เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 469
คนที่ออกมาด้วยกันกับโจวห้าว ยังมีหม่าตง หนิวต้าลี่และคนอื่นๆ ด้วย

“โจวห้าว ไอ้คนทรยศ ตระกูลหลันของฉันปฏิบัติต่อแกเป็นอย่างดี ไม่นึกเลยว่าแกจะหักหลังฉัน!”

หลันเฟิงตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ ชี้นิ้วด่าทอไปที่โจวห้าว

คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิตจริงๆ

ใครจะคาดคิด

ว่าโจวห้าวไอ้เศษสวะไร้ค่าคนนี้ จะกล้าแว้งกัดตนเอง!

“หึ!”

โจวห้าวหัวเราะเยาะ : “หลันเฟิง ไอ้แก่ตายยากอย่างมึง กูขัดหูขัดตากับมึงมานานแล้ว! ก่อนหน้านี้พวกมึงคิดว่าตระกูลหลันเป็นใครกัน เห็นตระกูลโจวอยู่ตรงหน้าก็เป็นแค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้น”

“ตอนนี้ล่ะ มึงจะตวาดใส่กู จิกหัวใช้! จะบอกมึงให้นะ กูทนมามากพอแล้ว! ถึงแม้ว่ากูจะเป็นคนไอ้ไร้ประโยชน์ แต่วันนี้กูจะฆ่าพวกมึงให้หมดเลย!”

ทันใดนั้น

ดวงตาคู่นั้นของโจวห้าว เย็นชาจนน่ากลัว!

นึกถึงในตอนนั้น

ตระกูลโจวเป็นตระกูลอันดับรองของตงไห่

แต่ตระกูลหลันนั้น เป็นเพียงตระกูลอันดับสาม

ที่เดินตามตูดตระกูลโจวเท่านั้น!

ไอ้แก่หลันเฟิงคนนี้ ทุกๆ ครั้งที่เห็นตนเอง จะเรียกลูกเขยผู้แสนดีทุกคำ

ใบหน้าแก่ๆ นั้น ผลิบานราวกับดอกเบญจมาศ!

แทบอยากจะคุกเข่าลงกับพื้นแล้วเลียพื้นรองเท้าของตนเอง

แต่หลังจากที่ตระกูลหลันกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของตงไห่

ไอ้แก่สารเลวหลันเฟิงคนนี้ ทัศนคติที่มีต่อตัวเองเปลี่ยนไป 180 องศา

เรียกไอ้ไร้ประโยชน์ทุกคำ

เมื่อเห็นตนเอง

หน้าไม่เป็นหน้า จมูกไม่เป็นจมูกเลย

แทบอยากจะเหยียบตนเองไว้บนพื้นซะด้วยซ้ำ!

“มึงๆๆ……”

หลันเฟิงโกรธจนตัวสั่น

เขาคาดไม่ถึงเลยว่า ปกติแล้วโจวห้าวอยู่ต่อหน้าตนเองจะยอมลูกเดียว แต่จู่ๆ ก็ทรยศหักหลังตนเอง!

ช่างน่าเสียดาย คาดไม่ถึงว่าจะไม่คยมองเห็นถึงความทะเยอทะยานที่โฉดชั่วของไอ้โง่โจวห้าวคนนี้เลย

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้

หลันจื่อก็ด่าทอขึ้นมา

“โจวห้าว ไอ้หมาไร้ประโยชน์ ไอ้โง่! ตระกูลหลันของฉันเลี้ยงดูแกเหมือนหมาตัวหนึ่ง ยังคิดที่จะแว้งกัดเจ้านายอีกเหรอ?”

“รีบลงมารับความตายซะดีๆ มิเช่นนั้นแกรวมถึงตระกูลโจวของแก จะต้องเจอกับหายนะอย่างแน่นอน!”

ได้ฟังคำพูดของหลันจื่อ

สีหน้าของโจวห้าวก็เคร่งขรึมลง

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อับจนหนทางแล้ว

การปฏิบัติต่อโจวห้าว

หลันจื่อยังทำท่าทางอำนาจบาตรใหญ่เหมือนเดิม

คำที่ด่าออกมา เหมือนกับด่าหมาตัวหนึ่ง!

แสดงให้เห็นว่า

ฐานะของตนเองในใจหลันจื่อ ต่ำต้อยขนาดไหน!

ไร้ค่ามากเพียงใด!

โจวซื่อมีสีหน้าเย็นชา กัดฟันพูดว่า : “หลันจื่อ นังสารเลว ในตอนนั้นเป็นมึงเองที่มาจะโกนโห่ร้องว่าต้องการจะแต่งงานกับกู กูไม่ได้รังเกียจ จึงแต่งงานกับมึง!”

“แต่หลังจากที่ตระกูลหลันของมึงรุ่งเรือง มึงก็ทำกับกูเหมือนหมา ทั้งทุบตีทั้งด่าทอ! กูติดค้างอะไรพวกมึงไว้เหรอ?”

“วันนี้แหละ กูจะทำลายตระกูลหลันด้วยมือตนเอง!”

ในช่วงเวลานี้

โจวห้าวได้นำความคับข้องใจทั้งหมด ระเบิดออกมา

หลันจื่อกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ด่าออกมาอย่างโมโห : “โจวห้าว แกมันรนหาที่ตาย! เชื่อไหมล่ะ ฉันสามารถบดขยี้แกได้ด้วยนิ้วเดียว!”

ในใจของหลันจื่อ

โจวห้าวเป็นเพียงหมาที่ตนเองเลี้ยงดูเอาไว้เท่านั้น

ตนเองอยากจะทำให้เขาอับอายอย่างไรก็ได้

โจวห้าวเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม

ผู้หญิงโง่เง่าคนนี้ แม้กระทั่งสถานการณ์ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ ยังจะข่มขูตนเองได้อีกเหรอ?

ยังอยากจะฆ่าตนเองอีกเหรอ?

น่าตลกจริงๆ!

วันนี้

สองพ่อลูกอย่างพวกเขา จะสามารถมีชีวิตออกไปจากที่นี่ได้ด้วยเหรอ

หรือว่ายังไม่เข้าใจสถานการณ์อีก!

และทันใดนั้น

โจวห้าวก็ไม่อยากพูดอีกต่อไป

ก็ไม่รู้ว่า ในตอนนั้นน้ำเข้าสมองของตนเองหรืออย่างไร?

ถึงได้แต่งงานกับผู้หญิงที่โง่เขลาขนาดนี้!

“หลันจื่อ ดูเหมือนว่าพ่อตาอย่างมึง จะพ่ายแพ้จริงๆ ซะแล้ว! แม้กระทั่งลูกเขยของมึง ยังอยากที่จะให้มึงตายไปเร็วๆ เลย!”

เวลานี้

หม่าตงได้เดินออกมา

หลันเฟิงเอ่ยถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม : “หม่าตง ท้ายที่สุดแล้วมึงต้องการอะไรกันแน่?”

“หึหึ!”

หม่าตงหัวเราะ : “กูต้องการอะไรนะเหรอ? หัวใจสำคัญยังต้องขึ้นอยู่กับท่านแม่ทัพด้วย!”