ่งหรือสองวันได้

 

ท่านผู้นำส่ายหน้าและยิ้มฝืนทน เขายื่นมือห้ามและพูดกับทั้งสองคน ” เรื่องนี้ ผมคิดว่าควรถามความเห็นของเสี่ยวโปดีกว่านะ ”

 

พอพูดจบ ท่านผู้นำก็มองมาทางหยางโป “ นายคิดว่าไง ? ”

 

หยางโปค่อนข้างที่จะสองจิตสองใจ ชายชรากำลังหันมาส่งสัญญาณให้เขาอย่างเอาเป็นเอาตาย เขามองไปทางท่านผู้นำ “ ผมพอจะรู้ได้ไหมว่ารายละเอียดของสถานการณ์เป็นยังไง ? ”

 

“ ที่เขตเมืองหนึ่งในเขตเสฉวน-กุ้ยโจว ช่วงนี้มีคดีเด็กหายติดต่อกัน หลังจากที่ตำรวจสอบสวนดูแล้วพบว่าเรื่องนี้แปลกมาก พวกเขาไม่มีทางตรวจสอบได้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงรายงานไปยังกระทรวงความมั่นคง และส่งมาถึงฉันเมื่อวาน ” ท่านผู้นำกล่าว

หยางโปขมวดคิ้ว เขายังไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน จึงมีอาการลังเล เขากำลังจะตอบตกลง

 

แต่ผู้เฒ่าชุยกลับยืนขึ้นและเอ่ยออกมาก่อนว่า “ เรื่องนี้มีความสำคัญมาก เสี่ยวโปต้องกลับไปคิดพิจารณาให้รอบคอบก่อน ถึงจะตัดสินใจได้ ”

 

ท่านผู้นำหัวเราะ “ แบบนี้ก็ดีนะ กลับไปผมจะให้เหล่าหูติดต่อคุณไปทีหลัง คุณก็ลองคิดดูดีๆอีกครั้ง เอาล่ะ ทุกคนต่างก็ยุ่งกันมาก แยกย้ายกันเถอะ ไม่ต้องมาประชุมกันที่ผมอยู่หรอก ! ”

 

ทุกคนกล่าวลาซึ่งกันและกันแล้ว ชายชราวัยห้าหกสิบปีคนหนึ่งก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหยางโป และยื่นนามบัตรให้เขา ” ผมเหล่าหู หลังจากที่คุณคิดดีแล้วค่อยโทรหาผม ”

 

หยางโปรับนามบัตร แต่กลับถูกชายชราแย่งไป ชายชราตอบกลับไปว่า “ ช่างเถอะ แกไม่ต้องไป ยังไงซะแกก็ไม่ได้มีความสามารถนั้น ไปก็ไร้ประโยชน์ ! ”

 

ซุนคุนหลินยืนอยู่ด้านข้าง “ ผู้เฒ่าชุย คุณอุทิศทั้งชีวิตให้แก่ประเทศ ผมรู้สึกเคารพและศรัทธาในตัวของคุณ แต่ชีวิตหลานชายของคุณมีค่า ลูกหลานของคนอื่นก็มีค่าเช่นกัน ! ”

 

“ เกี่ยวอะไรกับแก ? ผู้ใหญ่ระดับบนประพฤติมิชอบ ผู้น้อยระดับล่างก็จะเลียนแบบในทางเสีย

 

แกไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดอะไรตรงนี้ ” ชายชราตะคอกใส่